ทศวรรษที่ 80 ของฝรั่งคือปี 1980-1989 หรือว่าช่วง พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2532 เป็นช่วงเปลี่ยนแปลงในชีวิตของผมดังที่เรียกว่า coming -of- age คือจากเด็กที่ไม่รู้ความอะไรมาเป็นวัยรุ่น ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของเหตุการณ์ที่ผมได้ประสบพบในช่วงเหล่านั้น
1.รู้จักนายกรัฐมนตรีของไทยคือพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ และประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนของสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างดี แต่ฝ่ายหลังจะฉลาดและมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลกว่ามาก ที่สำคัญคือมาจากครรลองของประชาธิปไตย
2.หวาดกลัวจนหัวหดต่อภัยจากระเบิดนิวเคลียร์ ยิ่งเมื่อได้ดูหนังเรื่อง The Day After ซึ่งมีการดำเนินเรื่องและเทคนิคที่น่าตื่นตาตื่นใจมากในยุคนั้น หนังสือพิมพ์ไทยรัฐเคยโฆษณาภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าชะตากรรมของโลกขึ้นอยู่ผู้นำของสหรัฐฯ และสหภาพโซเวียตในยุคนั้น
3.เพิ่งได้ข่าวว่ามีโรคประหลาดที่ระบาดเฉพาะในกลุ่มพวกเกย์ในเมืองซานฟรานซิสโกที่ทำให้คนเหล่านั้นภูมิคุ้มกันบกพร่อง ป่วยหนักและจะตายในที่สุด (ผมอ่านเจอจากต่วยตูนและยังไม่มีคำว่า"เอดส์"ในสมองเลย เพราะผู้เขียนใช้ชื่อเต็ม) คิดว่าโรคนี้ไม่นานก็คงจะหายารักษาได้ และคนไทยตื่นตัวกับโรคเอดส์จากความตายของเซเลบของฮอลลีวู้ดคือร็อค ฮัดสัน ที่ออกมาเปิดเผยว่าตัวเองมีเชื้อเอชไอวีเป็นคนแรกในปี 1985 กระนั้นด้วยความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเฉพาะพวกรักร่วมเพศ พวกรักต่างเพศก็ล้มตายกันเป็นจำนวนมาก
4.ชอบดูหนังบู๊ที่สรพงษ์ ชาตรี สมบัติ เมทะนี กรุง ศรีวิไล เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ แสดงทุกสายวันเสาร์ทางช่อง 7 สี พร้อมเสียงพากย์ซึ่งล้าสมัยไปแล้ว แต่แอบติดใจคุณพิภพ ภู่ภิญโญ ดาวร้ายหัวล้านที่ชอบตบหัวตัวเองพร้อมกับหัวเราะเหมือนคนบ้า ไม่นึกว่านอกจอแกจะเป็นคนเรียบร้อยนิสัยดี (ปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว)
5.คิดว่าสักวันหนึ่งจะต้องได้ออกไปรบกับพวกคอมมิวนิสต์โดยเฉพาะประเทศเวียดนาม ยิ่งได้เรียนวิชารักษาดินแดนที่ต้องท่องจำลัทธิมาร์กซ์ด้วยแล้ว ดังจากตำราเรียนหนาปึก
6.เข้าใจว่านักร้องหน้าใหม่ที่ชื่อธงไชย แม็คอินไตยน่าจะดังไม่เกิน 2 อัลบั้ม กระนั้นก็สามารถสัมผัสกลิ่น LGBT ของแกได้ตั้งแต่เปิดตัว
7. ไปกับพี่ชายเพื่อดูภาพยนตร์เรื่อง Commando ที่อาร์โนลด์ ชวาซเน็กเกอร์แสดงที่โรงภาพยนตร์ด้วยตั๋วหนังที่ราคาแพงที่สุดคือ 25 บาท พร้อมกับเพลงดิสโกฝรั่งซึ่งดังในทศวรรษที่ 70 -80 เปิดรอเวลาฉาย
8.อยู่ในโลกที่ไม่มีอินเทอร์เน็ต ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่มีเอทีเอ็ม (จนมาช่วงปลายของทศวรรษ) ขนาดโทรทัศน์ยังเป็นจอขาวดำในช่วงต้นทศวรรษ จำได้ว่าเห็นโทรทัศน์จอสีครั้งแรกแล้วตกตะลึง
9.มีข่าวว่าดาวเทียมของสหรัฐฯ คือสกายแล็ปจะตกและสามารถตกลงจุดไหนของโลกก็ได้ ชาวโลกต่างก็กลัวว่าเศษของดาวเทียมมหาภัยจะตกลงมาบนหลังคาบ้านตัวเอง สุดท้ายดันไปตกในทะเล
10.มีคุณแอ็ด คาราบาวเป็นไอดอล เป็นนักร้องเพลงเพื่อชีวิตที่เปี่ยมด้วยอุดมการณ์สุดยอด เป็นพวกหัวเอียงซ้ายด่านักการเมืองและนายทุนทุกคน (กระนั้นมาเฉลียวใจก็เมื่อคุณแอ็ดแต่งเพลงเชียร์โครงการอีสานเขียวของบิ๊กจิ๋ว)
11.ได้เห็นพลเอกเปรมถูกคนบ้าต่อยหน้าจะๆ ขณะไปเปิดงานที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง บนหน้าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ขาวดำ (ราคาของหนังสือพิมพ์สมัยนั้นถ้าจำไม่ผิด ไม่เกิน 3 บาท)
12.หลงรักบทเรียนภาษาไทยคือปิติ มานะ วีระ ชูใจอย่างมาก เป็นสังคมชนบทในจินตนาการที่เปี่ยมด้วยความสงบสุขตามที่รัฐไทยจารีตนิยมฝันไว้ แม้ตอนท้ายๆ จะดรามาจนน้ำตาไหล
13.ตอนจบมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 เพลงที่ดังและกินใจที่สุดคือเพลง "โชคดีนะเพื่อน" ของวงไมโครจากอัมบั้ม "หมื่นฟาเรนไฮต์" ซึ่งวงนี้เคยดังมาก่อนกับเพลง "รักปอนๆ " หรือ "อย่าดีกว่า" ในอัมบั้มแรก
14.สังคมไทยเริ่มรู้จักรูปแบบทางเพศใหม่ๆ ของวัยรุ่น หนังสือคู่สร้างคู่สมถึงกลับตั้งหัวข้อว่า "เกย์กอมทอมดี้ ดีหรือเลว" เช่นเดียวกับคำว่า "ตุ๊ด" ซึ่งไลฟ์สไตล์ของพวกเขากลายเป็น subculture หรือวัฒนธรรมกระแสรองที่ผู้ใหญ่ของบ้านเมืองรู้สึกเป็นห่วงเป็นใหญ่
15.เยาวชนไทยติดการ์ตูนรวมซีรีย์เกี่ยวกับฟุตบอลของอังกฤษที่ชื่อ "กีฬากับการ์ตูน" เช่นฮามิชตีนระเบิดอย่างงอมแงม
16.พี่แจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์คือสุดยอดแห่งนักร้องเมืองไทย พร้อมเสียงที่นุ่มนวลชวนฝันไม่เหมือนใคร และงานคอนเสิร์ตที่ดีที่สุดคือ "โลกดนตรี"ที่จัดโดยคุณเสกสรรค์ ภู่ประดิษฐ์ เช่นเดียวกับค่ายนิธิทัศน์ซึ่งดังเปรี้ยงปร้างในทศวรรษที่ 80 จนเจ้าของออกมาอวดว่าเคยไปซื้อเสื้อสูทหมดไปหลายล้านที่่ต่างประเทศ
17.ทอม ครุยส์ เป็นรูปลักษณ์ของหนุ่มอเมริกันสุดเท่ห์ อย่างในเรื่อง Top Gun (พร้อมกับเพลงประกอบของวง Berlin คือ Take My Breath Away) ตอนนั้นวัยรุ่นชายนิยมเสื้อหนาวทหารสีเขียวหนาๆ ใส่แว่นตาดำ ขี่มอเตอร์ไซด์แบบผู้ชาย เข้าใจว่าหนังเรื่องนี้คงจะทำให้เด็กหนุ่มคลั่งอยากเป็นนักบินกันมาก
18.ได้เห็นภาพข่าวงานศพของคอนสแตนติน เชเนโก ผู้นำของสหภาพโซเวียตแล้วรู้สึกว่าเท่ห์มาก มีโลงศพ แล้วมีคนสีไวโอลินเป็นเพลงเศร้าๆ อยู่ใกล้ๆ เมื่อได้เห็นใบหน้าผู้สืบต่อคือมิกเคล กอร์บาชอฟแล้วรู้สึกว่าโลกมีความปลอดภัยขึ้นจมเพราะดูเป็นคนดีศรีสังคม
19.เพลงดิสโกในทศวรรษที่ 70 กับ 80 ดังมากในสังคมไทย เพลง Lady Bump ทำให้เกิดแฟชั่นท่าเต้นแล้วเอาตะโพกของคนสองคนมาชนกันที่เรียกว่า "บัมพ์" มีคนเอาไปแปลงเป็นเพลงไทย มีเนื้อท่อนหนึ่งที่ผมจำได้ว่า "อาตมาก็บัมพ์เป็น สามเถรก็บัมพ์ได้" ส่วนเพลงอื่นๆ ของบอนนีเอ็มเช่นเพลง Genghis Khan กับ Rasputin จนมีคนเอาทำนองไปดัดแปลงเป็นเพลงไทยเหมือนกัน
20.ตอนจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยมีแค่โควต้าสำหรับจังหวัดในภาคต่างๆ ถ้าสอบไม่ได้ก็ไปสอบเอนทรานซ์ทั่วประเทศ จบ ไม่มีโอเน็ต เอเน็ตที่น่าเวียนหัวเหมือนปัจจุบัน
บล็อกของ อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
ตัวละครบางตัวได้แรงบันดาลใจมาจากอิ๊กคิวซัง เณรน้อยเจ้าปัญญา The Abbot and The Noble (1) In our village , Abbot Akisada was enormously respected by most of our
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
เรื่องความแค้นของผีตายทั้งกลม This (real) horror short story is partly inspired by the ghost tale told by the popular YouTuber like Ajarn Yod. Or it is in fact from the amateurish storytellers participating in Ghost Radio or The Shock more or less.
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
My Moment with the Romanov It is based on some historical facts and persons , but it is still fictitious anyways. Chapter 1 St.
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
This is the second play I have written in my entire life. Now I hope some of my styles of language , cheekily imitating the Elizabethan writer I didn't mention the name here before : William Shakespeare, won't disturb you much.
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
นวนิยายเรื่องนี้ถูกเขียนประมาณ ปี 2005 หรือ 2006 ผู้เขียนเองก็จำไม่ค่อยได้ ตัวเอกหรือผู้บรรยายเป็นคนไทยแต่ไปสอนวรรณคดีที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเบอร์ลินในเยอรมันช่วงที่นาซีกำลังเรืองอำนาจ อนึ่งไม่ได้มีการตรวจสอบภาษาไทยเท่าไรนัก จึงต้อขออภัยหากมีความผิดพลาดทางภาษาเกิดขึ้น&nbs
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
(newly compiled and edited) This is the first play I have ever written in my entire life.It is a sublime story about ghost, inspired by The Shock , the popular radio program of horror story telling from fan clubs via telephone. I am also truly impressed wi
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
เมื่อประมาณต้นเดือนตุลาคม เกาหลีเหนือได้จัดพิธีเดินสวนสนามของกองทัพเพื่อฉลองครบรอบการก่อตั้งพรรคแรงงานหรือ Worker's Party ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดของเกาหลีเหนือ (ความจริงยัง
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
เมื่อไม่กี่วันมานี้ ทรัมป์ได้สร้างความฮือฮาให้กับคนไทยเพราะเผลอไปเรียก Thailand เป็น Thighland หรือดินแดนแห่ง "ต้นขา" โดยคนไทยทั่วไปไม่ซีเรียส เห็นว่าเป็นเรื่องสนุกสนานไป เพราะรู้มานาน