สายลมต้นฤดูหนาวกระหวัดวนบนยอดหญ้า เห็นเป็นริ้วๆ
เหนือผลาญหินแห่งดงนาทาม
ทุ่งดอกแดงอุบลสลับเหลืองพิมร บานสะพรั่ง
ถึงแม้จะดูแห้งแล้งแต่ในโลกของธรรมชาติกลับมอบชีวิตและความสมดุล
...
แมลงทับ ปีกแข็ง เลื่อมพราย เกาะอยู่กลางกลุ่มกระดุมเงินสลับสีน้ำเงินของดุสิตา
ทิพยเกษร สร้อยสุวรรณ ดอกดินและหยาดน้ำค้าง หยดหยาดความงามลงบนหินผา
ใครบางคนจ้องมองเอนอ้าบานบนลานหินอย่างไม่วางตา
...
เสียงเพลงจากสายลมหนาวเริ่มต้นบรรเลง ดอกดงนาทามเอนลู่ไปตามเงาของเวลา
ณ.ริมผา ดวงตะวันแสงแรกค่อยคลี่คลายสายหมอกสีขาวและกลุ่มควันเริ่มโชยสายจากหมู่บ้านริมโขง
โขงสีปูนขุ่นนิ่งสนิทอยู่กลางป่าผืนใหญ่ด้านตะวันออก
ใครจะไปเชื่อว่า โลกในธรรมชาติยิ่งใหญ่และงดงาม นับจากวันที่เราค้นพบไฟฟ้าและกิจวัตรแห่งชีวิตที่แปลกออกไป
...
ทุกๆ วัน เรามองสายน้ำผ่านทีวีจอแบนขนาด 44 นิ้ว
ทุกๆ วัน เราจับสายลมผ่านแอร์คอนดิชั่น
ทุกๆ วัน เราดมดอมดอกไม้ผ่านสเปรย์ปรับอากาศของแอมเวย์
และสัมผัสกลิ่นไอของโลกผ่านรายการดิสคัฟเวอรี่
กับความเชื่อที่ว่า แสงแดดทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง
เป็นเช่นนั้น ทุกๆ วัน ทุกๆ วัน ทุกๆ วัน
...
จนลืมไปว่า จุดกำเนิดของชีวิตอยู่กลางโลกแห่งธรรมชาติ
ไกลออกไปทางฝั่งตะวันตก บทเพลงของจักรวาลถูกบรรเลงบนเรียวนิ้วของนักวิทยาศาสตร์
เมื่อโลกแคบลง
แดงอุบลจะบานอยู่ในห้องแลป
แด่ดอกไม้แห่งดงนาทาม