Skip to main content

ปลูกป่า สร้างร่มเงา

โคลนสีแดงเหนียวหนึบค่อยๆ ซึมผ่านถุงมือไหมพรมสีขาว ท่อนไม้แหลมเหลาปลาย ถูกกระทุ้งลงดินแข็ง แล้วคว้านเป็นหลุมกว้างขนาดพอจะใส่กล้าไม้

ฉีกถุงเพาะกล้าเบาๆ สองมือค่อยๆ โอบประคองดินดำห่อหุ้มต้นอ่อนลงในหลุมที่ถูกคว้านและตีกลบเบาๆ ให้ดินแน่น

นำถุงเพาะกล้าครอบบนแนวไม้ที่ปักเอาไว้ ใบเล็กๆ สีเขียวบนลำต้นบอบบางตั้งฉากเป็นแนวดิ่งเป็นอันเสร็จขั้นตอนสำหรับการปลูกกล้า พร้อมกับหัวใจของแต่ละคนที่หวังว่า

กล้าเล็กๆ จะเติบโตเป็นป่า ให้ร่มเงาแก่ผืนดินและโลก

...

กิจกรรมร่มไม้ข้างทางของกลุ่มอาสาสมัครรักษ์ธรรมชาติหรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า
V4N ร่วมกับ มูลนิธิเขมไชยรสานนท์ที่เน้นการช่วยเหลือให้ทุนการศึกษาเด็กยากจนในชนบท เป็นต้นเรื่องที่นำอาสาสมัครหัวใจสีเขียวจำนวน 50 คน เดินทางไปปลูกป่า 10-12 ตุลาคม 2551 ที่ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่

กล้าไม้
3,000 ต้น ถูกวางตามจุดต่างๆ เป็นระยะทาง 2.5 กิโลเมตร อาสาสมัครหัวใจสีเขียวกระจายกำลังเป็นจุดๆ โดยมีคู่หูช่วยกันขุด ช่วยกันกลบ คนหนึ่งจะถือไม้แหลมสำหรับคว้านดินให้เป็นหลุม ส่วนอีกคนจะค่อยๆ ประคองต้นไม้ลงหลุม บางทีหลุมไม่ลึกและกว้างพอ ต้องช่วยกันกระทุ้ง คว้านและช่วยกันประคองต้นไม้ลงหลุมที่ขุดเอาไว้

สองมือของอาสาสมัครจับกอแฝกลงหลุมข้างทาง การปลูกหญ้าแฝกเป็นงานหนัก เพราะจะต้องคว้านหลุมบนดินสีแดงแข็งข้างถนน แฝกเป็นพืชในตระกูลหญ้าที่มีความอดทน พบได้ในทุกสภาพพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นที่ลุ่มชุ่มน้ำหรือที่ดอนกระด้าง เมื่อโตเต็มที่จะขยายเป็นกอหนาแน่นก่อนจะแตกรากออกไปในพื้นที่แวดล้อมอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมดินและกรองตะกอนเอาไว้ไม่ให้ถูกชะล้างเป็นปราการในธรรมชาติที่ช่วยคืนความชุ่มชื้น

อีกพวกอยู่ในกลุ่มกล้าไม้ชายเลน จำพวก สารภีทะเล โกงกางใบเล็ก โกงกางใบใหญ่ แสมขาว แสมดำ โปรงแดง โปรงขาว
"ต้นไม้พวกนี้จัดอยู่ในประเภทไม้เบิกนำของระบบนิเวศป่าชายเลน" พี่หน่อง' หนึ่งในเจ้าหน้าที่สถานีเพาะชำกล้าไม้ จ.กระบี่ คนใจดีที่อาสามาช่วยกิจกรรมร่มไม้ข้างทางเริ่มอธิบาย "หรือป่าโกงกางที่เราได้ยินกันบ่อยๆ "

โกงกางเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ แต่มีรากเสริมออกมาเหนือโคน รากค้ำยันพวกนี้จะระเกะระกะไม่เป็นระเบียบ ใบเดี่ยวเรียงตรงเป็นคู่ขึ้นสู่ยอด ตั้งฉาก สลับกันไปมา ดอกและผลจะตูมเหมือนไข่ไก่ เติบโตในสภาพภูมิประเทศแถบชายฝั่งทะเล อ่าว ปากน้ำและเกาะ

พืชจำพวกนี้เป็นแหล่งอนุบาลตัวอ่อนของสัตว์ทะเลทุกชนิดและที่สำคัญเป็นปราการธรรมชาติที่ป้องกันคลื่นยักษ์ซัดชายหาดหรือสึนามิ "หลังจากนั้น เมื่อป่าชายเลนสมบูรณ์ขึ้น จะเกิดไม้จำพวก ตะเคียนทอง หลุมพอ กระถิน เทพา จนกลายเป็นป่าสมบูรณ์ในที่สุด" พี่หน่องยิ้ม ก่อนจะก้มลงหยิบไม้เหลาปลาย เดินนำอาสาสมัครไปปลูกกล้าไม้

 "มีปูด้วย" ใครคนหนึ่งร้องออกมาอย่างตื่นเต้น
 "ตัวเล็กนิดเดียว" ใครบางคนเสียดาย เมื่อเห็นปูตัวใสๆ หลบลงรู หลังจากเห็นคนแปลกหน้ามายืนมุง ก่อนจะพ่นฟองออกมาปุดๆ

ดวงทิพย์ อนันต์มนตรี หรือ มะปราง นักศึกษาเทคนิคการแพทย์ ชั้นปีที่ 3 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตัดสินใจกระโดดขึ้นรถมาทำงานอาสาสมัครด้วยหัวใจที่มุ่งมั่นว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดความร้อนให้โลก เธอบอกว่า เป็นคนที่ชอบท่องเที่ยวไปในโลกธรรมชาติ

"แม้ว่าจะต้องเหนื่อย ร้อน เลอะเทอะ แต่การได้ออกมาทำกิจกรรมแบบนี้ทำให้เราผ่อนคลายไปด้วย สนุกสนานและเจอเพื่อนใหม่ๆ ที่เราไม่รู้จักกันมาก่อน"
จากมือที่คุ้นเคยกับอุปกรณ์ตรวจโรค ต้องมาจับท่อนไม้และหญ้าแฝกลงหลุม
เธอยืนยันด้วยรอยยิ้ม ระหว่างที่นำโกงกางใบเล็กลงหลุม
"เหนื่อยแต่สนุกสุดๆ ค่ะ"

เหมือนกับ กิ๊ฟ นาถสุดา ชื่นชม ที่ยืนยันว่า แม้จะเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานในออฟฟิศมาทั้งอาทิตย์ แต่การออกมาทำกิจกรรมแบบนี้ สำหรับเธอนั้น ดีกว่าไปเดินห้างหรือดูดีวีดี(เกาหลี)อยู่กับบ้านเป็นไหนๆ

"สิ่งเราได้รับ คือ ประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป หาไม่ได้ในออฟฟิศค่ะ"


กล้าเล็กๆ จะเติบใหญ่เป็นร่มไม้ข้างทาง ให้ร่มเงาแก่โลก


ปลูก ปลูก ปลูก


มุ่งมั่น มุ่งมั่น มุ่งมั่น


ขุดและปลูก ... คู่หูสีเขียว


กลบดินพร้อม หัวใจสีเขียว




ร่มไม้ข้าง จากถุงสู่ดิน


แดดร้อนเปรี้ยง แต่จิตใจสีเขียวล้นหลาม


มะปราง นักเทคนิคการแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


ถอดถุงมือมาแล้วเลอะอย่างนี้แหละ
!!

บล็อกของ กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์

กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
อยู่ดาก้าเพียง 2 วัน มันถูกส่งขึ้นดอยแดนดงป่า อีกแล้ว (ตรงนี้เพื่อนผมอุทธรณ์ว่า เหมือนอยู่เมืองไทยไม่มีผิด กำ) “ต้องไปเมืองอะไรครับ” เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการถาม ‘จิตตะกอง’ “โห โหดน๊า” นั่นหมายถึงคำปลอบโยน
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
อีกครั้งที่ ‘เพื่อนผม' มันไปสังเกตุการณ์การเลือกตั้งในบังคลาเทศ (แล้วผมก็เอามาเขียน 555) (จริงๆ มันไปเมื่อนานมาแล้วสักครึ่งปีเห็นจะได้)
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ภาพสุดท้ายที่ผมมองเห็นก่อนออกจากเปียงหลวง คือ ทิวเขาลูกนั้นในสายหมอกโอบอ้อมกับรอยยิ้มอิ่มบุญของคนไต งานปอย-ส่างลองสิ้นสุด พร้อมกับคอนเสริ์ตทิ้งท้ายที่เล่นกันค่อนรุ่ง ความรื่นเริงของคนหนุ่มสาวและส่างลองที่พร้อมจะเข้าสู่โลกแห่งธรรม
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ผมคิดว่าโครงใบหน้าของคนไตดูสวยดี โดยเฉพาะ ,ผู้หญิง ถึงแม้ว่า วันนี้ พวกเธอหลายคนจะต้องออกไปหางานทำนอกหมู่บ้าน , สิ่งที่มากกว่านั้น คือ ความรักและแรงศรัทธาในการร่วมงานบุญ ,และรอยยิ้มของพวกเธอ
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ศูนย์พักรอกุงจ่อ คือ พื้นที่ของผู้หนีภัยการสู้รบจากการปราบปรามอย่างรุนแรงของรัฐบาลทหารพม่า นับจากปี 2545 ชาวไต(ไทใหญ่)ร่วมหนึ่งพันคน เดินเท้าเข้าประเทศไทยทางด่านหลักแต่ง...!!!
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
พ่อส้านและส่างลอง เป็นภาพที่คู่กัน ส่างลองอยู่ที่ไหน พ่อส้านจะอยู่ที่นั่น แต่ละคน แต่ละคู่ ต่างมีลีลาที่แตกต่างกันออกไป ... เชื่อกันว่า ได้บุญใหญ่ ส่างลองในวันนี้จะเป็นพ่อส้านที่ดีในวันหน้า ทั้งนี้ ตามความสมัครใจ เช้า ขี่คอแห่ส่างลองไปตามวัด บ่ายแก่ได้พัก กลางคืนนอนเฝ้าส่างลองหลังซุ้ม ครบ 5 วัน เชื่อกันว่า ได้ขึ้นสวรรค์ !!! ดูลีลาของพวกเขาสิครับ .....
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
บริเวณสนามฟุตบอล โรงเรียนบ้านเปียงหลวงเต็มไปด้วนสีสัน สีสันงานบุญซุ้มส่างลองทั้ง 107 ซุ้มกระจายอยู่โดยรอบสนามฟุตบอล เวทีดนตรีใหญ่หันหน้าประชันกับเวทีลิเกไทใหญ่หรือ "จ๊าดไต" เวทีใหญ่เล่นดนตรีทันสมัย โครงสร้างเวทีทำด้วยแกนเหล็กประกบเสาสูงราวเมตรครึ่ง ,ส่วนเวทีจ๊าดไตทำจากโครงไม้ไผ่ทั้งหลัง ปูพื้นด้วยแผ่นไม้กระดาน ฝาด้านหลังทำด้วยใบตองตึงสีน้ำตาลแห้งเก่าทะลุมองเห็นด้านใน ,วงดนตรีเครื่องสายดีดสีตีเป่าครบ ,นางรำแต่งหน้าทาปาก พันคอด้วยผ้าแถบมันเลื่อม ด้านตรงข้ามแดนเซอร์ชาวดอยวิ่งกระจายออกมาหน้าเวทีใหญ่
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
มีดโกนด้ามใหม่ สีดำสนิท บรรจงกรีดลงไปตามไรผมแต่ละเส้น ส่างลองทุกคนรู้ดีว่า พิธีกรรมต่อจากนี้ไปพวกเขาจะต้องใช้ความอดทนมากแค่ไหนกว่าผมจะหมดศีรษะ บางคนใบหน้าเหยเก บางคนถึงกับร้องไห้ จนพระพี่เลี้ยงและพ่อแม่ต้องหยุดใบมีดเอาไว้ก่อนแล้วตักน้ำส้มป่อยราดหัว ฟอกด้วยยาสระผมแล้วเริ่มโกน โกนจนหมดศีรษะ !!!
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
รถตู้กลางเก่ากลางใหม่ของบริษัทดาวทองขนส่ง จำกัด ออกจากสถานีช้างเผือก 10.30 น. หนุ่มใหญ่วัย 40 เศษ ไว้เคราบางๆและสวมแว่นตาดำตลอดเวลาซิ่งเจ้าเพื่อนยากปุเลงไปตามสันเขาน้อยใหญ่บนเส้นทางเชียงใหม่-เปียงหลวง 161 กิโลเมตร แดดฤดูร้อนจัดจ้านขับให้ดอกหางนกยูงสีแดงข้างทางสดเข้ม ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ผ่านอำเภอเชียงดาวถึงแยกเมืองงาย เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสายแม่จา-เปียงหลวง ก่อนที่เส้นทางจะไต่ไปตามสันเขาคดเคี้ยว หนุ่มนักซิ่งของเราจะเตือนผู้โดยสารผ่านน้ำเสียงหนักแน่นว่า
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
... ผู้เฒ่าหญิงชายทั้งในชุดห่มขาวและชุดลำลองทั่วไป ต่อแถว รอพระลงจากกุฏิรับบิณฑบาตร สายหมอกฤดูร้อนห่มคลุมจางๆ ทำให้บรรยากาศรอบๆ ดูเลือนลางกึ่งจริงกึ่งฝัน งานฉลองพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ตื้อฯ ที่บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม มีศาสนิกชนผู้ศรัทธาเนืองแน่นเดินทางมาจากทุกสารทิศงานครั้งนี้เป็นบุญใหญ่ที่มีการเฉลิมฉลองถึง 15 วัน (1-15 พ.ค. 52) ภายในงานเปิดโรงทานโดยผู้มีจิตศรัทธาจะทำอาหารมาเลี้ยงผู้ร่วมงานบุญโดยไม่คิดสตางค์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์