Music
ช่วงที่ผ่านมาผมขอลาพักจากการเขียนคอลัมน์ไปชั่วคราว ไม่ได้ลากิจ และยังไม่ได้ลาออกจากการเขียนคอลัมน์แน่นอน เพียงแต่หลบจากความเหนื่อยล้าจากหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อไปเติมพลังให้ตัวเองเท่านั้นในช่วงที่พักจากการเขียนคอลัมน์ไป ก็คิดว่าจะลองหลบมุมสงบ ๆ อยู่ ปิดหูปิดตาตัวเองจากสิ่งรอบข้างดูสักพัก … แต่แล้วก็ไม่สำเร็จ ในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมามีข่าวบางอย่างที่ทำให้ผมต้องรู้สึกถึงความย่ำแย่ น่าเบื่อหน่ายไม่รู้จบของประเทศที่ผมอยู่อีกครั้งจริง ๆ แล้วมันเป็นเรื่องของผู้ชายคนหนึ่ง (ซึ่งสื่อบางแห่งดูจะพยายามแปลงให้เขากลายเป็นเพศอื่นอยู่เสมอ…ซึ่งผมว่าเขาคงไม่เดือดร้อนอะไร) เขาไม่ได้เป็นคนดีอะไรนักหนา แต่ก็ไม่ได้เป็นคนเลวขนาดที่ว่าเห็นแล้วต้องเบือนหน้าหนี เขาเป็นมนุษย์คนหนึ่งอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ที่บังเอิญมีโอกาสสวมสูทออกทีวีให้พวกท่านได้หาเรื่องด่าอยู่เสมอเท่านั้นสิ่งที่ทำให้ผมหงุดหงิดคือ เขาถูกรังแกด้วยเรื่องที่ฟังดูขำขันเหลือเกินในโลกที่ Freedom of Speech ควรจะเป็นของประชาชนได้แล้ว เป็นการใช้อำนาจรัฐเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของฝ่ายที่ไม่ใช่รัฐบาล แต่ไม่เห็นมีใครออกมาวิจารณ์พวกนี้ในพื้นที่สาธารณะบ้าง การวิจารณ์รัฐบาล (ที่แม้จะมาจากการเลือกตั้ง) เป็นเรื่องดี ขณะเดียวกันต้องไม่ลืมว่าโครงสร้างอำนาจรัฐมันมีมากกว่ารัฐบาล มันยังมีผู้ที่คอยออกมาโจมตี ไม่ว่าจะเป็นพรรคฝ่ายแค้นหรือพวกขุนนางกังฉินทั้งหลาย ซึ่งพวกหลังนี้รอดพ้นการวิพากษ์วิจารณ์ไปได้ทุกครั้งเป็นเรื่องธรรมดาในวงการนี้ที่มีแพ้มีชนะ ท่ามกลางผู้คนที่ต้องสูดกลิ่นเน่าเหม็นของมันต่างรู้เรื่องนี้ดี แต่ไม่ได้หมายความว่าคนที่ถูกรังแกไล่ต้อนจนมุมโดยพวกขุนนางอำนาจนิยมจะแพ้พ่ายเสมอไป เพราะปลาบางตัวมันทำเบ่งใหญ่ได้แต่ในหนองน้ำเล็ก ๆ ที่มันคิดว่านั่นเป็นทั้งโลกของมันแล้ว แต่ไม่รู้หรอกว่าเมื่อหนองน้ำเล็ก ๆ นั่นกลายเป็นบึงใหญ่ขึ้นมา มันอาจจะต้องเจอปลาอีกกี่ตัวที่ใหญ่กว่ามันโดยไม่ต้องเบ่ง