Skip to main content

กลับมาตามหัวใจเรียกร้องอีกครั้งหลังจากพักร้อนเมืองไทย  กลับไปอ่านหนังสือของสาวสองเภท หรือสาวประเภทสองที่บุกตลาดเมืองไทยตามแผงหนังสือชั้นนำทั่วไป  อดไม่ไหวจึงขอหยิบมาฝากแนะนำเผื่อใครสนใจอยากอ่านเรื่องราวหลากหลาย มากมายมุมมอง สามารถอ่านได้จากหนังสือที่สาว ๆ เธอเขียนถ่ายทอดเพื่อเป็นสื่อสร้างสรรค์ผ่านตัวหนังสือ มีเล่มไหน ยังไงบ้างนั่งปูเสื่ออ่านได้ค่ะ

เกริ่นนำส่วนตัวก่อนว่า  สมัยก่อนตอนอยู่นอกเมือง ไม่ใช่เมืองนอก (บ้านนอก) เคยอ่านนิตยสารเล่มหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเป็นสกุลไทย หรือขวัญเรือน  มีคอลัมน์ที่เค้าเขียนถึง “กะเทยไทยในต่างแดน” ตอนนั้นยังเป็นเด็กชาย อีแอบ ไม่แสดงออก ต้องแอบเอาไปอ่านคนเดียวด้วยหัวใจสั่นระรัว กลัวมีใครมาจับได้ว่าอ่านเรื่องราวของกะเทย เดี๋ยวความลับแตก นึกทีไรก็ขำทุกที

มาวันนี้ เมื่อโลกเปลี่ยนไป อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไปได้เสมอ จึงกล้าที่จะขอพูดถึงตลาพ็อกเก็ตบุ๊คคึกคัก เมื่อสาวงาม (ประเภทสอง) ตบเท้ากันมาประชันลงหน้าปก และเขียนหนังสือ  วางแผงตามร้านทั่วไทยให้อ่านกันอย่างหนำใจฮ่ะ

1

เริ่มต้นด้วยสองเล่มล่าสุดวางแผงร้อนฉ่าตอนนี้ (คำว่า “ร้อนฉ่า”หนังสือพิมพ์บางเล่มเค้าบอก  หุหุ)  คือ  “เม้าท์แตก...ชาวเรา”  จีบปากจีบคอโดยอิชั้นเองฮ่ะ  "ชาน่า"  จากเมื่อก่อนแค่อ่านคอลัมน์เกย์ก็ต้องหลบๆ ซ่อน ๆ เหมือนไปลักขโมยใครกินซะงั้นหละ ใครจะรู้ว่า วันหนึ่งจับพลัดจับผลูหยิบปากกามาจิกเขียนเรื่องเกย์ กะเทยซะเอง  มิหนำซ้ำยังกล้าเอาใบหน้าที่งาม (หน้า) มาลงปก ไม่สวยไม่เริ่ดแต่เชิดไว้ก่อน  เล่มนี้เป็นเรื่องราวที่นำมารวมเล่มจากเว็บข่าวประชาไท กับคอลัมน์ “พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์”  เนื้อเรื่องสะท้อนเรื่องราวหลากหลายมุมมองของเกย์ไทยและเกย์ต่างแดน ไลฟ์สไตล์วิถีเกย์กล้าแสนฮา สุดขำ แสบสันต์ หรือเศร้าน้ำเน่าเอาเรื่องหลากหลายสาระและความมันบนพื้นฐานของชีวิตจริงที่ต้องเกี่ยวข้องกับชายจริงหญิงแท้  อ่านได้ไม่จำกัดเพศ

2

อีกเล่มที่ร้อนระอุ วางแผงไล่ล่ากัน เรื่อง "Helen แฉความลับดารา"  จัดจ้านได้ใจ เน้นแฉ ดารา คนในวงการมายา ฉีกหน้ากันเห็น ๆ โดย เฮเลน คนในวงการเบื้องหลังม่านมายาถือว่า ดุ เด็ด เผ็ด มัน ไม่แพ้กัน ใครที่ชอบติดขอบดาราคนโปรดคนไหน ติดตามอ่านได้เบื้องลึกเบื้องหลังใครเป็นยังไง ควักใส้ให้รู้กันถ้วนหน้า  เธอเข้าใจโผล่มาช่วง เรื่องฮอตร้อนร้าวของรักสามเศร้าน้ำเน่าอย่างดารา "เราสามคน" เป็นทอร์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ของคนเสพวงการบันเทิงหลายราย

3

ก่อนหน้านี้มีอีกหลายเล่มที่แรงพร้อมสาระ ถ่ายทอดจากเรื่องราวและประสบการณ์ที่น่าจับตามอง เริ่มที่เล่มแรกของกะเทยผู้ปลอมแปลงบัตร จากนายเป็นนางสาวเพื่อสิทธิหน้าที่คนหนึ่งที่มีใจรัก   ฉันอยากเป็นหญิง  อยากเข้าประกวดนางงาม  เธอตั้งชื่อหนังสือว่า  "กะเท๊ย  กะเทย"  โดย นก ยลดา โคมกลอง  ดีกรี มิสอัลคาซ่าร์ ปี 2005  และปัจจุบันเป็นนักศึกษาปริญญาเอก   เล่มนี้นก เธอทั้งเขียนและพิมพ์เอง  จัดจำหน่ายเองจนได้รับการตอบรับอย่างถ้วมท้น   

ส่วน “กะเทย No.1” ของ “ป๊อบ ไฮโซ” หรือ“เกรียงศักดิ์ ศิริชาติไชย” เขียนตีแผ่ชีวิตตามสไตล์ ไฮโซของเธอ นำเสนอเรื่องราวความดังต่อสังคม นี่หละตัวตนที่แท้จริงของคนในวงการไฮโซ อย่างป๊อบ  ใครอยากรู้ว่าทำไมถึงได้ตำแหน่ง กะเทยหมายเลขหนึ่งลองอ่านดูค่ะ

 

ด้านเจ๊เดย์ “เดชาวุฒิ ฉันทากะโร” ก็ไม่ยอมน้อยหน้าฉีกม่านนางโชว์โผล่เป็นพ็อกเก็ตบุ๊ค เมื่อก่อนฉายา  "เดย์ฟรีแมน"  เกย์กะเทยคนไหนไม่รู้จักถือว่า ยังไม่ถึงเจ้าสำนักอย่างแท้จริง เธอผลิตผลงานผ่านตัวหนังสือ “วันเดย์โชว์”  ล้วงลึกวงการชีวิตนางโชว์อาชีพที่เธอเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริง ๆ เล้ย แล้วคุณจะรู้ว่า ทำไมเธอถึงได้ฉายา นางโชว์เบอร์หนึ่งของไทย  ใครที่คิดถึงเธอหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านรับรองจะไม่ผิดหวัง เบื้องหน้าและเบื้องหลังของ ดรีมเกิร์ล  อุ๊ย ไม่ใช่สิ ดรีมเกย์นางโชว์เมืองไทย

อีกเล่มเกี่ยวกับวิถีชีวีของ นางฟ้านิกกี้-กีรนันท์ สุวัณสิงห์ ส่งหนังสือเรื่อง  “น้ำตานางฟ้า”  มาวางแผงปีนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้เธอเคยเขียนเล่มแรก  เรื่อง  “ผมเป็นแอร์โฮสเตสครับ” ซึ่งรวมเรื่องราวของเธอผู้ซึ่งเป็นแอร์โฮสเตสสาวประเภทสองคนแรก   การกลับมาเล่มสองของเธอนั้นกรองเรื่องจริงทุกตัวอักษร ที่มาจากหัวใจที่ปวดร้าวและหยดน้ำตา ว่าทำไมแย่งสามีของชาวบ้านไปครอง จนถูกตราหน้าว่าเป็นเมียน้อยและกลายโศกนาฏกรรมของความรัก

4

นอกจากนี้ “แซนดี้-เซ็น ดอกแสง” กลั้นไว้ไม่ไหว  สั่งสมประสบการณ์แสบๆ คันๆ มันๆ จี๊ดจ๊าดจาก ต่างแดน มานำเสนอเป็นพ็อกเกตบุ๊กชื่อ “กะเทยไทยแลนด์ แซนดี้ แซ่บ! แซ่บ!” โปรยหน้าปกว่า เปลือยชีวิตสุดแซ่บของกะเทยไทยหัวใจชะนีที่ถีบตัวเองจากจุดต่ำสุดกู่แล้วก็ขึ้นสู่จุดสมหวัง พร้อมเผยนาทีชีวิตที่รับอาชีพ น้องโส (โสเภณี)ในต่างแดน สุดแสนบัดซบขมขื่นเกินบรรยาย อ่านง่ายได้ข้อคิดเป็นอุทาหรณ์สอนใจสาวเทียม หรือใครที่เกี่ยวข้องได้อย่างดีทีเดียว

เรียกได้ว่าหลายเล่มที่คุณจะวางไม่ลง  ที่กล่าวมายังไม่รวมเรื่องราวที่นักเขียนหลายท่านปั่นงานเขียนพ็อกเก็ตบุ๊ค เกี่ยวกับสาวประเภทสอง ไม่ว่าจะเป็นหญิงจริงหญิงเก่งอย่าง คุณอิ๋ง อิ๋ง ที่ตีแผ่เรื่องราวของเธอเกี่ยวกับความรักสุดเศร้ากับเขาที่เป็นเกย์เมื่อปีก่อน ๆ  หรือ อีกเล่มเขียนโดยคุณวารุณี แสงกาญจนวนิช  "ตัดทิ้ง" ชีวิตจริงของสาวประเภทสอง ที่เขียนจากสารคดีตีแผ่สาวประเภทสอง ซึ่งกลับก็ไม่ได้ ไปก็ไม่ถึง

ที่แนะนำวันนี้หาได้รวมถึง หนังสือเกย์ อีแอบ เก็กชงอีกมากมายไว้คราวหน้าจะนำมาแนะนำกันฮ่ะ

ชาน่าเชื่อว่ากว่าจะเป็นพ็อกเก็ตบุ๊ค รวมเล่มเป็นรูปร่างขึ้นมา  นักเขียนทุกท่านแทบจะใช้ช่วงชีวิต  เกือบทั้งชีวิตหรือส่วนหนึ่งของเค้าถ่ายทอดเพื่อให้ผู้อ่านทุกท่านได้สาระและบันเทิงจากการอ่าน  หากพอจะเป็นข้อคิด สาระและอะไรหลายอย่างที่ผู้อ่านได้จากเล่มหนึ่งนั้น ชาน่าเชื่อว่านักเขียนเค้าก็บรรลุวัตถุประสงค์แล้วล่ะค่ะ

ใครชอบอ่านเล่มไหน  แนว (กะเทย) ใด ไปหาตามแผงหนังสือได้  อ่านแล้วได้ความยังไงส่งเมล์มาคุยกันบ้างนะคะ

พบกันสัปดาห์หน้าค่ะ  ขอบคุณจ๊าดนักเจ้า

ชาน่า  (บ้างเข้าใจอ่านว่า  หน้าชา  (ฮา ฮา)... )
เขียนจาก  เมือง  Nasau  ประเทศ Bahamas

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
  หากใครเคยชมภาพยนตร์ไทยของจีทีเอช โดย บริษัท จอกว้าง ฟิล์ม จำกัด เมื่อปีที่แล้ว “หนีตามกาลิเลโอ” หลายคนคงจะประทับใจเรื่องราวและการต่อสู้ ความน่ารักและการใช้ชีวิตของสองสาวไทยที่ตัดสินใจไปเที่ยวและทำงานต่างประเทศ หนึ่งคนไปเพราะอกหัก อีกหนึ่งไปเพราะสอบตก อยากเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมใหม่  แต่สำหรับฉัน “ชาน่า” หนีไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ที่ตัดสินใจบินออกนอกประเทศ ความรู้สึกไม่ได้แตกต่างอะไรไปมากกว่านางเอกของหนังเรื่องนี้นักเลย  สุข เหงา เศร้า คละเคล้ากันไปยิ่งกว่าละครเสียอีก    แต่ชาน่าไม่ใช่นางเอกของเรื่อง แค่เกย์ที่หลายคนรู้จัก บ้างรู้จักฉันดี…
ชาน่า
หลายคนอาจจะเคยสงสัยเหมือนกับชาน่าว่าในสมัยก่อนวิถีชีวิตของเกย์เป็นเยี่ยงไร วันนี้จึงหาคำตอบและเป็นความต้องการทราบส่วนตัวด้วยค่ะ เพราะว่ามีโอกาสได้ดูละครเรื่องสาปภูษา จึงใคร่รู้เยี่ยงนักว่าประวัติความเป็นมาและสังคม กฎระเบียบบ้านเมืองเป็นเช่นใด ข้าใคร่รู้ ณ บัดเดี๋ยวนี้
ชาน่า
  เมื่อช่วงพักร้อนที่ผ่านมา ชาน่าและเพื่อน ๆ ได้พบปะสังสรรค์กันตามประสาเฮฮาปาร์ตี้ เพื่อนๆ ต่างไม่เจอกันมานาน มีทั้งเพื่อนชายจริง หญิงแท้และชาวหลากหลายทางเพศ
ชาน่า
"กระจกจ๋า บอกซาร่าหน่อยนะ ว่าผู้ชายคนเนี้ยะ...ใช่มะ ใช่มะ...." มาแล้ว มาแล้ว มาแล้ว จิ๋ม ซาร่า ท้าสัมผัส... มากับอัลบั้มชุดที่สอง "คนร่วมฝัน"   หากคุณได้ยินเพลงนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าเป็นหญิงจริงหรือหญิงเทียม ไม่ว่าคุณจะมองผู้หญิงคนนี้อย่างไร ชาน่ามองเธอว่า เธอคือผู้ชายที่กลายเป็นผู้หญิงที่น่าค้นหาอีกคน ข้อความจากเพลง “เกินห้ามใจ” ของนักร้องสาวประเภทสองที่ชื่อจิ๋ม ซาร่า หรือชื่อที่ใช้ในวงการ “สุจินต์รัตน์ ประชาไทย” ผู้ชายทั้งแท่งที่ผันตัวเองให้เป็นผู้หญิงทั้งทิ่ม เธอผู้นี้เป็นคนไทยคนแรกที่กล้าไปผ่าตัดแปลงเพศไกลถึงดินแดนเมืองผู้ดี “อังกฤษ”
ชาน่า
  การมองโลกในแง่ร้าย การมีประสบการณ์ที่โหดร้าย หรืออยู่ในสังคมที่แย่ อาจจะทำให้คนในสังคมนั้นมีพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก สังคมที่ไม่มีศีลธรรม สังคมทุนนิยมที่เอาแต่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยช่วยให้คนกลุ่มนั้นมีทัศนคติและพฤติกรรมที่กลุ่มคนดีเค้าไม่ทำกัน วันนี้อยากนำเสนอเหตุการณ์ และ ศัพท์ของเกย์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับสังคมสีม่วงของเรา ถ้าหากหลีกเลี่ยงได้ สังคมเกย์ไทยจะน่าอยู่อีกเยอะเลยล่ะฮ่ะ
ชาน่า
  เกิดเป็นคนมีชื่อเสียง (.... อือ... อันที่จริงทุกคนล้วนมีชื่อเป็นของตัวเองทั้งน้านนน) ก็ลำบากทำอะไรก็เป็นเป้าสายตาของประชาชี จะกิน ดื่ม ขยับซ้ายก็เป็นข่าว ขยับขวาก็มองต่างมุม โดนรุมทำข่าวอีก เรียกได้ว่าสูญเสียความเป็นส่วนตัวมากทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นเครื่องมือของธุรกิจคนขายข่าว ขายเรื่องราวแล้วยังเป็นเหมือนสินค้าตัวหนึ่งทีเดียวฮ่ะ
ชาน่า
การมองโลกในแง่ดี(เกินไป) การทำดี การให้เพื่อคนที่เรารัก เคยรัก อยากรัก สุดท้ายคนนั้นกลายเป็นคนอื่นคนไกล คนไม่รู้จัก บางครั้งมันก็ยากที่จะสาธยายได้ว่า สิ่งที่เราทำไปนั้นมันเป็นไปทางทิศไหน หรือกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ สะกดคำว่า ... สายเกินไป “โดน” กับตัวเองแล้วล่ะ
ชาน่า
  เคยคิดอยากเขียนนิยาย ที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงเหมือนกัน แต่ฝีมือการเขียนยังไม่เข้าขั้น และที่สำคัญเวลายังไม่เอื้ออำนวย เพราะต้องทำงานเป็นนางแบกโกอินเตอร์ ทำงานทุกวันฮ่ะ (นางแบก คือทำงานอาชีพแบกถาด บนเรือสำราญเจ้าค่ะ) สัปดาห์นี้อยากเขียนเรื่องจริงจากประสบการณ์ของชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของชาน่า ที่เค้ากล้าเผยความเป็นเกย์ต่อครอบครัว ความจริงมันไม่เป็นเพียงแค่ความกล้า หากแต่เป็นสถานการณ์พาไป และอยากให้รับรู้ ยามเมื่อถึงเวลา เนื้อเรื่องและเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงจากครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนครอบครัวหนึ่ง เรียบเรียงโดยชาน่า ล้านนา ค่ะ
ชาน่า
ปีใหม่ก้าวผ่านมาตามวันเวลาของปฎิทิน ที่ถูกกำหนดไว้ วันเดือนปี (ใหม่) เป็นแค่กาลเวลาที่คนเรากำหนด นับจากวันที่ผมลืมตาดูโลก จนถึงวันนี้ วัน เวลา และปีเป็นสิ่งที่กำหนดอายุของคนเรา ใช่มันผ่านไปแล้ว ...ผ่านไปเข้าสู่วัยกลางคน ของคน ๆ หนึ่งที่ยืนหยัดอยู่บนโลกที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปใบนี้ มีหลายสิ่งที่ดีเข้ามา มีหลายคราที่รู้สึกแย่ หลากอารมณ์ที่ตัวเองสัมผัสได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ค้นพบและรับรู้อยู่เสมอคือ... ความเป็นตัวตนที่แท้จริงภายใต้จิตสำนึก  
ชาน่า
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการรณรงค์ การกระทำที่ไม่รุนแรงต่อเพศหญิง แต่น้อยคนนักจะเข้าใจและเห็นด้วยกับการที่ได้ทราบข่าว การกระทำรุนแรงต่อเพศพิเศษนั่นคือเกย์ หรือกะเทย ที่เกี่ยวข้องกับผองเพื่อนชาวเรา ชาน่าได้อ่านจดหมายฉบับหนึ่งที่ส่งถึงเว็บเกย์โรมีโอ (เว็บไซต์สังคมเกย์ที่ขึ้นชื่อของโลก) โดยคนที่เขียนมาเล่าเป็นเกย์ ที่ออกค่ายอาสากับหมอ เกี่ยวกับโรคเอดส์ ซึ่งมีโอกาสได้ไปหลายประเทศต่าง ๆ ขอแปลจดหมายฉบับนี้เพื่อผู้อ่านค่ะ
ชาน่า
ชาน่าชอบอ่านทุกอย่างที่ขวางหน้าถ้าหากมีเวลา แต่ถ้าไม่มีเวลามากนักก็เลือกบางเรื่อง ที่สนใจและเกี่ยวข้อง อย่างเรื่องฮา ฮา แม้บางครั้งบอกกับตัวเองว่า “ไร้สาระน่าดู...” แต่ลึก ๆ แล้วเนื้อหาบางส่วนอาจจะให้ความบันเทิงแบบไม่ต้องคิดอะไรมากอย่างเสียไม่ได้ ลองอ่านเรื่องราวที่ชาน่าเรียบเรียงโดยได้พล๊อตเรื่องจาก เมล์ส่งต่อ แต่แต่งเติมเป็นภาษาง่าย ๆ ของชาน่านะฮะ (ดั่งเพื่อนหลายคนตั้งฉายาให้ว่า ชาน่า ปั้นน้ำเป็นตัวจนแข็ง....) ... ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม น้อง ๆ อายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่อนุญาตให้อ่านนะคะ เป็นคอลัมน์เรต ฉ. เด็กควรอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองด้วยค่ะ
ชาน่า
  ชีวิตความรักของเกย์น่ะหรือ... หลายคนผลักดัน ยิ่งดันยิ่งดัก ยิ่งผลักเหมือนยิ่งแบกโลก เคยมีเพื่อนของชาน่าหลายคน บอกว่า ... “ฉันเชื่อเรื่องความรักของเกย์ ...ว่าคือรักนิรันดร์” แต่ “ฉัน” กลับขอค้าน ที่ค้านในที่นี้คือ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล คนที่เชื่ออย่างนั้นหนึ่งในนั้นคือ “ฉันเอง” ชาน่า