Skip to main content

จากรายงานข่าว “ชายชุดดำ”ความจริงจาก คอป. ที่กำลังไล่ล่า “คนเสื้อแดง” ลงใน ผู้จัดการออนไลน์ เมื่อ 22 กันยายน 2555
..
พ.ท.นพสิทธิ์ สิทธิพงศ์โสภณ ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 3 รักษาพระองค์ (ม.พัน.3 รอ.) เกียกกาย (ยศในขณะนั้น)ได้ให้สัมภาษณ์ว่า
.
“มันเป็นสงครามกลางเมืองที่ผมไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นในประเทศไทย และไม่เคยคิดว่าตัวผมจะต้องมาพบเจอ ทหารไม่เคยคิดจะยิงประชาชน ไม่ทำร้ายประชาชน แต่ทหารเราถูกทำร้ายก่อน ถูกยิงระเบิด ถูกยิง เราก็ทำแค่ยิงป้องกันตัว ถ้าทหารเราคิดจะทำประชาชนก็คงจะยิง แล้วก็คงตายกันมากกว่านี้ แต่ทหารเราไม่ทำ เราต้องยอม” 
.

4 กรกฎาคม 2557 สี่ปีเศษหลังเหตุการณ์ ในการไต่สวนการตายของ 'เกรียงไกร คำน้อย' สื่อมติชนรายงานว่า ศาลสั่งคดีชันสูตร′เกรียงไกร ′ตายเพราะเสียเลือดมาก วิถีกระสุนมาจากทหาร

 

ศาลสรุปว่า.....

"10 เมษายน 2553 เวลา 13.30 น. ศอฉ.สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ขอคืนพื้นที่และพื้นผิวการจราจรบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศและบริเวณใกล้เคียง โดยกองพันทหาราบที่ 1 กรมทหาราบที่ 31 รักษาพระองค์(ร.31พัน1รอ.) ประมาณ 300 นาย
.
โดยเจ้าหน้าที่มีอาวุธประจำกายคือโล่ห์ ปืนลูกซองยาว บรรจุกระสุนยาง ปืนเอ็ม 16 ปืนทาโวร์ ซึ่งเป็นอาวุธปืนที่มีความเร็วสูง ผลักดันผู้ชุมนุมไปตามถนนราชดำเนินนอกจากแยกสวนมิสกวัน ผ่านหน้ากระทรวงศึกษาธิการ ไปยังสะพานมัฆวานรังสรรค์ แต่ผู้ชุมนุมไม่พอใจได้ขว้างปาขวดน้ำ สิ่งของ และเหล็ก ใส่เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ทหารจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ผู้ชุมนุม
.
ต่อมาในเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารใช้อาวุธปืนยิงถูกนายเกรียงไกร ที่ยืนอยู่บนทางเท้าข้างกำแพงกระทรวงศึกษาธิการที่หน้าอกและลำตัวจนได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำตัวนายเกรียงไกร ส่งร.พ.วชิรพยาบาล ต่อมานายเกรียงไกรได้เสียชีวิตลงเนื่องจากเสียเลือดมาก ในวันที่ 11 เมษายน 2553 เนื่องจากหลอดเลือดใหญ่บริเวณอุ้งเชิงกรานฉีกขาดจากกระสุนความเร็วสูงที่ยิงมาจากทางเจ้าหน้าที่ทหาร


ปัจจุบัน นพสิทธิ์ สิทธิพงศ์โสภณ มียศพันเอก ดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ม.1 รอ. เป็นเรี่ยวแรงหลักในการยึดอำนาจ 22 พฤษภาคม 2557


ข้อเท็จจริงที่ค่อยๆเผยตัวเองออกมาเมื่อวันเวลาผ่านไปก็คือ


ทหารใช้อาวุธสงครามยิงเข้าใส่ผู้ชุมนุมตั้งแต่ในช่วงบ่ายของวันที่1o เมษายน 2553 จนเป็นเหตุให้ เมื่อเวลา 15.30น. เกรียงไกร คำน้อย หนุ่มชาวร้อยเอ็ด อาชีพขับสามล้อเครื่องรับจ้าง ต้องบาดเจ็บและเสียชีวิตลงจากกระสุนปืนของ จนท.ทหาร ก่อนที่จะเกิดความรุนแรงที่สี่แยกคอกวัวและสตรีวิทย์ในคืนวันเดียวกัน

การอ้างของรัฐบาลอภิสิทธิ์ และจาก สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. เรื่องลำดับขั้นตอนการสลายการชุมนุมจากเบาไปหาหนัก จึงเป็นความเท็จ!

ดังนั้นแล้วแทนที่ที่นายทหารจาก คณะรัฐประหาร คสช. จะประกาศปาวๆว่าจะคืนความสุขให้ประชาชน สิ่งที่พวกเขาควรต้องทำอย่างแรกก็คือ พวกเขาควรจะคืนความจริงให้กับประชาชนก่อน

คำว่า"ไม่มีสัจจะในหมู่โจร" อาจจะต้องผ่านการพิสูจน์ แต่คำว่า"ไม่มีสัจจะในหมู่นายทหาร" นี่สิ ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว 

 

 

บล็อกของ gadfly

gadfly
13 พฤษภาคม 2553 เวลาประมาณสี่ทุ่ม  ชาติชาย ชาเหลา คนขับแท็กซี่ อายุ 25 ปี ถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่ศีรษะ เสียชีวิตคาที่ จากกระสุนปืนไรเฟิลจากทหารยุติชีวิตของเขาลงทันทีขณะที่ในมือของเขายังถือกล้องถ่ายวิดีโออยู่
gadfly
น่าสมเพชและน่าอายแทนทหารไทยที่มีศักยภาพในการใช้ความรุนแรงกับใครก็ได้ในประเทศนี้กลับเลือกที่จะใช้ความรุนแรง และความได้เปรียบทางกฏหมายทำร้ายคนที่อ่อนแอที่สุดกับคนอย่าง 'ตูน'