Skip to main content

ตอนที่ 1 อุ่น อุ่น ที่บ้านแม่สถิต

แดดผีตากผ้าอ้อมพาดเฉียงๆ ทำมุมเอียงๆ กับแกนโลกและหลังคาบ้าน ขับเน้นรวงข้าวสุกปลั่ง สมดั่งคำที่ว่า ทุ่งเอ๋ย ทุ่งรวงทอง, นั่นแหละครับ สิ่งที่ผมคิดภาพเอาไว้, เมื่อรุ่นน้องคนหนึ่งชวนผมพร้อมกับยื่นกำหนดการทัวร์บ้านอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรให้ดู

“เออ น่าสนว่ะ”
“ไปนะพี่ บอกแม่เอาไว้แล้ว”
ในความหมายนี้ หมายถึง ความโอบเอื้อแบบอารมณ์คนชนบท
...

บ้านข่า ต.บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม หนึ่งในเส้นทางของลำน้ำสงคราม ที่ วีระศักดิ์ จันทร์ส่องแสง นักเขียนแห่งค่ายนิตยสารสารคดี ให้ความหมายว่า “ป่าชายเลนน้ำจืดของแผ่นดินอิสาน”

เราเดินทางไปด้วยกัน 6 ชีวิต จากกรุงเทพฯมหานครผ่านโคราช (นครราชสีมา), ขอนแก่น, มหาสารคาม, กาฬสินธุ์, ก่อนจะเช้าพอดิบพอดีในเขต จ.สกลนคร เมื่อสายตาปรับแสง จะมองเห็นวิวทิวทัศน์อันอลังการตามเส้นทางเรียบสันเขาภูพาน ก่อนมุ่งเข้าสู่นครพนม แหล่งราบลุ่มทางอารยธรรมหลากชนชาติริมน้ำโขง
...

เราเข้าหมู่บ้าน เมื่อแดดสายละลายความหนาวเย็นในฤดูหนาว,
หนาว ในบางความหมายของอิสานเหนือ คือ หนาวแห้งๆ

หมู่บ้านข่าเป็นหมู่บ้านใหญ่มากๆ คะเนตามสายตา ไม่น่าจะต่ำไปกว่า 500 หลังคาเรือน คนที่นี่ใช้ภาษาโส้(กะโส้หรือกะโซ่)สื่อสาร เป็นลักษณะเฉพาะถิ่นคล้ายสำเนียงคนกูยหรือส่วย ส่วนชื่อหมู่บ้านข่าจะเกี่ยวข้องกับชาวข่าชนเผ่าโบราณในแถบนี้อย่างไรนั้น เรื่องนี้ ยังไม่มีใครทราบแน่ชัด
...

แม่สถิต แม่เฒ่าท่าทางใจดี ซื่อและเท่าทันโลก รอยยิ้มที่ออกจากดวงตาขับเน้นให้เห็นถึงร่องรอยแห่งประสบการณ์ ที่สำคัญ แกทำอาหารอิสานอร่อยที่สุดในโลก ขนมจีนน้ำยาป่า (แนวอิสาน) หมกหน่อไม้ หมกปลาช่อน ส้มตำ ลาบปลาดุก แนมด้วยผักใบเขียว ผักชีลาว แตงกวา ถั่วฝักยาวซอยบาง

กินกันลืมโลก!

หลังจากเริ่มคุ้นเคยและเริ่มแซวกันได้อย่างไม่ถือโกรธ ระหว่างที่นั่งดูโฆษณาทางทีวีถึงการดำเนินการทางด้านนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์

“เลือกตั้งคราวนี้แม่จะเลือกใคร” ผมเอ่ย
แกคิด “ต้องดูหมู่เค้าก่อน คนที่นี่เค้าชอบไทยรักไทย” ที่วันนี้เปลี่ยนเป็นพลังประชาชน
ประมาณว่า รักแล้วรักเลย เกลียดแล้วเกลียดจริง

“แต่คนนี้ก็ดูดีนะ” แกชี้ไปที่ตัวท่านหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
“แล้วคนกรุงเทพฯ ล่ะ เค้าจะเลือกใคร” แกเอ่ยบ้าง
ผมคิด “ไม่แน่นอนหรอกครับแม่”
ประมาณว่า พรรคไหนให้ประโยชน์ก็เฮไปข้างพรรคนั้น.

picture
แม่สถิต แม่ของรุ่นน้อง คนที่ทำขนมจีนน้ำยาสูตรบ้านข่าได้อร่อยที่สุดในโลก

picture
ทุกๆ เช้า คนบ้านข่าจะออกมาตักบาตร ชนิดที่ไม่ต้องไปตักบาตรข้าวเหนียวกันที่หลวงพระบาง ขอย้ำว่า ทุกวันครับ

picture
ขนมจีนน้ำยาสูตรบ้านข่าที่อร่อยที่สุดในโลก

picture
ขนมเบื้องเวียดนาม สูตรดั้งเดิมที่ไม่ค่อยมีให้เห็นมากนัก

picture
ทุ่งข้าวสีทอง รอเคียวมาเกี่ยวรวง

picture
เข้าหน้าหนาวชาวนาบ้านข่าจะเริ่มเก็บข้าวเข้าฉาง ที่นี่ยังมีการลงแรงกันให้เห็น

picture
นอกจากถนนกลางหมู่บ้านข่าจะเป็นของรถแล้วยังเป็นของ ...

บล็อกของ กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์

กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
อยู่ดาก้าเพียง 2 วัน มันถูกส่งขึ้นดอยแดนดงป่า อีกแล้ว (ตรงนี้เพื่อนผมอุทธรณ์ว่า เหมือนอยู่เมืองไทยไม่มีผิด กำ) “ต้องไปเมืองอะไรครับ” เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการถาม ‘จิตตะกอง’ “โห โหดน๊า” นั่นหมายถึงคำปลอบโยน
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
อีกครั้งที่ ‘เพื่อนผม' มันไปสังเกตุการณ์การเลือกตั้งในบังคลาเทศ (แล้วผมก็เอามาเขียน 555) (จริงๆ มันไปเมื่อนานมาแล้วสักครึ่งปีเห็นจะได้)
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ภาพสุดท้ายที่ผมมองเห็นก่อนออกจากเปียงหลวง คือ ทิวเขาลูกนั้นในสายหมอกโอบอ้อมกับรอยยิ้มอิ่มบุญของคนไต งานปอย-ส่างลองสิ้นสุด พร้อมกับคอนเสริ์ตทิ้งท้ายที่เล่นกันค่อนรุ่ง ความรื่นเริงของคนหนุ่มสาวและส่างลองที่พร้อมจะเข้าสู่โลกแห่งธรรม
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ผมคิดว่าโครงใบหน้าของคนไตดูสวยดี โดยเฉพาะ ,ผู้หญิง ถึงแม้ว่า วันนี้ พวกเธอหลายคนจะต้องออกไปหางานทำนอกหมู่บ้าน , สิ่งที่มากกว่านั้น คือ ความรักและแรงศรัทธาในการร่วมงานบุญ ,และรอยยิ้มของพวกเธอ
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ศูนย์พักรอกุงจ่อ คือ พื้นที่ของผู้หนีภัยการสู้รบจากการปราบปรามอย่างรุนแรงของรัฐบาลทหารพม่า นับจากปี 2545 ชาวไต(ไทใหญ่)ร่วมหนึ่งพันคน เดินเท้าเข้าประเทศไทยทางด่านหลักแต่ง...!!!
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
พ่อส้านและส่างลอง เป็นภาพที่คู่กัน ส่างลองอยู่ที่ไหน พ่อส้านจะอยู่ที่นั่น แต่ละคน แต่ละคู่ ต่างมีลีลาที่แตกต่างกันออกไป ... เชื่อกันว่า ได้บุญใหญ่ ส่างลองในวันนี้จะเป็นพ่อส้านที่ดีในวันหน้า ทั้งนี้ ตามความสมัครใจ เช้า ขี่คอแห่ส่างลองไปตามวัด บ่ายแก่ได้พัก กลางคืนนอนเฝ้าส่างลองหลังซุ้ม ครบ 5 วัน เชื่อกันว่า ได้ขึ้นสวรรค์ !!! ดูลีลาของพวกเขาสิครับ .....
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
บริเวณสนามฟุตบอล โรงเรียนบ้านเปียงหลวงเต็มไปด้วนสีสัน สีสันงานบุญซุ้มส่างลองทั้ง 107 ซุ้มกระจายอยู่โดยรอบสนามฟุตบอล เวทีดนตรีใหญ่หันหน้าประชันกับเวทีลิเกไทใหญ่หรือ "จ๊าดไต" เวทีใหญ่เล่นดนตรีทันสมัย โครงสร้างเวทีทำด้วยแกนเหล็กประกบเสาสูงราวเมตรครึ่ง ,ส่วนเวทีจ๊าดไตทำจากโครงไม้ไผ่ทั้งหลัง ปูพื้นด้วยแผ่นไม้กระดาน ฝาด้านหลังทำด้วยใบตองตึงสีน้ำตาลแห้งเก่าทะลุมองเห็นด้านใน ,วงดนตรีเครื่องสายดีดสีตีเป่าครบ ,นางรำแต่งหน้าทาปาก พันคอด้วยผ้าแถบมันเลื่อม ด้านตรงข้ามแดนเซอร์ชาวดอยวิ่งกระจายออกมาหน้าเวทีใหญ่
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
มีดโกนด้ามใหม่ สีดำสนิท บรรจงกรีดลงไปตามไรผมแต่ละเส้น ส่างลองทุกคนรู้ดีว่า พิธีกรรมต่อจากนี้ไปพวกเขาจะต้องใช้ความอดทนมากแค่ไหนกว่าผมจะหมดศีรษะ บางคนใบหน้าเหยเก บางคนถึงกับร้องไห้ จนพระพี่เลี้ยงและพ่อแม่ต้องหยุดใบมีดเอาไว้ก่อนแล้วตักน้ำส้มป่อยราดหัว ฟอกด้วยยาสระผมแล้วเริ่มโกน โกนจนหมดศีรษะ !!!
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
รถตู้กลางเก่ากลางใหม่ของบริษัทดาวทองขนส่ง จำกัด ออกจากสถานีช้างเผือก 10.30 น. หนุ่มใหญ่วัย 40 เศษ ไว้เคราบางๆและสวมแว่นตาดำตลอดเวลาซิ่งเจ้าเพื่อนยากปุเลงไปตามสันเขาน้อยใหญ่บนเส้นทางเชียงใหม่-เปียงหลวง 161 กิโลเมตร แดดฤดูร้อนจัดจ้านขับให้ดอกหางนกยูงสีแดงข้างทางสดเข้ม ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ผ่านอำเภอเชียงดาวถึงแยกเมืองงาย เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสายแม่จา-เปียงหลวง ก่อนที่เส้นทางจะไต่ไปตามสันเขาคดเคี้ยว หนุ่มนักซิ่งของเราจะเตือนผู้โดยสารผ่านน้ำเสียงหนักแน่นว่า
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
... ผู้เฒ่าหญิงชายทั้งในชุดห่มขาวและชุดลำลองทั่วไป ต่อแถว รอพระลงจากกุฏิรับบิณฑบาตร สายหมอกฤดูร้อนห่มคลุมจางๆ ทำให้บรรยากาศรอบๆ ดูเลือนลางกึ่งจริงกึ่งฝัน งานฉลองพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ตื้อฯ ที่บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม มีศาสนิกชนผู้ศรัทธาเนืองแน่นเดินทางมาจากทุกสารทิศงานครั้งนี้เป็นบุญใหญ่ที่มีการเฉลิมฉลองถึง 15 วัน (1-15 พ.ค. 52) ภายในงานเปิดโรงทานโดยผู้มีจิตศรัทธาจะทำอาหารมาเลี้ยงผู้ร่วมงานบุญโดยไม่คิดสตางค์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์