Skip to main content

1. เพลง  Give It Up ของวง  KC&Sunshine Band  (ปี 1983)

 

 

 

ภาพจาก  cdn.discogs.com

 

ผมเคยได้ยินเพลงสไตล์ดิสโก้ยุคใหม่ (wiki เค้าบอกว่าเป็น post disco) นี้มาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ตอนไปดูหนังและตอนก่อนหนังจะฉาย(ตอนนั้นราคาตั๋วประมาณ 20-25 บาท) โรงภาพยนตร์ถ้าจำไม่ผิดคือแสงตะวันและทิพย์เนตร (ปัจจุบันถูกรื้อไปแล้ว) ของเชียงใหม่ได้เปิดเพลงนี้ให้ฟังอยู่เนืองๆก่อนที่มันจะหายไปจากห้วงคำนึงของผมอยู่นานมากจนเมื่อไม่นานมานี้ในหนังเรื่อง Kingsman:The Secret Service ได้นำเพลงนี้มาประกอบกับฉากที่มนุษย์ทั้งหลายกำลังฆ่าฟันกันทั้งโลก ผมจึงกลับมาฟังเพลงนี้อีกครั้งจากยูทูป แล้วน้ำหูน้ำตาไหล เพราะกว่าจะรู้ถึงเนื้อหาว่าเพลงนี้ได้พูดถึงอะไรบ้าง ต้องใช้เวลาถึงกว่า 30 ปี  

 

 

2.  Hard to say I'm Sorry  ของวง Chicago (ปี 1982)

 

 

ภาพจาก ecx.images-amazon.com/

 

ผมไม่ได้ฟังเพลงของวงชิคาโกจริงจังนักตอนเด็ก ๆ ได้แต่ฟังผ่านเทป (ผี) รวมฮิตเพลงฝรั่งหรือไม่ก็เพลงประกอบโฆษณาซึ่งหนึ่งในนั้นคือเพลงนี้ที่ร้องโดยปีเตอร์ เซเทราซึ่งมีเสียงเป็นเอกลักษณ์ (ต่อมาได้แยกตัวออกจากวงนี้ในปี 1985)  อีกเพลงหนึ่งที่ร้องโดยปีเตอร์คือเพลง Glory of Love ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ Karate Kid ภาค 2 ต่อมา ผมจึงได้ฟังเพลงของวง Chicago จริงๆ จังๆ เพราะวงนี้ค่อนข้างหากินจากการรวมเพลงเก่าของตัวเองอยู่บ่อยครั้ง  

 

3.Every Time You go Away ของ Paul Young  (1985)

 

 

ภาพจาก   www.rixrecords.com

 

ผมไม่ค่อยได้ฟังเพลงของพอล ยังนักร้องจากเกาะอังกฤษคนนี้เท่าไรนัก รู้แต่ว่าเพลงนี้ดังมาก จนได้ขึ้นไปอยู่อันดับหนึ่งของบิลบอร์ด ฮ็อต 100 ในปี 1985 และผมได้ฟังเพลงนี้จากเทปผีที่พี่ซื้อมา (อีกเช่นเคย)  เพิ่งมารู้ว่าทีหลังอีกเช่นกันว่าเป็นเพลงเก่าของ Hall&Oates แล้วยังออกมาร้องใหม่ เพลงอื่นของพอลที่ผมชอบได้แก่ What Becomes of the Brokenhearted  เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Fried Green Tomatoes  และเพลง Oh Girl (1991)  ซึ่งก็เป็นเพลงที่พอลเอาของคนอื่นมาร้องใหม่อีกเช่นกัน

 

 

4.Nothing's Gonna Stop us Now  ของวง Starship (ปี 1987)

 

 

                    

                           ภาพจาก  wikimedia.org

                        

เพลงนี้ถือได้ว่าดังมากเพราะได้เป็นเพลงประกอบของภาพยนตร์โรแมนติกคอมมาดีเรื่อง Mannequin ซึ่ง เป็นเรื่องที่พระเอกไปหลงรักหุ่นลองชุดและต่อมาหุ่นก็ได้กลายเป็นผู้หญิงจริงๆ นอกจากจะขึ้นอันดับหนึ่งของบิลบอร์ดฮ็อต 100 อันดับ 1 แล้วยังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปีนั้นอีกด้วย คิดว่าใครหลายคนรวมทั้งผมคิดว่าเพลงนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเพลงป็อบทศวรรษที่ 80 ไป  ผมได้ฟังเพลงนี้มาจากเทปผีที่รวมเอาเพลงฮิตโฆษณาซึ่งน่าจะเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมประชานิยมแบบไทยในทศวรรษที่ 80 อีกเช่นกัน (จำได้แม้แต่กรอบของซองเก็บเทปที่ผมฟังเป็นสีเทา)

 

 

5.Do you remember  ของ Phil Collins (ปี 1990)

 

    

 

ภาพจาก  wikimedia.org

 

เพลงนี้ถือได้ว่าเป็นเพลงสุดรักสุดโปรดของผมเพราะนอกจากความไพเราะแล้วยังแฝงด้วยความเศร้าและความคิดคำนึงถึงคนที่ตัวเองรักซึ่งพลัดพรากจากกันมานานแสนนานจนเขาไม่แน่ใจหากได้พบกับเธออีกครั้งเธอจะจำเขาได้ไหม ไม่รู้เป็นไรว่าเพลงมักทำให้นึกถึงตอนที่ผมฟังเพลงนี้เป็นครั้งแรกตอนอยู่นอนอยู่ในบ้านแถวเมืองนนท์ตอนบ่ายๆ และอากาศกำลังร้อนได้ที่ เพลงอื่นของอดีตมือกลองของวงเจเนซิสคนนี้ในอัลบั้ม ...But Seriously ซึ่งก็ดังมากได้แก่ Another Day in Paradise  I Wish It Would Rain down  และ All of My Life  กระนั้นที่น่าจะกล่าวถึงได้แก่  A Groovy Kind of Love   ซึ่งดังไม่แพ้กันและเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ฟิลแสดงด้วยคือ  Buster (1988)  หรือเพลงประกอบภาพยนตร์ Tarzan (1999) คือเพลง You'll Be in My Heart 

 

 

บล็อกของ อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์

อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
My Moment with the Romanov It is based on some historical facts and persons , but it is still fictitious anyways.   Chapter 1 St.
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
This is the second play I have written in my entire life. Now I hope some of my styles of language , cheekily imitating the Elizabethan writer I didn't mention the name here before : William Shakespeare, won't disturb you much.
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
นวนิยายเรื่องนี้ถูกเขียนประมาณ ปี 2005 หรือ 2006  ผู้เขียนเองก็จำไม่ค่อยได้ ตัวเอกหรือผู้บรรยายเป็นคนไทยแต่ไปสอนวรรณคดีที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเบอร์ลินในเยอรมันช่วงที่นาซีกำลังเรืองอำนาจ อนึ่งไม่ได้มีการตรวจสอบภาษาไทยเท่าไรนัก จึงต้อขออภัยหากมีความผิดพลาดทางภาษาเกิดขึ้น&nbs
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
(newly compiled and edited)  This is the first play I have ever written in my entire life.It is a sublime story about ghost, inspired by The Shock , the popular radio program of horror story telling from fan clubs via telephone.  I am also truly impressed wi
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
เมื่อประมาณต้นเดือนตุลาคม เกาหลีเหนือได้จัดพิธีเดินสวนสนามของกองทัพเพื่อฉลองครบรอบการก่อตั้งพรรคแรงงานหรือ Worker's Party ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดของเกาหลีเหนือ (ความจริงยัง
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
เมื่อไม่กี่วันมานี้ ทรัมป์ได้สร้างความฮือฮาให้กับคนไทยเพราะเผลอไปเรียก Thailand เป็น Thighland หรือดินแดนแห่ง "ต้นขา" โดยคนไทยทั่วไปไม่ซีเรียส เห็นว่าเป็นเรื่องสนุกสนานไป เพราะรู้มานาน
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
ช่วงนี้หลายประเทศได้ทำการเฉลิมฉลองเนื่องในวาระครบรอบการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 คือเมื่อ 75 ปีที่แล้ว (ปี พ.ศ.1945 หรือ พ.ศ.2488) ประเทศที่ได้รับชัยชนะอย่างเช่นสหรัฐอเมริกาและพันธมิต
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
I remember reading the interview by the last promoter of คณะราษฏร (People's Party or PP) from the Sarakandee magazine ,probably a decade ago.At that time he was ageing , frail ,but still p