Skip to main content
...

ผู้เฒ่าหญิงชายทั้งในชุดห่มขาวและชุดลำลองทั่วไป ต่อแถว รอพระลงจากกุฏิรับบิณฑบาตร สายหมอกฤดูร้อนห่มคลุมจางๆ ทำให้บรรยากาศรอบๆ ดูเลือนลางกึ่งจริงกึ่งฝัน งานฉลองพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ตื้อฯ ที่บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม มีศาสนิกชนผู้ศรัทธาเนืองแน่นเดินทางมาจากทุกสารทิศ


งานครั้งนี้เป็นบุญใหญ่ที่มีการเฉลิมฉลองถึง 15 วัน (1-15 พ.ค. 52) ภายในงานเปิดโรงทานโดยผู้มีจิตศรัทธาจะทำอาหารมาเลี้ยงผู้ร่วมงานบุญโดยไม่คิดสตางค์


...

บนรถโดยสารของบริษัทแสงประทีบ (ป.2) สายกรุงเทพฯ - กาฬสินธุ์ (450 บาท/ทุกระยะ) แน่นขนัดไปด้วยผู้คนที่ทยอยกลับบ้านเนื่องในวันหยุดยาว (วันแรงงาน) ลูกน้องรถบอกให้ผู้โดยสารเบาะหลังบียดชิดกันอีก (จาก 5 คนเป็น 6 คน)เพื่อให้ผู้โดยสารอีกคนได้เข้ามานั่งด้วย รถยังไม่ทันออกจากกรุงเทพฯ เก้าอี้พลาสติก ไม่มีพนักพิงถูกนำมาวางเรียงเป็นแถวระหว่างเบาะผู้โดยสาร หากใครเคยขึ้นรถป.2 คงจะรู้ดีว่า บนรถไม่มีห้องน้ำ ยังโชคดีที่มีเครื่องปรับอากาศให้ความเย็นอยู่ระหว่างทางเดิน


หลวงพี่รูปหนึ่งที่นั่งใกล้ผม เอาผ้าขนหนูปิดใบหน้าพยายามข่มตาหลับ บอกเป็นนัยให้ผมรู้ว่า "ตามสบายนะโยม"


...

พระมากกว่า 50 รูป จากวัดในละแวกใกล้เคียงและในจังหวัดอื่นๆ ที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ตื้อ ทยอยลงมาจากศาลาหลังใหญ่ของวัด ในมือประคองบาตรสีดำตัดกับจีวรสีฝาด ใบหน้าขรึม สุขุมแต่ไม่เคร่งเครียด บรรดาศาสนิกชนผู้ศรัทธาต่างขยับตัวแล้วล้วงข้าวเหนียวในกระติบ ปั้นเป็นก้อน ชูประทับศีรษะ ก่อนวางลงในบาตรด้วยใบหน้าอิ่มบุญ ควันสีขาวโชยออกมาจากเนื้อข้าวเหนียวตัดกับแสงแดดสายของฤดูร้อน แม้จะเป็นเวลาตีห้าครึ่งแต่ก็สว่างมากพอที่จะเห็นรอยยิ้มและเสียงพูดคุยงึมงัมพอได้ยิน


ข้าวเหนียวก้อนแล้วก้อนเล่า ถูกชูเหนือหัวก่อนจะวางลงในบาตรอย่างนุ่มนวล ลูกศิษย์วัดถือถังเดินตามพระเพื่อถ่ายเทข้าวเหนียวหนักอึ้งออกจากบาตร


...

ผมครึ่งหลับครึ่งตื่นมาตลอดการเดินทาง มารู้สึกตัวอีกครั้งพร้อมกับความจุกเสียดบริเวณหน้าท้องที่วิ่งขึ้นมาถึงหน้าอก ผมปวดฉี่ ดูเหมือนโชคจะเข้าข้างเมื่อรถวิ่งเข้าขนส่งโคราชเพื่อเช็คเวลา ผู้โดยสารเก้าอี้กลางลุกพรวดพราดเบียดกันที่หน้าประตูรถ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ผมเท่านั้นที่ปวดฉี่ รถหยุดสนิท แต่ความหวังของทุกคนกลับมลายสิ้น ราวกับว่าฉี่จะราดเสียตรงนั้น เมื่อท่าทีของลูกน้องรถและคนขับไม่ยินยอมให้ผู้โดยสารลงไปเข้าห้องน้ำ อ้างว่า เดี๋ยวสาย

จะลงได้ที่จุดพักรถข้างหน้าที่ไม่รู้ว่าจะต้องไปไกลอีกแค่ไหน

ผู้โดยสารงึมงัมกลับมานั่งที่ของตน

ผมอยากจะร้องไห้ เมื่อมองเห็นลูกน้องรถและคนขับเดินไปเข้าห้องน้ำ


...

แดดสายกล้าแรงขึ้นทุกขณะ ศาสนิกผู้ศรัทธานั่งประนมมือรอรับศีล อุ่นและอิ่มไปด้วยบุญ

ผมคิดถึงตัวเองเมื่อวานนี้

แดดสายกล้าแรงขึ้นทุกขณะ ผมยังไปไม่ถึงบ้านข่าเพื่อถ่ายงานตักบาตรข้าวเหนียวและดูเหมือนอาการจุกเสียดบริเวณหน้าท้องจะพุ่งปรี๊ดขึ้นมาที่หน้าอกอีกครั้ง

 

ขอให้ ป.2 จงลงนรก...!!!

 

 



















 

 

 

 

บล็อกของ กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์

กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ทิศทางการเติบโตของธุรกิจการท่องเที่ยวที่สะเปะสะปะทำให้ชาวบ้านหลายคนทิ้งชีวิตเรือกสวนไร่นา หันมาเป็นผู้ประกอบการอย่างไร้ทิศทาง ไร้การจัดการ ไร้ความคิด ในสังคมมือใครยาวสาวได้สาวเอาที่ต้องการแต่ประโยชน์ส่วนตน
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
แดดยามบ่ายกระทบสายน้ำเป็นริ้วเต้นระริกรินไหลไปตามแก่งหินน้อยใหญ่ ทิวไม้สองฝั่งแน่นขนัดทอดกายยึดผืนดินไม่ให้น้ำกัดเซาะ ราวกับมืออันอบอุ่นของแม่ที่โอบอุ้มทารกแนบอก
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
คลิ๊กที่ภาพเพื่อดูภาพขยาย    
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
คนงานบนเรือขนสินค้าขนาดใหญ่ริมฝั่งโขง กำลังทำงานของพวกเขา เรือขุดทรายตักทรายจากกลางลำน้ำ ชายชราหาปลาอยู่บนเรือท้องแบน ธุรกิจการค้าคึกคัก ...
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
เชียงคานเมืองริมฝั่งโขง ถูกพูดถึงมากมายในหมู่นักท่องเที่ยว นักเดินทางหลายคนหยุดเวลาเอาไว้ที่นั่นด้วยการนอนอ่านหนังสือเป็นอาทิตย์ ...
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ทุกเช้าๆ คุณแม่ชาวปกาเกอญอจะออกมาสะพายลูก ... ระหว่างเดินไปตามถนนกลางหมู่บ้าน ระหว่างอาบน้ำริมห้วยแม่แงะ ระหว่าง รอ ...
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ในลมหนาวมีใบหน้าใสซื่อ ดูเหมือนว่า จะกลายเป็นธรรมเนียมไปแล้วอย่างยิ่ง ที่จะต้องถ่ายภาพใบหน้าคน ... ทุกปีที่ไปงานวันเด็กไร้สัญชาติ รอยยิ้มของคนหลังภูเขา อ่อนโยนแบบเด็กๆ ..
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ห้องทะเบียนราษฏรเคลื่อนที่ถูกจำลองขึ้นบนลานโล่งบริเวณบ้านผู้ใหญ่บ้าน ,คนไร้รัฐบ้านแม่แพะมารวมตัวกันเพื่อทำประชาคม ,ยกมือรับรองสถานะบุคคลเป็นพยานรู้เห็นว่าครอบครัวที่ได้รับการสำรวจทั้งหมดอยู่บนผืนดินแห่งนี้มานาน ก า เ ล
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ดินแดนอันไกลโพ้นเหนือความคิดฝัน ,เทือกเขาและดวงตะวันนิ่งงัน ราวกับภาพวาด
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
มุมหนึ่งของเชียงคาน จ.เลย ,หากใครเคยไปเชียงคานจะเห็นแม่น้ำโขงยาวสุดลูกหูลูกตา ก่อนจะลับหายเข้าไปยังฝั่งลาวตรงแก่งคุดคู้ ,ในภาพมองเห็นเรือดูดทรายเอกชน ,แนวโน้มการพัฒนาเพื่อให้เป็นเมืองท่องเที่ยว ,คนที่นั่นออกปากปฏิเสธเป็นพัลวันถึงความไม่ต้องการให้เจริญขีดสุดแบบปาย ,แต่ขณะเดียวกันก็อ้าแขนต้อนรับนักท่องเที่ยว ,รวมถึงนักเก็งกำไรเข้ามาหาซื้อที่ดิน ,หลับตาก็พอมองออกว่าภายในระยะ 5-10 ปี เชียงคานจะอยู่ในสภาพของเมืองท่องเที่ยวที่ถึงพร้อมไปด้วยสาธารณูปโภคที่เสนอสนองความต้องการของคนในทุกระดับชั้น ,แต่ความเห็นส่วนตัว ผมชอบปายคับ (คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยายภาพ)