การมองโลกในแง่ร้าย การมีประสบการณ์ที่โหดร้าย หรืออยู่ในสังคมที่แย่ อาจจะทำให้คนในสังคมนั้นมีพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก สังคมที่ไม่มีศีลธรรม สังคมทุนนิยมที่เอาแต่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยช่วยให้คนกลุ่มนั้นมีทัศนคติและพฤติกรรมที่กลุ่มคนดีเค้าไม่ทำกัน
วันนี้อยากนำเสนอเหตุการณ์ และ ศัพท์ของเกย์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับสังคมสีม่วงของเรา ถ้าหากหลีกเลี่ยงได้ สังคมเกย์ไทยจะน่าอยู่อีกเยอะเลยล่ะฮ่ะ
ศัพท์เฉพาะอีกคำหนึ่งที่เกย์ไทยรู้จักกันดี นั่นคือ คำว่า “เหวี่ยง” คำว่าเหวี่ยงในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการเหวี่ยง ปา หรือเหวี่ยงแห หากบางท่านไม่เข้าใจถึงคำศัพท์นี้ ชาน่าจะขออธิบายโดยรวม ๆอย่างเข้าใจง่าย ๆ ว่า “เหวี่ยง” เป็นกริยา ที่ชนชาวเกย์นิยมพูดกัน อันหมายถึง เชิดใส่ เขม่น เหม็นขี้หน้า หาเรื่อง ทัศนะคติที่ติดลบต่อกัน เป็นต้น
“ดูนังนั่นสิ แหม.. คิดว่าตัวเองสวยกว่าช้านเหรอยะ เดี๋ยวแม่จะแกล้งหล่อน คอยดูเห๊อะ...”
นี่คือตัวอย่างของการเหวี่ยง
“ไม่รู้เป็นอะไร เห็นหนังหน้านังชาน่าแล้วอยากกระโดดตบ กลิ้ง หมั่นไส้มันจัง” เกิดอาการเหวี่ยงอย่างเห็นได้ชัด
สำเนียงส่อภาษา กริยาส่อสกุล ครั้นจะโทษแต่เกย์ กะเทย อย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะพฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้นกับคนทุกเพศ อาการเหวี่ยงกันนั้น โดยส่วนตัวของชาน่าคิดว่า เริ่มต้นจากการมองโลกในแง่ร้าย จิตใจที่คับแคบ เจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจตัวเอง ซึ่งเราจะเห็นตัวอย่างได้จากละครน้ำเน่าไทยจากทีวีทุกช่อง ที่แพร่ภาพช่วงเวลาที่คนดูมากที่สุด ทุกวัน วันละหลายชั่วโมง การได้สัมผัสเห็นตัวอย่าง เหมือนกับเป็นการโดนล้างสมองของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว แม้จะมีข้อความบอกว่า เด็กควรอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ปกครอง หรือจัดเรตขนาดไหนก็ตาม แต่อย่าลืมว่า ถ้าเด็กเห็นบ่อย ๆ ทุกวัน ๆ จนเค้าคิดว่านั่นคือเรื่องธรรมดา พรุ่งนี้ออกไปสังคมข้างนอกจะทำอย่างนี้บ้างจะเป็นไร (เรื่องอย่างนี้ไม่แบน ทีเรื่องเกย์ดีๆ มีอยู่ทั่วไปในสังคมไทย แบนกันจังหนอ ... ว่ามะ)
มันน่าอายที่รายการศีลธรรม ธรรมะ รายการดี ๆ กลับไม่ค่อยมีคนสนใจ ผู้เขียนบทละคร ก็คร้านจะแต่งเรื่องที่มีศีลธรรม หรือกว่าจะมีข้อคิดเตือนใจก็ตอนอวสาน บางคนไม่ได้ดูตอนจบ จึงจำเอาแต่ตอนแย่ ๆ ร้าย ๆ ของละคร บางเรื่องเล่นซีนแรกก็กระโดดตบกลิ้ง ตีนถีบติดข้างฝา ทำหน้ายังกะยักษ์กะมาร อิจฉาริษยา คนดูก็ชอบกันจัง เชียร์กันใหญ่
... “เอาเล้ยยยยย ตบมันเล้ยยยย นั่นหละ โคตรสะใจเลย...”
กลับมาถึงเรื่องของสังคมเกย์ กะเทยในเมืองไทย บ่อยครั้งที่เกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกัน ส่วนมากจะมาจากการไม่เข้าใจกัน แย่งผู้ชาย แย่งความสวย ฉันเริ่ดกว่า ฉันเชิด อีโก้สูงปรี๊ด คิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่นใดในโลก
“ในบรรดาเกย์ไทยฉันนี่หล่ะ เริดสุดแล้ว”
“เริ่ด ๆ เชิด ๆ เชอะ”
คงจะดีมิใช่น้อยหากคนกลุ่มน้อยอย่างพวกเรา ชาวเกย์ไทย ที่พบเจอกันที่ไหน มีแต่มิตรไมตรี เข้าใจกัน เป็นมิตร สร้างโลกสวยให้เกย์ กะเทยไทย เพื่อชาย จริง หญิงแท้เขาจะได้ชื่นชมกัน เคยมีผู้หญิงจริง ตั้งคำถามชาน่าว่า
“เป็นเกย์ กะเทยเหมือนกัน คิดว่าจะเข้ากันได้ง่ายกว่าเพศอื่นมั้ย”
ชาน่าคิดว่า โดยส่วนมากก็มีส่วนนะเพราะถือว่า มีความชอบที่คล้ายคลึงกัน เป็นอัตภาพทางเพศเหมือนกัน พูดคุย และสนใจในเรื่องเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้หมายถึงเกย์ กะเทยจะเหมือนกันทั้งหมด เพราะยังมีบางกลุ่มที่มีอีโก้สูงเกินมาตรฐาน จนมองกลุ่มเกย์เพศเดียวกัน อย่างดูถูกเหยียดหยาม
คงจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีมิใช่น้อยหากชาวหลากหลายทางเพศ ลดๆ อีโก้ มองโลกเกย์ มองกลุ่มเกย์ในแง่ดี คิดว่าเป็นมิตรไมตรีต่อกันโดยไม่แย่งแยกชนชั้นวรรณะ ไม่แก่งแย่งชิงชายดี ชายเด่น ต่อกัน ไม่แบ่งแยกเขตแดน เป็นเกย์มหานคร หรือเกย์ปริมณฑล หรือเกย์ชายแดน เราท่านทั้งหลายต่างมีความชอบ ความต้องการที่เหมือน ๆ กัน ชีวิตของคนเราจะมีสักกี่คนที่อายุเกินร้อย ช่วงวันเวลาที่เหลืออยู่ของเรา ทำไมไม่หาความสุข ยื่นความสุขให้ซึ่งกันและกัน พบปะชาวสีม่วงเดียวกัน ก็ถือว่าเป็นกลุ่มพิเศษช่วยเหลือเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน เพราะถ้าหากเราไม่รักกันแล้วใครจะมารักเรา โดยเฉพาะเพศชายจริงที่ “เกลียด” เกย์ กะเทยอย่างเราเข้าไส้ ทำไมพวกเราไม่ร่วมใจ รวมกันเป็นหนึ่ง ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รู้จักรักและให้อภัย แม้หากมีชายที่เรารักแล้วเค้าไม่รักเรา เค้าไปชอบเกย์คนใหม่ก็ให้เค้าไป ถือเป็นการให้ทานที่ประเสิร์ฐนัก ชาน่าเข้าใจว่ามันเป็นสิ่งที่ทำยากมาก แต่เชื่อเหอะ ลองเปิดใจให้กว้าง ศึกษาธรรมะ ทำแต่ความดี มีศีลธรรม แล้วคุณจะมีความสุขในการดำเนินชีวิตแบบ เกย์ เกย์ ... อาการ “เหวี่ยง” จักไม่เกิดขึ้นกับเราชาวหลากหลายทางเพศอีกต่อไป
“รักกันไว้เถิดเราเกิดร่วมแผ่นดิน ที่มีเกย์ไทยเหมือนกัน”