Skip to main content
เคยสังเกตไหมว่าพวกที่เป็นเซเลบและพวกที่ไม่ได้เป็นเซเลบแต่อยากจะเป็นเซเลบ  มักจะหันมาใช้อาวุธชนิดหนึ่งในการโฆษณาสร้างภาพตัวเองซึ่งดูเหมือนจะได้ผลไม่น้อยไปกว่าให้หน้าม้ามาโผล่ตามเว็บไซต์ต่างๆ หรือเสนอหน้าผ่านเกมโชว์หรือรายการทั้งหลายในโทรทัศน์ก็คือหนังสือนั้นเอง หนังสือที่ว่ามักจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวของเธอหรือเขานั้นเองไม่ว่าเกิดเมื่อไร ที่ไหน พ่อแม่เป็นใคร เรียนที่ไหน เป็นแฟนหรือกิ๊กกับใคร แสดงหนังหรือละครเรื่องใดบ้าง ที่สำคัญต้องลงรูปสวยหรือหล่อให้เยอะๆ เพื่อตอบสนองความอยากของประชาชนซึ่งน่าจะเป็นชนชั้นกลางเสียส่วนใหญ่ ซึ่งผมจะขอเรียกหนังสือชนิดนี้ว่า "หนังสือฟองสบู่"คือถูกตีพิมพ์ออกมามาก มีรูปแบบสวยงามๆ แต่ข้างในโบ๋เบ๋ เน้นเรื่องส่วนตัวโดยเฉพาะเรื่องอื้อฉาวทางเพศเสียมาก ยิ่งกลิ่นคาวแรงแค่ไหนยิ่งขายดีเป็นเทน้ำเทท่า น่าตลกที่ว่าบางคนแค่ได้ออกโทรทัศน์หรือแสดงภาพยนตร์ไม่กี่ครั้งก็ออกหนังสือจนคนอ่านยังสงสัยว่าหมอนี่หรือนางคนนี้เป็นใครกัน 
 
อย่างไรก็ดีพิธีกรรมที่ขาดไม่ได้สำหรับพวกเซเลบคือการเปิดตัวหนังสือตามห้างใหญ่ๆ เพื่อแจกลายเซ็นแล้วโหมออกข่าวทางโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ การผลิตหนังสือที่มีคุณคุณภาพไม่ใช่เรื่องง่ายๆ การเรียบเรียงตัวหนังสือออกมาจากสมองตัวเองให้สละสลวย จูงใจคนอ่าน มีความชัดเจน ต่อเนื่องไม่สะดุดและมีแง่คิดแฝงอยู่ด้วยย่อมเป็นสิ่งที่เซเลบส่วนใหญ่ทำกันไม่ได้ทุกคนแม้จะเป็นเรื่องตัวเองก็ตาม ดังนั้นอาชีพที่คนเหล่านั้นต้องหันหน้าไปพึ่งก็คือนักเขียนผีหรือ ghost writer ที่ว่านักเขียนผีก็เพราะเป็นคนปิดทองหลังพระโดยให้พวกเซเลบเป็นคนเอาหน้าไปทั้งหมด เพียงแค่พวกเซเลบรวบรวมข้อมูลมาเล่าให้ฟัง พวกนี้ก็เอามาเขียนจนสำนวนดูเลิศเลอมีเสน่ห์จนเจ้าตัวเองเอามาอ่านแล้วรำพึงกับตัวเองว่า "ใช่ตัวกูหรือนี่ "
 
 บทความนี้แท้ที่จริงต้องการจะแนะนำหนังสือนวนิยายเรื่อง The Ghost ซึ่งย่อมาจาก The Ghost Writer นั้นเอง The Ghost เป็นนวนิยายของนักเขียนชาวอังกฤษคือโรเบิร์ต แฮร์ริสเจ้าของนวนิยายชื่อดังก่อนหน้านี้ซึ่งหลายเล่มเข้าระดับเบสเซเลเลอร์เช่นFatherland (1992) Enigma (1995) Archangel (1999) Pompeii (2003) โดยเฉพาะ Enigma (1995) อันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการแข่งขันการถอดรหัสลับระหว่างฝ่ายสัมพันธ์มิตรกับเยอรมันนาซีในสงครามโลกครั้งที่สองได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ The Ghost ได้รับการยกย่องว่าเป็นนวนิยายอิงการเมืองเขย่าขวัญ (political thriller) ที่น่าติดตามมากที่สุดเรื่องหนึ่งแห่งปี นวนิยายที่ถูกตีพิมพ์ใน ปี ค.ศ. 2007 เล่มนี้มีตัวเอกซึ่งเป็นนักเขียนชื่อดังคนหนึ่งซึ่งนวนิยายไม่ได้บอกชื่อเพราะเรื่องถูกบรรยายโดยผ่านสายตาของเขาเองตัวเอกได้รับการติดต่อจากสำนักพิมพ์ให้ไปทำหน้าที่แทนไมค์ แม็คอาร่านักเขียนผีประจำตัวของอดีตนายกรัฐมนตรีของอังกฤษคือ อดัม แลงค์ ซึ่งต้องการผลิตหนังสืออัตชีวประวัติของเขาออกมาเล่มหนึ่ง นายแม็คอาร่าเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาขณะเดินทางมากับเรือข้ามฝากซึ่งแล่นข้ามทะเลไปยังเกาะมาร์ธาส์ วินียาร์ดในรัฐแมสซาชูเซ็ทของอเมริกาซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านพักตากอากาศของอดัมหลังจากพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 
 
                                            
                               
                                  
                                             ภาพจาก www.amazon.com
 
 
จากนั้นนวนิยายก็ได้นำเราให้ไปรู้จักกับอดัมและภรรยาของเขาคือรูธ ตัวอดัมเป็นที่มาของความอื้อฉาวของนวนิยายเล่มนี้เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าอิงอยู่บนตัวตนของนายโทนี่ แบลร์ของอังกฤษซึ่งเพิ่งพ้นตำแหน่งในปีที่นวนิยายถูกตีพิมพ์ ส่วนรูธก็คือนางเชอรี่ ภรรยาของแบลร์อวตารลงมานั้นเอง แต่บุคคลของเขาและเธอในนวนิยายถูกนำเสนอออกมาในด้านลบเช่นฉากหน้าอดัมเป็นคนมีเสน่ห์เป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์แบบแบลร์แต่ความเป็นจริงเป็นคนที่ไร้อุดมการณ์ หลงตัวเองจนตัดขาดตัวเองออกจากความเป็นจริง (อันนี้แฮร์ริสจงใจใช้ด่าแบลร์ตรงๆ เลย) แต่เขามักถูกจูงจมูกโดยภรรยาเสมอมา รูธมีลักษณะเหมือนภริยาของอดีตประธานาธิบดีอเมริกาบางคนเช่นเรแกนหรือคลินตัน เธอเป็นผู้หญิงร้ายลึก จอมวางแผนชอบใช้คนอื่นโดยเฉพาะสามีเป็นเครื่องมือ จากการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอดัมและรูธ ตัวเอกก็ได้ค่อยๆ รู้ฉากหลังที่ลึกลับของทั้งคู่ทีละเล็กละน้อยอันจะเป็นกุญแจไขไปสู่ความลับว่าทำไม   แม็คอาร่าถึงเสียชีวิตอย่างลึกลับโดยเฉพาะตอนที่ชะตาชีวิตของอดัมพบกับจุดผกผันเมื่อศาลอาชญากรสงครามได้ทำการไต่สวนเรื่องชั่วๆ ของเขาขณะยังเป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งประกาศสนับสนุนรัฐบาลอเมริกันยุคประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุชในการทำสงครามต่อการก่อการร้าย 
 
ในการนี้อดัมได้ร่วมมือกับซีไอเอในการลักพาตัวชาย 4  คนสัญชาติอังกฤษซึ่งถูกสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายอัลไควดาไปทรมานเพื่อหาข้อมูล แต่ว่าอดัมบังเอิญอยู่ในอเมริกาพอดีจึงรอดพ้นจากการถูกจับกุม เขาได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลอเมริกันไม่ให้ส่งตัวกลับไปดำเนินคดียังประเทศอังกฤษ แต่กระนั้นก็ดูน่าอับอายไร้ศักดิ์ศรีไม่น้อยแถมยังมีคนจำนวนมากมาประท้วงรัฐบาลอเมริกันถึงเกาะ เข้าใจว่าถ้าแบลร์และภรรยาอ่านเข้าซึ่งคงรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าเสียฉากใหญ่ๆ เพราะเนื้อเรื่องเช่นนี้สะท้อนถึงแนวคิดของคนเขียนและอังกฤษจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยกับแบลร์ที่ภักดีกับบุชในนโยบายการส่งทหารอังกฤษไปร่วมกับกลุ่มพันธมิตรในประเทศอิรักจนถูกขนานนามจากสื่อมลชนว่าเป็น "สุนัขพูดเดิลพันธุ์อเมริกัน" (American poodle) ในขณะเดียวกันนวนิยายก็วิพากษ์นโยบายการต่างประเทศของอเมริกาไปในตัว
 
สำหรับพวกเราก็คงจะอุทานว่าการอุ้มอดัมของสหรัฐฯ ช่างเหมือนกับชนชั้นปกครองไทยในอดีตเสียนี้กระไร แต่ถ้ามองลึกไปกว่านี้ในประวัติศาสตร์การเมืองของไทย ผู้กระทำความผิดที่เคยกุมอำนาจรัฐมักจะรอดพ้นจากโทษทัณฑ์เสมออาจเพราะความคลุมเคลือทางประวัติศาสตร์หรือมีผู้อำนาจมาอุ้มก็ตามแต่จนน่าจะยกมาเป็นสุภาษิตได้ว่า คนสามัญฆ่าคนตายหนึ่งคน ท่านเรียกว่า"อาชญากร"คนมีอำนาจฆ่าคนได้หลายคน (แล้วไม่ถูกลงโทษ) ท่านเรียกว่า "ชนชั้นปกครอง"
 
The Ghost เป็นนวนิยายที่มีเสน่ห์คือสามารถผสมสานเรื่องการเมืองระหว่างประเทศเข้ากับ การสืบสวนสอบสวนอันเร่งเร้าความตื่นเต้นเข้ากับอารมณ์ขันแบบร้ายๆ ได้อย่างดีตามแบบเฉพาะตัวของแฮร์ริสคนเขียนถึงแม้จะสะดุดไปบ้างกับการเน้นย้ำการพรรณนาบางฉากซึ่งเป็นเพียงส่วนย่อย ๆของเรื่อง แต่ก็สามารถทำให้คนอ่านสามารถอ่านได้แบบวางไม่ลงและถึงแม้ความลับที่ถูกเฉลยในช่วงท้ายของเรื่องอาจจะดูตื้นไปเล็กน้อย แต่พลังทั้งมวลของหนังสือก็ทำให้คนอ่านมองข้ามจุดนี้ไปได้
 
นวนิยายเรื่องนี้ยังได้รับการนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์โดยมีการวางตัวผู้กำกับคือโรมัน โปลันสกี แต่เผอิญว่าคุณโปลันสกีถูกจับในประเทศสวิตเซอร์แลนด์และกำลังจะถูกส่งไปดำเนินคดีในอเมริกาข้อหาข่มขืนผู้เยาว์เสียก่อน ภาพยนตร์เลยถูกพับไปก่อนจะสามารถเข็นมาสร้างจนออกฉายและประสบความสำเร็จอย่างสูงในปี 2010 ในชื่อ The Ghost Writer สำหรับพวกเราสามารถหา The Ghost มาอ่านได้ไม่ยากเพราะถูกแปลเป็นภาษาไทยแล้วโดยคุณ อิสริยา ชมภูผลและมีชื่อภาษาไทยคือ "เปิดแผนโค่นผู้นำ" 
 
 

บล็อกของ อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์

อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
 
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
เข้าใจว่าผลงานของ William Shakespeare ที่คนไทยรู้จักกันดีรองจากเรื่อง Romeo and Julius ก็คือวานิชเวนิส หรือ Merchant of Venice ด้วยเหตุที่ล้นเกล้ารัชกาลที่หกทรงแปลออกมาเป็นหนังสืออ่านนอกเวลาสำหรับเด็กนักเรียนได้อ่านกัน และประโยค ๆ หนึ่งกลายเป็นประโยคยอดฮิตที่ยกย่องดนตรีว่า &nbsp
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
หากพูดถึงหนังเพลงหรือ musical ที่มีสีสันมากที่สุดเรื่องหนึ่งในทศวรรษที่ห้าสิบและหกสิบ เราก็คงจะนึกถึงเรื่อง West Side Story เป็นเรื่องแรก ๆ อาจจะก่อน Singin' in The Rain หรือ Sound of Music เสียด้วยซ้ำ ด้วยหนังเรื่องนี้มีจุดเด่นคือเพลงทั้งบรรเลงและเพลงร้องที่แสนไพเราะ ฝีมือการกำกับวงของวาทยากรอ
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
มักเป็นที่เข้าใจว่าอเมริกาเป็นประเทศแห่งความเท่าเทียมกัน อาจด้วยอเมริกานั้นไม่เคยเปลี่ยนผ่านยุคศักดินาเหมือนกับประเทศในเอเชียและยุโรป อเมริกาถึงแม้จะมีชนชั้นกลางมากแต่บรรดาในชนชั้นกลางก็มีการแบ่งแบ่งแยกที่ดีที่สุดคือเงิน รองลงมาก็ได้แก่ฐานะทางสังคม สีผิว เพศ ฯลฯ เอาเข้าจริงๆ ไม่มีสังคมไหนในโลกท
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
    1.นอยด์ เป็นคำแสลงที่ถือกำเนิดได้มานานหลายปีแล้ว มาจากคำว่า noid กร่อน (โดยคนไทยเอง) จากศัพท์อังกฤษ  paranoid ซึ่งแปลว่า ความวิตกกังวลว่าคนอื่นไม่ชอบหรือพยายามจะทำร้ายตัวเองแม้ว
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
                                                                                    &
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
ผีเป็นบุคคลที่เราไม่พึงปรารถนาจะพบ แต่เราชอบนินทาพวกเขาแถมยังพยายามเจอบ่อยเหลือเกินในจอภาพยนตร์ ทั้งที่ก็ไม่รู้ว่ามีตัวตนจริงหรือเปล่า ด้วยส่วนใหญ่ได้ยินกันปากต่อปาก ประสบการณ์ส่วนตัวก็ไม่ชัดเจน อาจเกิดจากความผิดปกติทางประสาทสัมผัส หรือการหลอกตัวเองก็ได้ ยิ่งหนังผีทำได้วิจิตร พิศดารออกมามากเท่า
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
                 แปลและตัดต่อบางส่วนจากบทความ Gustav Mahler : The Austrian composer เขียนโดยเดรีก วี คุก จาก  www.britannica.com
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
ทศวรรษที่ 80 ของฝรั่งคือปี 1980-1989  หรือว่าช่วง พ.ศ. 2523  ถึง พ.ศ.
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
ถึงแม้เบโธเฟน (Ludwig Van Beethoven) จะได้ชื่อว่าเป็น คีตกวีที่แสนเก่งกาจคนหนึ่งในยุคคลาสสิกและโรแมนติก แต่ศิลปะแขนงหนึ่งที่เขาไม่สู้จะถนัดนักคือการเขียนอุปรากร เหมือนกับ โมซาร์ท คาร์ล มาเรีย ฟอน เวเบอร์ หรือ โจอากีโน รอสซีนี  ดังนั้นช่วงชีวิต 50 กว่าปีของเบโธเฟนจึงสามารถสร้างอุปรากรออกมาไ
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
ตามความจริง คำว่า Godfather เป็นคำที่ดีมาก หมายถึงพ่อทูนหัว ของศาสนาคริสต์ที่หมายถึงใครสักคนหนึ่งยอมรับเป็นพ่อทูนหัวของเด็กซึ่งเป็นลูกของคนอื่นในพิธีศีลจุ่มหรือ Baptism เขาก็จะเป็นผู้ประกันว่าเด็กคนนั้นจะได้รับการศึกษาทางศาสนาและถ้าพ่อแม่ของเด็กคนนั้นตายก็ต้องรับอุปการะ นอกจากนี้ยังหมายถึงฝ่ายห
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
 visionary ,under the shadow Prayut tries to be the most visionary politician,but he is merely under the shadow of Thacky.&