Skip to main content

นายยืนยง

ชื่อหนังสือ : ถอดรหัสอ่านเร็ว HI-SPEED READING

ผู้แต่ง : ลุงไอน์สไตน์

พิมพ์ครั้งที่ 1 : สำนักพิมพ์บิสคิต ตุลาคม 2551


 

ในกระแสหมุนโลกให้ช้า ๆ ที่ถือเป็น กระแสกลับของยุคบริโภคข้อมูลข่าวสารชนิดด่วนจี๋ เมื่อเห็นชื่อหนังสือเล่มนี้ ถอดรหัสอ่านเร็ว HI-SPEED READING ” อาจมีอันต้องสะบัดหน้าหนีชนิดคอแทบเคล็ด เพราะพวกที่นิยมหมุนโลกให้ช้าลงเหล่านี้ มักปฏิเสธอะไร ๆ ที่ปรากฎเป็นนิยามของความเร็ว แต่ก็มีข้อยกเว้น

 

สำหรับผู้ที่นิยมหมุนโลกให้ช้า ๆ แต่จำเป็นต้อง รีบดำเนินการอ่านด้วยความเร็วสูง ความรีบเร่งนี้จึงถือเป็นภาระกิจยกเว้นสำหรับสาวกนักหมุนโลกให้ช้ากลุ่มนี้ ซึ่งก็รวมถึงฉันด้วยคนหนึ่ง เพราะต้องยอมรับว่ามีหนังสือหนังหา ไล่ไปตั้งแต่หนังสือพิมพ์รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน พ็อกเก็ตบุ๊ค กองเป็นตั้งสูงท่วมหัวรอให้มีเวลาพอจะอ่าน นี่ยังไม่รวมการอ่านผ่านเว็บไซต์ที่ต้องอาศัยแว่นตากรองแสง ขณะที่ลดแสงสะท้อนไปในตัวเป็นเครื่องมือชนิดเดียว ที่พอจะช่วยประทังชีวิตการอ่านไปได้บ้าง และแล้วโชคก็เข้าข้างฉัน เมื่อได้พบกับหนังสือแห่งความหวังเล่มนี้

เคล็ดลับอ่านเร็วและเพิ่มพลังความจำแบบไฮสปีด

 

ทันทีที่อ่านจบ (อย่างเร็ว) ฉันก็รีบนำมาบอกเล่าใน สวนหนังสือทันที ชนิดไม่มีเม้มอีกต่างหาก แต่ก่อนอื่นมาดูวิธีการเขียนของลุงไอน์สไตน์ ที่เราคุ้นเคยกันดีว่าเป็นหนังสือแนวฮาวทู

 

เป็นธรรมเนียมไปเสียแล้ว สำหรับนักเขียนหนังสือแนวนี้ ที่ต้องมีการอธิบาย ยกประโยชน์ให้แก่สิ่งที่ตนเขียนถึง เช่น ถ้าเขียนถึงการฝึกคิดเลขให้เร็วกว่ามนุษย์ธรรมดานั้น มีความจำเป็นมหาศาลปานใด หนำซ้ำหากคุณสามารถคิดเลขเร็วกว่าคนอื่นในสังคม ประโยชน์โภคผลนับพันประการจะตกแก่คุณอย่างงดงามปานใด

 

เช่นเดียวกัน ลุงไอน์สไตน์ก็ยกยอการอ่านว่าเป็นคุณประโยชน์มากเพียงใดแก่มนุษยชาติคนหนึ่ง ๆ

แกเขียนว่า ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า 80 – 90 % ของความรู้หรือข้อมูลข่าวสารที่คนเราต้องการ มักจะได้มากจากการอ่าน

 

ท่านธีโอดอร์ รูสเวลท์ ยังรับประกันให้อย่างองอาจ สมกับตำแหน่งหน้าที่การงานว่า ก่อนเวลาอาหารเช้า ท่านจะอ่านหนังสือให้จบ 1 เล่มเสียก่อน และยังถือเป็นวัตรปฏิบัติอันสง่างามขณะที่เข้มงวดอย่างน่ายำเกรงอีกต่างหาก

 

นอกจากอธิบายและเอ่ยอ้างให้การอ่านเป็นเรื่องของชนชั้นเป็นมันสมองของสังคมแล้ว หนังสือเล่มนี้ยังมีแบบทดสอบเพื่อประเมินประสิทธิภาพการอ่านของเราด้วย มีสูตรให้คำนวณ มีแบบทดสอบการอ่าน ให้เราได้ลับมือ อีกใจหนึ่งก็จดจ่ออยู่กับเคล็ดลับอ่านเร็วที่กำลังจะเปิดเผยตัวเองในบทต่อไป ทั้งนี้ สำหรับคนที่ยึดมั่นในมารยาทการอ่านอย่างเข้มงวด คือจะอ่านตั้งแต่ต้นไปจนกระทั่งจบ ไม่มีการโกง แอบอ่านเอาเฉพาะในส่วนเนื้อหาที่ตนเองสนใจก่อน

 

และเมื่อเราได้ทำการทดสอบตัวเองผ่านบททดสอบการอ่านที่มาพร้อมในหนังสือแล้ว เราจะตระหนักว่าอันตัวเรานั้นเสียเวลาไปกับการอ่านอันเชื่องช้าอย่างมากมาย ชนิดไม่อยากให้อภัยตัวเอง เพราะว่า

จากสถิติที่เคยมีการบันทึกไว้ มี มนุษย์ที่สามารถอ่านได้เร็วขนาดมือยังเปิดหน้าตามแทบไม่ทัน

 

ไม่เท่านั้น คิม พีค อัจฉริยะออทิสติก ชาวอเมริกัน สามารถอ่านได้สองหน้าในวลาเดียวกัน และด้วยตาเพียงข้างเดียว (โอ้โห) ขณะที่อ่านเร็วผิดมนุษย์สามัญปานนั้น พ่ออัจฉริยะคิม พีค ยังสามารถจดจำและเข้าใจในเนื้อหาที่อ่านได้อย่างขึ้นใจ หรืออย่างท่านอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี แห่งอเมริกา ยังสามารถอ่านได้เร็วถึง 1,000 คำต่อนาที ซึ่งหากดูระดับความเร็วในการอ่านแล้ว ทั่นจอห์น เอฟ เคนเนดีมีความสามารถในการอ่านเร็วเข้าขั้นทะลุเทพเลยทีเดียว

 

ไหน ๆ แล้ว ลองมาดูตารางระดับความเร็วกันดีกว่า

ความเร็วเฉลี่ย (คำ/นาที) ระดับ

301 – 400 ดีเยี่ยม

201 – 300 ดี

101 – 200 พอใช้

ต่ำกว่า 100 ควรปรับปรุง

ขนาดฉันที่เคยประเมินตัวเอง (ก่อนทำแบบทดสอบ) ยังรู้สึกว่าตัวเรานี่ก็อ่านเร็วไม่ใช่เล่น แต่ที่ไหนได้

พอมาทำแบบทดสอบแล้ว คะแนนออกมาตกต่ำจนใจหาย ฉะนั้นฉันจึงมุ่งหน้าไปสู่เคล็ดลับอ่านเร็วทันที

 

เคล็ดลับอ่านเร็วมีอยู่ 5 ขั้นตอนด้วยกัน แต่หากจะยกมาให้อ่านกันสด ๆ ตรงนี้ อาจไม่เป็นการบังควร ฉะนั้นฉันจึงควรแอบเอามาสรุปกันสั้น ๆ พอเป็นกระสาย สำหรับใครที่อ่านเร็วเข้าขั้นอยู่แล้ว ก็ถือเสียว่า งานนี้เป็นการเอามะพร้าวห้าวมาขายสวน จะช่วยอุดหนุนบ้างก็จะเป็นพระคุณยิ่ง โฮะ ๆ

 

ใครเคยสังเกตเห็นใคร หรือตัวเองบ้างไหม ยามอ่านหนังสือจะส่ายหน้าจากซ้ายไปขวา ขวากลับมาซ้ายไปตามสายตาที่จับอยู่บนบรรทัดของหนังสือที่อ่าน เหมือนกำลังส่ายหน้าปฏิเสธอะไรบางอย่างอยู่อย่างงั้นแหละ ขอบอกเลยว่า อาการส่ายหน้าตามสายตาไปตามตัวอักษรอย่างนี้ ถือเป็นความผิดอย่างหนึ่งเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะทำให้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์แล้ว ยังอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดอีกด้วย

 

เคล็ดลับการอ่านเร็วได้ระบุไว้ว่า การอ่านเร็วนั้นให้มองตรงไปข้างหน้าเท่านั้น

ใครที่เคยอ่านออกเสียงพึมพำหรือคลออยู่ในลำคอ หรือแม้กระทั่งอ่านออกเสียงอยู่ในใจก็ตามที

ถ้าอยากอ่านเร็วควรเลิกพฤติกรรมนี้เสีย เพราะมันทำให้สมองเรามัวเสียเวลาบัญชาการอวัยวะอื่น

นอกจากตา ปกติแล้วการอ่าน มีกระบวนการเริ่มที่ตารับภาพแล้วส่งสัญญาณไปยังสมอง เป็นความรับรู้ แล้วส่งไปยังสมองในส่วนที่จะทำการบันทึกเป็นความทรงจำ ซึ่งมีทั้งความทรงจำชนิดสั้นและยาว หากเรามาเสียเวลาเปล่งเสียงแม้จะเป็นการเปล่งเสียงในใจก็ตาม ก็จะถือเป็นตัวถ่วงเวลาทั้งสิ้น

 

ที่ถูกต้องแล้ว เราควรอ่านทีละบรรทัด หรือถ้าได้ฝึกฝนจนคล่องแล้ว เราควรใช้สายตาให้มีประสิทธิภาพเทียบเท่าเครื่องสแกนภาพ คือ อ่านทีละหน้า โดยไม่ต้องไล่สายตา แต่ให้โฟกัสสายตาไปที่หน้าหนังสือ ซึ่งมีประกอบด้วยประโยคแต่ละประโยค กลุ่มคำที่เราคุ้นชินและเคยได้ทำความรู้จัก โดยมันเคยถูกเก็บไว้เป็นความรับรู้ในสมองส่วนบันทึกความทรงจำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แต่โอ้โหย...ขั้นนั้น ใครจะไปทำได้

 

ทางที่ดี เราควรเริ่มฝึกจากการอ่านแบบทีละวรรค โดยไม่ต้องพยักหน้าขึ้นลงเมื่อต้องวาดสายตาผ่านตัวอักษรทีละวรรค พอคล่องแคล่วแล้ว ก็หัดอ่านไปทีละบรรทัด โดยโฟกัสไปทีบรรทัดบนสุด แล้วไล่ลงมาสู่บรรทัดล่าง แต่มีข้อแม้ว่า อย่าเผลอขยับหน้าตามบรรทัดที่อ่าน คราวนี้พอคล่องแล้ว เราจะหัดสวมวิญญาณเครื่องสแกนภาพกันล่ะ อ่านมันไปทีละหน้า ทีละหน้า ขอให้มือเปิดพลิกหน้ากระดาษให้ทันก็แล้วกัน งานนี้ใครฝึกไปถึงขั้นแล้ว ก็เชิญตัวเองไปลงทะเบียนแข่งขันอ่านเร็วได้เลยทีเดียว

 

หากสงสัยว่ามันจะเป็นไปได้หรือ ในหนังสือเขาอธิบายว่า โดยปกติแล้ว เซลล์ประสาทตาคนเรามี 2 แบบ คือ แบบกรวย กับ แบบแท่ง แบบกรวยจะกระจุกตัวอยู่กลางจอรับภาพของดวงตา ทำหน้าที่เก็บรายละเอียดตรงหน้า

ทำให้มองเห็นได้ 5 % แบบแท่งจะกระจายตัวอยู่รอบ ๆ จอรับภาพ ทำให้สามารถมองเห็นด้านข้างและด้านหลังได้ ราว 95 % ปกติเราใช้แบบกรวยอ่าน ซึ่งก็เท่ากับใช้สายตาเพียง 5 % ต้องสูญเสียโอกาสในการมองเห็นไปถึง 95 % น่าเสียดายออก ฉะนั้น หากเราโฟกัสไปที่กลางบรรทัด ให้ครอบคลุมไปจนสุดแนวซ้าย ขวาของหน้ากระดาษ โดยเฉพาะถ้ารูปแบบการพิมพ์ที่แบ่งเป็นคอลัมน์ ๆ จะใช้ได้ดีเยี่ยมกับการอ่านแบบนี้ เหมือนคนจีนกับคนญี่ปุ่นที่อ่านแบบแนวนิ่ง ต่างแต่เขากันอ่านทีละตัวอักษร

 

นอกจากเคล็ดลับเหล่านี้แล้ว เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า สมาธิอันแน่วแน่ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การอ่านบรรลุวัตถุประสงค์ เพราะนอกจากอ่านเร็วอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังทำให้เข้าใจต่อเนื้อหาของหนังสืออย่างแจ่มชัดด้วย และเขาก็บอกว่า การเรียกสมาธิให้มาอย่างเร็วนั้นมีตัวช่วยชนิดหนึ่ง นั่นคือ ภาพMandala ซึ่งก็คือภาพเรขาคณิตที่ทับซ้อนและดูวกวนนั่นเอง ใครเคยดูภาพ Mandala แล้วต้องเข้าใจว่าทำไมมันจึงสร้างสมาธิได้อย่างฉับพลัน หากใครเป็นพวกสมาธิสั้น สมาธิมีแบบกระปริกระปรอย ควรพกMandala ติดตัวไว้ หากต้องการสมาธิก็ควักภาพมาดูซะ เขาว่าอย่างงั้น

 

ถึงที่สุดแล้ว อย่างไรก็ตาม การอ่านนั้นจะช้าหรือเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้อ่านและประเภทหนังสือ

เซอร์ฟรานซิส เบคอน กล่าวว่า เราต้องรู้ด้วยว่าหนังสือเล่มที่เรากำลังจะอ่านนั้นเป็นหนังสือประเภทใด

ถ้าเป็นตำราวิชาการ ก็ต้องอ่านคนละแบบกับการอ่านวรรณกรรม

 

หนังสือก็เหมือนอาหาร บางชนิดมีไว้ชิม ละเลียด บางชนิดมีไว้ขบเคี้ยว บางชนิดไว้มีซด อันนี้เชิญพิจารณากันเองตามอัธยาศัย

 

เหนืออื่นใด หัวใจของการอ่านก็คือ การทำความเข้าใจนักเขียน นั่นเอง เพราะนักเขียนก็เขียนเพื่อสื่อความหมายบางประการ ดังนั้น หากเราจะอ่านโดยไม่ถามถึงหัวใจดวงนี้เลย จะเป็นบิดเบือนเจตนารมของการอ่านไปเสียเปล่า ใช่ไหม

 

ฉะนั้นแล้ว ไม่ว่าเราจะเป็นพวกนิยมช้าหรือชื่นชมความเร็ว การอ่านแบบช้าหรือเร็วก็เป็นเพียงปัจจัยหนึ่ง ที่ไม่ใช่ป้ายโฆษณาติดประกาศอย่างจำกัดความว่าเราเป็นพวกช้านิยมหรือเร็วนิยม เสียหน่อย.

 

 

บล็อกของ สวนหนังสือ

สวนหนังสือ
  นายยืนยงชื่อหนังสือ           :           พ.๒๗ สายลับพระปกเกล้าฯ ผู้เขียน               :           อ.ก. ร่งแสง (โพยม โรจนวิภาต)ประเภท              :           สารคดีประวัติศาสตร์          พิมพ์ครั้งที่ 2  พ.ศ.…
สวนหนังสือ
นายยืนยง ชื่อหนังสือ : ฝรั่งคลั่งผี ผู้เขียน : ไมเคิล ไรท จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์มติชน พิมพ์ครั้งแรก : กรกฎาคม 2550 อ่าน ฝรั่งคลั่งผี ของ ไมเคิล ไรท จบ ฉันลิงโลดเป็นพิเศษ รีบนำมา “เล่าสู่กันฟัง” ทันที จะว่าร้อนวิชาเกินไปหรือก็ไม่ทราบ โปรดให้อภัยฉันเถิด ในเมื่อเขาเขียนดี จะตัดใจได้ลงคอเชียวหรือ
สวนหนังสือ
นายยืนยง ชื่อหนังสือ : เด็กบินได้ ผู้เขียน : ศรีดาวเรือง ประเภท : นวนิยายขนาดสั้น พิมพ์ครั้งแรก กันยายน 2532 จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์กำแพง มาอีกแล้ว วรรณกรรมเพื่อชีวิต เขียนถึงบ่อยเหลือเกิน ชื่นชม ตำหนิติเตียนกันไม่เว้นวาย นี่ฉันจะจมอยู่กับปลักเพื่อชีวิตไปอีกกี่ทศวรรษ อันที่จริง เพื่อชีวิต ไม่ใช่ “ปลัก” ในความหมายที่เราชอบกล่าวถึงในแง่ของการย่ำวนอยู่ที่เดิมแบบไร้วัฒนาการไม่ใช่หรือ เพื่อชีวิตเองก็เติบโตมาพร้อมพัฒนาการทางสังคม ปลิดขั้วมาจากวรรณกรรมศักดินาชน เรื่องรักฉันท์หนุ่มสาว เรื่องบันเทิงเริงรมย์…
สวนหนังสือ
นายยืนยง ชื่อหนังสือ : คนซื้อฝัน ผู้เขียน : ศุภร บุนนาค ประเภท : รวมเรื่องสั้น พิมพ์ครั้งที่ 2 กรกฎาคม 2537 จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์เคล็ดไทย ตามสัญญาที่ให้ไว้ว่าจะอ่านหนังสือของนักเขียนไทยให้มากกว่าเดิม ฉันดำเนินการแล้วล่ะ อ่านแล้ว อิ่มเอมกับอรรถรสแบบที่หาจากวรรณกรรมแปลไม่ได้ หาจากภาษาของนักเขียนไทยรุ่นใหม่ก็ไม่ค่อยจะได้ จนรู้สึกไปว่า คุณค่าของภาษาได้แกว่งไกวไปกับกาละด้วย
สวนหนังสือ
นายยืนยง ชื่อหนังสือ : เพลงกล่อมผี ผู้เขียน : นากิบ มาห์ฟูซ ผู้แปล : แคน สังคีต จาก Wedding Song ภาษาอังกฤษโดย โอลีฟ อี เคนนี ประเภท : นวนิยาย พิมพ์ครั้งแรก มิถุนายน 2534 จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์รวมทรรศน์ หนาวลมเหมันต์แห่งพุทธศักราช 2552 เยียบเย็นยิ่งกว่า ผ้าผวยดูไร้ตัวตนไปเลยเมื่อเจอะเข้ากับลมหนาวขณะมกราคมสั่นเทิ้มด้วยคน ฉันขดตัวอยู่ในห้องหลบลมลอดช่องตึกอันทารุณ อ่านหนังสือเก่า ๆ ที่อุดม ไรฝุ่นยั่วอาการภูมิแพ้ โรคประจำศตวรรษที่ใครก็มีประสบการณ์ร่วม อ่านเพลงกล่อมผีของนากิบ มาห์ฟูซ ที่แคน สังคีต ฝากสำนวนแปลไว้อย่างเฟื่องฟุ้งเลยทีเดียว…
สวนหนังสือ
นายยืนยง สวัสดีปี 2552 ขอสรรพสิ่งแห่งสุนทรียะจงจรรโลงหัวใจท่านผู้อ่านประดุจลมเช้าอันอ่อนหวานที่เชยผ่านเข้ามา คำพรคงไม่ล่าเกินไปใช่ไหม ตลอดเวลาที่เขียนบทความใน สวนหนังสือ แห่ง ประชาไท นี้ ความตื่นรู้ ตื่นต่อผัสสะทางวรรณกรรม ปลุกเร้าให้ฉันออกเสาะหาหนังสือที่มีแรงดึงดูดมาอ่าน และเขียนถึง ขณะเดียวกันหนังสืออันท้าทายเหล่านั้นได้สร้างแรงบันดาลใจให้วาวโรจน์ขึ้นกับหัวใจอันมักจะห่อเหี่ยวของฉัน
สวนหนังสือ
ชื่อหนังสือ : เงาสีขาวผู้เขียน : แดนอรัญ แสงทองประเภท : นวนิยาย พิมพ์ครั้งที่สอง ตุลาคม 2550จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์สามัญชน น้ำเน่าในคลองต่อให้เน่าเหม็นปานใดย่อมระเหยกลายเป็นไออยู่นั่นเอง แต่การระเหิด ไม่ได้เกิดขึ้นเหมือนกับการระเหย  ระเหย คือ การกลายเป็นไอ จากสถานภาพของของเหลวเปลี่ยนสถานภาพกลายเป็นก๊าซระเหิด คือ การเปลี่ยนสถานภาพเป็นก๊าซโดยตรงจากของแข็งเป็นก๊าซ โดยไม่ต้องพักเปลี่ยนเป็นสถานภาพของเหลวก่อน ต่างจากการระเหย แต่เหมือนตรงที่ทั้งสองกระบวนการมีปลายทางอยู่ที่สถานภาพของก๊าซสอดคล้องกับความน่าเกลียดที่ระเหิดกลายเป็นไอแห่งความงามได้
สวนหนังสือ
นายยืนยงชื่อหนังสือ : เงาสีขาว ผู้เขียน : แดนอรัญ แสงทอง ประเภท : นวนิยาย พิมพ์ครั้งที่สอง ตุลาคม 2550 จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์สามัญชน ปกติฉันไม่นอนดึกหากไม่จำเป็น และหากจำเป็นก็เนื่องมาจากหนังสือบางเล่มที่อ่านค้างอยู่ มันเป็นเวรกรรมอย่างหนึ่งที่ดุนหลังฉันให้หยิบ เงาสีขาว ขึ้นมาอ่าน เวรกรรมแท้ ๆ เชียว เราไม่น่าพบกันอีกเลย คุณแดนอรัญ แสงทอง ฉันควรรู้จักเขาจาก เรื่องสั้นขนาดยาวนาม อสรพิษ และ นวนิยายสุดโรแมนติกในนามของ เจ้าการะเกด เท่านั้น แต่กับเงาสีขาว มันทำให้ซาบซึ้งว่า กระบือย่อมเป็นกระบืออยู่วันยังค่ำ (เขาชอบประโยคนี้นะ เพราะมันปรากฏอยู่ในหนังสือของเขาตั้งหลายครั้ง)…
สวนหนังสือ
ชื่อหนังสือ : นิทานประเทศ ผู้เขียน : กนกพงศ์ สงสมพันธุ์ ประเภท : รวมเรื่องสั้น พิมพ์ครั้งที่ 1 กันยายน 2549 จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์นาคร
สวนหนังสือ
นายยืนยง    ชื่อหนังสือ : นิทานประเทศ ผู้เขียน : กนกพงศ์ สงสมพันธุ์ ประเภท : รวมเรื่องสั้น พิมพ์ครั้งที่ 1 กันยายน 2549 จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์นาคร   ผลงานของนักเขียนไทยในแนวของเมจิกคัลเรียลลิสม์ หรือสัจนิยมมหัศจรรย์ หรือสัจนิยมมายา ที่ได้กล่าวถึงเมื่อตอนที่แล้ว ซึ่งจะนำมาเขียนถึงต่อไป เป็นการยกตัวอย่างให้เห็นถึงข้อเปรียบเทียบระหว่างงานที่แท้กับงานเสแสร้ง เผื่อว่าจะถึงคราวจำเป็นจะต้องเลือกที่รักมักที่ชัง แม้นรู้ดีว่าข้อเขียนนี้เป็นเพียงรสนิยมส่วนบุคคล แต่ฉันคิดว่าบางทีรสนิยมก็น่าจะได้รับคำอธิบายด้วยหลักการได้เช่นเดียวกัน…
สวนหนังสือ
เมจิกคัลเรียลลิสม์ หรือที่แปลเป็นไทยว่า สัจนิยมมายา หรือสัจนิยมมหัศจรรย์ เป็นแนวการเขียนที่นักเขียนไทยนำมาใช้ในงานเรื่องสั้น นวนิยายกันมากขึ้น ไม่เว้นในกวีนิพนธ์ โดยส่วนใหญ่จะได้แรงบันดาลใจมาจาก ผลงานของกาเบรียล การ์เซีย มาเกซ ซึ่งมาเกซเองก็ได้แรงบันดาลใจมาจาก ฮวน รุลโฟ (ฆวน รุลโฟ) จากผลงานนวนิยายเรื่อง เปโดร ปาราโม อีกทอดหนึ่ง เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์วรรณกรรมแนวนี้ถูกตัดตอน ขอกล่าวถึงต้นธารของงานสกุลนี้สักเล็กน้อย กล่าวถึงฮวน รุลโฟ ซึ่งจริงๆ แล้วควรเขียนเป็นภาษาไทยว่า ฆวน รุลโฟ ทำให้หวนระลึกถึงผลงานแปลฉบับของ ราอูล ที่ฉันตกระกำลำบากในการอ่านอย่างแสนสาหัส…
สวนหนังสือ
นายยืนยงชื่อหนังสือ : ประวัติย่อของแทรกเตอร์ฉบับยูเครนA SHORT HISTORY OF TRACTORS IN UKRAINIAN ผู้เขียน : MARINA LEWYCKA ผู้แปล : พรพิสุทธิ์ โอสถานนท์ ประเภท : นวนิยายแปล พิมพ์ครั้งแรก สิงหาคม 2550 จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์มติชน และแล้วฉันก็ได้อ่านมัน ไอ้เจ้าแทรกเตอร์ฉบับยูเครน เมียงมองอยู่นานสองนานแล้วได้สมใจซะที ซึ่งก็สมใจจริงแท้แน่นอนเพราะได้อ่านรวดเดียวจบ (แบบต่อเนื่องยาวนาน) จบแบบสังขารบอบช้ำเมื่อต่อมขำทำงานหนัก ลามไปถึงปอดที่ถูกเขย่าครั้งแล้วครั้งเล่า ประวัติย่อของแทรกเตอร์ฉบับยูเครน เป็นนวนิยายสมัยใหม่ที่ใช้ภาษาง่าย ๆ แต่ดึงดูดแบบยุคทุนนิยมเสรี…