Skip to main content

เห็นมีเรื่อง พ่อ-ลูก ซึ้งบ้างไม่ซึ้งบ้าง ฮาบ้างไม่ฮาบ้าง คิดถึงคนที่ไม่มีพ่อ หรือคนที่พ่อไม่ค่อยมีดีอะไรให้อวดนัก แล้วเลยไพล่ไปนึกถึงพี่สุรพล จึงขออนุญาตรำลึกถึงความสัมพันธ์ของพ่อลูกคู่หนึ่งที่ผมสามารถทำได้เพียงเฝ้ามอง


ภาพที่ผมเคยเห็นในช่วงเช้าบริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ
 

แทบทุกวันราชการ สุรพล หนุ่มใหญ่มาดเฟี๊ยว อาชีพผู้รับเหมาก่อสร้างวัย53ปี ขี่รถจักรยานยนต์มาจอด แล้วจึงจูง จีจี้ man's best friend เพศเมียวัยสามปีเศษ หมาภูเขาสัญชาติพม่าลงจากจักรยานยนต์ มาเยี่ยม อัครเดช (เค) อดีตนักศึกษาวิศวกรรมวัย 26 ปี ที่ถูกจองจำอยู่ภายใน อัครเดชโดนโทษ 112

แกคุยหลายครั้งว่า จีจี้เป็นหมาที่ดุและพวงเจ้าของมาก ซึ่งมันช่างจะขัดแย้งจากความเป็นจริงทั้งรูปลักษณ์และอุปนิสัยของหมาน้อยที่ผมเจอ ผมรู้สึกเหมือนกับว่า จีี้เป็นลูกอีกคนของแก


จีจี้ ถูกฝากไว้กับครอบครัวของผู้ต้องขังรายอื่นระหว่างที่สุรพลเข้าไปเยี่ยมอัครเดชผู้เป็นลูกชาย

สุรพลเป็นพ่อของอัครเดช อัครเดชติดคุกเนื่องจากไปคอมเมนต์ในประเด็นเรื่อง "พ่อของแผ่นดิน"ในเฟซบุ๊กของคอการเมืองที่เห็นต่าง

ศาลพิพากษาจำคุก 5 ปีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 2 ปี 6 เดือน

สุรพลเคยให้สัมภาษณ์สื่อในกรณีของอัครเดชว่า

"“กำลังใจเขายังดีอยู่และเชื่อมั่นว่าไม่ได้กระทำผิด เขาทะเลาะกับคนในเฟซบุ๊กที่มีความคิดทางการเมืองไม่ตรงกัน และโพสต์ข้อความตั้งคำถามไป ไม่ได้ใช้คำหยาบคายดูหมิ่นแต่อย่างใดเพียงแต่มีการพาดพิง อันเนื่องมาจากบทสนทนาทางการเมือง ต่อจากนี้ก็ต้องทำใจ ทำได้แค่หมั่นไปเยี่ยมเขาบ่อยๆ”"

สุรพลหายหน้าไป ไม่ได้มาเยี่ยมอัครเดชหลายวันแล้ว อัครเดชเริ่มถามหาผู้เป็นพ่อกับเพื่อนฝูงที่ไปเยี่ยม ทุกคนที่รับรู้เริ่มอึดอัด

สุรพลเคยโดนเจ้าหน้าที่อุ้มไปสอบสวนและทำร้ายร่างกายก่อนหน้านี้ไม่นาน

สุดท้ายความอึดอัดสงสัยผสมกับความหวาดกลัวเรื่องการหายตัวไปของสุรพลก็ได้สิ้นสุดลง

สุรพล ได้ถูกคุมตัวมาปรากฎตัวที่ศาลทหาร (ใกล้ๆกับศาลหลักเมือง) หนุ่มใหญ่ใส่เสื้อเชิร์ตลายสก็อตแขนยาว เขาสวมกางเกงยีนส์เนื้อทราย รองเท้าผ้าใบเข็มขัดหนัง

สุรพลถูกนำตัวมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่หัวเกรียนในและนอกเครื่องแบบจำนวนมาก

ผมเข้าไปทักทาย แกแจ้งว่า"งานนี้ผมโดนเยอะเลย อั้งยี่ อาวุธ บลาๆๆ..."แกถูกโยงไปมัดรวมกับสิ่งที่แกไม่ได้เกี่ยวข้อง

แกเล่าว่าไปรายงานตัวกับทหาร หลังเหตุการณ์ปาระเบิดที่ศาลอาญาที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับกระบวนการยุติธรรมเกิดเนื่องจากหลุมลึกขนาดหลายมิลลิเมตรที่หน้าศาล

แกเล่าให้ฟังว่า แกแสดงความบริสุทธิ์ใจกับเจ้าหน้าที่ สุรพล ติดต่อไปหาเจ้าหน้าที่ทหารเพื่อชี้แจงว่าตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้อง แกบอกว่า " ครั้งนี้เขาไม่ได้ซ้อมผม"

แต่แรงระเบิดเป็นอันตรายต่อระบบกันสะเทือนของลิมูซนคู่ใจของผู้ทรงธรรม มันรุนแรงเกินไป

10 มีนาคม ทหารจับและส่งสุรพลให้ จพง.สอบสวน เมื่อวันที่ 20 มีนาคม >พนง.สอบสวน ส่งศาล เพื่อขอฝากขัง เมื่อวันที่21 มีนาคม

เป็นที่แน่นอนว่าสิ่งที่ผู้ทรงธรรมชี้ขาดคืออะไร!

ก่อนแยกจากกัน ผมบอกแกว่า ถ้าโชคดีแกคงได้อยู่แดนสอง แกบอกว่าก็ดีถ้าเป็นอย่างนั้น เราจะได้อยู่ด้วยกัน แต่ถ้าไม่ได้ก็ขอเป็นแดนแปด เห็นว่าแดนแปดกำลังฟอร์มวงดนตรี...

ส่วนจีจี้ สาวน้อยชาวพม่าในตาโศกต้องอาศัยอยู่กับน้องชายของเค ทายาทคนรองของสุรพลแบบชั่วคราว มันอาจเป็นความชั่วคราวที่ยาวนานไปนิด อาจนานเกินกว่าสิบปี และอาจเกินกว่าช่วงวัยของสิ่งมีชีวิตเล็กๆตัวหนึ่ง

ไม่เป็นไร หลับหูหลับตาฝันไปข้างหน้าว่า"แล้วเราคงได้พบกัน"



ที่มา: ดัดแปลงจาก https://web.facebook.com/photo.php?fbid=939624759415009&set=pb.100001024807284.-2207520000.1449324875.&type=3&theater

 

บล็อกของ gadfly

gadfly
รอยยิ้มที่เปิดเผยของมันเหมือนกับแสงสว่างยามอรุณ แสดงถึงความจริงใจ ความมุ่งหวังและพลังของไฟที่สุมขอนไม่ยอมดับแม้โดนประพรมด้วยหยาดฝน แม้ต้องเผชิญกับสิ่งที่แสนจะร้ายกาจแต่มันไม่ยอมจำนน โปรดมั่นใจเถิดว่าไม่มีแสงดาวดวงไหน ไม่มีแสงตะวันยามรุ่ง ณ ที่แห่งใด ที่จะนำพาความท้อแท้สิ้นหวังมาให้เรา
gadfly
วันนี้มีโอกาสได้พบกับหนุ่มใหญ่ผู้ดูแลเว็บที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งในเมืองไทย เขานั่งรอฟังคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวจากศาล ในกรณีเอกสารที่เขาได้เผยแพร่ในเว็บที่เขาดูแลเป็นเอกสารปลอม
gadfly
คิดถึงภาพความทรงจำที่ผ่านมากว่ายี่สิบปีแล้ว ยังไม่มีวันลืม เหตุการณ์ไฟไหม้ชุมชนแออัด(สลัม)คลองเตย (ชุมชนร่มเกล้า) เหตุเกิดในช่วงหัวค่ำ ผมกับเพื่อนๆเดินฝ่าฝูงคนที่หอบหิ้วข้าวของหลบหนีออกมาเราฝ่าเข้าไป ...พวกเราพยายามทุกวิถีทางในการดับไฟที่โหมไหม้