เมื่อช่วงพักร้อนที่ผ่านมา ชาน่าและเพื่อน ๆ ได้พบปะสังสรรค์กันตามประสาเฮฮาปาร์ตี้ เพื่อนๆ ต่างไม่เจอกันมานาน มีทั้งเพื่อนชายจริง หญิงแท้และชาวหลากหลายทางเพศ
หลังปาร์ตี้เลิก ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนหญิง จึงอาสาขับรถไปส่งแถวลาดพร้าว-รามคำแหง พร้อมกับเพื่อนเกย์ที่มาพักร้อนเหมือนกัน เวลาผ่านไปสองยาม ถนนสายลาดพร้าวไม่ติดเหมือนเวลากลางวัน ชาน่าขับรถฟังเพลงอย่างสบายใจ และเม้าท์มอยไปกับเพื่อนอีกคน ปกติเป็นคนที่ขับรถไม่เร็วเพราะชีวิตไม่ได้รีบร้อนไปไหน แม้ลายมือตัวเองจะเป็นเส้นผ่าตัด ขณะที่วิ่งไปบนถนนสายลาดพร้าวสู่พหลโยธิน ก็มีน้องหมาวิ่งตัดหน้ารถอย่างกระทันหัน ถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจ จะเหยียบมันให้ตายหรือหลบให้อภัยมัน เสียงดังโครม เหมือนวัตถุกระแทกโตโยต้า ยาริส ในใจตอนนั้นคิดว่ารถพังแน่แท้ บังโคลนหน้าคงไม่เหลืออะไร แสงไฟตามถนนส่องพอให้เห็นว่าน้องหมาตัวนั้นยังรอดพร้อมกับหันมามองหน้าอย่างงง ๆ ชาน่าใจตกไปอยู่ตาตุ่ม คุมสติแทบไม่ได้ เพื่อนจึงบอกว่างั้นเราไปนั่งพักที่สวนให้สบายใจก่อนกลับห้อง ด้วยความโชคดีบังโคลนแค่ถูกกระแทกไม่เป็นอะไรมากมาย
ขับรถแวะไปพักที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งแถวรัชโยธิน ซึ่งลือชื่อว่าเป็นแหล่งครูซซิ่ง (แหล่งหาเหยื่อของชาวเรา) ชาน่าก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปอย่างเต็มที่ แต่ด้วยความที่เพื่อนชวนและอยากจะพักสงบสติอารมณ์ จึงปล่อยตัวไปอยู่ท่ามกลางสวนสาธารณะในยามค่ำคืน แม้จะเป็นช่วงดึกสงัดยามวิกาลเยี่ยงนั้น แต่ผู้คนยังเดินกันขวักไขว่ บ้างแต่งตัวบอกยี่ห้อว่า “เกย์ร้อยเมตร” บ้างก็ใส่ชุดธรรมดา บางคนยิ่งร้าย (คิดได้ไง) แต่งชุดออกกำลังกาย (เหมือนกับว่าวิ่งจ๊อกกิ้งยามวิกาล)
ชาน่านั่งกับเพื่อนพร้อมกับมองเห็นเด็กหนุ่มรูปงาม ไม่รู้จักนาม ได้แต่แอบมอง จ้องกันมาจ้องกันไป ในใจก็อยากจะเข้าไปทักเค้าก่อน แต่นึกอีกทีก็ดูเหมือนไม่งาม (เข้าใจว่าตัวเองสวยเลือกได้ เรื่องอะไรจะไปทักผู้ชายก่อน) แต่ผู้ชายคนนั้นก็หยิ่งเหลือเกิน มีคนเข้าไปทักและคุยหลายคน เค้าก็ไม่สนใจใคร จนเวลาผ่านไปสักระยะ เพื่อนของชาน่าจึงยุให้เกิดต่อมกล้า โดยเพื่อนเป็นหน้าม้าไปทักเค้าก่อน เค้าจึงเข้ามาคุยด้วย (เรื่องแรงและช่างกล้าต้องมอบโล่ห์ให้เพื่อนคนนี้) ในขณะนั้นเราเริ่มคุยถามความเป็นมา
“ผมทำงานเรือสำราญ”
“จริงเหรอ... ผมเคยอ่านหนังสือของพี่คนหนึ่งเค้าทำงานเรือสำราญ เพื่อนเอาหนังสือมาให้อ่าน เค้าเป็นเกย์แต่ไม่แสดงออก”
“อ้าวเหรอ... เค้าชื่ออะไรอ่ะ”
“ฮาน่า อีกัวหน้าอะไรไม่รู้ น่า ๆ นี่หล่ะ ชื่อจำยากครับ”
ชาน่ายิ้มปริ่มอยู่ในใจ คนที่กล่าวถึงนั้นก็คือฉันนี่หล่ะ แต่เรื่องอะไรจะเปิดเผยตัวจริง รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น ชาน่าออกหากินผู้ชายกลางดึกสงัดในสวนสาธารณะ
ทันใดนั้นมีกลุ่มชายวัยรุ่นกวนเมืองเข้ามากระชั้นชิดพร้อมถามว่า
“พี่ขอตังค์หน่อยเด่ะ..”
ตอนนั้นชาน่าเริ่มอกสั่นขวัญผวาซ้ำซ้อนอีกรอบ หลังจากหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาเพิ่งตกใจกับน้องหมาที่วิ่งตัดหน้ารถแทบจะเหยียบเบรกกระจาย ชนกระจุย
“ไม่มีหรอก ใครเค้าจะเอาเงินมาเที่ยวอย่างงี้” เสียงของหนุ่มน้อยรูปงามที่เพิ่งรู้จัก
“จะให้ดีๆ หรือว่าให้กูสั่งสอน กูบอกว่าขอตังค์ใช้หน่อยไม่มีรึไง”
“อื่อมมม.....” ชาน่าเริ่มสั่นเป็นเจ้าเข้าทรงแต่ยังคงทำสีหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น (เนียนเชียวฮ่ะแต่หัวใจแทบจะวายตาย)
“บอกว่าไม่มีก็ไม่มีสิ” เสียงที่เข้มแข็ง หน้าหล่อเข้ม ร่างกายกำยำของหนุ่มน้อยพูดออกมาอย่างมีอำนาจ จนทำให้กลุ่มเด็กกวนเมืองสามสี่คนถอยไป ความรู้สึกของชาน่าตอนนั้นเหมือนมีใครสักคนเข้ามาปกป้องลูกนกที่หนาวเหน็บเปียกปอนสั่นอย่างไร้สติ เพราะใครจะรู้ว่าชาน่าเพิ่งกดเงินออกมาและติดอยู่ในกระเป๋าตังค์เกือบหมื่น แม้ปกติตัวเองจะไม่ค่อยพกเงินสด แต่ก็ไม่คิดว่านาทีนั้นจะต้องไปนั่งกินลม ชมวิวเล่นยามดึกสงัดในสวนสาธารณะกลางกรุงที่มีแต่เสือสิงห์กระทิงแรด พร้อมจะเขมือบจิกกัดได้ทุกเวลา ส่วนเพื่อนเกย์อีกคนไม่ต้องพูดถึง รู้แต่ชวนทำนั่นทำนี่แต่ไม่ค่อยหาทางป้องกันแก้ไข กว่าจะรู้อีกทีก็ให้ประสบการณ์จริงสัมผัสถึงเลือดโดยตรง
เราเพิ่งเริ่มทำความรู้จักกัน แต่ต้องมีเบรกโฆษณาเข้ามาแทรกอย่างระทึกขวัญ ตอนนั้นชาน่าและเพื่อน จึงชวนหนุ่มน้อยคนนั้นมาเที่ยวที่ห้องซึ่งเป็นห้องเช่าเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ของเพื่อนคนที่พักร้อนด้วยกัน ในใจก็ยังตะหงิดๆ เพื่อนอยู่ว่า “คิดได้ไง ยังไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าเค้าเลย” แต่เพื่อนก็มั่นใจว่าน้องเค้าออกจะน่ารัก และที่ห้องก็ไม่ได้มีข้าวของราคาแพงอะไรที่พอจะให้น้องรูปหล่อคนนั้นยกของไปได้
เรากลับมาที่ห้องของเพื่อนแถวรางน้ำ นั่งชมวิวทิวทัศน์ของป่าคอนกรีต พร้อมกับทำความรู้จักกันมากขึ้นสำหรับเพื่อนใหม่ น้องชายผู้น่ารัก สุดท้ายเค้าจึงตกลงค้างคืนที่ห้อง คงไม่ต้องเล่าต่อว่าเกิดอะไรขึ้น ... แต่ถ้าไม่เล่าก็เกรงจะเข้าใจผิด
เราไม่ได้ตกลงเรื่องเซ็กส์กันว่ามาที่ห้องแล้วจะต้องเสร็จทุกราย เหมือนเช่นไปเสม็ด (ก็ไม่เสร็จทุกราย) น้องเค้าน่ารักและนิสัยดี พูดกันรู้เรื่อง พอเริ่มนอนเริ่มง่วงกันแล้วเพื่อนของชาน่าก็เริ่มลวนลาม เป็นปูไต่ ไม้เลื้อย แต่น้องเค้าก็ไม่ได้ง่ายเหมือนที่เพื่อนคิด
สรุปแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นในกอไผ่ น้องเค้าบอกว่าขอรู้จักกันก่อนที่จะมีอะไรกันไม่ใช่เห็นปุ๊บร่วมกันปั๊บมันง่ายเกินไปในความคิดของเค้า (ก็แน่ล่ะฮ่ะ เพราะว่าของเค้าดีจริงๆ ขอคอนเฟิร์ม) หลังจากนั้นเราก็เริ่มรู้จักกันมากขึ้น เป็นน้องชายคนสนิทแต่ไม่คิดว่าจะต้องมีอะไรกัน จนวันเวลาผ่านไป ก่อนที่ชาน่าจะบินกลับไปทำงานต่อที่ต่างประเทศ ทราบข่าวจากน้องเค้าบอกว่า “ผมจะบอกพี่ว่า ผมจะไปบวชครับ” จึงได้แต่อนุโมทนาบุญ....
......สามเดือนผ่านไป จากน้องชายกลายเป็นพระที่บวชจำพรรษาอยู่อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ในวันคล้ายวันเกิดของชาน่า พระรูปนี้ส่งข้อความมาสุขสันต์วันคล้ายวันเกิด จากความรู้สึกที่เคยแอบรักและห่วงใยกัน กลายเป็นอีกหนึ่งความรู้สึกที่ดีๆ และร่วมยินดีกับพระที่อยู่ภายใต้ผ้าเหลือง ถือศีลครองธรรมที่น่านับถือยิ่ง
อยากขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันทำให้เราเรียนรู้อะไรหลายอย่างที่มากกว่าคาดหวังบางเรื่องเพียงอย่างเดียว...