Skip to main content

ได้รับอีเมล์จากคนอ่านหนังสือท่านหนึ่งที่ชื่อ "นนท์" ส่งจดหมายมาระบายความในใจและเตือนภัยสำหรับชาวเรา อิฉันอ่านแล้วแทบอึ้ง และรู้สึกถึงความแย่ที่ถูกผู้ชายสมัยนี้อาศัยความเป็นเกย์ ไม่เป็นเกย์ แต่เป็นโจร หากินแบบทุจริต ผิดศีลธรรมกับกลุ่มชาวเรา ไม่ว่าคุณจะอยู่มุมใด ส่วนไหนของโลก เหตุการณ์นี้ล้วนเกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะเมืองใหญ่ผู้คนมากมายแทบจะเหยียบกันตายแค่รู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ
 

วันนี้ชาน่าขอนำเสนอเรื่องจริงมาให้คุณอ่านและเพื่อตักเตือนเพื่อนอันเป็นที่รัก อยากให้เป็นเคสสุดท้ายที่เกิดขึ้นกับพวกเรา ขอนำจดหมายบางตอนมาฝากคนอ่านนะคะ

"พี่ชาน่าครับ ผมขอเขียนเล่าประสบการณ์ที่เจอกับตัวเองเผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ได้บ้าง ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี จะทำอะไรก็ต้องระวัง ผมเตือนตัวเองและบอกเพื่อนๆ เสมอไม่นึกว่าจะเจอกับตัวเองในวันหนึ่ง มันเป็นวันที่รู้สึกแย่มากครับ ผมเพิ่งเจอกับผู้ชายคนหนึ่งหน้าตาดี ไม่แสดงออก กริยาท่าทางการพูดคุยมีการศึกษา จนทำให้ผมตายใจ เค้าบอกผมว่า เค้าอยากไปคุยในที่ส่วนตัวเพราะเกรงจะมีใครมาเห็น ผมจึงทำตามเค้า เราไปสถานที่แห่งหนึ่งที่ลับตาคน เค้าเริ่มร่วมรักกับผมก่อนจนแทบไม่น่าเชื่อ พอหลังจากเสร็จกิจแล้ว จากชายหน้าตาดูดีมีการศึกษาก็กลายร่างเป็นซาตาน พร้อมกับขู่ ทำร้ายร่างกายตบหน้าผมอย่างแรง และปลดทรัพย์สินมีค่า แม้กระทั่งกระเป๋าตังค์ นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ ผมรู้สึกแย่มากครับ อยากฝากถึงเพื่อนๆ เพื่อจะไม่ให้เกิดกับใครอีก" จดหมายจากน้องนนท์



อยากถอนหายใจยาวยาวววววววววววววววววว แล้วบอกกับตัวเองว่า ... อีกแล้ว ไอ้พวกมิจฉาชีพมันแฝงมาในทุกคราบค่ะ น้องนนท์อย่าคิดมากนะคะ ถือว่าเป็นการฟาดเคราะห์หรือทานให้สัตว์เดรัจฉานไป คราวหน้าก็ต้องระวังและเตือนสติตัวเองอยู่เสมอ พี่ชาน่าว่า น้องนนท์ยังโชคดีกว่าอีกหลายชีวิต พี่จำได้ว่า เมื่อหลายปีก่อนมีเพื่อนคนสนิทโทรศัพท์สายตรงเล่าให้ฟังว่า เพื่อนรักคนสนิทของเค้า ซึ่งเป็นชาวตอจอวอแล้วมาทำงานโรงแรมอยู่กรุงเทพ ฯ ด้วยความหลากหลายผู้คนในเมืองกรุง วิถีชีวิตของชาวเกย์ คืนวันเหน็บหนาว อารมณ์เปลี่ยว จึงไปหาใครสักคนมาเคียงข้าง

คืนนั้น เพื่อนสนิทของเค้าได้พาผู้ชายมานอนด้วย ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นเด็กขายบริการไร้สังกัด ที่มักจะอาศัยอยู่ตามซอกหลืบ ต้นขนุน ใต้ต้นมะขาม ข้างกำแพงรั้ว ใกล้ท่อระบายน้ำทิ้ง และแล้วเป็นความโชคร้ายที่สุด เค้าได้เห็นสภาพศพของเพื่อนในหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์หัวสี ตอนนั้นแทบจะเป็นลม ล้มทั้งยืน ไม่เคยคาดคิดว่าเพื่อนรักของตัวเองจะโชคร้ายขนาดนี้ สภาพศพถูกทุบด้วยของหนัก ถูกทำร้ายร่างกายอย่างทรมาน สุดท้ายก็จับใครมือใครมาดมไม่ได้ เพราะอพาร์ทเมนท์ที่อยู่ไม่ได้มีระบบรักษาความปลอดภัย ไม่มีกล้องวงจรปิด หรือยามรักษาที่ต้องเช็คบัตรประจำตัวประชาชน นี่ก็เป็นอุทาหรณ์สอนใจอีกราย แทบจะเรียกได้ว่าบทเรียนนี้ "เค้าหรือเธอ" ได้เรียนทั้งชีวิต ปลิดชีพตัวเอง ใครก็ไม่สามารถช่วยเค้าได้

 

 

ตัวชาน่าเองก็เคยมีประสบการณ์สมัยวัยแรกแย้มเข้าสู่วงการ "เกย์" ใหม่ๆ ตอนนั้นยังไร้เดียงสา (แต่ทุกวันนี้ร้ายยยยยยเดียงสาดีกรีสูง) คบกับผู้ชายตั้งนานกว่าจะตัดสินใจพาเค้าไปเที่ยวที่ห้องหอรอรัก ณ กรุงเทพฯ แถวหน้ารามคำแหง สุดท้ายผู้ชายสุดแสนหิวโหยก่อนออกจากห้องไปแอบหยิบของมีค่า แม้ราคาจะไม่สูงแต่คุณค่าทางจิตนั้นสำคัญยิ่งนัก สร้อยทองราคาไม่ถึงห้าพันพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอย เพื่อนสนิทคนทำงานเรือสำราญก็เคยพาชายหน้าแปลกแปลกหน้าไปห้องเช่าช่วงพักร้อน แม้ชาน่าจะเคยเตือนแล้วเตือนอีก เดฟ(นามสมมุติ)เถียงคอเป็นเอ็นว่า "แหม..ไม่มีอะไรหรอก แค่ห้องเช่าชั่วคราว ไม่มีของมีค่าอะไร ขอบใจจ้าที่เตือน" สุดท้ายก็เจออีกจนได้ น้ำหอมแบรนด์เนมราคาหลักพันมันยังหอบติดกลับไปได้ นี่ล่ะค่ะ ที่มาของ "ผู้ชายโรคหอบ" ... หอบข้าวของเครื่องใช้ แหม...แหม...แหม ถ้ามันมีความสามารถ และทักษะในการหอบสูงกว่านี้อีกนิด ชาน่าว่าสงสัยหลังจากล้างตู้เย็นแล้วคงจะหอบตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า ที่นา หรือไม่ก็บ้านพร้อมที่ดินกลับไปด้วยกระมัง เฮ้อ...


เรื่องของชาน่าเกิดขึ้นที่ประเทศกรีซ เมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นไปเดินเล่น ณ เกาะแห่งหนึ่ง ด้วยลุคส์ รูปร่างหน้าตา และการแต่งกายของชาน่าเวลาอยู่ต่างประเทศ เห็นร้อยเมตร พันเมตรประชาชนทั่วไปก็รู้ว่า "นายคนนี้เป็นเกย์โดยสายเลือดเข้ม" ผู้ชายก็เข้ามาจีบ หรือบางทีอิฉันก็จีบผู้ชาย โชคดีที่วันนั้นไปกับเพื่อนคนสนิท เพื่อนยังไม่ทิ้งเพื่อน หลังจากตัดสินใจจะไปเดินเล่นกับผู้ชายในฝัน หนุ่มชาวกรีซ ผิวขาว ตาเข้ม อิฉันจึงฝากกระเป๋าตังค์ มือถือ ไอพอด ให้เพื่อนเก็บไว้ แม้กระทั่งบัตรประจำตัวพนักงาน หลังจากเวลาผ่านไป อะไร ๆ ก็เป็นไปตามคาดหมาย เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองฝากบัตรพนักงานไว้ที่เพื่อนพร้อมคีย์การ์ดเข้าห้อง ณ เรือหรูสำราญ ต้องลำบากเพื่อนเดินตามหา ซึ่งเป็นโลเคชั่นที่ถ่ายทำหนังฮอลลี่วู๊ดเรื่องหนึ่ง บริเวณลิตเติ้ล เวนิส ณ เกาะมิโคนอส อิฉันก็นั่งจิบกาแฟ ที่เทอเรซ กับผู้ชายแปลกหน้า แต่หน้าหล่อ เข้ม เกินห้ามใจอย่างสบายใจเฉิบ แต่เพื่อนรักของอิฉันเป็นห่วงตัวฉันแทบแย่ ... "นี่หล่อน คราวหน้าจะทำตัวเป็นสาวเจ้าสำราญก็ระวังตัวไว้บ้างนะยะ" เพื่อนคนสนิทเตือนตลอด


เพื่อนเกย์สาวชาวเม็กซิกัน ก็เคยเหมือนกันตอนนั้นไปเดินเล่นที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ตอนตกลงไปด้วยกันอะไร ๆ มันก็ง่ายเสมอ ... "ผู้ชายอะไร ...ง่ายสำหรับคุณ" แต่หลังจากนั้นแล้วบางครั้งมันไม่ง่ายน่ะสิคะ ผู้ชายไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า ในคราบนักธุรกิจหนุ่มหล่อ ชวนฝัน หวานจี๊ด ชวนเคลิ้ม ขับรถพาไปบ้าน หลังจากนั้นเพิ่งรู้ว่ากระเป๋าตังค์หายไปโดยไม่รู้ตัว จนต้องอ้อนวอนขอบัตรประจำตัวพนักงาน ไม่งั้นเป็นเรื่อง ดีที่ยังมีชีวิตรอดกลับมาได้อย่างสวยๆ ส่วนอีกคนเพื่อนสาวไม่แสดงออกชาวบราซิล เจอผู้ชายตามสวนสาธารณะ หาที่ลงไม่ได้จึงพากันไปร่วมรัก พักกิจกรรมเข้าจังหวะในห้องน้ำ หลังจากนั้นไม่ถึงนาที ผู้ชายขู่ปลดทรัพย์ แถมตบหน้าอย่างแรง เอาตังค์ไปทั้งหมด แต่มันโง่ไม่ยอมเอากล้องถ่ายรูปราคาแพงไป ไม่รู้ด้วยเหตุผลใด สงสัยคาดว่าหากไปนำกล้องไปปล่อยที่ไหนคงจะโดนจับได้ หรือไม่ก็ตาต่ำกระมังฮะ



ทรัพย์สิน เงินทองของนอกกาย ไม่ตายก็หาใหม่ได้ แต่ชีวิตอันมีค่า กว่าคนเราจะเติบโตมา ตั้งแต่เท้าเท่าฝาหอย จนถึงวันเดือนปีที่เลยผ่าน จากวันนั้นถึงวันนี้ หนึ่งชีวีของใครคนหนึ่งนั้นมีค่ามหาศาล จงรักชีวิตของเราให้มากกว่ารักผู้ชายที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า แค่อารมณ์ชั่ววูบ หักห้ามใจ ตีลังกาม้วนหน้าเดินจงกรมและคิดหลัง โปรดระวังไว้สักนิด เพื่อความปลอดภัยนะคะ


หากถึงวันเวลา และวินาทีนั้นจริง ๆ ควรเลือกสถานที่และความพร้อมให้มากกว่าความเสี่ยง ระวัง...อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล ไอ้พวกซาตานในร่างชายจะสูญสิ้นไปหากชาวเราร่วมกันกำจัดมันไปจากโลกนี้ อะแฮ่ม... แม้มันจะยากขนาดไหนก็ตาม เราจะทำดีที่สุดและเราจะไม่ตกเป็นเหยื่อของมันอีกต่อไป ...

 

 

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
ภาษาใครคิดว่าไม่สำคัญ บางคนบอกว่า แหม ... บางครั้งไม่จำเป็นต้องพูด ใช้ภาษาใบ้เอาก็ได้ แต่บังเอิญคนที่คุณใบ้ด้วยไม่เก็ตก็แย่สิฮะ.. หากพอมีเวลาว่างใช้เวลาในการศึกษาภาษาเพิ่มเติมชาน่าว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ดีทีเดียว  อย่างเวลาชาน่าไปแต่ละเมืองแต่ละประเทศนั้น จำเป็นต้องพอรู้ว่าไปไหนมา สามวาสองศอก หรือแม้แต่ภาษาเฉพาะในหมู่ชาวเรา ทำให้  "ง่ายสำหรับคุณค่ะ"
ชาน่า
วันนี้เรือจอดอยู่ประเทศบาฮามัส พรุ่งนี้จะเข้าฟลอริด้า นั่งทำงานเป็นโอเปอเรเตอร์รับโทรศัพท์จองห้องอาหารคนเดียว  เสี้ยวหนึ่งของวันทำงาน จู่ ๆ ก็เกิดอาการเป็นสุข จนต้องระบาย หยิบปากกามาจิกเขียน ถ่ายทอดความสุข ส่งตรงสู่เมืองไทย  
เค้าบอกว่า คนเราจะสุขหรือทุกข์นั้นขึ้นอยู่ที่ใจ บางครั้งกว่าจะสุขได้ก็ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างไม่ว่าจะเรื่องของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ส่วนตัว และจิตใจ เป็นต้น
บางครั้งเจ้า “ความทุกข์”  มักจะมาเยือน  นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาสามัญบ้าน ๆ ทั่วไป ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ปุถุชนคนเดินดินอย่างเราท่านทั้งหลาย   แต่เราจะหาวิธีการดับทุกข์เช่นไร…
ชาน่า
ชีวิตที่ต้องเกี่ยวข้องของคนหลากเพศชายจริง หญิงแท้ หรือแม้แต่เกย์ กะเทย นั้นย่อมมีปะปนกับชนและคนทุกชนชั้นวงการไม่เว้นแม้แต่ชีวิตของนักศึกษา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแห่งชาติ เป็นลูกเป็นหลานเราๆ ท่านๆ เนี่ยล่ะฮะวันนี้ชาน่าอ่านข่าวคราวจาก นสพ.คงชักเล็ก พิมพ์ผิดฮ่า คมชัดลึก เกี่ยวกับชีวิตของกะเทยหรือสาวประเภทสองที่ต้องแต่งตัวเป็นนักศึกษาหญิงไปมหาวิทยาลัย จึงหยิบมาฝากผู้อ่านประจำคอลัมน์ “พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์” ณ ประชาไทกันบ้างเชื่อหรือไม่ว่า ชีวิตของคนเป็นเกย์ อีแอบ นั้นไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของความขัดแย้งในการแต่งกายเลย เพราะพวกเค้าก็คือเพศชายดีๆ ที่คุณเห็นนั่นแหล่ะ…
ชาน่า
ความรักหากใครไม่เคยสัมผัสก็ยากจะอธิบายให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงแก่นและก้นบึ้งของหัวใจ “ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์”  ประโยคหนึ่งที่เคยได้ยินมาแต่ไหนแต่ไร ตอนเป็นเด็กไร้เดียงสา ก็แค่อ่าน ได้ยิน และเข้าใจ แต่ไม่ได้สัมผัส รับรสของความรักและความทุกข์โลกวันนี้ได้ผ่านเข้า และผ่านไปจากบทเรียนและประสบการณ์ของชีวิตโลกแห่งความจริงกับสิ่งที่ฝันบางครั้งมันห่างไกลกันเหลือคณานับ  ทุกคนฝันอยากมีรักที่สวยงาม รักที่ทำให้ชีวิตนี้มีความสุข แต่หากเมื่อไหร่ รักนั้นไม่เป็นดังหวัง  ไม่เหมือนในฝัน มันย่อมเกิดทุกข์กับความรักคนที่ไม่เคยอกหัก  ก็เพราะเขาไม่เคยมีความรัก…
ชาน่า
ช่วงพักร้อนสามเดือนที่ผ่านมาได้ไปงานเปิดตัวหนังสือของเพื่อนที่ เอสพลานาด ทางทีมงานและสำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุ๊คส์ ได้มอบหนังสือเล่มนี้ ...   “ตัดทิ้ง” ชีวิตจริงของสาวประเภทสอง  ซึ่งเขียนและดัดแปลงมาจากวิทยานิพนธ์ของ คุณวารุณี แสงกาญจนวนิช   อ่านแล้วต้องขอยกนิ้วให้ ว่าเป็นอีกหนังสือคุณภาพที่อ่านแล้วโดนฮ่ะ  ได้สาระและความรู้อีกหลายเรื่องราวที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อน ชีวิตจริงของชาน่านั้นเป็นเกย์ ไม่ได้เป็นกะเทย แต่ที่ต้องแต่งสาวเป็นพรางชมพู ก็เพราะไม่อยากให้ทางบ้านรู้ (อันที่จริงคือไม่อยากให้คุณแม่ทราบ แค่คนเดียวเท่านั้นที่แคร์ความรู้สึก…
ชาน่า
 “ฮีธ เลดเจอร์” ขวัญใจชาวเกย์, พระเอกBrokeback Mountainเกิด – แก่ – เจ็บ – ตาย นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางครั้งก็ยากจะทำใจได้  โดยเฉพาะหากใครสักคนอันเป็นที่รัก และผูกพัน แม้กระทั่งแค่ชื่นชม ปลื้ม ๆ ของคุณจากไปก่อนวัยอันสมควร   “เค้าหลับสบายไปแล้วล่ะ คงเหลือแต่เราที่จะก้าวต่อไป สู้ต่อไปตราบเท่าที่ลมหายใจยังอยู่แม้มันจะทรมาน ปวดร้าวแค่ไหน  ขอเวลาตั้งตัว ขอทำใจหน่อยได้ไหมคนดี”วันที่ 23 ม.ค. 2008 เป็นวันที่พระเอกในดวงใจของผมจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เขาผู้นั้นคือ  ฮีธ เลดเจอร์ หนุ่มน้อยหน้าไม่หล่อแต่เร้าใจวัยซาวแปด  ชาวออสซี่ …
ชาน่า
การแสดงความรักและความใคร่ที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวเกย์ ส่วนหนึ่งคงหนีไม่พ้นการร่วมเพศ แต่จะเป็นเพศร่วมแบบไหนคงทายได้ไม่ยากนัก  ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เป็นธรรมชาติของเกย์ กะเทยที่ต้องใช้ทวารยังหวานอยู่ภายในร่างกายเพื่อประกอบกามกิจ (อยู่บ้าง)  ซึ่งภาระนี้จะตกอยู่กับฝ่ายรับ จนเกย์คิงหลายคนบอกว่า “ผมไม่ชอบรับ ผมชอบรุก เพราะเป็นฝ่ายรับมันเจ๊บบบบ เจ็บ”  ขออนุญาตทำความเข้าใจกับคนที่ยังอ่อนต่อวิชาเกย์ศาสตร์ ว่า ฝ่ายรับคือ ผู้ให้ (ทวารยังหวานอยู่) ส่วนฝ่ายรุกคือผู้กระทำ
ชาน่า
คงไม่มีใครจะกล้าปฎิเสธได้ว่า ความใฝ่ฝันของเกย์กะเทย เก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์ อยากจะทำหน้าที่ของการประกวดความงาม คุณค่าที่เธอคู่ควร ไม่ว่าจะเป็นเวทีใด ๆ ก็ตามที่จัดขึ้น ตอนเป็นเด็กชายอยู่บ้านนอกคอกนา เคยไปงานฤดูหนาวที่ทางจังหวัดหรืออำเภอเค้าจัดประกวด “นางฟ้าจำแลง” ตอนนั้นด้วยความไร้เดียงสา ใคร่รู้เยี่ยงนัก คำว่านางฟ้าจำแลงคืออะไร พอเติบโตขึ้นจึงเริ่มเข้าใจความหมายและเข้าใจตัวเองมากขึ้น “ฉันอยากเป็นนางฟ้าจำแลงจังเลย” พร่ำบ่นพึมพำในใจคนเดียว เพราะอิชั้นมีแววตั้งแต่จำความได้แล้วล่ะฮะ “โฉมเอย โฉมงาม อร่ามแท้แลอรุณ.......” เพลงที่ใช้ประกวดเมื่อครั้งจำความได้…
ชาน่า
ส่งท้ายปลายปี  ความหนาวเข้ามาเยือนเหมือนใจหวิว ๆ  หลายคนเปรียบเปรยถึงความอ้างว้างว้าเหว่ ในช่วงฤดูหนาว  ช่างเข้ากันนัก  แต่ที่นี่ในต่างแดนเขตทะเลแคริบเบี้ยน สำหรับคนท้องถิ่นไม่รู้จักคำว่าหนาวเหน็บนอกจากอากาศเย็น ๆ  ณ วันนี้ที่เกาะท้องฟ้ามืดมน ตั้งเค้าฝนจะตก  บ่อยครั้งที่ฝนฟ้าและอากาศเป็นใจมักจะปล่อยใจฝัน แบบบิวด์อารมณ์ได้ไม่ยากนักสำหรับหัวโปกไร้นม อารมณ์เกินหญิงของเกย์อย่างเรา  ฉันนั่งอยู่บาร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งของเกาะ Antigua and Barbuda เขตทะเลแคริบเบี้ยน  หลังจากที่เราสามคนเกย์เพื่อนรัก พากันออกจาก รีสอร์ทหรูราคาสี่ร้อยล้านเหรียญ หรือที่รู้จักกันดี…
ชาน่า
สังคมที่เปิดกว้างและยอมรับโลกแห่งความเป็นจริงได้เกิดขึ้นอีกระดับหนึ่ง เมื่อได้เห็นหนังไทย หนังดี หนังเด่นแนวหน้าแห่งปีนี้  เรื่อง “รักแห่งสยาม” หนังที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักหลากอารมณ์ ของสังคมเมืองไทย ในความเหมือนที่แตกต่างของสังคม(อีกแล้วครับท่าน) เป็นกระแสแรงได้จิต สั่นสะเทือนหลายริกเตอร์ เขย่าให้เห็นถึงภาพสะท้อนของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน  เมื่อ  “รักแห่งสยาม”  ผ่านสายตามหาชน   ทั้งพลพรรคคนรักเกย์ แอนตี้เกย์ รักครอบครัว รักเพื่อน รักแฟน รักเพศไหนๆ ยังไงก็ตาม“คงเป็นหนังวัยรุ่นกุ๊กกิ๊ก ทั่ว ๆ ไป  สปอยหรือเปล่าน๊า”“แหวะ ... หนังเกย์ แน่ ๆ เลยเท้อออ !”“โอ้โห…
ชาน่า
กลับมาตามหัวใจเรียกร้องอีกครั้งหลังจากพักร้อนเมืองไทย  กลับไปอ่านหนังสือของสาวสองเภท หรือสาวประเภทสองที่บุกตลาดเมืองไทยตามแผงหนังสือชั้นนำทั่วไป  อดไม่ไหวจึงขอหยิบมาฝากแนะนำเผื่อใครสนใจอยากอ่านเรื่องราวหลากหลาย มากมายมุมมอง สามารถอ่านได้จากหนังสือที่สาว ๆ เธอเขียนถ่ายทอดเพื่อเป็นสื่อสร้างสรรค์ผ่านตัวหนังสือ มีเล่มไหน ยังไงบ้างนั่งปูเสื่ออ่านได้ค่ะเกริ่นนำส่วนตัวก่อนว่า  สมัยก่อนตอนอยู่นอกเมือง ไม่ใช่เมืองนอก (บ้านนอก) เคยอ่านนิตยสารเล่มหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเป็นสกุลไทย หรือขวัญเรือน  มีคอลัมน์ที่เค้าเขียนถึง “กะเทยไทยในต่างแดน” ตอนนั้นยังเป็นเด็กชาย อีแอบ ไม่แสดงออก…
ชาน่า
ห่างหายไปนานหลังจาก เปิดตัวหนังสือ “เม้าท์แตก...ชาวเรา” ได้สองวันก็ลัดฟ้า กลับไปทำงานต่อที่เรือสำราญ ณ อเมริกา  กว่าจะตั้งตัวได้เหนื่อยเอาการทีเดียวค่ะหมกมุ่นกับการทำงานและการปรับตัวสักระยะ จึงเริ่มออกไปพักผ่อนหย่อนใจ ตามประสาคนทำงาน ลอยล่องท่องไป ในโลกกว้าง  วันว่างหลังการทำงานหนักเป็นนางแบกอินเตอร์ (แบกถาดอาหารคาวหวาน)วันนี้หลังจากทำงานกลางวันรับจองห้องอาหารทางโทรศัพท์เสร็จจึงรีบออกไปเที่ยวหาดเกย์ ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนชาวเกย์อันเลื่องชื่อของพลเมืองชาวเกาะของประเทศอเมริกา ที่อยู่ทะเลแคริบเบี้ยน  นามว่า “ St.Thomas”  U.S.V.I ย่อมาจาก United State Virgin Island.…