Skip to main content

 

เกิดเป็นคนมีชื่อเสียง (.... อือ... อันที่จริงทุกคนล้วนมีชื่อเป็นของตัวเองทั้งน้านนน) ก็ลำบากทำอะไรก็เป็นเป้าสายตาของประชาชี จะกิน ดื่ม ขยับซ้ายก็เป็นข่าว ขยับขวาก็มองต่างมุม โดนรุมทำข่าวอีก เรียกได้ว่าสูญเสียความเป็นส่วนตัวมากทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นเครื่องมือของธุรกิจคนขายข่าว ขายเรื่องราวแล้วยังเป็นเหมือนสินค้าตัวหนึ่งทีเดียวฮ่ะ


 

เมื่อก่อนไม่ดังก็ขยันสร้างภาพ สร้างข่าว พอมีชื่อขึ้นมา ก็ไม่อยากเป็นข่าว ไม่อยากให้ใครทราบเรื่องส่วนตัว เพราะเกรงจะมีผลต่อหน้าที่การงาน เกียรติยศ ชื่อเสียง เรื่องดี ๆ มีน้อยที่คนจะมอง แต่เรื่องแย่ ๆ เรื่องเดียว เม้าท์มอยกันไม่จบสามวันเจ็ดคืน

สัปดาห์นี้อยากนำเรื่องราวของบรรดาเกย์เซเล็บเมืองไทย มาเม้าท์กันให้หายคันปากเล่น ๆ เพราะเพื่อนพ้องน้องพี่เรียกร้อง ...(เรื่องของชาวบ้าน ๆ เค้าทำอะไรกันที่ไหนล่ะถนัดนักนะคนเราเนี่ย) บางรายบอกว่า “อย่าไปบอกใครนะ...” มันยิ่งเหมือนกับว่ายิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ... ปากต่อปาก จากปากน้ำ ไปถึงปากคน ที่ลืมไม่ได้.... ต้องขอขอบคุณแหล่งข่าวที่ร่วมให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการด้วย อันที่จริงเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนได้ “เพื่อนบอกว่า.....” อาจจะเป็นเรื่องจริง เรื่องเท็จ แต่อย่างที่ทราบกันล่ะว่า “ถ้าไม่มีมูลฝอย น้องหมาก็หาได้อุจจา(ระ)ไม่”


ถ้าจะให้พูดถึงนักร้องชื่อดังของเมืองไทย ที่หลายคนอยากทราบว่าเป็น
... หรือเปล่า ต้องบอกว่า กระดาษเอ 4 เขียนไม่พอ ต้องขอเพิ่ม แต่ด้วยความที่นักร้องคนดีที่เป็นเกย์ เค้าไม่ได้ทำอะไรเดือดร้อนต่อสังคม เรื่องราวส่วนตัวของเค้าจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องถูกเปิดเผย เอาเป็นว่าคนภายใน เราท่านทั้งหลายรู้กันแค่นั้นพอ


มีนักร้องเพลงลูกทุ่งจากค่ายยักษ์แห่งหนึ่ง เป็นคนของประชาชนที่หลายคนชื่นชอบ ผลงานการร้องเพลงของเค้า นับอัลบั้มไม่ถ้วน ลูกคอที่บาดหัวใจแฟน ๆ แต่จะมีใครบ้างที่รู้ว่า เค้าผู้นี้ เคยแต่งงานกับสาวประเภทสองมาก่อน เมื่อสมัยที่อยู่พัทยา หลังจากเข้าวงการก็เลิกกัน แต่ยังคงความเป็นกลุ่มหลากหลายทางเพศเหมือนเดิม จนทุกวันนี้แม้เค้าจะไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน แต่ก็เรียกใช้บริการ ซื้อผู้ชายขายบริการผ่านหลายช่องทาง โดยส่วนมากจะมีนกต่อ หรือนายหน้า ข้าทาส เป็นคนติดต่อให้

 


น้อง ๆ คนนี้เค้าเป็นดารานักร้องชื่อดังนะ บริการเค้าดี ๆ ล่ะ และก็ต้องทำตามกฏ คือเข้าไปอย่าเปิดไฟเด็ดขาด และถ้าไม่จำเป็นไม่ต้องสนทนาอะไรมากมาย เข้าใจมั้ย”


ผมเคยไปบริการให้กับอดีตนักการเมืองคนหนึ่ง เค้าขับรถเบนซ์มาหาที่สนามหลวงเลยครับ ผมไม่เข้าใจขนาดรวยขนาดนั้นแล้วยังต่อรองราคา เรียกสองพัน ยังต่อที่ละห้าร้อย ๆ จนค่าตัวผมลดกระหน่ำซะขนาดนั้น”


ดาราคนนี้นะเหรอ เค้าไปเปิดโรงแรมที่พัทยา ก็ช้านทำงานอยู่หน้าฟรอนท์ที่นั่นมาก่อนอ่ะ ทำไมจะไม่รู้ล่ะ เวลามาที กำชับบอกว่าอย่าให้นักข่าวรู้ อย่าบอกใครเด็ดขาด เปิดห้องสวิงกันเป็นว่าเล่น ไม่รู้ไปเอาเงินมาจากไหน เปิดห้องสู่สวรรค์ชั้นเจ็ดทีคืนละหลายหมื่นบาท คิดเหรอว่าคนเค้าจะไม่เม้าท์กันอ่ะ พอตกเป็นข่าวก็ขยันออกมาแก้ข่าวกันนัก อย่างที่รู้ล่ะว่าคนดีชอบแก้ไข คนอะไรนะ...ชอบแก้ตัว เฮ้อ..”


ผมเป็นผู้ชายขายบริการ ที่มีสังกัด ก็เคยไปนอนกับคนดังเหมือนกัน แต่พี่เชื่อมั้ย บางคนน่ะ รวยโคตร แต่ขี้เหนียวมาก จ่ายไม่ตรงตามราคาตกลง สุดท้ายด้วยความที่หมั่นไส้ ผมจึงหยิบวัตถุโบราณติดตัวมาด้วยเป็นการสั่งสอน”


นักร้องของค่ายนี้นะเหรอ ตอนวันคล้ายวันเกิดเค้า พอดีแฟนเก่าของผมเค้าได้บัตรเชิญไปร่วมงาน เบิร์ดเดย์ปาร์ตี้ ส่วนตัว เค้าเชิญดารานักร้องมาเยอะเลยนะ เพื่อนสนิทจากต่างค่ายด้วย พออยู่ด้วยกัน กรี๊ด สาวแตก พอออกนอกห้อง เก๊กสุดๆ ... ผมยังจำได้เลยว่า เค้าบอกกับเพื่อนนักร้องต่างค่ายว่า ... “แหม...อี--- หล่อนเนี่ยแอ๊บได้เนียนมากเลยนะยะ”....”


ผมเคยไปหาคนมีชื่อคนหนึ่ง พี่เค้าติดต่อมา ก็ไปหาที่โรงแรม พอตอนจ่ายตังค์ต้องใช้ไฟฉาย เปิดไฟส่องกระเป๋าตังค์ ด้วยความกลัวว่าเราจะรู้ว่าเค้าเป็นใคร ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเป็นใคร ถ้าไม่ใช่ดาราก็ไอ้หน้าผีล่ะครับพี่....”


นายแบบคนนี้เหรอ เค้าเป็นเด็กของป๋าชาวฝรั่งเศส โห..ไม่รู้เป็นแฟนกันได้ไง ป๋าออกจะอัปลักษณ์ซะขนาดนั้น ยิ่งกว่าโดเรมอนภาคพิสดารซะอีก แต่ความรวยเหลือกินเหลือใช้ว่าไม่ได้ มีร้านอาหารอยู่ที่สุขุมวิท อยากได้รถอะไร ป๋าถอยให้ป้ายแดง แต่ขอโทษสร้างภาพบอกว่าเป็นแฟนกับดารารุ่นค้างฟ้า ช้านละอยากจะอ๊วกแตก มาที่ร้านทำตัวยิ่งกว่าดาราฮอลลี่วู๊ดอีกแหน่ะ ต้องโทรมาเช็คก่อนว่ามีคนไทยอยู่ที่ร้านอาหารมากมั้ย จะเข้าจะออกต้องเช็คตลอดเวลา กลัวข่าวจะเล็ดลอด ถ้ามาที่ร้านแล้วไม่เห็นแม็กกาซีนที่หล่อนไปถ่ายแบบมาวางไว้ชั้นหน้า ๆ ที่เห็นได้ง่าย ๆ ละก็... ฮีวีนแตกเชียวล่ะ”


ความเป็นส่วนตัวของคนทุกคน ล้วนมีขอบเขต เพราะคนเราทุกคนต่างมีความต้องการที่ไม่เหมือนกันนอกเหนือจากปัจจัยสี่ดำรงชีวิตแล้ว บางเรื่องเจ้าตัวทำอะไรก็ไม่อยากให้ใครรับรู้ เพราะนอกจากมันเป็นสิทธิส่วนบุคคลแล้ว ยังเป็นการสนองนี๊ดส์ ของตัวเองที่ไม่อยากให้ใครรู้ แต่บังเอิญว่าเรื่องที่ “ยิ่งปิดก็เหมือนยิ่งยุ ปิดกันให้แซด” ปากต่อปาก กระจายมากไปทั่วประเทศ ทั่วโลก แหม
..ช้างตายทั้งตัวจะเอาใบบัวมาปิดก็คงไม่ได้


ฉันยังโชคดีที่ไม่ได้เป็นเซเล็บ หรือซูเปอร์สตาร์ จะทำอะไรก็ได้อย่างอิสระไม่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ เพราะถ้าหากมันเป็นความต้องการส่วนตัวที่ไม่เดือดร้อนใครแล้ว ก็อยากทำโดยไม่จำเป็นต้องแคร์สื่อ ขอโทษ ไม่สวย ไม่เริ่ด ไม่เชิด แต่ก็ไม่เคยแคร์สื่อ
(ไม่สวยแถมยังไม่แคร์สื่อฮ่ะ) เป็นคนธรรมดานะดีแล้วฮ่า อิสระเสรีทุกตารางนิ้ว .... เคลียร์....


ปล
. ของ ปล. ตามจรรยาบรรณของชาน่าแล้วไม่สามารถจะเปิดเผยชื่อจริงของบุคคลที่กล่าวถึง แต่ถ้าเจ้าตัวได้อ่านแล้วจะรู้ดีว่า คนที่กล่าวถึงนั้นคือใคร ถ้าไม่เชื่อลองถามเค้าดูสิ ว่าจริงมั้ย อุ๊บส์ส์.... !

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
  หากใครเคยชมภาพยนตร์ไทยของจีทีเอช โดย บริษัท จอกว้าง ฟิล์ม จำกัด เมื่อปีที่แล้ว “หนีตามกาลิเลโอ” หลายคนคงจะประทับใจเรื่องราวและการต่อสู้ ความน่ารักและการใช้ชีวิตของสองสาวไทยที่ตัดสินใจไปเที่ยวและทำงานต่างประเทศ หนึ่งคนไปเพราะอกหัก อีกหนึ่งไปเพราะสอบตก อยากเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมใหม่  แต่สำหรับฉัน “ชาน่า” หนีไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ที่ตัดสินใจบินออกนอกประเทศ ความรู้สึกไม่ได้แตกต่างอะไรไปมากกว่านางเอกของหนังเรื่องนี้นักเลย  สุข เหงา เศร้า คละเคล้ากันไปยิ่งกว่าละครเสียอีก    แต่ชาน่าไม่ใช่นางเอกของเรื่อง แค่เกย์ที่หลายคนรู้จัก บ้างรู้จักฉันดี…
ชาน่า
หลายคนอาจจะเคยสงสัยเหมือนกับชาน่าว่าในสมัยก่อนวิถีชีวิตของเกย์เป็นเยี่ยงไร วันนี้จึงหาคำตอบและเป็นความต้องการทราบส่วนตัวด้วยค่ะ เพราะว่ามีโอกาสได้ดูละครเรื่องสาปภูษา จึงใคร่รู้เยี่ยงนักว่าประวัติความเป็นมาและสังคม กฎระเบียบบ้านเมืองเป็นเช่นใด ข้าใคร่รู้ ณ บัดเดี๋ยวนี้
ชาน่า
  เมื่อช่วงพักร้อนที่ผ่านมา ชาน่าและเพื่อน ๆ ได้พบปะสังสรรค์กันตามประสาเฮฮาปาร์ตี้ เพื่อนๆ ต่างไม่เจอกันมานาน มีทั้งเพื่อนชายจริง หญิงแท้และชาวหลากหลายทางเพศ
ชาน่า
"กระจกจ๋า บอกซาร่าหน่อยนะ ว่าผู้ชายคนเนี้ยะ...ใช่มะ ใช่มะ...." มาแล้ว มาแล้ว มาแล้ว จิ๋ม ซาร่า ท้าสัมผัส... มากับอัลบั้มชุดที่สอง "คนร่วมฝัน"   หากคุณได้ยินเพลงนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าเป็นหญิงจริงหรือหญิงเทียม ไม่ว่าคุณจะมองผู้หญิงคนนี้อย่างไร ชาน่ามองเธอว่า เธอคือผู้ชายที่กลายเป็นผู้หญิงที่น่าค้นหาอีกคน ข้อความจากเพลง “เกินห้ามใจ” ของนักร้องสาวประเภทสองที่ชื่อจิ๋ม ซาร่า หรือชื่อที่ใช้ในวงการ “สุจินต์รัตน์ ประชาไทย” ผู้ชายทั้งแท่งที่ผันตัวเองให้เป็นผู้หญิงทั้งทิ่ม เธอผู้นี้เป็นคนไทยคนแรกที่กล้าไปผ่าตัดแปลงเพศไกลถึงดินแดนเมืองผู้ดี “อังกฤษ”
ชาน่า
  การมองโลกในแง่ร้าย การมีประสบการณ์ที่โหดร้าย หรืออยู่ในสังคมที่แย่ อาจจะทำให้คนในสังคมนั้นมีพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก สังคมที่ไม่มีศีลธรรม สังคมทุนนิยมที่เอาแต่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยช่วยให้คนกลุ่มนั้นมีทัศนคติและพฤติกรรมที่กลุ่มคนดีเค้าไม่ทำกัน วันนี้อยากนำเสนอเหตุการณ์ และ ศัพท์ของเกย์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับสังคมสีม่วงของเรา ถ้าหากหลีกเลี่ยงได้ สังคมเกย์ไทยจะน่าอยู่อีกเยอะเลยล่ะฮ่ะ
ชาน่า
  เกิดเป็นคนมีชื่อเสียง (.... อือ... อันที่จริงทุกคนล้วนมีชื่อเป็นของตัวเองทั้งน้านนน) ก็ลำบากทำอะไรก็เป็นเป้าสายตาของประชาชี จะกิน ดื่ม ขยับซ้ายก็เป็นข่าว ขยับขวาก็มองต่างมุม โดนรุมทำข่าวอีก เรียกได้ว่าสูญเสียความเป็นส่วนตัวมากทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นเครื่องมือของธุรกิจคนขายข่าว ขายเรื่องราวแล้วยังเป็นเหมือนสินค้าตัวหนึ่งทีเดียวฮ่ะ
ชาน่า
การมองโลกในแง่ดี(เกินไป) การทำดี การให้เพื่อคนที่เรารัก เคยรัก อยากรัก สุดท้ายคนนั้นกลายเป็นคนอื่นคนไกล คนไม่รู้จัก บางครั้งมันก็ยากที่จะสาธยายได้ว่า สิ่งที่เราทำไปนั้นมันเป็นไปทางทิศไหน หรือกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ สะกดคำว่า ... สายเกินไป “โดน” กับตัวเองแล้วล่ะ
ชาน่า
  เคยคิดอยากเขียนนิยาย ที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงเหมือนกัน แต่ฝีมือการเขียนยังไม่เข้าขั้น และที่สำคัญเวลายังไม่เอื้ออำนวย เพราะต้องทำงานเป็นนางแบกโกอินเตอร์ ทำงานทุกวันฮ่ะ (นางแบก คือทำงานอาชีพแบกถาด บนเรือสำราญเจ้าค่ะ) สัปดาห์นี้อยากเขียนเรื่องจริงจากประสบการณ์ของชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของชาน่า ที่เค้ากล้าเผยความเป็นเกย์ต่อครอบครัว ความจริงมันไม่เป็นเพียงแค่ความกล้า หากแต่เป็นสถานการณ์พาไป และอยากให้รับรู้ ยามเมื่อถึงเวลา เนื้อเรื่องและเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงจากครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนครอบครัวหนึ่ง เรียบเรียงโดยชาน่า ล้านนา ค่ะ
ชาน่า
ปีใหม่ก้าวผ่านมาตามวันเวลาของปฎิทิน ที่ถูกกำหนดไว้ วันเดือนปี (ใหม่) เป็นแค่กาลเวลาที่คนเรากำหนด นับจากวันที่ผมลืมตาดูโลก จนถึงวันนี้ วัน เวลา และปีเป็นสิ่งที่กำหนดอายุของคนเรา ใช่มันผ่านไปแล้ว ...ผ่านไปเข้าสู่วัยกลางคน ของคน ๆ หนึ่งที่ยืนหยัดอยู่บนโลกที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปใบนี้ มีหลายสิ่งที่ดีเข้ามา มีหลายคราที่รู้สึกแย่ หลากอารมณ์ที่ตัวเองสัมผัสได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ค้นพบและรับรู้อยู่เสมอคือ... ความเป็นตัวตนที่แท้จริงภายใต้จิตสำนึก  
ชาน่า
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการรณรงค์ การกระทำที่ไม่รุนแรงต่อเพศหญิง แต่น้อยคนนักจะเข้าใจและเห็นด้วยกับการที่ได้ทราบข่าว การกระทำรุนแรงต่อเพศพิเศษนั่นคือเกย์ หรือกะเทย ที่เกี่ยวข้องกับผองเพื่อนชาวเรา ชาน่าได้อ่านจดหมายฉบับหนึ่งที่ส่งถึงเว็บเกย์โรมีโอ (เว็บไซต์สังคมเกย์ที่ขึ้นชื่อของโลก) โดยคนที่เขียนมาเล่าเป็นเกย์ ที่ออกค่ายอาสากับหมอ เกี่ยวกับโรคเอดส์ ซึ่งมีโอกาสได้ไปหลายประเทศต่าง ๆ ขอแปลจดหมายฉบับนี้เพื่อผู้อ่านค่ะ
ชาน่า
ชาน่าชอบอ่านทุกอย่างที่ขวางหน้าถ้าหากมีเวลา แต่ถ้าไม่มีเวลามากนักก็เลือกบางเรื่อง ที่สนใจและเกี่ยวข้อง อย่างเรื่องฮา ฮา แม้บางครั้งบอกกับตัวเองว่า “ไร้สาระน่าดู...” แต่ลึก ๆ แล้วเนื้อหาบางส่วนอาจจะให้ความบันเทิงแบบไม่ต้องคิดอะไรมากอย่างเสียไม่ได้ ลองอ่านเรื่องราวที่ชาน่าเรียบเรียงโดยได้พล๊อตเรื่องจาก เมล์ส่งต่อ แต่แต่งเติมเป็นภาษาง่าย ๆ ของชาน่านะฮะ (ดั่งเพื่อนหลายคนตั้งฉายาให้ว่า ชาน่า ปั้นน้ำเป็นตัวจนแข็ง....) ... ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม น้อง ๆ อายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่อนุญาตให้อ่านนะคะ เป็นคอลัมน์เรต ฉ. เด็กควรอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองด้วยค่ะ
ชาน่า
  ชีวิตความรักของเกย์น่ะหรือ... หลายคนผลักดัน ยิ่งดันยิ่งดัก ยิ่งผลักเหมือนยิ่งแบกโลก เคยมีเพื่อนของชาน่าหลายคน บอกว่า ... “ฉันเชื่อเรื่องความรักของเกย์ ...ว่าคือรักนิรันดร์” แต่ “ฉัน” กลับขอค้าน ที่ค้านในที่นี้คือ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล คนที่เชื่ออย่างนั้นหนึ่งในนั้นคือ “ฉันเอง” ชาน่า