Skip to main content

20080202 ฮีธ เลดเจอร์ 

“ฮีธ เลดเจอร์” ขวัญใจชาวเกย์, พระเอกBrokeback Mountain

เกิด – แก่ – เจ็บ – ตาย นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางครั้งก็ยากจะทำใจได้  โดยเฉพาะหากใครสักคนอันเป็นที่รัก และผูกพัน แม้กระทั่งแค่ชื่นชม ปลื้ม ๆ ของคุณจากไปก่อนวัยอันสมควร   “เค้าหลับสบายไปแล้วล่ะ คงเหลือแต่เราที่จะก้าวต่อไป สู้ต่อไปตราบเท่าที่ลมหายใจยังอยู่แม้มันจะทรมาน ปวดร้าวแค่ไหน  ขอเวลาตั้งตัว ขอทำใจหน่อยได้ไหมคนดี”

วันที่ 23 ม.ค. 2008 เป็นวันที่พระเอกในดวงใจของผมจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เขาผู้นั้นคือ  ฮีธ เลดเจอร์ หนุ่มน้อยหน้าไม่หล่อแต่เร้าใจวัยซาวแปด  ชาวออสซี่  พระเอกหนุ่มจากหนังดังระดับฮอลลี่วู๊ด เรื่อง  “หุบเขาเร้นรัก” หรือ ”Brokeback Mountain”  ภาพยนตร์แนวดรามาของเกย์ที่โด่งดังและปลื้มมากที่สุดเท่าที่เคยดู โดยมีผู้กำกับชาวไต้หวัน “อั้งลี่” กำกับเรื่องนี้จนคว้ารางวัลมากมาย

“ฮีธ เลดเจอร์”  นายจากไปแล้วเหรอ   

เมื่อไม่นานมานี้ชาวไทยและแฟนคลับของน้องบิ๊ก ดีทูบี ก็ร่ำไห้เสียใจจากความพรากคนอันเป็นที่รักและชื่นชม

ก่อนหน้านั้นยังจำกันได้  อ๊อฟ อภิชาติ พัวพิมล ดาราชายขวัญใจวัยทีน และหวานใจชาวเกย์ ก็จากไปอย่างกระทันหัน  ในวัยกำลังสร้างอนาคต  

“มีพบ ย่อมมีพราก มีเกิด ย่อมมีดับ”  มันเป็นอนิจจัง  วัดระฆัง ยังเป็นสถานที่จัดงานขาว – ดำ อยู่เสมอ.... (ขอคั่น จะเขียน อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แต่ไม่สัน...ทัด อะค่ะ อย่าว่ากันนา สวยใส บางครั้งก็ไร้สติเสมอ)

20080202 ฮีธ เลดเจอร์ 

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานปัจจุบันทันด่วน ว่าสาเหตุของการเสียชีวิตของหนุ่ม นาม เอนนิส เดอ มาร์ (ชื่อที่แสดง ...ขอเรียกชื่อนี้เพราะคุ้นนักในหนังเรื่องแตกหลังเขา)  หรือชื่อจริง  ฮีธ เลดเจอร์  พระเอกคนดังเค้าอาจใช้ยาเกินขนาดหรือตั้งใจกินยานอนหลับเพื่อฆ่าตัวตาย เนื่องจากพบยาหลายชนิดรวมทั้งยานอนหลับวางอยู่ข้างศพ

นายพอล บราวน์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งนครนิวยอร์ก เผยจากคำบอกเล่าของแม่บ้านว่า  “อิชั้นพบศพของเค้า ขณะที่อิชั้นเข้าไปเพื่อจะทำความสะอาดห้องและปลุกเค้าเพราะมีนวดที่ห้องของเค้าเอง” เอนนิสตายในห้องนอนที่อพาร์ตเมนต์ บนเกาะแมนแฮตตัน มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาเพิ่งมาเช่า อพาร์ตเมนต์แห่งนี้อยู่เมื่อไม่กี่เดือนเอง   

แม่บ้านพบฮีธนอนอยู่ปลายเตียงในสภาพเปลือยกาย เธอพยามยามจะปลุกเอนนิสให้ตื่น แต่แล้วร่างที่ไร้วิญญาณเปลือยเปล่าก็ถูกเปิดเผย เมื่อเวลา 15.26 นาฬิกา ของวันที่ 22 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ นั่นคือเวลาที่แม่บ้านพบ ส่วนเวลาที่มัจจุราชพรากนั้นยังไม่ทราบแน่ชัดเจน   (ตอนนี้เริ่มรู้สึกหวั่นๆ เหมือนกันเพราะชาน่าก็ชอบนอนเป็นฮีเปลือย เปลือยฮี (เขาผู้ชาย) Naked man เวลาเข้านอนทุกครั้งเพราะรู้สึกมันสบายอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน และก็ไม่หวั่นมามาก ไม่หวั่นแม้จะถึงวันนั้นของชีวิต  แต่คราวนี้เริ่มหวั่นแล้วล่ะค่ะ)

อย่างไรก็ตาม สาเหตุของการเสียชีวิตของเอนนิส จะรู้ผลจากการชันสูตรศพหนึ่งสัปดาห์เป็นอย่างต่ำ  แม้ “ไดอาน่า โวโลซิน” หมอนวดที่พบศพของเอนนิสเป็นคนแรก  เธอโทรศัพท์ไปหา Olsen  3 ครั้ง ก่อนจะโทรแจ้ง 911 แต่ทางตำรวจก็ไม่สามารถจับคุมตัว “โวโลซิน”  แต่อย่างใด

แม้การสันนิษฐานของ NYPD  ตำรวจแห่งมหานครนิวยอร์ก ว่าเป็นการใช้ยานอนหลับแต่สมาชิกของครอบครัวเลดเจอร์ที่ออสเตรเลียได้กล่าวปฎิเสธ และยืนยันว่า  “การเสียชีวิตของฮีธเป็นอุบัติเหตุมากกว่า”

พ่อของเอนนิส หรือ ฮีธ เลดเจอร์  (นายคิม เลดเจอร์) กล่าวที่บ้านพักในเมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลียว่า “การเสียชีวิตของฮีธส่งผลให้ครอบครัวมีความโศกเศร้าเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการจากไปอย่างกระทันหัน ฮีธเป็นคนติดดิน ใจดี มีน้ำใจ ไม่เห็นแก่ตัว เขาเป็นแรงบันดาลใจ และตัวอย่างที่ดีแก่หนุ่มสาวมากมายทั่วโลก ขอขอบคุณเพื่อนๆ และทุกคนสำหรับความปรารถนาดีและร่วมอาลัยต่อการจากไปของเค้า”    

ในขณะที่ มารดา และน้องสาว (แซลลีและเคท ตามลำดับ)  ของฮีธ ไม่ยอมให้สัมภาษณ์ อันเนื่องมาจากยังอยู่ระหว่างทำใจต่อการสูญเสียครั้งนี้   (เข้าใจความรู้สึกเป็นอย่างมากค่ะ  คงไม่เหมือนกับสื่อมวลชนไทย (บางคน) ที่คอยจัดฉาก ขอถ่ายรูป จนงามหน้าเหมือนคราวศพของน้องบิ๊ก ดีทูบี ที่ใช้อำนาจของตนสั่งให้คุณพ่อน้องบิ๊ก จูบศพ จูบแล้วจูบอีก เพียงเพราะอยากได้ภาพสวย ๆ วิน วิน)

ด้านนายเควิน รัดด์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวว่า “ประเทศออสเตรเลียได้สูญเสียหนึ่งในนักแสดงระดับสุดยอดของประเทศไปในช่วงที่อาชีพการแสดงยังรุ่งโรจน์ อันน่าเสียดายยิ่งนัก”  

นายปีเตอร์ เคร๊าซ์ ประธานสมาคมวิจารณ์ภาพยนตร์ของออสเตรเลีย กล่าวว่า “ฮีธเป็นนักแสดงที่อ่อนน้อมถ่อมตน และไม่เคยโอ้อวดว่าตัวเองเป็นดาราดังเลย น่าเอาเยี่ยงอย่าง”

20080202 ฮีธ เลดเจอร์

ประวัติฮีธ เลดเจอร์ เกิดเมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2522 ณ เมืองเพิร์ธ รัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลีย เป็นบุตรของนายคิม เลดเจอร์ อาชีพวิศวกรเหมืองแร่ และมารดา นางแซลลี่ เลดเจอร์ เบลล์ ครูสอนภาษาฝรั่งเศส และยังมีน้องสาวอีกคน คือ เคท เลดเจอร์ ช่วงสมัยเรียนชั้นมัธยมเอนนิส จะโดดเด่นด้านกีฬาถึงขั้นเคยเป็นตัวแทนนักฮ็อกกี้ระดับรัฐ แต่แล้วเค้าก็พบว่าตนหลงรักการแสดงมากกว่า พรสวรรค์และดวงด้านการแสดงมาแรงกว่าฮ่ะ

ด้านเรื่องราวความรักของเอนนิสนั้น เค้าเคยใช้ชีวิตอยู่กินกับมิเชล  วิลเลี่ยมส์ (ซึ่งเคยรับบทเป็นภรรยาของเค้าในหนัง)  จนมีพยานรักหนึ่งคนคือ มาทิลดา หนูน้อยวัย 2 ขวบ แต่สุดท้ายชีวิตก็ไม่ได้ราบเรียบจนเค้าและเธอต้องแยกทางกันในเดือนกันยายนปีที่แล้ว

ผลงานด้านการแสดงของเค้านั้นมีหลายเรื่องมาก อย่างเช่น “เดอะ แพทริออท” หนังสงครามเรื่องดังที่หลายคนรู้จักกันดี  “มอนสเตอร์ บอลล์”, “ดิ ออร์เดอร์”, “คาสะโนวา”, “เน็ด เคลลี่”, “อะ ไนท์ เทล” และอีกหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องที่กำลังเข้าฉายในเร็ววันนี้ “ไอม์ นอท แดร์” และภาพยนตร์ภาคต่อแบทแมนที่จะฉายในช่วงซัมเมอร์นี้ เรื่อง “เดอะ ดาร์ค ไนท์ ” โดยเค้ารับบทเป็น “เดอะโจ๊กเกอร์” คู่กัดตัวตลกของแบทแมน   แต่เค้าคนนี้ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองเป็นอย่างมากจาก ภาพยนตร์เรื่อง  “โบรคแบ็ค  เม้าท์เท่น”  (บางคนเข้าใจว่า  แตกหลังเขา บ้างก็อ่านได้ไง แบร์แบ็ค เม้าท์เท่น)  รวมทั้งการแสดงอย่างออกฝีมือทำให้เค้าได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาดารานำฝ่ายชาย แต่ก็พลาดไปอย่างน่าเสียดาย

เสียงของพนักงานในร้านอาหารประจำของเค้ากล่าวว่า  “นายฮีธ  เป็นคนที่มีอัธยาศัยดี ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นดาราดัง  แม้เวลาที่เค้ามานั่งอ่านหนังสือในร้านเค้าก็จะทักทายคุณเสมอ  แม้กระทั่งกริยาอันน่ารักที่เค้าชอบเล่นซ่อนหากับลูกสาววัยสองขวบ แถวพุ่มไม้สร้างความประทับใจเป็นอย่างมาก”

ด้านผู้กำกับหนังอย่าง อั้งลี่ กล่าวว่า  "การได้ร่วมงานกับฮีธเป็นช่วงเวลาที่เบิกบานที่สุดในชีวิตของผมเลยก็ว่าได้ เขาได้ถ่ายทอดบทบาทของเอนนิส ได้เกินกว่าที่พวกเราคนใดจะจินตนาการได้ ทั้งความโหยหาในชีวิต, ความรัก และสัจธรรม รวมไปถึงความละเอียดอ่อนที่ส่งผ่านจากตัวเขาที่ทำให้ใครก็ตามที่ได้รู้จักเขาจะต้องรักเขา ความตายของเขาเป็นสิ่งที่ทำให้หัวใจสลายจริงๆ"

การจากไปของเอนนิสทำให้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างสอนใจผมว่า  คนเรารู้แต่วันเกิดแต่ไม่รู้วันไป  ชีวิตวันรุ่งพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร  ใครจะรู้บ้างแม้หมอดูยังไม่รู้วันลาของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นคนดี คนเด่น คนดัง คนลืมหลังควาย คนไม่มีสิทธิ์  คนไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคน คนไม่หล่อแต่เร้าใจ  คนมียศฐา บรรดาศักดิ์ หรือคนไร้ค่า  คนหนอคนเช่นไรก็หนีความตายได้ไม่     เอนนิสทำให้ผมคิดถึงหนังเรื่องที่สะท้อนใจ ของเกย์วิถีอย่าง  “Brokeback Mountain”   ในฉากสุดท้ายที่เค้าเก็บเสื้อของคนรักไว้คนึงตราบนานแสนนาน  “เค้าจากไปแล้วจริง ๆ “  

ส่วนตัวของผมจะนำตัวอย่างและสิ่งที่ดี ๆ ในตัวเค้ามาเป็นแบบอย่าง หากสักวันในอนาคตถ้าเราเจอกันบนสวรรค์หรือนรก  นายจะอยากรู้จักผมคนนี้ไหมหนอ คนที่ชื่นชม และปลื้มในความสามารถของนาย  “เอนนิส นอนหลับให้สบายนะครับ  ชีวิตของคนเรานั้นสั้นนัก ผมพร่ำบอกกับตัวเองเสมอว่าหากจะทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวมได้  จงเร่งทำซะ แม้จะต้องจากไปวันไหน คืนใดก็จะไม่เสียใจที่ได้ทำแล้ว  ขอพระเจ้าประทานพร  ผมจะภาวนาให้คุณ  ...จากเกย์ตาดำ ดำที่ปลื้มคุณอย่างจริงใจ”

ปล. แรก   บทความนี้อยากใช้สรรพนามเรียกตัวชาน่าเองว่า  “ผม”  เพราะอ่านแล้วดูเกย์ได้จิต เกย์ เกย์ หรือเกย์คิงแต่งสาวไม่แสดงออก (ไม่แสดงออกผู้ชายแม้แต่น้อยนิด)  ไม่ว่ากันนะ เพราะแม้ไม่สวยอย่างชาน่าก็ขอเลือกได้ละกัน  ค๊า ++++  

ปล. สอง อ่านเรื่องราว  “เม้าท์หนัง ฟังเพลง” ได้จากหนังสือ “เม้าท์แตก...ชาวเรา” วางแผงแล้ววันนี้ทุกร้านทั่วไทย  จีบปากจีบคอโดย ชาน่า เองเจ้า  หรืออ่านจากคอลัมน์ เรื่อง  “Brokeback  mountain” ที่ชาน่าเขียน จากคอลัมน์ก่อนหน้านี้

ปล . สาม  “ร่วมไว้อาลัยนายฮีธ” พระเอกในดวงใจ จากเมือง St.Kitts and Navis  Islands, Caribbean

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
  หากใครเคยชมภาพยนตร์ไทยของจีทีเอช โดย บริษัท จอกว้าง ฟิล์ม จำกัด เมื่อปีที่แล้ว “หนีตามกาลิเลโอ” หลายคนคงจะประทับใจเรื่องราวและการต่อสู้ ความน่ารักและการใช้ชีวิตของสองสาวไทยที่ตัดสินใจไปเที่ยวและทำงานต่างประเทศ หนึ่งคนไปเพราะอกหัก อีกหนึ่งไปเพราะสอบตก อยากเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมใหม่  แต่สำหรับฉัน “ชาน่า” หนีไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ที่ตัดสินใจบินออกนอกประเทศ ความรู้สึกไม่ได้แตกต่างอะไรไปมากกว่านางเอกของหนังเรื่องนี้นักเลย  สุข เหงา เศร้า คละเคล้ากันไปยิ่งกว่าละครเสียอีก    แต่ชาน่าไม่ใช่นางเอกของเรื่อง แค่เกย์ที่หลายคนรู้จัก บ้างรู้จักฉันดี…
ชาน่า
หลายคนอาจจะเคยสงสัยเหมือนกับชาน่าว่าในสมัยก่อนวิถีชีวิตของเกย์เป็นเยี่ยงไร วันนี้จึงหาคำตอบและเป็นความต้องการทราบส่วนตัวด้วยค่ะ เพราะว่ามีโอกาสได้ดูละครเรื่องสาปภูษา จึงใคร่รู้เยี่ยงนักว่าประวัติความเป็นมาและสังคม กฎระเบียบบ้านเมืองเป็นเช่นใด ข้าใคร่รู้ ณ บัดเดี๋ยวนี้
ชาน่า
  เมื่อช่วงพักร้อนที่ผ่านมา ชาน่าและเพื่อน ๆ ได้พบปะสังสรรค์กันตามประสาเฮฮาปาร์ตี้ เพื่อนๆ ต่างไม่เจอกันมานาน มีทั้งเพื่อนชายจริง หญิงแท้และชาวหลากหลายทางเพศ
ชาน่า
"กระจกจ๋า บอกซาร่าหน่อยนะ ว่าผู้ชายคนเนี้ยะ...ใช่มะ ใช่มะ...." มาแล้ว มาแล้ว มาแล้ว จิ๋ม ซาร่า ท้าสัมผัส... มากับอัลบั้มชุดที่สอง "คนร่วมฝัน"   หากคุณได้ยินเพลงนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าเป็นหญิงจริงหรือหญิงเทียม ไม่ว่าคุณจะมองผู้หญิงคนนี้อย่างไร ชาน่ามองเธอว่า เธอคือผู้ชายที่กลายเป็นผู้หญิงที่น่าค้นหาอีกคน ข้อความจากเพลง “เกินห้ามใจ” ของนักร้องสาวประเภทสองที่ชื่อจิ๋ม ซาร่า หรือชื่อที่ใช้ในวงการ “สุจินต์รัตน์ ประชาไทย” ผู้ชายทั้งแท่งที่ผันตัวเองให้เป็นผู้หญิงทั้งทิ่ม เธอผู้นี้เป็นคนไทยคนแรกที่กล้าไปผ่าตัดแปลงเพศไกลถึงดินแดนเมืองผู้ดี “อังกฤษ”
ชาน่า
  การมองโลกในแง่ร้าย การมีประสบการณ์ที่โหดร้าย หรืออยู่ในสังคมที่แย่ อาจจะทำให้คนในสังคมนั้นมีพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก สังคมที่ไม่มีศีลธรรม สังคมทุนนิยมที่เอาแต่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยช่วยให้คนกลุ่มนั้นมีทัศนคติและพฤติกรรมที่กลุ่มคนดีเค้าไม่ทำกัน วันนี้อยากนำเสนอเหตุการณ์ และ ศัพท์ของเกย์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับสังคมสีม่วงของเรา ถ้าหากหลีกเลี่ยงได้ สังคมเกย์ไทยจะน่าอยู่อีกเยอะเลยล่ะฮ่ะ
ชาน่า
  เกิดเป็นคนมีชื่อเสียง (.... อือ... อันที่จริงทุกคนล้วนมีชื่อเป็นของตัวเองทั้งน้านนน) ก็ลำบากทำอะไรก็เป็นเป้าสายตาของประชาชี จะกิน ดื่ม ขยับซ้ายก็เป็นข่าว ขยับขวาก็มองต่างมุม โดนรุมทำข่าวอีก เรียกได้ว่าสูญเสียความเป็นส่วนตัวมากทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นเครื่องมือของธุรกิจคนขายข่าว ขายเรื่องราวแล้วยังเป็นเหมือนสินค้าตัวหนึ่งทีเดียวฮ่ะ
ชาน่า
การมองโลกในแง่ดี(เกินไป) การทำดี การให้เพื่อคนที่เรารัก เคยรัก อยากรัก สุดท้ายคนนั้นกลายเป็นคนอื่นคนไกล คนไม่รู้จัก บางครั้งมันก็ยากที่จะสาธยายได้ว่า สิ่งที่เราทำไปนั้นมันเป็นไปทางทิศไหน หรือกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ สะกดคำว่า ... สายเกินไป “โดน” กับตัวเองแล้วล่ะ
ชาน่า
  เคยคิดอยากเขียนนิยาย ที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงเหมือนกัน แต่ฝีมือการเขียนยังไม่เข้าขั้น และที่สำคัญเวลายังไม่เอื้ออำนวย เพราะต้องทำงานเป็นนางแบกโกอินเตอร์ ทำงานทุกวันฮ่ะ (นางแบก คือทำงานอาชีพแบกถาด บนเรือสำราญเจ้าค่ะ) สัปดาห์นี้อยากเขียนเรื่องจริงจากประสบการณ์ของชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของชาน่า ที่เค้ากล้าเผยความเป็นเกย์ต่อครอบครัว ความจริงมันไม่เป็นเพียงแค่ความกล้า หากแต่เป็นสถานการณ์พาไป และอยากให้รับรู้ ยามเมื่อถึงเวลา เนื้อเรื่องและเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงจากครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนครอบครัวหนึ่ง เรียบเรียงโดยชาน่า ล้านนา ค่ะ
ชาน่า
ปีใหม่ก้าวผ่านมาตามวันเวลาของปฎิทิน ที่ถูกกำหนดไว้ วันเดือนปี (ใหม่) เป็นแค่กาลเวลาที่คนเรากำหนด นับจากวันที่ผมลืมตาดูโลก จนถึงวันนี้ วัน เวลา และปีเป็นสิ่งที่กำหนดอายุของคนเรา ใช่มันผ่านไปแล้ว ...ผ่านไปเข้าสู่วัยกลางคน ของคน ๆ หนึ่งที่ยืนหยัดอยู่บนโลกที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปใบนี้ มีหลายสิ่งที่ดีเข้ามา มีหลายคราที่รู้สึกแย่ หลากอารมณ์ที่ตัวเองสัมผัสได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ค้นพบและรับรู้อยู่เสมอคือ... ความเป็นตัวตนที่แท้จริงภายใต้จิตสำนึก  
ชาน่า
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการรณรงค์ การกระทำที่ไม่รุนแรงต่อเพศหญิง แต่น้อยคนนักจะเข้าใจและเห็นด้วยกับการที่ได้ทราบข่าว การกระทำรุนแรงต่อเพศพิเศษนั่นคือเกย์ หรือกะเทย ที่เกี่ยวข้องกับผองเพื่อนชาวเรา ชาน่าได้อ่านจดหมายฉบับหนึ่งที่ส่งถึงเว็บเกย์โรมีโอ (เว็บไซต์สังคมเกย์ที่ขึ้นชื่อของโลก) โดยคนที่เขียนมาเล่าเป็นเกย์ ที่ออกค่ายอาสากับหมอ เกี่ยวกับโรคเอดส์ ซึ่งมีโอกาสได้ไปหลายประเทศต่าง ๆ ขอแปลจดหมายฉบับนี้เพื่อผู้อ่านค่ะ
ชาน่า
ชาน่าชอบอ่านทุกอย่างที่ขวางหน้าถ้าหากมีเวลา แต่ถ้าไม่มีเวลามากนักก็เลือกบางเรื่อง ที่สนใจและเกี่ยวข้อง อย่างเรื่องฮา ฮา แม้บางครั้งบอกกับตัวเองว่า “ไร้สาระน่าดู...” แต่ลึก ๆ แล้วเนื้อหาบางส่วนอาจจะให้ความบันเทิงแบบไม่ต้องคิดอะไรมากอย่างเสียไม่ได้ ลองอ่านเรื่องราวที่ชาน่าเรียบเรียงโดยได้พล๊อตเรื่องจาก เมล์ส่งต่อ แต่แต่งเติมเป็นภาษาง่าย ๆ ของชาน่านะฮะ (ดั่งเพื่อนหลายคนตั้งฉายาให้ว่า ชาน่า ปั้นน้ำเป็นตัวจนแข็ง....) ... ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม น้อง ๆ อายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่อนุญาตให้อ่านนะคะ เป็นคอลัมน์เรต ฉ. เด็กควรอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองด้วยค่ะ
ชาน่า
  ชีวิตความรักของเกย์น่ะหรือ... หลายคนผลักดัน ยิ่งดันยิ่งดัก ยิ่งผลักเหมือนยิ่งแบกโลก เคยมีเพื่อนของชาน่าหลายคน บอกว่า ... “ฉันเชื่อเรื่องความรักของเกย์ ...ว่าคือรักนิรันดร์” แต่ “ฉัน” กลับขอค้าน ที่ค้านในที่นี้คือ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล คนที่เชื่ออย่างนั้นหนึ่งในนั้นคือ “ฉันเอง” ชาน่า