หากใครเคยชมภาพยนตร์ไทยของจีทีเอช โดย บริษัท จอกว้าง ฟิล์ม จำกัด เมื่อปีที่แล้ว “หนีตามกาลิเลโอ” หลายคนคงจะประทับใจเรื่องราวและการต่อสู้ ความน่ารักและการใช้ชีวิตของสองสาวไทยที่ตัดสินใจไปเที่ยวและทำงานต่างประเทศ หนึ่งคนไปเพราะอกหัก อีกหนึ่งไปเพราะสอบตก อยากเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมใหม่ แต่สำหรับฉัน “ชาน่า” หนีไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ที่ตัดสินใจบินออกนอกประเทศ ความรู้สึกไม่ได้แตกต่างอะไรไปมากกว่านางเอกของหนังเรื่องนี้นักเลย สุข เหงา เศร้า คละเคล้ากันไปยิ่งกว่าละครเสียอีก แต่ชาน่าไม่ใช่นางเอกของเรื่อง แค่เกย์ที่หลายคนรู้จัก บ้างรู้จักฉันดี บ้างแค่ผ่านมาแล้วผ่านไป เส้นทางของหนังหลายเมืองใหญ่ดัง ๆ ระดับโลก ฉันเคยไปเหยียบมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นลอนดอน ปารีส โรม อิตาลี่ ฟลอเรนซ์ แต่การเดินทางของฉัน เคลื่อนไปกับเรือสำราญลำใหญ่ที่จุคนมากกว่าสี่พันชีวิตต่อครั้ง ทั้งผู้โดยสารสามพันกว่า และลูกเรืออีกพันสองร้อยชีวิต จากนานาประเทศ
หนีตามชาน่า เกี่ยวอะไรกับชีวิตของเกย์ เกี่ยวฮ่ะ เกี่ยวข้องมาก ๆ บทบาทหนึ่งของเกย์ไทยในต่างแดน สมัยก่อนตอนเป็นเด็กชายที่อยู่บ้านนอก ณ บ้านชายเรียง... อุ๊บส์ ไม่ใช่ฮ่ะ บ้านเชียงราย เคยอ่านแมกกาซีนเล่มหนึ่งเค้าเขียนถึงกะเทยไทยในต่างแดน อ่านไปหัวใจเต้นรัวยังกะจังหวะกลองสบัดชัย ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งคือวันของเรา การใช้ชีวิตของชาน่า ตามเมืองต่าง ๆ ของการเดินทาง ไม่ว่าจะตามเส้นทางบ้านเกิดของกาลิเลโอ หรือใครต่อใครก็ตาม มันเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมได้ว่า “นี่คือชีวิตของฉัน ชาน่าเกย์ไทยในต่างแดน”
บ่อยครั้งที่ออกไปใช้ชีวิตของนอก (นอกโลก นอกความเป็นไทย) คนเดียว ประทับใจทุกครั้งไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทั้งดีและน่าอับอายขายหน้า แต่มันก็คือรสชาติของชีวิตที่ไม่ได้มาจากห้องเรียนจริง ๆ เคยคิดอยากเรียนต่อปริญญาโท แต่ทุกวันนี้ก็เรียนเหมือนกัน “เรียนการใช้ชีวิตให้เป็นคน” ครั้งหนึ่งที่ไปเที่ยวหอเอนเมืองปิซ่า ซึ่งเรือจอดเมืองที่ห่างไกล ประมาณเกือบชั่วโมง ด้วยความประหยัด เพราะค่าแท็กซี่ก็แพงหูฉีก เราจึงไปที่นั่นด้วยการนั่งรถไฟ ไปต่อรถเมล์ถึงสถานีปลายทาง การเดินทางไปประเทศที่สื่อสารกันต่างภาษาเป็นสิ่งที่ท้าทายสุด ๆ เราต้องพูดประกอบจินตลีลาท่าทาง กว่าจะเข้าใจกันได้ แผนที่แทบฉีกขาดไปข้าง พอไปถึงแล้วจึงรู้สึก... “ฉันมาละนะ คุณกาลิเลโอ” อันที่จริงหอเอนเมืองปิซ่า เคยไปหลายครั้ง ทั้งกับทัวร์ผู้โดยสาร (ไปฟรีเพราะใช้สิทธิ์ Escort Tour นำผู้โดยสารไปเที่ยว) ไปกับเพื่อนชายคนหนึ่งที่เราปลื้มเขา และได้รู้จักกันมากขึ้นเพราะการไปเที่ยวครั้งนั้น นึกถึงทีไรแล้วสุขใจทุกครั้ง แม้เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันหรือเป็นคนรักกันก็ตาม เพราะเค้าเป็นผู้ชายจริง ๆ ชายทั้งแท่งที่ให้เกียรติกับเกย์ชาน่าเป็นอย่างมาก เราจึงยากที่จะทำลายเค้าและครอบครัว (ใจจริงคือไม่อยากตกอยู่ในตำแหน่งเมียน้อยหรือแย่งผัวชาวบ้านเค้ามาทานฮ่ะ) ...ได้แค่นี้ก็พอล่ะฮ่ะ
เวนิส...เมืองที่แสนโรแมนติกของฉัน แต่บ่อยครั้งที่ฉันไปเดินเล่นอยู่ St.Marco หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า St.Mark บางครั้งฉันเข้างานเที่ยงวัน นั่งรับโทรศัพท์ การออกไปใช้ชีวิตกลางคืน จึงเป็นเรื่องปกติของฉัน เพราะมั่นใจว่า มันไม่ได้น่ากลัว หรืออันตรายอะไร เป็นเมืองที่สงบ บางครั้งฉันไปฟังเพลง ดื่มกาแฟ นั่งดูเดือนดูดาว คิดถึงบ้าน (คนเดียว) บางทีก็มีชายหน้าแปลก แปลกหน้าเข้ามาทักเข้ามาเพื่อต้องการกิจบางอย่าง บางครั้งฉันก็... มีเพื่อนใหม่ ตามประสาของเกย์ทั่วไป เพราะชีวิตจริงของฉัน “ชาน่า” ก็ไม่ใช่นางเอกและนางฟ้าเสมอไป เพื่อนบางคนนินทาฉันว่าชาน่า หน้าชานะหรือ... โสเภณีชัด ๆ ... ฉันได้ยินจากปากของเพื่อนคนอื่นเล่าให้ฟัง ฉันก็หาได้โกรธเคือง หรือขุ่นใจ ตีอกชกตัว ปวดหัวร่ำไห้ เพราะฉันหาได้แคร์ไม่ พร้อมกับบอกเค้าว่า “ฉันน่ะไม่ใช่โสเภณี เพราะน้องโสเค้าทำเพื่อเงิน ไม่มีโอกาสเลือก” แต่สำหรับฉัน ชีวิตของเกย์คนหนึ่งที่ไม่มีลูก มีผัว ฉันมีสิทธิ์ทำได้ตามใจฉัน และฉันรู้จักเลือก ไม่ได้ทำเพื่อเงินและไม่ได้บริการทางเพศ แม้บางครั้งจะมีความสัมพันธ์ทางเพศกับใครสักคนที่ฉันพอใจ ฉันทำได้ไม่ใช่หรือ
การแสดงตัวตนของตัวเองในต่างแดน นั้นแสนง่าย แค่ทำตามกฎหมายบ้านเมืองขั้นพื้นฐานของเค้า ส่วนเรื่องส่วนตัวใครจะเป็นยังไง ทำอะไร เค้าไม่แคร์กัน เคยเห็นชาวต่างชาติอายุปาเข้าไปแปดสิบ ใส่เสื้อลายแดงแจ๊ส รองเท้าขาวเหมือนสาวซำน้อย แต่งตัวแนวยิ่งกว่าวัยรุ่น เค้าหาได้สนใจใครไม่ บางทีคนไทย ทำอะไรชอบแคร์คนอื่นจนลืมไปว่า สิ่งที่เราทำนั้นมันไม่ผิด แต่ทำจากใจที่เรารักและชอบ
ออกไปเดินเล่นกับเพื่อนสาว ไปเดินแฟชั่น แคทวอร์ก ด๊อกไม่เวิร์ค เม้าท์กันอย่างสนุกสนานฉันก็ทำมาแล้ว
ออกไปเดินเมืองแฟชั่นไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส อิตาลี่ โมนาโค อังกฤษ ความคิดของใครหลายคน ที่เป็นสาวกของแบรนด์เนมทั้งหลาย อย่างทุ้ย ติ๊งต๊อง ราคาเท่าไหร่สรรหาพาไปซื้อ แต่สำหรับฉันแล้ว บอกได้คำเดียวว่า “เชิดใส่” ขอแค่ได้กางเกงแม้ว หมวกแม้ว เสื้อยืดของไทย แต่งสไตล์ติสต์แตก แค่นี้ก็สุขใจ จนหลายคนหันหลังมามอง บ้างยิ่งกล้าเข้ามาทัก ขอถ่ายรูปด้วย ถามที่มาที่ไปของชุดการแต่งกาย สิ่งดีๆ ฉันบอกเสมอว่า “ของไทยครับเพ่”
แต่ก็มีบางครั้งที่จำเป็นต้องบอกเค้าไปว่า ฉันมาจาก...(ประเทศอื่นที่ไม่ใช่ไทย) เพียงเพราะไม่อยากเอาชื่อประเทศไปขาย อย่างเช่น การไปเที่ยวในสถานที่ไม่เหมาะสมกับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี หรือแม้กระทั่งไปเที่ยวหาดเปลือย หรือแหล่งครูซซิ่ง (แหล่งเกย์นัดพบ)
ข้อดีของการอยู่เมืองนอกคือ ทำไปเหอะ ...ไม่มีใครรู้จัก (อย่างนี้เค้าเรียกว่า ไม่สวยแถมไม่แคร์สื่อก็น่าจะได้) ตราบใดสิ่งที่เรานั้นไม่เดือดร้อนกับคนอื่นและตัวเอง
ชีวิตเกย์เดินทางอย่างฉัน วันนี้อยู่อีกประเทศ พรุ่งนี้เข้าอีกเมือง มะรืนยืนอยู่อีกประเทศ หมุนเวียนเปลี่ยนไป โอกาส และหลายสิ่งหลายอย่างจึงไม่หยุดยั้งอยู่กับที่ เหมือนความฝันและความทะยานสู่โลกกว้างอย่างไม่หยุดยั้ง แต่ตอนนี้อยู่ฟลอริด้า และทะเลแคริบเบี้ยน ต้องขอบอกว่า ร้อน ร้อน ร้อน รอคอยวันที่จะกลับไปยุโรปอีกแค่เดือนเดียว
คงมีเรื่องราวจากชาวเกย์ต่างแดนมาเม้าท์มอยกันมากกว่านี้นะฮะ
ใครอยากจะหนีตาม...เกย์ชาน่า เข้ามาบ่อย ๆ พบกันตลอดได้ที่นี่
ประชาไท พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์ โดย ชาน่า พร้อมเสิร์ฟท่านเสมอ ... จากใจ
คุณพร้อมรึยัง...?