Skip to main content
ผมยืนมอง ขาหมูอวบๆ สีน้ำตาลเข้มแช่อยู่ในน้ำพะโล้ที่ร้านพรเพ็ญ(ขาหมูเสวย เจ้าเก่า)มันนอนนิ่งๆ รอคนขายเอามีดมาปาดบางๆ โปะลงบนข้าวให้ลูกค้า ไอร้อนหน้าเตาพอจะช่วยให้เนื้อตัวผมเบาขึ้นจากความหนาวนอกร้านที่กัดกร่อนถึงกระดูก
"ซื้อขาหมู 100 บาท ครับ" ผมบอกคนขาย
แกกำลังวุ่นวายอยู่กับงานขายตรงหน้า ลูกค้าเริ่มทยอยเข้ามาหนาตา แดดสายแหย่ตัวรอดตามช่องชายคา ผมคิดว่า เราน่าจะซื้อขาหมูขึ้นไปกินบนดอยหลวงเชียงดาว
...

เรื่องมันเริ่มต้นขึ้นง่ายๆ
"พี่ๆ ไปดอยหลวงฯ กันเป่า" ดาด้า ตัวละคร(เก่า)ของผมเอ่ยขึ้นในวันหนึ่งกลางปีที่ผ่านมา
"มันเป็นที่ที่ฝันเอาไว้เชียวนะ" นั่นไง เธอเริ่มเพ้อ
"เออ ว่ะ ไปๆ ปลายปีดีมะ" ผมใจง่ายทันที เราควรจะมีเวลาหาข้อมูลกันสักหน่อย
...

"เอ่อ พี่กัน ครือออออออ เราคิดว่า เราจะไปสิกขิม มันเป็นอีกสถานที่ที่เราฝันเหมือนกัน"
ประมาณว่า ดอยหลวงฯ เอาไว้ก่อนนะ ให้มันได้อย่างนี้สิ กำ...งอนว่ะ

แต่ถึงยังไง ผมก็จะไป หาทีมใหม่ก็ได้ฟะ
!!!

การเดินทางขึ้นดอยหลวงเชียงดาวถูกวางแผนใหม่อย่างเงียบๆ ด้วยความช่วยเหลือและประสานงานของ ต้น บางใหญ่ ทำให้เราได้ไกด์จากการแนะนำของเพื่อนเขาที่ทำงานอยู่ที่อบต.เชียงดาว เราจัดหาทีมและกำหนดวัน รวมกันแล้ว
6 ชีวิต (พิชิตยอดเชียงดาว อิอิ)
...

ผมหอบถุงใส่ขาหมูขนาดหนึ่งร้อยบาทขึ้นรถ เรานัดพี่แดนไกด์
คนเมียง' เอาไว้ แกว่าให้ขับรถออกมาจากตัวอำเภอเชียงดาว ผ่านป่าช้าบ้านถ้ำจะมีศาลาพักข้างทางตรงแยก แกจะไปรอเราที่นั่น พี่แดนเป็นเจ้าหน้าที่สถานีวิจัยดอยหลวงเชียงดาว วิจัยมันตั้งแต่แมลง พันธุ์พืช ไปจนถึงกวางผา ทำทุกอย่างตั้งแต่ช่วยงานข้อมูลนักวิจัย เดินป่า จนกระทั่งขับรถ

"ไกด์เป็นอาชีพเสริม ผมไม่ได้รับเงินเดือนมา 3 เดือนแล้ว รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ งบไม่ลงมาซะที แต่ไม่เป็นไร ผมรักในอาชีพของผม" แกว่า หลังจากเราเริ่มคุ้นเคยกันมากขึ้น

"เรื่องกระเช้าดอยหลวง น่ะหรือ ผมห้าสิบห้าสิบนะ จริงๆ มันก็เป็นประโยชน์แก่นักท่องเที่ยว เรื่องอนุรักษ์ก็เห็นด้วยอยู่ พวกเอ็นจีโอปลุกระดมชาวบ้านออกมาคัดค้าน พวกนี้ รับเงินต่างชาติมาเป็นล้านๆ" สำทับไปอีกประโยค

ทีมพิชิตดอยหลวงฯ กระโดดขึ้นท้ายรถกระบะ จัดแบ่งสัมภาระเท่าที่จำเป็นเพื่อปีนภู เสื้อผ้าควรจะเอาไปเพียงชุดเดียวเพราะไม่จำเป็นต้องอาบน้ำและควรจะพกกระดาษชำระไปด้วยเยอะๆ ถึงแม้ข้างบนจะไม่มีห้องน้ำแต่เรื่องการขับถ่ายยังคงเป็นเรื่องที่ต้องป้องกันเอาไว้เสมอ

รถกระบะราคาเหมา
1,200 บาท จะส่งเราที่ทางขึ้นปางวัว

การขึ้นยอดดอยหลวงมีด้วยกัน
2 ทาง คือ ปางวัวและเด่นหญ้าขัด ผู้สันทัดอย่างพี่แดนบอกว่าเด่นหญ้าขัดยากลำบากกว่ามากแต่วิวจะสวยกว่าแต่ก็มีบางคนที่รู้สึกว่าปางวัวจะยากลำบากกว่าแต่สำหรับพวกเราแล้วทางไหนมันก็ลำบากพอกันนั่นแหละ

ในทีมเรามีผู้หญิงไปด้วยกัน
2 คน คือ แอม อยุธยา ,ขวัญ กาญจนบุรี และผู้ชายอีก 4 คน คือ ต้น บางใหญ่ ,ปื๊ด เพชรบูรณ์(แต่ตอนนี้ย้ายไปอยู่เชียงใหม่กับขวัญ) ,ประจักษ์ ศรีษะเกษ และผม กัน สงขลา นอกจากนี้ ยังมีทีมงานพี่แดน อีก 2 คน คือ คุณลุงและเพื่อนรุ่นน้องที่พี่แดนบอกว่า รักมากอีก 2 คน พวกเขาเป็นลูกหาบ

ด้วยการประสานงานเป็นอย่างดีของ ต้น บางใหญ่ เราให้พี่แดนจ้างลูกหาบหาบน้ำขึ้นไปทิ้งไว้บนยอดดอยก่อน
50 ลิตร เมื่อถึงวันขึ้นจริงๆ เราซื้อน้ำขึ้นไปเพิ่มอีก 4 โหล ข้าวสาร อาหารแห้ง สูตรตายตัว คือ มาม่ากะปลากระป๋อง ขนมขบเคี้ยว ส้ม อื่นๆ ตามแต่จะคิดได้ ให้พอกินกันทุกคน เต๊นท์ 2 หลัง ถุงนอน ไฟฉายและกระดาษชำระ

แอม อยุธยา ซึ่งดูจะบอบบางมากกว่าคนอื่นๆ ถึงกับต้องพกแพมเพิด สำหรับ(เช็ดก้น)เด็กอ่อนซึ่งในเวลาต่อมา เราได้ใช้ร่วมกันทุกคน

ก่อนจะเดินขึ้นยอดดอยหลวง นักท่องเที่ยวทุกคณะจะต้องแวะไปยังที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยหลวงเชียงดาวเพื่อเช็คจำนวนคนและชำระค่าบริการ คนละ
50 บาท และมัดจำค่าขยะอีก 300 บาท หลังจากกลับลงมาจากยอดดอยจะมีการเช็คจำนวนขยะ หากครบตามจำนวนจะได้รับเงินคืน

"พี่แดน มีเหล้าต้มบ้างเป่า" ผมกระซิบ
"มี" แกชี้ไปซุ้มข้างๆ ศูนย์บริการ
ขวดละ 35 บาท
ผมคิดว่า น่าจะสำรองไปสัก 6 ขวด คงพอจะทำร่างกายให้อบอุ่น!!!
...

เส้นทางปางวัวไม่สูงชัน เต็มไปด้วยหินตะปุ่มตะป่ำ เขาหินปูนตะหง่านเงื้อม สูงและใหญ่โตต้านทานลมหนาวอย่างไม่ยี่หระ ใบไม้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ดอกบัวตองเฉาหลุบต่ำลงเพราะโดนลมหนาวกัด เส้นทางขึ้นยอดดอยเป็นเส้นทางเล็กและแคบ หากไม่จำเป็นไม่ควรเดินสวนกันเพราะอีกด้านติดผาเหลื่อมลึกลงไปเป็นชั้นๆ บางช่วงจะมองเห็นทิวเขาซ้อนเป็นฉากในหมอกหนาๆ หากมีแดดจะมองเห็นหมู่บ้านและไร่ของคนอยู่ไกลลิบๆ
...

สำหรับผม โลกยังคงเป็นสนามเด็กเล่นอยู่เสมอ
คืนแรก เราค้างแรมกันที่จุดพักแรมดงน้อยแล้วค่อยเดินขึ้นอ่างสลุงในเช้าวันรุ่งขึ้น
ไม่เหนื่อยเราและไม่เหนื่อยลูกหาบ


 
นั่นแหละที่เราจะเดินไป มองจากผืนดิน ยอดดอยหลวงเสียดเมฆ

  
ระหว่างช่องเขา ทิวทัศน์แจ่มๆ เช่นนี้มีให้เห็นเสมอ


ค้อเชียงดาว เรียงตัวเป็นทิว มองไกลๆ เหมือนกับต้นตาลเลย


แดดบ่ายอาบไล้ยอดเขา แดงเถือกไปทั้งเทือก สวยงามดี


เต๊นท์นอนของคุณลุงลูกหาบ เท่ดี ไม่ต้องแบกขาตั้งเต๊นท์ให้เมื่อยตุ้ม


ภาพค้อเชียงดาวอีกมุม

  
ดอยสามพี่น้องยามย่ำสนธยา


ค้อเชียงดาวริมผา มีให้เห็นกันดาษดื่น


หากทัศนวิสัยแจ่มชัดจะมองเห็นหมู่บ้านชาวบ้านอย่างนี้


ความมืดโรยตัวอย่างช้า แสงสีเงินสีทองทำให้ภาพดูแปลกตาไปได้อย่างที่เห็น

บล็อกของ กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์

กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ในสายตาของนักเสี่ยงโชค ,เกาะกง หมายถึง แหล่งทำเงินขนาดใหญ่..., หากเทพีแห่งโชคเข้าข้าง, เขาหรือเธอ เหล่านั้น...เชื่อว่า หลายคนคงรู้จักเกาะกงในฐานะแหล่งการพนันแหล่งใหญ่ของประเทศกัมพูชา ณ จุดชายแดนไทย จังหวัดตราด ที่ปล่อยให้มีการเปิดบ่อนเสรี จนรัฐบาลไทยหลายๆ รัฐบาลคิดทำตามอย่าง ..แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีรัฐบาลชุดไหนสามารถแหวกม่านความคิดของสังคมไทยออกไปรอดพ้น...ผมไม่ได้ไปเกาะกงในฐานะนักเล่น (เพราะไม่มีฐานะมากพอ 555) แต่ได้ติดสอยห้อยตามเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่งไปสังเกตการณ์ทำข้อมูลเรื่องหญิงชาวกัมพูชาในสถานบริการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี, ที่อำเภอคลองสนและอำเภอหาดเล็ก จังหวัดตราด .....เกาะกง จังหวัดเล็กๆ…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
เปล่า! แม่น้ำสงครามไม่ได้เป็นชื่อที่พ้องกับการสงครามของใคร ..หากโลกใบนี้ได้เพียรสร้างสรรค์ผลงานที่น่าอัศจรรย์...น้ำสงครามมีต้นกำเนิดบนสันภูผาเหล็ก อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร ไหลขึ้นไปทางเหนือ ผ่านอำเภอหนองหาน อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ก่อนจะย้อนลงมาที่ อำเภอบ้านม่วง อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร จึงมุ่งหน้าเข้าสู่อำเภอพรเจริญ อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย วกลงอำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร ทะลักล้นเข้าอำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม แล้วไปบรรจบกับแม่น้ำโขงที่ไชยบุรี อำเภอท่าอุเทนนับระยะทาง 420 กิโลเมตรและลำน้ำสาขานับร้อยสาย คือ ทุ่งน้ำขนาดกว้างใหญ่ถึง 6 แสนไร่ ในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ นครพนม…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ตอนที่ 3 พระธาตุสีขาว หากมานครพนมแล้วไม่ได้ถ่ายภาพพระธาตุพนมคงดูจะกระไรๆ  ..พระธาตุพนมอยู่ภายในวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร บนภูที่เรียกว่า ภูกำพร้า ริมถนนชยางกูร หมู่บ้านธาตุพนม ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ที่น่าสนใจ คือ ภายในพระธาตุได้บรรจุพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระพุทธเจ้าที่อัญเชิญมาตั้งแต่ พ.ศ.8...รอบบริเวณจะมีตลาดขายสินค้าที่ระลึก อย่างเช่น โปสการ์ด รวมถึงร้านอาหารตามสั่งและสินค้าบุญ อย่างเช่น นก ปลาและเต่า ให้เอาไปปล่อยในสระโบราณกลางพระธาตุผู้ศรัทธาแห่แหนกันมาจากทั่วทุกสารทิศ ก่อนออกพรรษาจะมีการมาทำบุญเพื่อทะนุบำรุงวัดและพระธาตุ…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ตอนที่ 2 ท่าอุเทนนครพนม ดินแดนแห่งสายน้ำโขง จังหวัดชายแดนไทยลาวอีกหนึ่งจังหวัดที่สงบเงียบ (สงบเงียบอย่างจริงๆจังๆ) เรียบเรื่อยไปตามริมฝั่งโขงติดกับแขวงคำม่วนที่เพิ่งประกาศนโยบายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวกับประเทศไทยเพียงไม่นานลาว ประเทศที่ไม่มีทางออกทะเล พยายามปรับตัวเองให้เป็นประเทศเมืองท่าค้าขายและขนส่งสินค้าในระดับภูมิภาค พร้อมตั้งเป้าขยายการเติบโตทางพลังงาน, นครพนม-แขวงคำม่วน จึงกลายเป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์การค้า และแผนพัฒนาเศรษฐกิจโดยมีรูปธรรมนำ คือ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว สายที่ 3 นครพนม-ท่าแขก (สายที่ 1 หนองคาย-เวียงจันทน์, สายที่ 2 มุกดาหาร-สะหวันนะเขต)...…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ตอนที่ 1 อุ่น อุ่น ที่บ้านแม่สถิตแดดผีตากผ้าอ้อมพาดเฉียงๆ ทำมุมเอียงๆ กับแกนโลกและหลังคาบ้าน ขับเน้นรวงข้าวสุกปลั่ง สมดั่งคำที่ว่า ทุ่งเอ๋ย ทุ่งรวงทอง, นั่นแหละครับ สิ่งที่ผมคิดภาพเอาไว้, เมื่อรุ่นน้องคนหนึ่งชวนผมพร้อมกับยื่นกำหนดการทัวร์บ้านอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรให้ดู“เออ น่าสนว่ะ”“ไปนะพี่ บอกแม่เอาไว้แล้ว” ในความหมายนี้ หมายถึง ความโอบเอื้อแบบอารมณ์คนชนบท...บ้านข่า ต.บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม หนึ่งในเส้นทางของลำน้ำสงคราม ที่ วีระศักดิ์ จันทร์ส่องแสง นักเขียนแห่งค่ายนิตยสารสารคดี ให้ความหมายว่า “ป่าชายเลนน้ำจืดของแผ่นดินอิสาน”เราเดินทางไปด้วยกัน 6 ชีวิต จากกรุงเทพฯมหานครผ่านโคราช (…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กัลกัตตาเป็นเมืองหลวงสมัยที่อินเดียเป็นอาณานิคมของอังกฤษ (มันยิ้มเห็นลิ้น “คิดว่านะ”)อาคารร้านตลาดหรือ Shopping Center ยังคงรูปแบบทางสถาปัตยกรรมยุโรป ประเมินได้ว่า นับตั้งแต่คานธีปลดปล่อยอินเดีย “มันก็ยังอยู่อย่างนั้น ทรุดโทรมไปตามเวลาอย่างขาดการดูแล”ยามเช้า “ชั้นตั้งนาฬิกาปลุกออกไปเดินถนนตั้งแต่ 7 โมงเช้า” บนถนนย่านตลาดสด เวลาเหมือนหยุดนิ่ง เงียบสงบ ยามเช้าที่ไหนก็สวยใสอย่างนี้เสมอ ถนนลาดหินเหมือนจัตุรัสกลางในหนังสือวรรณกรรมอังกฤษ“ถนนลาดหินเหมือนฉากหนังหยองขวัญเรื่อง Jack the Ripper มากกว่าว่ะ”อืม .. หน้าโรงแรม ริมถนนตรงข้ามข้างคันโยกน้ำสาธารณะ เด็กน้อยคนนึงกำลังอาบน้ำ สีฟัน “ชั้นพยายามโฟกัส…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
เรื่องของเรื่อง คือว่า เพื่อนผมไปอินเดีย ดินแดนแห่งโลกอารยธรรมตะวันออก ..มันว่าของมันว่า ภาพสวยมากนะแก ..ผมตาโต ..เท่าไข่นกกระจอกเทศผมเลยถือโอกาสให้มันเล่าเรื่องที่อินเดียให้ฟัง ..“แก ชั้นไปอินเดียมา” มันว่า แถมต่อท้ายอย่างน่าฟัง “นั่นหน่ะ เป็นประเทศที่ชั้นอยากไปเป็นอันดับหนึ่งเชียวนะ”เมืองระดับอารยธรรมเก่าแก่ของโลก เต็มไปด้วยนักพรตในกลิ่นอายของศาสนาฮินดูอย่างในหนังสารคดี โยคีริมฝั่งแม่น้ำคงคา วัดฮินดู อย่างภาพของเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิกหรือทัชมาฮาล อย่างในภาพทัวร์ท่องเที่ยว (อันหลังนี่ผมนึกภาพเอาเอง อิอิ)หลังจากที่เครื่องลงจอดเมืองกัลกัตตา สนามบินแห่งนั้นดูทรุดโทรม ที่น่าสังเกต “…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ท้องฟ้าและท้องน้ำดูจะละลายตัวเข้าหากัน หากไม่มีอ่าวริมน้ำแห่งนั้นขวางกั้นเอาไว้ ...ปลายสุดของสะพานฝั่งมอญ หมู่บ้านคนมอญสงบงัน ไร้เสียง เหมือนชีวิตของพวกเค้า ...\พี่เย็นเกิดที่เมืองไทย พ่อแม่มาจากฝั่งโน้น(ฝั่งพม่า) ถือบัตรสีชมพู (ผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่า) ก่อนจะแปลงสัญชาติเพิ่งได้สัญชาติไทยมาหนึ่งปี ส่วนสามีไม่มีบัตรอะไรทางอำเภอได้เข้ามาสำรวจแล้วแต่ยังไม่ได้ถ่ายบัตร ตอนนี้ถือหางบัตรพี่เย็นมีลูก 2 คน ชายหนึ่งคน หญิงหนึ่งคน เรียนที่โรงเรียนบ้านเด็กป่าลูกชายมีสูจิบัตรและได้รับสัญชาติไทยพร้อมแม่ ส่วนลูกสาวแจ้งเกินกำหนดไป 2…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ง่ายๆ เราเจอกันที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบางซื่อ ..อาสาสมัครสอนหนังสือเด็กในชุมชน กลางเมืองหลวง..กับครูปู่ กลุ่มซ.โซ่อาสา (รู้จักครูปู่และกลุ่มซ.โซ่อาสา www.volunteerspirit.org)ผมนัดกับนุ้งนิ้งเพื่อขอเข้าไปถ่ายรูป อาสาสมัครและเด็กๆ กลางเมืองหลวงในชุมชนตึกแดง ..ถามคนแถวนั้นว่าทำไมต้องตึกแดง ง่ายๆ อีกเหมือนกันครับว่า เมื่อก่อนตึกแถวนี้ทาสีแดง คนเลยเรียกติดปากว่าย่านตึกแดง ...แล้วทำไมต้องทาสีแดง อันนี้ไม่ได้ถามครับ ?จากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบางซื่อ เรา อาสาสมัครต้องนั่งรถสามล้อเครื่องเข้าไปถึงหน้าชุมชนแล้วเดินต่อเข้าไปอีกหน่อย ..ทางเดินแคบๆ นำเราไปยังลานโพธิ์มีเด็กๆ มากกว่า 50 คน รอให้เราเข้าไปสอน...…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
หลายเสียงเล่าว่า สถานการณ์ในพม่ากำลังเข้าสู่ภาวะปกติ(เพราะกลัวตาย)ขณะแนวร่วมทั่วโลกกำลังหยุดส่งเสียง ปล่อยเป็นเรื่องระหว่างรัฐบาลและการเมืองระดับภูมิภาคหรือระดับโลกเจรจากดดันกันไปดูรายการชีพจรโลกของคุณสุทธิชัย หยุ่น นั่งคุยกับอุปทูตอเมริกา จีนและอังกฤษ ที่ต่างสงวนท่าทีต่อการแทรกแซงกิจการภายในหรือใช้มาตรการเด็ดขาดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพม่า โดยเฉพาะท่าทีของอุปทูตจีนที่ระล่ำระลักพูดออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจนประมาณว่า ทางการจีนคงจะไม่ทำอะไรอีกต่อไปเพราะเราเชื่อมั่นในพลังประชาชน และไม่คิดว่าการแทรกแซงจะเป็นการช่วยเหลือประชาชนผู้รักประชาธิปไตย…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
เช้า,เย็น,ค่ำ หน้าสถานทูตพม่า ,สองวันนั้น วิญญาณแห่งเสรีภาพร่ำไห้ออกมาเป็นเสียงfree free free ,free Burma..ด้วยความหวังว่า เสียงแห่งเสรีภาพจะดังก้องไปทั่วโลก ผ่านเวทย์มนต์ของเทคโนโลยีการสื่อสารผิวถนนระอุด้วยไอแดด เหงื่อไคลของเด็กชายไหลลงมาตามผิวหน้า ในตาลุกวาวทุกครั้งที่มีการตะโกนปลุกเร้าว่า “free free free ,free burma” …ชูกำปั้นขึ้นฟ้าให้สุดแขนแล้วตะโกนออกมาดังๆ... free free free, free Burma … free free free, free Burma … free free free, free Burma … free free free, free Burma … free free free, free Burma … free free free, free Burma … free free free, free Burma …ผ้าสีแดงโพกศีรษะ…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ผมคงไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการศาสนา พอที่จะกล่าวหาว่า สังคมไทยเป็นสังคมพุทธแบบไหนนักเดินทางหลายคนที่เคยไปเมืองสังขละบุรี ดินแดน 3 น้ำ ริมชายแดนไทย-พม่าด้านตะวันตก คงจะรู้ว่า หากเราข้ามสะพานไปอีกฝั่งน้ำ ชุมชนคนมอญเคลื่อนไหวในโอบอ้อมของขุนเขา ผืนป่าและผืนน้ำ ตรงจุดที่เรียกว่า สามประสบ แหล่งทำกินของชาวน้ำและแหล่งทำเงินของนักลงทุนเรือแพดารดาษราวเกาะแก่งน้อยใหญ่ เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองสัมผัสกับบรรยากาศแปลกใหม่ คนมอญผู้หาปลาเป็นอาชีพ ไม่ได้ลิ้มรสเนื้อปลาที่ตัวเองหามาได้แต่ถูกแลกเปลี่ยนเป็นเงินบนเรือแพหรือรีสอร์ทหรูริมน้ำแห่งนั้น เลยจากจุดที่ตั้งชุมชนออกไประยะชั่วหม้อข้าวเดือด คือ…