ได้รับอีเมล์จากคนอ่านหนังสือท่านหนึ่งที่ชื่อ "นนท์" ส่งจดหมายมาระบายความในใจและเตือนภัยสำหรับชาวเรา อิฉันอ่านแล้วแทบอึ้ง และรู้สึกถึงความแย่ที่ถูกผู้ชายสมัยนี้อาศัยความเป็นเกย์ ไม่เป็นเกย์ แต่เป็นโจร หากินแบบทุจริต ผิดศีลธรรมกับกลุ่มชาวเรา ไม่ว่าคุณจะอยู่มุมใด ส่วนไหนของโลก เหตุการณ์นี้ล้วนเกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะเมืองใหญ่ผู้คนมากมายแทบจะเหยียบกันตายแค่รู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ
วันนี้ชาน่าขอนำเสนอเรื่องจริงมาให้คุณอ่านและเพื่อตักเตือนเพื่อนอันเป็นที่รัก อยากให้เป็นเคสสุดท้ายที่เกิดขึ้นกับพวกเรา ขอนำจดหมายบางตอนมาฝากคนอ่านนะคะ
"พี่ชาน่าครับ ผมขอเขียนเล่าประสบการณ์ที่เจอกับตัวเองเผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ได้บ้าง ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี จะทำอะไรก็ต้องระวัง ผมเตือนตัวเองและบอกเพื่อนๆ เสมอไม่นึกว่าจะเจอกับตัวเองในวันหนึ่ง มันเป็นวันที่รู้สึกแย่มากครับ ผมเพิ่งเจอกับผู้ชายคนหนึ่งหน้าตาดี ไม่แสดงออก กริยาท่าทางการพูดคุยมีการศึกษา จนทำให้ผมตายใจ เค้าบอกผมว่า เค้าอยากไปคุยในที่ส่วนตัวเพราะเกรงจะมีใครมาเห็น ผมจึงทำตามเค้า เราไปสถานที่แห่งหนึ่งที่ลับตาคน เค้าเริ่มร่วมรักกับผมก่อนจนแทบไม่น่าเชื่อ พอหลังจากเสร็จกิจแล้ว จากชายหน้าตาดูดีมีการศึกษาก็กลายร่างเป็นซาตาน พร้อมกับขู่ ทำร้ายร่างกายตบหน้าผมอย่างแรง และปลดทรัพย์สินมีค่า แม้กระทั่งกระเป๋าตังค์ นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ ผมรู้สึกแย่มากครับ อยากฝากถึงเพื่อนๆ เพื่อจะไม่ให้เกิดกับใครอีก" จดหมายจากน้องนนท์
อยากถอนหายใจยาวยาวววววววววววววววววว แล้วบอกกับตัวเองว่า ... อีกแล้ว ไอ้พวกมิจฉาชีพมันแฝงมาในทุกคราบค่ะ น้องนนท์อย่าคิดมากนะคะ ถือว่าเป็นการฟาดเคราะห์หรือทานให้สัตว์เดรัจฉานไป คราวหน้าก็ต้องระวังและเตือนสติตัวเองอยู่เสมอ พี่ชาน่าว่า น้องนนท์ยังโชคดีกว่าอีกหลายชีวิต พี่จำได้ว่า เมื่อหลายปีก่อนมีเพื่อนคนสนิทโทรศัพท์สายตรงเล่าให้ฟังว่า เพื่อนรักคนสนิทของเค้า ซึ่งเป็นชาวตอจอวอแล้วมาทำงานโรงแรมอยู่กรุงเทพ ฯ ด้วยความหลากหลายผู้คนในเมืองกรุง วิถีชีวิตของชาวเกย์ คืนวันเหน็บหนาว อารมณ์เปลี่ยว จึงไปหาใครสักคนมาเคียงข้าง
คืนนั้น เพื่อนสนิทของเค้าได้พาผู้ชายมานอนด้วย ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นเด็กขายบริการไร้สังกัด ที่มักจะอาศัยอยู่ตามซอกหลืบ ต้นขนุน ใต้ต้นมะขาม ข้างกำแพงรั้ว ใกล้ท่อระบายน้ำทิ้ง และแล้วเป็นความโชคร้ายที่สุด เค้าได้เห็นสภาพศพของเพื่อนในหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์หัวสี ตอนนั้นแทบจะเป็นลม ล้มทั้งยืน ไม่เคยคาดคิดว่าเพื่อนรักของตัวเองจะโชคร้ายขนาดนี้ สภาพศพถูกทุบด้วยของหนัก ถูกทำร้ายร่างกายอย่างทรมาน สุดท้ายก็จับใครมือใครมาดมไม่ได้ เพราะอพาร์ทเมนท์ที่อยู่ไม่ได้มีระบบรักษาความปลอดภัย ไม่มีกล้องวงจรปิด หรือยามรักษาที่ต้องเช็คบัตรประจำตัวประชาชน นี่ก็เป็นอุทาหรณ์สอนใจอีกราย แทบจะเรียกได้ว่าบทเรียนนี้ "เค้าหรือเธอ" ได้เรียนทั้งชีวิต ปลิดชีพตัวเอง ใครก็ไม่สามารถช่วยเค้าได้
ตัวชาน่าเองก็เคยมีประสบการณ์สมัยวัยแรกแย้มเข้าสู่วงการ "เกย์" ใหม่ๆ ตอนนั้นยังไร้เดียงสา (แต่ทุกวันนี้ร้ายยยยยยเดียงสาดีกรีสูง) คบกับผู้ชายตั้งนานกว่าจะตัดสินใจพาเค้าไปเที่ยวที่ห้องหอรอรัก ณ กรุงเทพฯ แถวหน้ารามคำแหง สุดท้ายผู้ชายสุดแสนหิวโหยก่อนออกจากห้องไปแอบหยิบของมีค่า แม้ราคาจะไม่สูงแต่คุณค่าทางจิตนั้นสำคัญยิ่งนัก สร้อยทองราคาไม่ถึงห้าพันพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอย เพื่อนสนิทคนทำงานเรือสำราญก็เคยพาชายหน้าแปลกแปลกหน้าไปห้องเช่าช่วงพักร้อน แม้ชาน่าจะเคยเตือนแล้วเตือนอีก เดฟ(นามสมมุติ)เถียงคอเป็นเอ็นว่า "แหม..ไม่มีอะไรหรอก แค่ห้องเช่าชั่วคราว ไม่มีของมีค่าอะไร ขอบใจจ้าที่เตือน" สุดท้ายก็เจออีกจนได้ น้ำหอมแบรนด์เนมราคาหลักพันมันยังหอบติดกลับไปได้ นี่ล่ะค่ะ ที่มาของ "ผู้ชายโรคหอบ" ... หอบข้าวของเครื่องใช้ แหม...แหม...แหม ถ้ามันมีความสามารถ และทักษะในการหอบสูงกว่านี้อีกนิด ชาน่าว่าสงสัยหลังจากล้างตู้เย็นแล้วคงจะหอบตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า ที่นา หรือไม่ก็บ้านพร้อมที่ดินกลับไปด้วยกระมัง เฮ้อ...
เรื่องของชาน่าเกิดขึ้นที่ประเทศกรีซ เมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นไปเดินเล่น ณ เกาะแห่งหนึ่ง ด้วยลุคส์ รูปร่างหน้าตา และการแต่งกายของชาน่าเวลาอยู่ต่างประเทศ เห็นร้อยเมตร พันเมตรประชาชนทั่วไปก็รู้ว่า "นายคนนี้เป็นเกย์โดยสายเลือดเข้ม" ผู้ชายก็เข้ามาจีบ หรือบางทีอิฉันก็จีบผู้ชาย โชคดีที่วันนั้นไปกับเพื่อนคนสนิท เพื่อนยังไม่ทิ้งเพื่อน หลังจากตัดสินใจจะไปเดินเล่นกับผู้ชายในฝัน หนุ่มชาวกรีซ ผิวขาว ตาเข้ม อิฉันจึงฝากกระเป๋าตังค์ มือถือ ไอพอด ให้เพื่อนเก็บไว้ แม้กระทั่งบัตรประจำตัวพนักงาน หลังจากเวลาผ่านไป อะไร ๆ ก็เป็นไปตามคาดหมาย เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองฝากบัตรพนักงานไว้ที่เพื่อนพร้อมคีย์การ์ดเข้าห้อง ณ เรือหรูสำราญ ต้องลำบากเพื่อนเดินตามหา ซึ่งเป็นโลเคชั่นที่ถ่ายทำหนังฮอลลี่วู๊ดเรื่องหนึ่ง บริเวณลิตเติ้ล เวนิส ณ เกาะมิโคนอส อิฉันก็นั่งจิบกาแฟ ที่เทอเรซ กับผู้ชายแปลกหน้า แต่หน้าหล่อ เข้ม เกินห้ามใจอย่างสบายใจเฉิบ แต่เพื่อนรักของอิฉันเป็นห่วงตัวฉันแทบแย่ ... "นี่หล่อน คราวหน้าจะทำตัวเป็นสาวเจ้าสำราญก็ระวังตัวไว้บ้างนะยะ" เพื่อนคนสนิทเตือนตลอด
เพื่อนเกย์สาวชาวเม็กซิกัน ก็เคยเหมือนกันตอนนั้นไปเดินเล่นที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ตอนตกลงไปด้วยกันอะไร ๆ มันก็ง่ายเสมอ ... "ผู้ชายอะไร ...ง่ายสำหรับคุณ" แต่หลังจากนั้นแล้วบางครั้งมันไม่ง่ายน่ะสิคะ ผู้ชายไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า ในคราบนักธุรกิจหนุ่มหล่อ ชวนฝัน หวานจี๊ด ชวนเคลิ้ม ขับรถพาไปบ้าน หลังจากนั้นเพิ่งรู้ว่ากระเป๋าตังค์หายไปโดยไม่รู้ตัว จนต้องอ้อนวอนขอบัตรประจำตัวพนักงาน ไม่งั้นเป็นเรื่อง ดีที่ยังมีชีวิตรอดกลับมาได้อย่างสวยๆ ส่วนอีกคนเพื่อนสาวไม่แสดงออกชาวบราซิล เจอผู้ชายตามสวนสาธารณะ หาที่ลงไม่ได้จึงพากันไปร่วมรัก พักกิจกรรมเข้าจังหวะในห้องน้ำ หลังจากนั้นไม่ถึงนาที ผู้ชายขู่ปลดทรัพย์ แถมตบหน้าอย่างแรง เอาตังค์ไปทั้งหมด แต่มันโง่ไม่ยอมเอากล้องถ่ายรูปราคาแพงไป ไม่รู้ด้วยเหตุผลใด สงสัยคาดว่าหากไปนำกล้องไปปล่อยที่ไหนคงจะโดนจับได้ หรือไม่ก็ตาต่ำกระมังฮะ
ทรัพย์สิน เงินทองของนอกกาย ไม่ตายก็หาใหม่ได้ แต่ชีวิตอันมีค่า กว่าคนเราจะเติบโตมา ตั้งแต่เท้าเท่าฝาหอย จนถึงวันเดือนปีที่เลยผ่าน จากวันนั้นถึงวันนี้ หนึ่งชีวีของใครคนหนึ่งนั้นมีค่ามหาศาล จงรักชีวิตของเราให้มากกว่ารักผู้ชายที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า แค่อารมณ์ชั่ววูบ หักห้ามใจ ตีลังกาม้วนหน้าเดินจงกรมและคิดหลัง โปรดระวังไว้สักนิด เพื่อความปลอดภัยนะคะ
หากถึงวันเวลา และวินาทีนั้นจริง ๆ ควรเลือกสถานที่และความพร้อมให้มากกว่าความเสี่ยง ระวัง...อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล ไอ้พวกซาตานในร่างชายจะสูญสิ้นไปหากชาวเราร่วมกันกำจัดมันไปจากโลกนี้ อะแฮ่ม... แม้มันจะยากขนาดไหนก็ตาม เราจะทำดีที่สุดและเราจะไม่ตกเป็นเหยื่อของมันอีกต่อไป ...