Skip to main content
 
พฤษภา 53 เขตอภัยทาน ได้ถูกนักศาสนา นักสันติวิธีผลักดันให้มีขึ้น 4 จุด คือ วัดปทุมฯ บ้านเซเวียร์ สำนักงานกลาง นร.คริสเตียน แล้วก็ รร. ในเครือคริสตจักรอีกแห่งแถวแยกคลองเตย
 
ผมได้รับการติดต่อประสานงานจากนักสันติวิธีให้นัดหมาย ขอร้องให้ผู้ชุมนุมหลบเข้าไปในบริเวณที่กำหนดหากมีการล้อมปราบ
 
เป็นการไหว้วานที่สร้างความลำบากใจครับ เพราะถึงแม้ว่าผมจะคุ้นเคยกับผู้ชุมนุม แต่ผมก็เป็นนักข่าวและอีกประเด็นก็คือการแยกมวลชนออกจากแกนนำก็เท่ากับเป็นการปล่อยให้แกนนำตกเป็นเป้า ง่ายต่อการเข้าทำลาย
 
สุดท้ายก็ตัดสินใจช่วยบอกกับผู้ชุมนุม เห็นผู้หญิง คนแก่ แล้วก็เด็กอยู่กันเยอะก็ค่อยๆ บอกเขาว่า ถ้ามีการล้อมปราบ ให้หลบเข้าไปในวัดปทุมฯ ข้างในนั้นเป็นเขตอภัยทาน ผู้ชุมนุมจะได้ปลอดภัย
 
ก็ยังสับสนและรู้สึกผิดต่อแกนนำ เพราะสิ่งที่ทำไปมันก็เหมือนกับการช่วยรัฐในการแยกสลายขบวนการต่อสู้ของคนเสื้อแดง
 
วันที่ 19 ทหารเข้าโจมตีแต่เช้ามืด ผมเข้าพื้นที่ไม่ได้ ได้แต่วิ่งวนอยู่รอบนอก จนถึงเช้าวันที่ 20 ถึงได้กลับเข้าไปที่ราชประสงค์อีกครั้ง
 
เข้าไปทางเทสโก้โลตัสเจริญผล ทางทหารคุมพื้นที่หมดแล้ว และขู่ว่าไม่รับประกัน หากถูกสไนเปอร์ส่อง ทหารหญิงยศนายพันอนุญาตให้เข้าไปที่ รพ. ตร. ซึ่งมีผู้ชุมนุมที่กำลังหวาดกลัวถูกกักอยู่ในนั้น ผมบอกเขาว่าจะมาช่วยเป็นพยานว่าการส่งตัวกลับจะไม่ถูกคุกคามใดๆ จากทางเจ้าหน้าที่รัฐ
 
เดินบนถนนฝ่าสภาพความเละเทะหลังการปะทะมาจนถึง รพ. ตำรวจ แล้วผมนึกอย่างไรไม่รู้เดินแยกกลุ่มกับเพื่อนแวะเข้าไปในวัดปทุม
 
ลานหน้าวัด ที่ๆ เด็กๆ เคยวิ่งเล่น โยนลูกหมุนสีแดงมีไฟกระพริบ มีเต็นท์ มีรถและพื้นปูนที่ถูกยิงจนทะลุเป็นรู มีรอยเลือด
 
เดินเลยเข้าไปด้านหน้าโบสถ์ ภาพหญิงชาย 6 คน บนร่างของเขามีรูกระสุน นอนเรียงกันบนเสื่อ เห็นแล้วโคตรติดตา
 
เก่ง อาสากู้ชีพ เพื่อนของ กมนเกด ยืนยันว่าทหารบนรางรถไฟฟ้ายิงผู้ชุมนุมมือเปล่าในวัดปทุม
 
เก่งเล่าว่า ปั๊ก หรือตัวเล็ก (ชื่อเรียกของอัครเดช ขันแก้ว) คนเสื้อแดงที่ชอบวนเวียนไปฟ้อน เต้นหน้าเวที กับมาช่วยงานที่หน่วยกูชีพโดนยิงก่อน กมนเกด อาสาพยาบาลวิ่งออกจากเต็นท์ไปช่วย เลยโดนยิงด้วย กมนเกดไม่ทรมานมาก เพราะโดนยิงหลายนัด ส่วนปั๊กหรือตัวเล็กดิ้นรนอีกเป็นชั่วโมง ถึงจะสิ้นลม
 
ผมกลับออกจากพื้นที่ราชประสงค์พร้อมภาพติดตา คำบอกเล่าที่ติดหู ความเจ็บปวดอัดอั้นติดอยู่ในใจ ทหารแม่งยิงอาสากู้ชีพ ยิงผู้หญิง ยิงประชาชนมือเปล่าในเขตอภัยทาน
 
ผมแอบคิดเงียบๆ มีความเชื่อลึกๆ ว่า นักศาสนา นักสันติวิธีตัวตั้งตัวตีที่จัดตั้งเขตอภัยทานขึ้นในที่ชุมนุมคนเสื้อแดงจะต้องออกมาประนาม เรียกร้องความรับผิดชอบกับ ศอฉ. รัฐบาลอภิสิทธิ และกองทัพ กับการสังหารประชาชนในเขตอภัยทานของพวกเขา
 
แต่เปล่าเลย ไม่มีแม้แต่หมาซักตัวออกมาเรียกร้อง นักสันติวิธีที่แสดงความปราถนาดีต่อมนุษยชาติอย่างออกนอกหน้า แม่งหายหัวไปหมด เหมือนกับว่าไม่เคยมีพวกเขาอยู่เลยก่อนหน้านี้ แล้วก็ไม่เคยพูดหรือแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเลยจนถึงทุกวันนี้
 
เนื่องในวาระครบรอบ 10 ปี การสังหารในเขตอภัยทาน ผมขอมอบ “ควย” ให้กับนักสันติวิธีทุกท่าน
 
 
 

บล็อกของ gadfly

gadfly
รอยยิ้มที่เปิดเผยของมันเหมือนกับแสงสว่างยามอรุณ แสดงถึงความจริงใจ ความมุ่งหวังและพลังของไฟที่สุมขอนไม่ยอมดับแม้โดนประพรมด้วยหยาดฝน แม้ต้องเผชิญกับสิ่งที่แสนจะร้ายกาจแต่มันไม่ยอมจำนน โปรดมั่นใจเถิดว่าไม่มีแสงดาวดวงไหน ไม่มีแสงตะวันยามรุ่ง ณ ที่แห่งใด ที่จะนำพาความท้อแท้สิ้นหวังมาให้เรา
gadfly
วันนี้มีโอกาสได้พบกับหนุ่มใหญ่ผู้ดูแลเว็บที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งในเมืองไทย เขานั่งรอฟังคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวจากศาล ในกรณีเอกสารที่เขาได้เผยแพร่ในเว็บที่เขาดูแลเป็นเอกสารปลอม
gadfly
คิดถึงภาพความทรงจำที่ผ่านมากว่ายี่สิบปีแล้ว ยังไม่มีวันลืม เหตุการณ์ไฟไหม้ชุมชนแออัด(สลัม)คลองเตย (ชุมชนร่มเกล้า) เหตุเกิดในช่วงหัวค่ำ ผมกับเพื่อนๆเดินฝ่าฝูงคนที่หอบหิ้วข้าวของหลบหนีออกมาเราฝ่าเข้าไป ...พวกเราพยายามทุกวิถีทางในการดับไฟที่โหมไหม้