Skip to main content

 

ช่วงที่ผมยังเป็นนักศึกษาประมาณปี 2533 มีการจัดกิจกรรมพูดคุยถึงเหตุการณ์เดือนตุลา ผมก็เหมือนกับเพื่อนๆ นศ.อีกหลายๆคนรู้จักแต่เสกสรรค์ ธีรยุทธ ธงชัย พูดถึงเหตุการณ์ 6 ตุลา ก็ย้ำความเข้าใจซ้ำๆว่า "เราคือผู้บริสุทธิ์" "เรามีเพียงมือเปล่า มันล้อมปราบ"...

วันนั้นผมเจอแกนอกวงอภิปราย แกเล่าว่าที่บอกว่าสองมือเปล่ามันไม่จริงหรอก นักศึกษาบางคนก็พกอาวุธ แต่ก็เป็นปืนสั้น แล้วก็มีไม่กี่กระบอก มันเป็นการพกเพื่อป้องกันตัว เพราะมันมีการสังหาร นศ.ปัญญาชน และผู้นำชาวนากันมาตลอด

ก็ดี ได้ข้อมูลเพิ่ม ทำความเข้าใจขบวนการเคลื่อนไหวทางการเมืองแบบที่เป็นจริงเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ก็แลกกับระดับความโรแมนติกในการมองเหตุการณ์ที่ลดลง

ต่อมาก็ได้เจอกันเรื่อยๆ แต่ไม่ค่อยได้คุยอะไรกันมาก บางครั้งแกก็ควักเงินให้ผมทีละสองสามร้อยโดยที่ผมไม่ได้เอ่ยปากขอ แล้วก็ไม่เคยทำอะไรให้กับแกเลย ให้กันเฉยๆ เข้าใจว่าคงเห็นรูปลักษณ์โทรมๆของผม 

ความจริง แกก็ดูโทรมๆในสายตาของผมเหมือนกัน  เดาว่ารายได้ของแกในแต่ละช่วงชีวิตก็ไม่ได้มากมายอะไร 

อีกเรื่องนึงที่จำได้แม่นเกี่ยวกับตัวแกก็คือความสามารถในการหนี ผมจำช่วงเวลาไม่ได้แม่นยำนัก พี่จรัลเล่าว่า แกอยู่ใน หอประชุม ม.ธรรมศาสตร์ โดยแกปีนขึ้นไปหลบอยู่บน แฮงค์ (โครงเหล็ก ที่ใช้สำหรับแขวน ม่าน ฉาก และไฟเวที) เจ้าหน้าที่หาตัวแกไม่เจอ จนแกหิวข้าวหิวน้ำจนทนไม่ไหวจึงต้องปีนลงมา ถึงโดนจับกุม  มีอีกครั้งที่แกโดนจับไปที่สถานีตำรวจ แต่พอตำรวจเผลอแกก็วิ่งมุดท่อระบายน้ำหนีมาได้ 

การล้อมปราบที่ราชประสงค์ ผมเป็นห่วงแก โทรติดต่อกับแกในช่วงคืนวันที่ 19 ทราบว่าแกยังไม่เป็นไร หลบอยู่ในวัดปทุมจนถึงเช้าวันที่ 20 ผมกลับเข้าไปดูเหตุการณ์ ส่วนหนึ่งเพราะเป็นห่วงแก แต่ก็สวนทางกัน แกเล็ดลอดหนีออกมาได้อีกรอบ

หลังรัฐประหาร คสช. แกก็หนีอีกรอบนึง แต่ครั้งนี้ผมไม่รู้แล้วว่าแกออกไปได้ยังไง เดาว่าคงจะน่าตื่นเต้นเหมือนเดิม 

ผมคิดเล่นๆว่า ความสามารถพิเศษของแกคือการหนี :D

อีกเรื่องที่จำได้ดีจากปากคำของเพื่อนที่เป็นผู้ต้องขังร่วมกับแกก็คือ แกได้มีโอกาสไปเป็นผู้ต้องขังในคุกของพม่าด้วย

คราวนี้แกไม่ได้ใช้ความสามารถพิเศษของแก

เมื่อมีการรณรงค์ประชาธิปไตยในพม่า แกก็ไปรณรงค์กับเขาด้วย ผลก็คือโดนรัฐบาล SLORC จับไปขัง เพื่อนของผมที่โดนจับไปพร้อมกับแก เล่าให้ฟังแบบขำๆว่าขณะที่คนที่โดนจับร่วมกันเครียด ไม่รู้ว่าชะตาชีวิตจะเป็นอย่างไร แต่พี่จรัลไปยืนเกาะลูกกรงของหน้าต่างห้องขังแหงนมองฟ้าพร้อมกับร้องเพลง

....ฟ้ารุ่งอิรวดี คืนนี้มีแต่ดาว... (เพลงผู้ชนะสิบทิศ)



สงสัยว่าแกคงคิดถึงหญิงคนรักที่อยู่เมืองไทย

ปัจจุบัน แกได้เล็ดลอดออกไปต่อสู้อยู่ดินแดนแห่งเสรีภาพแต่เพียงคนเดียว แล้วผมสงสัยว่าเมื่อพี่จรัลเงียบเหงาแหงนมองดาวบนฟ้าแล้วแกจะร้องเพลงอะไร?

 

บล็อกของ gadfly

gadfly
รอยยิ้มที่เปิดเผยของมันเหมือนกับแสงสว่างยามอรุณ แสดงถึงความจริงใจ ความมุ่งหวังและพลังของไฟที่สุมขอนไม่ยอมดับแม้โดนประพรมด้วยหยาดฝน แม้ต้องเผชิญกับสิ่งที่แสนจะร้ายกาจแต่มันไม่ยอมจำนน โปรดมั่นใจเถิดว่าไม่มีแสงดาวดวงไหน ไม่มีแสงตะวันยามรุ่ง ณ ที่แห่งใด ที่จะนำพาความท้อแท้สิ้นหวังมาให้เรา
gadfly
วันนี้มีโอกาสได้พบกับหนุ่มใหญ่ผู้ดูแลเว็บที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งในเมืองไทย เขานั่งรอฟังคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวจากศาล ในกรณีเอกสารที่เขาได้เผยแพร่ในเว็บที่เขาดูแลเป็นเอกสารปลอม
gadfly
คิดถึงภาพความทรงจำที่ผ่านมากว่ายี่สิบปีแล้ว ยังไม่มีวันลืม เหตุการณ์ไฟไหม้ชุมชนแออัด(สลัม)คลองเตย (ชุมชนร่มเกล้า) เหตุเกิดในช่วงหัวค่ำ ผมกับเพื่อนๆเดินฝ่าฝูงคนที่หอบหิ้วข้าวของหลบหนีออกมาเราฝ่าเข้าไป ...พวกเราพยายามทุกวิถีทางในการดับไฟที่โหมไหม้