Skip to main content

ในวันที่บ้านชื่นใจเต็มไปด้วยสายหมอก ไอชื้นหนาก่อตัวเป็นหยดน้ำ เกาะตามร่องใบสีเขียวอ่อนของยอดหญ้า ... บนทางดิน ดอกปีบสีขาวร่วงเกลื่อนดินนุ่ม
\\/--break--\>
ความฝันระยิบระยับอยู่ในไอแดดสาย ...

บ้านชื่นใจ ความฝันง่ายๆ ของต้น ผู้รักในทุกๆ การเดินทางของเธอ
อยากมีบ้านและที่พักราคาสบายสำหรับนักเดินทาง'
เธอพูดถึงบ้านของเธอว่า "ที่นี่จะเป็นครอบครัวของนักเดินทาง"

กาแฟในถ้วยควันฉุย อ่อนหวาน ...
ต้น เจ้าของบ้านตื่นเช้าเสมอ (หากเมื่อคืนเธอไม่มีปาร์ตี้) หญิงสาวไม่ชอบกาแฟแต่เธอจะมีชุดน้ำชาที่พร้อมเผื่อแผ่ทุกคน

"ไง เมื่อคืนหลับสบายไม๊วะ" เธอเอ่ย เมื่อเห็นผมนั่งจิบกาแฟกลางแดด
"สบายอยู่แว้ว" ผมทะเล้น
"เจ้าม่อนอ่ะ" ผมพยักเพยิดไปทางรุ่นน้องที่กำลังหามุมถ่ายภาพ
"เออ ดี ขยันจริง ขยันจัง สบายเลยนะแก"
!!! 

มากกว่า 1 ปี ที่บ้านชื่นใจผ่านร้อนผ่านหนาวพร้อมกับความฝันของหญิงสาว--วันที่เธอตัดสินใจทำบ้าน ระหว่างหนทางของความฝันจนถึงจุดมุ่งหมาย คนส่วนใหญ่มักจะมองที่ผลของความสำเร็จมากกว่าเส้นทางที่ต้องฟันฝ่า
--จนลืม ความยากในการทำฝัน

"อีกหน่อยจะมีมุมหนังสือ"
"ขาย" ผมเลิกคิ้ว
"เปล๊า เป็นมุมสำหรับเด็กที่นี่" เธอหมายถึง เด็กๆ ลูกแรงงานชาวพม่าในอำเภอสังขละบุรี
"จริงดิ จะอ่านออกเปล่าวะ" ผมถามง่ายๆ มากกว่าอยากจะได้รับคำตอบจริงจัง
เช้าๆ แบบนี้ไม่ควรจริงจัง อย่างน้อยผมก็คิดแบบนั้น
!!!

แดดสายละลายหมอกสีขาวอย่างไม่ไยดี ... นักเดินทางสาวสามคนเริ่มต้นวันด้วยเบียร์ขวดเล็กที่หิ้วมาจากเซเว่น อีเลฟเว่นแถวตลาดสังขละบุรี     -- ร้านกาแฟชื่นใจไม่ขายเบียร์ .. เธอไม่ต้องการความวุ่นวายมากไปกว่าอารมณ์ละเมียดของชาและกาแฟกลิ่นกรุ่น --แต่บางอารมณ์ต้นอนุญาตให้แอลกอฮอร์ดูดซึมเข้าร่างกายได้ตามสมควร

ในสายตาของนักลงทุน ...บ้านชื่นใจ สามารถทำเงินได้มากกว่านี้
ในสายตาของต้น ... บ้านชื่นใจเป็นที่พักของจิตวิญญาณ
ระหว่างการเดินทาง ณ สุดถนน... บ้านชื่นใจ--รอเธออยู่ที่เดิม เสมอ
ผมไม่รู้  -- เราต่างเป็นผู้เลือกเส้นทางและความฝันเป็นสิ่งที่สุดท้ายที่เราควรจะสูญเสียมันไป
บ้านชื่นใจซ่อนตัวอยู่ภายในหมอกสีขาว
!!!

สวัสดีปีใหม่ครับ































 

บล็อกของ กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์

กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
อยู่ดาก้าเพียง 2 วัน มันถูกส่งขึ้นดอยแดนดงป่า อีกแล้ว (ตรงนี้เพื่อนผมอุทธรณ์ว่า เหมือนอยู่เมืองไทยไม่มีผิด กำ) “ต้องไปเมืองอะไรครับ” เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการถาม ‘จิตตะกอง’ “โห โหดน๊า” นั่นหมายถึงคำปลอบโยน
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
อีกครั้งที่ ‘เพื่อนผม' มันไปสังเกตุการณ์การเลือกตั้งในบังคลาเทศ (แล้วผมก็เอามาเขียน 555) (จริงๆ มันไปเมื่อนานมาแล้วสักครึ่งปีเห็นจะได้)
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ภาพสุดท้ายที่ผมมองเห็นก่อนออกจากเปียงหลวง คือ ทิวเขาลูกนั้นในสายหมอกโอบอ้อมกับรอยยิ้มอิ่มบุญของคนไต งานปอย-ส่างลองสิ้นสุด พร้อมกับคอนเสริ์ตทิ้งท้ายที่เล่นกันค่อนรุ่ง ความรื่นเริงของคนหนุ่มสาวและส่างลองที่พร้อมจะเข้าสู่โลกแห่งธรรม
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ผมคิดว่าโครงใบหน้าของคนไตดูสวยดี โดยเฉพาะ ,ผู้หญิง ถึงแม้ว่า วันนี้ พวกเธอหลายคนจะต้องออกไปหางานทำนอกหมู่บ้าน , สิ่งที่มากกว่านั้น คือ ความรักและแรงศรัทธาในการร่วมงานบุญ ,และรอยยิ้มของพวกเธอ
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ศูนย์พักรอกุงจ่อ คือ พื้นที่ของผู้หนีภัยการสู้รบจากการปราบปรามอย่างรุนแรงของรัฐบาลทหารพม่า นับจากปี 2545 ชาวไต(ไทใหญ่)ร่วมหนึ่งพันคน เดินเท้าเข้าประเทศไทยทางด่านหลักแต่ง...!!!
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
พ่อส้านและส่างลอง เป็นภาพที่คู่กัน ส่างลองอยู่ที่ไหน พ่อส้านจะอยู่ที่นั่น แต่ละคน แต่ละคู่ ต่างมีลีลาที่แตกต่างกันออกไป ... เชื่อกันว่า ได้บุญใหญ่ ส่างลองในวันนี้จะเป็นพ่อส้านที่ดีในวันหน้า ทั้งนี้ ตามความสมัครใจ เช้า ขี่คอแห่ส่างลองไปตามวัด บ่ายแก่ได้พัก กลางคืนนอนเฝ้าส่างลองหลังซุ้ม ครบ 5 วัน เชื่อกันว่า ได้ขึ้นสวรรค์ !!! ดูลีลาของพวกเขาสิครับ .....
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
บริเวณสนามฟุตบอล โรงเรียนบ้านเปียงหลวงเต็มไปด้วนสีสัน สีสันงานบุญซุ้มส่างลองทั้ง 107 ซุ้มกระจายอยู่โดยรอบสนามฟุตบอล เวทีดนตรีใหญ่หันหน้าประชันกับเวทีลิเกไทใหญ่หรือ "จ๊าดไต" เวทีใหญ่เล่นดนตรีทันสมัย โครงสร้างเวทีทำด้วยแกนเหล็กประกบเสาสูงราวเมตรครึ่ง ,ส่วนเวทีจ๊าดไตทำจากโครงไม้ไผ่ทั้งหลัง ปูพื้นด้วยแผ่นไม้กระดาน ฝาด้านหลังทำด้วยใบตองตึงสีน้ำตาลแห้งเก่าทะลุมองเห็นด้านใน ,วงดนตรีเครื่องสายดีดสีตีเป่าครบ ,นางรำแต่งหน้าทาปาก พันคอด้วยผ้าแถบมันเลื่อม ด้านตรงข้ามแดนเซอร์ชาวดอยวิ่งกระจายออกมาหน้าเวทีใหญ่
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
มีดโกนด้ามใหม่ สีดำสนิท บรรจงกรีดลงไปตามไรผมแต่ละเส้น ส่างลองทุกคนรู้ดีว่า พิธีกรรมต่อจากนี้ไปพวกเขาจะต้องใช้ความอดทนมากแค่ไหนกว่าผมจะหมดศีรษะ บางคนใบหน้าเหยเก บางคนถึงกับร้องไห้ จนพระพี่เลี้ยงและพ่อแม่ต้องหยุดใบมีดเอาไว้ก่อนแล้วตักน้ำส้มป่อยราดหัว ฟอกด้วยยาสระผมแล้วเริ่มโกน โกนจนหมดศีรษะ !!!
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
รถตู้กลางเก่ากลางใหม่ของบริษัทดาวทองขนส่ง จำกัด ออกจากสถานีช้างเผือก 10.30 น. หนุ่มใหญ่วัย 40 เศษ ไว้เคราบางๆและสวมแว่นตาดำตลอดเวลาซิ่งเจ้าเพื่อนยากปุเลงไปตามสันเขาน้อยใหญ่บนเส้นทางเชียงใหม่-เปียงหลวง 161 กิโลเมตร แดดฤดูร้อนจัดจ้านขับให้ดอกหางนกยูงสีแดงข้างทางสดเข้ม ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ผ่านอำเภอเชียงดาวถึงแยกเมืองงาย เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสายแม่จา-เปียงหลวง ก่อนที่เส้นทางจะไต่ไปตามสันเขาคดเคี้ยว หนุ่มนักซิ่งของเราจะเตือนผู้โดยสารผ่านน้ำเสียงหนักแน่นว่า
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
... ผู้เฒ่าหญิงชายทั้งในชุดห่มขาวและชุดลำลองทั่วไป ต่อแถว รอพระลงจากกุฏิรับบิณฑบาตร สายหมอกฤดูร้อนห่มคลุมจางๆ ทำให้บรรยากาศรอบๆ ดูเลือนลางกึ่งจริงกึ่งฝัน งานฉลองพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ตื้อฯ ที่บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม มีศาสนิกชนผู้ศรัทธาเนืองแน่นเดินทางมาจากทุกสารทิศงานครั้งนี้เป็นบุญใหญ่ที่มีการเฉลิมฉลองถึง 15 วัน (1-15 พ.ค. 52) ภายในงานเปิดโรงทานโดยผู้มีจิตศรัทธาจะทำอาหารมาเลี้ยงผู้ร่วมงานบุญโดยไม่คิดสตางค์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์