Skip to main content

บล็อกกาซีน ประชาไท

พันธกุมภา
พันธกุมภา ถึง มีนา ผมขอแสดงความดีกับพี่สาวของผมด้วยนะครับ ที่มีโอกาสได้พักผ่อน แม้ว่าหลายคนจะบอกว่าการที่เราตกงานนั้นเปรียบเสมือนการพายเรือในมหาสมุทรที่กว้างใหญ่เคว้งคว้างไม่รู้ว่าจะมีหนทางในงานใหม่อย่างไรได้อีก ผมทราบดีว่าพี่คงจะเหนื่อยจากการทำงานมิน้อยเลย และเชื่อว่าการได้รับมอบหมายงานเยอะคงไม่ใช่สาเหตุของการออกจากงานหรอกใช่ไหมครับ ผมรู้ว่าจดหมายหลายฉบับที่พี่ได้เขียนมาบอกเล่านั้นมันสะท้อนให้เห็นถึงการต่อสู้กับวิถีชีวิตความเป็นคนในเมืองหลวง และรวมถึงการต้องสัมพันธ์กับคนมากหน้าหลายตา ที่มีตัวตนแตกต่างกันไป การที่เราทำงานที่เรารัก ถือเป็นสิ่งที่ประเสริฐอย่างยิ่งกับวิถีชีวิตของเรา บางครั้งเมื่อถึงจุดๆ หนึ่ง เราก็อยากจะพัก เพราะอะไร? ผมไม่รู้ แต่เรื่องบางอย่างมันก็ไม่ต้องการเหตุผล หรืออารมณ์ เพราะมันเป็นความรู้สึกยางอย่างที่บอกไม่ได้ บอกไม่ถูก ถามว่าทำไมต้องออกจากงาน? หลายคนอาจอยากได้ยินคำตอบและเหตุผลมากมาย แต่เราก็บอกไม่ค่อยจะได้ว่าทำไม เพราะใจเราเองนั้นแหละที่เป็นคนบอก และมันก็พูดออกมาไม่ได้เหมือนกันว่าเพราะอะไร
เมธัส บัวชุม
กลุ่มอันธพาลการเมือง หรือแก๊งมาเฟียเป็นปัญหาเสมอมาสำหรับการสถาปนากติกาการปกครองและระเบียบการเมือง ทั้งนี้เพราะเป็นกลุ่มที่กฎหมายและการจัดระเบียบทางสังคมไม่สามารถควบคุมจัดการได้ คุกคามต่อสวัสดิภาพความเป็นอยู่ปกติของคนโดยทั่วไปเพราะกลุ่มอันธพาลการเมือง หรือแก๊งมาเฟียดำรงชีพอยู่ได้ก็ด้วยการขู่เข็ญกรรโชกกระทั่งใช้กำลัง หรือใช้กฎหมู่เพื่อให้มาในสิ่งที่ตนเองต้องการ นอกจากจะไม่ผลิตอะไรออกมาแล้ว กลุ่มอันธพาลการเมืองยังคอยรีดไถเงินจากน้ำพักน้ำแรงของคนอื่น ซึ่งก็เป็นเช่นเดียวกับการข่มขู่รีดไถหรือล็อบบี้อย่างชาญฉลาดของกลุ่มอันธพาลการเมืองที่เรียกตนเองว่าพันธมิตรอย่างสมบูรณ์แบบที่กลุ่มพันธมิตร เปลี่ยนแปลงตนเองจากผู้ประท้วงรัฐบาลตามสิทธิในรัฐธรรมนูญเป็นแก๊งมาเฟียและกลุ่มอันธพาลการเมืองที่อยู่เหนือกฎหมาย
ประสาท มีแต้ม
1. คำนำ ขณะนี้มีผู้คนจำนวนหนึ่งกำลังครุ่นคิดถึง "การเมืองใหม่" ซึ่งยังไม่เป็นที่แน่ชัดนักว่ามันคืออะไรกันแน่ ทราบแต่ว่า "การเมืองเดิม" ซึ่งก็คือการเมืองแบบตัวแทน (representative democracy) กำลังมีปัญหาหลายอย่างและรุนแรงขึ้นทุกขณะบทความนี้จะนำเสนอความล้มเหลวของ "การเมืองแบบตัวแทน" อย่างสั้นๆ พร้อมกับนำเสนอ "การเมืองแบบไฮเพอร์ (hyperpolitics)" ให้พอเป็นประกายเบื้องต้น หากสังคมนี้สนใจก็มีช่องทางให้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมกันต่อไป2. สาเหตุความล้มเหลวของการเมืองแบบตัวแทนเราท่องกันจนขึ้นใจมาตั้งแต่วัยเด็กแล้วว่า สาเหตุสำคัญของการมี "การเมืองแบบตัวแทน" คือเป็นเพราะคนมันเยอะ สภามันแคบจึงต้องมีการเลือกตั้ง "ผู้แทน" เข้าไปพูด ทำหน้าที่แทนเราในสภา คำถามก็คือว่า แล้วผู้แทนที่เราเลือกเข้าไปแล้ว ได้ทำหน้าที่ตามเจตจำนงที่ประชาชนผู้เลือกตั้งได้กำหนดไว้หรือไม่ ขอย้อนไปดูตัวอย่างที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ สักสองตัวอย่าง
โอ ไม้จัตวา
สัปดาห์นี้อยู่ในช่วงวันที่ 11 กันยายน ซึ่งเป็นวันครบรอบวันตึกเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ถล่ม มีเพลง ๆ หนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี เป็นเพลงที่มีความหมายและให้กำลังใจคน แรกทีเดียวเพลงนี้เป็นเพลงประกอบหนังเรื่อง Beaches ในปี 2531 นำแสดงโดย Bette Midler และ Barbara Hershey หลังจากหนังเรื่องนี้ก็ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงประจำตัวของ Bette Midler ตั้งแต่นั้นมา  อยากให้ดูคลิ้บอันนี้ค่ะ เบธร้องในปี 2001 หลังจากวันตึกถล่มไม่กี่วัน ที่ Yankee Stadium ในนิวยอร์ค ดูจากภาพแล้วน่าจะเป็นงานรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในโศกนาฏกรรมครั้งนี้ เพลงลมใต้ปีกที่เคยเป็นลมใต้ปีกของใครหลาย ๆ คน กลับกลายมาเป็นลมใต้ปีกในโศกนาฏกรรมได้อย่างลึกซึ้งกินใจ จนอดร้องไห้ไม่ได้ ยิ่งลีลาการร้องของป้าเบธที่อยู่ในจุด”คลี่คลายละลายฟอร์ม” เป็นนักร้องที่ร้องเพลงของตัวเองได้ราวเพลงกระบี่ที่ไม่มีกระบี่ ดนตรีเรียบง่าย ถ้อยคำมาจากหัวใจ ภาษากายของเธอบางครั้งเห็นปีกงอกออกมาพาความเศร้าโบยบินไปจากหัวใจผู้ที่ยังอยู่  ลองนั่งนิ่ง ๆ ฟังเพลง และแผ่เมตตาให้กับความตาย ความโศกเศร้าของมวลมนุษย์ ความโหดร้ายในจิตใจของบางคน
รวิวาร
เดือนบางเดือน สัปดาห์บางสัปดาห์ผ่านไปราวเมฆล่องลม เจ็ดแปดวันสั้นๆ หากแต่บรรจุด้วยเรื่องราวและผู้คนแน่นขนัด ขณะบางเดือน เรานั่งอยู่ติดเก้าอี้ จมจ่อมกับภาระหน้าที่แทบไม่ได้ก้าวพ้นเขตรั้ว เรียกมันว่า ‘สัปดาห์แห่งผู้มาเยือน’ มีผู้คนแวะเวียนมาทุกวันโดยมิได้นัดหมาย กะทันหัน ฉับพลันเสียจนกระทั่งไม่มีเวลาถอยหลัง ผงะ หรือนึกหงุดหงิดใจว่า...แขกเหรื่ออะไรนักหนา วันที่หนึ่ง วันที่สอง และสามสี่ ตามมาอีกจนเลยแปด เมื่อจิตใจตระหนักได้ เราพากันหัวเราะ อ้อ นี่ละหนอ ความบังเอิญที่ควบคุมไม่ได้ ชีวิตจัดส่งมา พ้นความคาดเดา นอกเหนือการจัดการ
SenseMaker
ICT ตัวแปรต้นแห่งการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร ที่ไม่ควรถูกมองข้าม ก่อนเข้าสู่บทความอาทิตย์นี้ ข้าพเจ้าขอประณามการกระทำ ของผู้ที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย อยู่ในขณะนี้ เนื่องจากข้าพเจ้าถือว่า ใครก็ตามที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในบ้านเมือง ไม่มีความรักชาติอย่างจริงจัง และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน มากกว่าประโยชน์ส่วนรวม หากทุกคน เล็งเห็นความสงบสุขและประโยชน์ ของประเทศเป็นสำคัญ จะต้องใช้วิธีประนีประนอม เพื่อหาหนทางแก้ปัญหา ความขัดแย้งทางความคิด ร่วมกัน มากกว่าการยึดเอาความคิดของตนเป็นใหญ่ มองความคิดของอีกฝ่ายว่าไม่ถูกต้อง และมุ่งล้มล้างฝ่ายตรงข้าม จนถึงขั้นไม่ต้องการให้มีที่ยืนอยู่ในสังคม บทความวันนี้ ข้าพเจ้าตั้งใจที่จะวิพากษ์ ถึงความจำเป็นที่องค์กร ต้องตระหนักถึงความจริงที่ว่า ICT เป็นตัวแปรต้นอันสำคัญ ที่นำการเปลี่ยนแปลงอันหลากหลาย มาสู่องค์กร โดยเฉพาะบริบทของการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร ซึ่งในปัจจุบันยังถูกมองข้ามโดยองค์กรต่างๆ ข้าพเจ้าขอเริ่มต้น ด้วยการยกมุมมองการวิเคราะห์องค์กร ที่สำคัญมุมมองหนึ่ง นั่นคือ มุมมองที่มองว่าองค์กรต่างๆมีภาระกิจหลัก ในการเอาตัวรอดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม นั่นหมายความว่า องค์กรต้องพร้อมรับมือ กับผลกระทบต่างๆที่อาจเกิดขึ้นกับองค์กร อย่างมีประสิทธิภาพและชาญฉลาด ไม่ว่าสภาพแวดล้อมจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ซึ่งจากมุมมองข้างต้น องค์กรต่างๆมักมุ่งให้ความสำคัญ กับการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด ความเปลี่ยนแปลงของความต้องการของลูกค้าและคู่ค้า และการเปลี่ยนแปลงของสภาพการแข่งขัน หรือที่เรียกรวมๆว่า การเปลี่ยนแปลงของ  “สภาพแวดล้อมภายนอกองค์กร”  ซึ่งถือเป็นตัวแปรหลัก ที่องค์กรจำเป็นต้องรับมือ เพื่อหลีกเลี่ยงการล่มสลาย ในขณะที่ ทุกองค์กรตั้งหน้าตั้งตา รับมือกับความเปลี่ยนแปลง ของสภาพแวดล้อมภายนอกองค์กรข้าพเจ้าอยากให้ทุกองค์กร พิจารณาอีกหนึ่งตัวแปร ที่องค์กรในทุกระดับ จำเป็นต้องเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ที่ตัวแปรนี้นำมาสู่องค์กร เพื่อประโยชน์ในการอยู่รอดขององค์กรอีกเช่นกัน และตัวแปรตัวที่ว่านี้คือ ICT เพื่อขยายความคิดที่ว่า องค์กรต่างๆมีความจำเป็น ที่ต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ที่มี ICT เป็นตัวการ อย่างเร่งด่วน ข้าพเจ้าขอใช้คำถามนำดังต่อไปนี้ “ICT นำความเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างมาสู่องค์กร ทำไมองค์กรต้องให้ความสำคัญ กับการเปลี่ยนแปลงที่ ICT นำมาสู่องค์กร และการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว สำคัญในระดับที่ว่า หากองค์กรไม่สามารถรับมือกับมันได้แล้ว องค์กรต้องล่มสลายจริงหรือ” ข้าพเจ้าขอเริ่มด้วย การวิเคราะห์ถึงความเปลี่ยนแปลง ที่ ICT สามารถนำมาสู่องค์กร เพื่อประเมิณระดับความสำคัญ ของผลลัพธ์ ที่องค์กรควรต้องตระหนัก ในมุมมองของข้าพเจ้า ICT สามารถนำความเปลี่ยนแปลง อย่างมหาศาลมาสู่องค์กรต่างๆ ไล่ตั้งแต่การที่ ICT ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมภายนอกองค์กร ที่องค์กรต้องรับมือเป็นหลักอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น ICT เป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้รูปแบบการแข่งขันหรือภาวะตลาด เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยทำให้มีตลาดใหม่ๆเกิดขึ้น รวมถึงทำให้ผู้บริโภคมีรูปแบบการดำเนินชีวิตใหม่ๆ เช่นปรากฎการณ์การเกิดขึ้นและเป็นที่นิยม ของตลาดบนอินเตอร์เนต การทำธุรกรรมออนไลน์ต่างๆ และสังคมออนไลน์ต่างๆ เป็นที่น่าดีใจ ที่หลายองค์กรเริ่มตระหนัก และได้ให้ความสำคัญกับแผนรับมือ ผลกระทบของ ICT ในบริบทนี้ ในลักษณะของการขยายบริการออนไลน์ต่างๆ รวมถึงการนำรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ที่อิงกับโลกอินเตอร์เนตมาใช้มากขึ้น เป็นต้น อย่างไรก็ดี นอกจาก ICT จะนำความเปลี่ยนแปลงในบริบทข้างต้น มาสู่องค์กรแล้ว ยังมีอีกบริบทหนึ่ง ที่องค์กรจำนวนมาก ยังมีความบกพร่อง ในการทำความเข้าใจถึงผลกระทบ รวมถึงการมีแผนรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และบริบทที่ว่านี้ก็คือ การที่ ICT ก่อให้เกิด “การเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร” ข้าพเจ้าขอยกตัวอย่าง ความเปลี่ยนแปลงในด้านแผนทรัพยากรบุคคล เพื่อทำให้องค์กร มีกำลังคนที่มีความรู้ความสามารถ เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงอย่างรอบด้าน อันเนื่องมาจากการที่ ICT กำลังเพิ่มบทบาท ในทุกขั้นตอนการดำเนินงานขององค์กร เป็นตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงสำคัญภายในองค์กร อันมี ICT เป็นตัวแปรต้นที่สำคัญ ในขณะที่อายุของเทคโนโลยี ICT ต่างๆสั้นลงทุกที และองค์กรต่างๆ มีความต้องการใช้เทคโนโลยี ICT ที่มีความหลากหลายและในปริมาณที่มากขึ้น แต่องค์กรต้องใช้เวลาอย่างมากมาย เพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคล ให้มีความสามารถเพียงพอ เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีดังกล่าว เนื่องจากเวลาที่องค์กร ต้องใช้พัฒนาบุคลากร ให้มีความรู้ความสามารถเพียงพอ เพื่อสนองตอบความจำเป็นอันเร่งด่วน ที่องค์กรจำเป็นต้องนำ ICT เข้ามาใช้ เพื่อทำให้องค์กร มีความสามารถในการแข่งขัน อันทัดเทียมกับคู่แข่งขัน มีอยู่อย่างจำกัด จึงทำให้เกิดภาวะปัญหา ที่องค์กรไม่สามารถพัฒนาบุคลากรภายในได้ทัน จนเป็นที่มาของการนำ “ทรัพยากรบุคคลจากภายนอก” (outsourcing) มาใช้ โดยในปัจจุบัน องค์กรต่างๆมีแนวโน้ม ที่จะนำเอาทรัพยากรบุคคลจากภายนอก เข้ามารับมือกับปัญหาบุคลากรภายใน ขาดแคลนความรู้ความสามารถ อันจำเป็นต้องใช้ เพื่อการบริหารจัดการและใช้งานเทคโนโลยี ICT ที่จำเป็นต้องนำมาใช้งานภายในองค์กร มากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า ทั้งฝ่ายองค์กร และฝ่ายบุคลากรภายในองค์กร ย่อมเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง จากการเปลี่ยนแปลงนี้ จากตัวอย่างนี้ ชี้ให้เห็นว่า ICT ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร ในด้านของการบริหารทรัพยากรบุคคล ในระดับสำคัญ นอกจากตัวอย่างข้างต้น การเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร ที่มี ICT เป็นตัวแปรต้น ยังมีอยู่อีกมากมายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นในด้านของรูปแบบการติดต่อสื่อสาร วิธีการทำงาน ความต้องการการลงทุนด้าน ICT ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกที ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำธุรกิจขององค์กร ด้วยตัวอย่าง และความเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรอื่นๆ ที่ได้กล่าวถึงข้างต้น องค์กรต่างๆย่อมต้องการความรู้ความสามารถ ตั้งแต่ในระดับวิสัยทัศน์ ในระดับนโยบาย และจนลงมาถึงในระดับปฏิบัติ อันเกี่ยวกับประโยชน์และผลกระทบ ของการนำ ICT มาใช้ในองค์กร อย่างรอบคอบ รอบด้าน และอย่างเร่งด่วน เพื่อหลีกเลี่ยงการตัดสินใจลงทุนนำ ICT มาใช้ โดยมองไปที่ประโยชน์แต่เพียงอย่างเดียว และมองข้ามผลกระทบด้านต่างๆ ซึ่งองค์กรจำเป็นต้องเตรียมรับมือ จากข้อมูลและเหตุผลทั้งหมดข้างต้น ทำให้ข้าพเจ้าเชื่อว่า ICT เป็นตัวแปรต้นอันสำคัญ ที่นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงอันหลากหลาย ทั้งในบริบทของการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมภายนอกองค์กร และในบริบทของการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร ซึ่งทั้งหมด เป็นความเปลี่ยนแปลงที่มีความสำคัญ ซึ่งองค์กรจำเป็นต้องตระหนักถึง และนำมาพิจารณาเพื่อหาหนทางรับมือ อย่างมีประสิทธิภาพและชาญฉลาด โดยสรุปแล้ว การที่องค์กรต่างๆ ในปัจจุบัน มุ่งหน้าต่อสู่เพื่อความอยู่รอด โดยใฝ่ใจตอบสนองการเปลี่ยนแปลงภายนอกองค์กร เป็นหลักแต่เพียงอย่างเดียว ไม่อาจประสบความสำเร็จได้ หากองค์กรนั้น ไม่สามารถทำความเข้าใจ และไม่อาจรับมือกับความเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุคปัจจุบันที่ ICT กลายเป็นตัวแปรต้นสำคัญ ที่นำความเปลี่ยนแปลง ทั้งในบริบทของการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมภายนอก และในบริบทของการเปลี่ยนแปลงภายใน มาสู่องค์กร
มาชา
ปากกีดตีนถีบรีบและร้อน วณิพกเร่ร่อนกระไรได้ ไม่มีที่มีทางให้วางใจ เทศกิจผู้ยิ่งใหญ่ไล่ทั้งนั้น จึงเกาะโต๊ะ นั่งจักรยาน บนอาน-เล่น ไวโอลิน เพลงเตรียมเผ่น เป็นแม่นมั่น มือจับคันชัก เท้าพักยัน สร้างสีสันบาทวิถีดนตรีจร ท่าพระจันทร์ กรุงเทพฯมหานคร พฤษภาคม ๕๑
การะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์
ราศีเมษ Aries (13 เมย.-13 พค.) ไพ่ใบแรกของคุณสัปดาห์นี้ 6 ดาบค่ะ ช่วงเวลาที่ปัญหาหรือสถานการณ์ต่างๆ จะค่อยๆ คลี่คลายออกไปช้าๆ หากคุณมีเรื่องอะไรทุกข์ร้อนใจ ก็อดทนและใจเย็นรอสักนิด อุปสรรคยังจะอยู่อีกระยะนึง แต่ฟ้าจะค่อยๆ เปิดค่ะ ธุรกิจ การงาน 2 ถ้วย หากเคยมีปัญหาหรืออุปสรรค ก็จะได้รับการปัดเป่าคลี่คลาย ด้วยมิตรภาพ หรือความสัมพันธ์ที่ดี คุณอาจได้พบเพื่อนร่วมงานที่สอดคล้องกันมาก หรือได้ทำงานที่ตนเองรักและมีความสุขสุดๆ ค่ะ สถานการณ์การเงิน 1 เหรียญ คุณมีโอกาสจะได้เงินก้อนใหม่ๆ เข้ามาค่ะ และก็ยังเป็นไพ่ให้คุณในแง่ของการลงทุน ลงแรง การริเริ่มธุรกิจหรือโครงการใดๆ จะมีทุนเข้ามาเป็นจุดตั้งต้นที่ดี และยังหมายถึงการมีความคิดเฉียบแหลมเรื่องการเงินด้วยค่ะ ความรัก ความสัมพันธ์ 10 ถ้วย หมายถึงความรักความสุขในครัวเรือน ความร่วมมือร่วมใจที่จะพาครอบครัวไปสู่เป้าหมายเดียวกัน หรือหมายถึงความสัมพันธ์ที่อบอุ่น แนบแน่น แวดล้อมไปด้วยคนสนับสนุน บางคนหมายถึงการได้พบคู่ครอง หรือคนที่จะมาเป็นคู่ในอนาคตค่ะ คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น The Hermit ความเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวในส่วนลึก หรือการตั้งคำถามต่อสิ่งที่อยู่เบื้องลึกของตัวเอง เกี่ยวข้องกับจุดหมายปลายทางชีวิตค่ะ คำแนะนำพิเศษ The Hanged Man บางทีทางเลือกทางรอดของคนเรา ก็จำเป็นต้องพลิกกลับตาลปัตร เอาหัวลงเดินต่างเท้า หรือมองโลกในมุมกลับล่ะค่ะ
ฐาปนา
แต่ไหนแต่ไรมา ราคาข้าวแต่ละปีไม่เคยห่างไปจากระดับเกวียนละสี่พัน ห้าพัน อย่างดีที่สุดคือหกพัน เขยิบขึ้นๆ ลงๆ อยู่แค่ สองร้อยบ้าง สามร้อยบ้าง ชาวนาได้ข้าวพอกิน เหลือก็ขาย แต่พอหักค่าปุ๋ยค่ายา ค่าไถ ค่าเกี่ยว ก็ไม่พอกิน สุดท้ายก็ต้องเข้าเมืองไปหางานทำอยู่ดี หน้านาก็ทำนา หมดหน้านาก็เข้ากรุง เป็นวัฎจักรชีวิตสืบทอดจาก ชาวนาเจเนอเรชั่นปู่ จนถึง รุ่นหลาน ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง มาปีนี้ ข้าวเกวียนละหมื่นต้นๆ พอหายใจหายคอได้บ้าง กระนั้นหนี้สินก้อนโตก็ยังยืนค้ำหัวให้กลุ้มใจทุกครั้งที่คิดถึง ตาจิ้มเกี่ยวข้าวได้แปดเกวียน หักนู่นหักนี่ไปแล้วเหลือเข้ากระเป๋าสามหมื่นกว่า บางคนว่า ถ้าแกเกี่ยวตอนที่ราคากำลังพุ่ง แกอาจจะได้มากกว่านี้ “...นี่ก็ดีมากมายแล้ว ปีก่อนนู้น ข้าเหลือแค่เจ็ดพัน...” แกว่า “...แกยังดีได้ตั้งเจ็ดพัน ข้าสิโดนปุ๋ยปลอมเข้าไป ข้าวก็ไม่งาม ได้แค่สี่พัน..” ยายจันบ่นบ้าง “...ข้าเคยได้แค่แปดร้อย...” ป้าใสว่า พลางหัวเราะหึๆ พูดไปก็เหลือเชื่อ ทำนาเหนื่อยแทบตาย แต่ข้าวหนึ่งเกวียนราคาถูกกว่าโทรศัพท์มือถือหนึ่งเครื่อง
สุมาตร ภูลายยาว
ในสมัยก่อนคนพื้นถิ่นแถบแม่น้ำของ หรือที่คนทั่วไปรู้จักกันว่าน้ำโขง มีการใช้เรือในแม่น้ำของเพื่อการคมนาคมและขนส่งสินค้า ซึ่งสินค้าของคนพื้นถิ่นแถบอำเภอเชียงของและเวียงแก่นก็จะมีทั้ง เกลือ ข้าว และสินค้าอื่นๆ เพื่อค้าขายและเปลี่ยนกับฝั่งลาวและคนต่างถิ่น การค้าทางน้ำในแม่น้ำของนั้นมีมานานหลายชั่วคน นอกจากประโยชน์ในการบรรทุกสินค้าแล้ว คนท้องถิ่นยังใช้เรือในการหาปลา ซึ่งก่อนที่คนหาปลาจะหันมาใช้เรืออย่างทุกวันนี้ คนหาปลารุ่น ๗๐ ปีขึ้นไปที่หาปลาในแม่น้ำของในอดีตใช้แพไม้ไผ่เพื่อหาปลา พ่ออุ้ยผุย บุปผา อายุ ๗๖ ปี ชาวบ้านปากอิงใต้เล่าว่า “แต่ก่อนตอนพ่อเป็นหนุ่ม เคยล่องแพไปแอ่วถึงหลวงพระบางโน่น ไป-กลับก็ ๒ เดือนขึ้น แต่ก่อนหาปลาในน้ำของนี่เรือไม่มีหรอก เรือมาทีหลัง ส่วนมากก็จะต่อแพหาปลา” ปัจจุบันในช่วงต้นหน้าฝนในน้ำของก็ยังคงมีการล่องแพไม้ไผ่ให้เห็น แต่แพไม้ไผ่ที่ล่องมานั้นส่วนมากจะล่องเอาไม้ไผ่มาขาย มิใช่เพื่อใช้หาปลาดังแต่ก่อน
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
จบแล้วครับ .. เล่นง่ายแบบนี้เชียวเร๊อะ!! Ha Ha ... มีคำกล่าวง่ายๆ ว่า ทุกครั้งในการเดินทาง จงยิ้ม พึ่งพาสมองและสองเท้าแล้วค้นหา ...คุณจะพบว่า โรงแรมราคาดีแต่สะอาด รอคุณอยู่สุดซอย ...เสมอ เราบินออกจากฮานอยด้วยสายการบินโลว์คอส แอร์ เครื่องบินดีเลย์นิดหน่อย อย่างไม่ดัดจริต ผมคิดถึงส้มตำหอยดอง ปูปลาร้า ปากซอย
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ดวงอาทิตย์ ค่อยโผล่พ้นขอบดอยที่อยู่ไกลลิบช้าๆ หมอกเมฆปรากฏจางๆ ช่วยกรองแสง ทำให้มองเห็นดวงอาทิตย์ เป็นทรงกลมสีแดงอ่อน เป็นเช้าที่สวยงาม บ้านไม้หลังเก่าสีโอ๊ก ปลูกบนเนินดิน ที่สูงกว่าถนนหน้าบ้าน และสูงกว่าทุ่งกว้างที่ด้านหน้าบ้านเล็กน้อย มีเก้าอี้โยกเป็นหวาย ที่ระเบียงด้านข้างบ้าน ซึ่งมีบันไดทอดสู่พื้นด้านหน้า มองเห็นทุ่งกว้าง ปรากฏตอข้าวสีเหลืองกระจายทั่วผืนนา ทุ่งกว้างนี้ ปูลาดไปจนถึงถนนสายเชียงใหม่-ฮอด ข้ามถนนเป็นทุ่งนาอีกเช่นกัน มองไกลออกไปอีกนิด เป็นหย่อมต้นไม้สีน้ำเงินปนดำ สูงขึ้นไปอีก จะเห็นแนวดอยสลับซับซ้อน ลมเย็นจากทุ่งโล่ง ทะยอยพัดมาระเรื่อย สู่บ้านของผม บ้านคนเมือง ผมนั่งใต้ถุนบ้าน ลมเย็นพัดมาไม่ขาด ฤดูใดก็มีลมพัดมาตลอด จะมีบางวันเท่านั้น ลมจะหยุดพัดบ้าง เป็นบางเวลา ข้างบ้านมีต้นไม้ปลูกเรียงรายกัน มีต้นโพธิ์ใหญ่มากต้นหนึ่ง ติดต้นโพธิ์เป็นวัดร่มเย็นจิตใจดี รอบๆบ้านยังกระจายไปด้วยไม้กระถาง มีดอกบัวสีม่วง ขาวเหลือง เบ่งบานแข่งกันรับแสงแดด ในบ่อ ปลาเจ็ดสีสะบัดหาง เล่นน้ำเริงร่า เบื้องหน้ารูปปั้นสตรีชุดโบราณแสนสวย นั่งคุกเข่าแช่น้ำมองไปเบื้องหน้า

แท็กล่าสุด

แท็กยอดนิยม