Skip to main content

อยู่ดาก้าเพียง 2 วัน มันถูกส่งขึ้นดอยแดนดงป่า อีกแล้ว (ตรงนี้เพื่อนผมอุทธรณ์ว่า เหมือนอยู่เมืองไทยไม่มีผิด กำ)

ต้องไปเมืองอะไรครับ” เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการถาม
จิตตะกอง’
โห โหดน๊า” นั่นหมายถึงคำปลอบโยน
\\/--break--\>

จิตตะกอง เป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ติดอ่าวเบงกอล ทิศตะวันออกติดกับพม่าแถบถิ่นอาระ-กัน ดินแดนของชาวโรฮิงญาที่หนีตายเข้ามาทางจังหวัดระนอง นั่นแหละครับ

เมืองที่เพื่อนผมต้องรับผิดชอบ คือ คา-กรา-ชาริ

มันออกจากดาก้าตั้งแต่ 7 โมงเช้า พร้อมคู่บัดดี้ชาวพม่า ล่ามชาวบังคลาเทศและคนขับรถตู้หนึ่งคน รวมทั้งหมด 4 ชีวิต “แทบไม่น่าเชื่อนะแก เวลาเร่งด่วนของที่นี่รถติดเหมือนกรุงเทพฯ แถมการจราจรเหลือเชื่อ” มันว่า

ท้องทุ่งนาสุดลูกหูลูกตา สิ่งที่น่าสังเกตุ เห็นจะเป็นโรงทำอิฐ กลางทุ่ง ชาวเบงกาลีหลายคนง่วนอยู่กับการเอาดินเหนียวลงบล็อก นำมาตากแห้งก่อนจะเอาเข้าเตาเผา สภาพโดยทั่วไปไม่แตกต่างไปจากอิสานบ้านเฮา

กว่าจะถึงคา-กรา-ชาริ อีก 5 นาที สามทุ่ม

ตลอดสามชั่วโมงหลังของการเดินทาง เป็นถนนตัดภูเขา มืดตื๋อ แทบจะไม่มีรถสวน หากใครเคยขับรถเส้นท่าสองยาง-แม่สะเรียง คงจะคิดภาพกันออก

มันบอกว่า “หากรถเสียนะแก คิดภาพไม่ออก”

ก่อนจะเข้าเขตเมือง ด่านทหารเรียกให้รถหยุด คล้ายกับถนนเส้นชายแดนไทยที่หลายคนคงเคยเจอ
มาทำอะไร”
เพื่อนผมชูป้ายนักสังเกตุการณ์ การเลือกตั้งที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจาก กกต. บังคลาเทศ

รอยยิ้มโปรยบนใบหน้าแทนคำตอบ ก่อนจะให้มันลงชื่อ ที่พักพร้อมกับหมายเลขพาสปอร์ต อยู่กี่วัน หากจะออกจากเมืองต้องแจ้งทุกครั้ง

เพื่อนมันยังมีหน้าไปถามเค้าอีกว่า ทำไมต้องให้เขียนอะไรเยอะแยะคะ
เพื่อความปลอดภัยครับ เราต้องดูคุณเป็นพิเศษ”

พร้อมกับข่าวการลักพาตัวชาวต่างประเทศเพิ่งมาเข้าหูเพื่อนผมหลังจากนั้น
...

หลังจากรถออกจากด่านถึงที่พัก
แกเชื่อมะ เมืองนั่น อากาศดีโคตร”
มันทำตาลอย
....

 


มื้อแรกใน คา
-กรา-ชาริ อาหารอร่อยและสะอาดที่สุดเท่าที่จะหาได้ (แต่ต้องใช้มือเปิปอ่ะ)

 




เหมือนจะเป็นตลาดสด แต่ไม่แน่ใจเหมือนกัน ออกแนววางขายแบกะดิน มีสินค้าทุกอย่าง ตั้งแต่พริกจนถึงหม้อ

 


บรรยากาศการจราจรในเมือง คา
-กรา-ชาริ จะปั่นสามล้อกันเป็นส่วนใหญ่ มองเห็นป้ายเลือกตั้งทั่วเมือง

 


เด็กสาวรุ่นขนฟืนไปเป็นเชื้อเพลิงภายในบ้าน
(บ้างก็ขนไปขาย)

 


นี่ก็ขนฟืนแต่เช้า มีหมอกลอยระเรี่ยไปทั้งเมือง เงียบสงบ แทบไม่มีรถ

 


โปสเตอร์โฆษณาหาเสียงที่บังคลาเทศ มีขนาดเอสามและสีขาวดำเท่านั้น ห้ามทำแบบอื่น เป็นทฤษฏีรัดเข็มขัดภายในประเทศเพื่อป้องกันการถอนทุนคืนในภายหลัง
(อันนี้เพื่อนผมมันคิดเอาเองครับ)

 


ตามภาพนั่นแหละครับ

 


เช้าก็ขน เย็นก็ขน
..! ! !

 


วัดพุทธบนยอดเขา

 

 

 

บล็อกของ กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์

กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
สะพานมอญเป็นอีกที่เที่ยวยอดนิยมอีกที่ ,ที่คนส่วนใหญ่จะไป ข้อแรก ไปง่าย ข้อสอง สวยดี นอกเหนือจากนี้ ยังมีเรื่องราวของคนหลากหลายกลุ่ม
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ในวันที่บ้านชื่นใจเต็มไปด้วยสายหมอก ไอชื้นหนาก่อตัวเป็นหยดน้ำ เกาะตามร่องใบสีเขียวอ่อนของยอดหญ้า ... บนทางดิน ดอกปีบสีขาวร่วงเกลื่อนดินนุ่ม
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
คนกลัวลิงจากหลายเหตุผล ?? จากหน้าตา ท่าทางที่เอาเรื่อง จากความซุกซน อยู่ไม่นิ่งและอารมณ์ปรวนแปร "อย่าเข้าไปใกล้มันนะ" คุณแม่ยื้อยุดมือลูกสาวที่ยื่นขนมสีหวานไปให้ ... ขณะกดชัตเตอร์ จ๋อบางตัวกระโดดเกาะหลัง ผมคิดว่า มันคงอยากรู้อยากเห็น  
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ลิง เรียนรู้การมีชีวิตจากคน ,เราเป็นบรรพบุรุษของลิงผ่านสายใยของวิวัฒนาการ ดวงตาใสแหน๋ว มองตรงมายังกล้วยและถั่วลิสงต้ม ,ไอติมปั่นสีแดงในมือเด็กน้อยถูกฉกไปดูดเลียคลายความร้อนจากอากาศยามเที่ยง ,ทั่วบริเวณพระปรางค์สามยอดแน่นขนัดไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานโต๊ะจีนลิงที่จัดเป็นประจำทุกๆ ปี
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
เช้า รวมพลก่อนออกเดินทางไกล จะเห็นได้ว่าทุกคนยังสดใส ภาพนี้ถ่ายระหว่างรอรถไปส่งปากทางเข้าดงนาทาม รอยยิ้มใสใสกับผิวพรรณใสใสจะกลายเป็นสีแทนในอีกไม่ช้า  
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ยาวไกล สายน้ำสีขาวหายเข้าไปในขุนเขา โขดหินและทิวป่า .. เหล่าผู้นิยมไพร ยังคงเดินทางไกล ,ยาวนาน จนเสียงหัวเราะกลายเป็นเสียงพึมพำ “เพ่ ทามมายมันร้อนอย่างงี้” นายคนหนึ่งเอ่ย “ป่าอิสานไม่เหมือนป่าภาคเหนือ” พี่ลม นายกท้องถิ่นเอ่ยอย่างนิ่มนวล ก่อนออกตัวอย่างเป็นทางการถึงความนิยมของนักท่องเที่ยวที่มักจะนิยมป่าแถบเหนือมากกว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักคิดถึงการเดินทางขึ้นเหนือ ....
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
สายลมต้นฤดูหนาวกระหวัดวนบนยอดหญ้า เห็นเป็นริ้วๆ เหนือผลาญหินแห่งดงนาทาม ทุ่งดอกแดงอุบลสลับเหลืองพิมร บานสะพรั่ง ถึงแม้จะดูแห้งแล้งแต่ในโลกของธรรมชาติกลับมอบชีวิตและความสมดุล
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
แดดร้อนเปรี้ยง ผ่าลงกลางหัว , เบื้องหน้า คือ ทางเดินหินที่ดูเหมือนจะไร้จุดสิ้นสุด ,แต่ทุกคนต่างมีความหวังจะเดินไปให้ถึงจุดหมาย
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ปลาหมึกสีชมพู ใต้ท้องทะเลสีฟ้า ,มันเอาหนวดยาวๆ เกี่ยวกระหวัด เรือสีน้ำตาลที่มีใบสีเขียว ในสายตาของใครหลายคน ,สีน้ำบนกระดาษดูเลอะเทอ ,แต่ไม่เป็นไร สำหรับน้องกายส์ ซ์ซ์ซ์ , "นี่มันเรื่อง โจรสลัดแห่งทะเลแคริบเบี้ยน ใช่ไม๊" "ไม่ใช่" น้องกายทำหน้า งง อะไรเหรอ
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
นิ้วเล็กๆ บรรจงแต้มสีและกาว ด้วยความตั้งใจ ,เด็กๆ มักจะไม่กังวลกับความเลอะเทอะ ,ไม่เหมือนผู้ใหญ่ เชื่อกันว่า ,ศิลปะ กว้างและลึก จรรโลงและสร้างสรรค์ ,เด็กๆ มองเห็นภาพในความว่างเปล่าของอากาศ จนกระทั่ง พวกเขาโตเป็นผู้ใหญ่ ,และความจำเป็นในชีวิตโบยตี ,เหตุผลของมันทำให้ดวงตาแบบนั้นหายไป  
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
สำหรับคนที่รักการเดินทาง ยาดาเป็นหนึ่งในนั้น, สำหรับเธอ โลกนี้ไร้กาลเวลา,และเขตแดน หลากเชื้อชาติ ,มีชีวิตและเรื่องราวเสมอ
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
หลังวันเลือกตั้งเป็นเดือนแห่งการถือศีลอดของชาวมุสลิม ,ยาดาและทีมสังเกตุการณ์การเลือกตั้งกลับมายังกรุงคาบูล์ เมืองทั้งเมืองสงบนิ่งด้วยบรรยากาศแห่งความศรัทธาและเป็นครั้งแรกที่อัลเฟรลอนุญาตให้ทีมงานออกไปเดินเล่นได้โดยไม่ต้องมีล่ามและทีมการ์ด   บนถนนเต็มไปด้วยผู้คนที่เคร่งขรึม ไม่ดื่ม ไม่กิน จนกว่าพระอาทิตย์จะตกดิน ไร้ข่าวของความรุนแรง ถึงแม้ว่า กลุ่มตาลีบันจะพยายามล้มการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่วันนี้ ถือเป็นวันอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาเช่นเดียวกับชาวมุสลิมทั่วโลก ทุกคนกลายเป็นหนึ่ง ไม่ว่า พ่อค้า ข้าราชการหรือกรรมกร ชิกเก้น สตรีท เป็นถนนสายใหญ่ที่เต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว…