Skip to main content

ในสายตาของนักเสี่ยงโชค ,เกาะกง หมายถึง แหล่งทำเงินขนาดใหญ่..., หากเทพีแห่งโชคเข้าข้าง, เขาหรือเธอ เหล่านั้น

...

เชื่อว่า หลายคนคงรู้จักเกาะกงในฐานะแหล่งการพนันแหล่งใหญ่ของประเทศกัมพูชา ณ จุดชายแดนไทย จังหวัดตราด ที่ปล่อยให้มีการเปิดบ่อนเสรี จนรัฐบาลไทยหลายๆ รัฐบาลคิดทำตามอย่าง ..แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีรัฐบาลชุดไหนสามารถแหวกม่านความคิดของสังคมไทยออกไปรอดพ้น

...

ผมไม่ได้ไปเกาะกงในฐานะนักเล่น (เพราะไม่มีฐานะมากพอ 555) แต่ได้ติดสอยห้อยตามเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่งไปสังเกตการณ์ทำข้อมูลเรื่องหญิงชาวกัมพูชาในสถานบริการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี, ที่อำเภอคลองสนและอำเภอหาดเล็ก จังหวัดตราด ..

...

เกาะกง จังหวัดเล็กๆ จังหวัดหนึ่งของกัมพูชา ,มีเมืองเอกชื่อว่า กรงเกาะกง ..เมืองแห่งความศิวิไลซ์ แสงสีและอารยธรรม ,การเปิดเสรีบ่อนการพนันได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ทำให้ชาวต่างชาติและคนไทยหลั่งไหลกันเข้าไปเสี่ยงโชคอย่างต่อเนื่อง สร้างรายได้ สร้างธุรกิจให้แก่กลุ่มทุนใหญ่ๆ ทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่อย่างเป็นกอบเป็นกำ, แต่ดูเหมือนว่า, ประชากรชาวกัมพูชาในจังหวัดเกาะกง ไม่ได้ร่ำรวยหรือมีฐานะดีไปตามรายได้ที่ไหลเข้าบ่อนการพนัน, ตรงกันข้ามกลับมีฐานะยากจน การศึกษาน้อยและคุณภาพชีวิตอยู่ในระดับที่เรียกว่า, แย่

...

บางคนทำงานท่าเรือ, บางคนขายสินค้าบริเวณจุดผ่อนปรน, บางคนเป็นลูกเรือประมง เป็นแรงงาน กรรมกรขนสินค้า, และในบางครั้ง, เขาหรือเธอ อยู่ในสถานบริการ หรือ ซ่อง ..

...

ในเงาสลัวของอำเภอคลองสน เด็กสาวนั่งอยู่บนแคร่ไม้ไผ่หน้าร้าน, บนถนนสายยาวของเทศบาล ทั้งสาย คือ ซ่อง, ความจำเป็นบนชีพจรแห่งการดิ้นรนที่จะมีชีวิตและตอบกันอย่างไม่เหนียมอายศีลธรรมว่า, มันจำเป็นสำหรับลูกเรือประมง, โลกบางโลกจึงเป็นเรื่องที่ยากจะเข้าใจในความคิดของนักศีลธรรม

...

คงไม่มีใครอยากขายบริการหรอกพี่ ..หากไม่จำเป็น ..เพื่อนรุ่นน้องผมว่า
ระหว่าง กระดกเบียร์ในร้านคาราโอเกะ&ซ่องแห่งหนึ่ง,

อืม !

..ผมไม่กล้า ถ่ายรูปพวกเธอ !

1
ชายฝั่งบริเวณเกาะกง, บ้านที่เห็น คือ ชุมชนชาวกัมพูชาที่เข้ามาทำงานฝั่งไทย

2
บรรดาเด็กๆ มาช่วยพ่อแม่ คัดแยกปลา, กล่าวกันว่า ตกกลางคืน เด็กสาวบางคนไปทำงานในสถานบริการ

3
รอยยิ้มของเด็กชาวกัมพูชา, สดใส ไม่ว่าโลกจะเป็นสีใด

4
เด็กบางคนได้เรียนหนังสือ, โรงเรียนในฝั่งกัมพูชา

5
ภาพหุ่นขี้ผึ้งจำลอง ,แสดงการอพยพหนีภัยสงครามของชาวกัมพูชาในปี 2522 ที่อนุสรณ์สถานเขาล้าน

6
แสดงใบหน้าอิดโรยของชาวกัมพูชาอพยพ, คุยกันว่า ผู้อพยพเหล่านี้ถึงกับกินใบไม้ต่างข้าว

7
เช้า, ชาวกัมพูชามาออกันเต็มด่านในวันที่มีตลาดนัด

8
เย็น, ชาวกัมพูชาต่างทยอยกันกลับบ้าน

บล็อกของ กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์

กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ใบไม้ปลิดออกจากขั้ว กลายเป็นสีขาวกลางผืนป่าสีเขียว
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
   ฮ่อมดง มองเห็นเป็นพุ่มๆ ริมทาง
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ดงน้อยเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมักจะหยุดค้างแรม มีห้องน้ำที่ทำด้วยไม้ไผ่สานใบตองตึงต่ออย่างหยาบๆ ในห้องขุดลึกเป็นโพรงราวๆ 3 เมตร ปากหลุมเป็น 4 เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 1x1 เมตร มีไม้พาดระหว่างปากหลุมให้นักท่องเที่ยวเข้าไปนั่งทำธุระทั้งหนักและเบานักเดินป่าสัก 10 คน มาถึงดงน้อยในเย็นวันนั้น อากาศขมุกขมัวทำให้เวลากลางวันสั้นกว่าเวลากลางคืน มืดสนิทภายใต้อ้อมกอดของขุนเขาและราวป่า ลูกหาบของคณะเดินป่าชุดนั้นเริ่มอุธทรณ์ เมื่อพวกเขาคิดว่า จะเดินไปอ่างสลุงในคืนนั้น เพื่อให้ทันดูทะเลหมอก“หากพวกคุณจะไป พวกคุณไปได้เลย ลูกหาบ(4 คน)จะพักที่นี่แล้วตามไปพรุ่งนี้”“อ่าว แล้วเราจะเอาอะไรกินคืนนี้” หนึ่งในนั้นเริ่ม…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ผมยืนมอง ขาหมูอวบๆ สีน้ำตาลเข้มแช่อยู่ในน้ำพะโล้ที่ร้านพรเพ็ญ(ขาหมูเสวย เจ้าเก่า)มันนอนนิ่งๆ รอคนขายเอามีดมาปาดบางๆ โปะลงบนข้าวให้ลูกค้า ไอร้อนหน้าเตาพอจะช่วยให้เนื้อตัวผมเบาขึ้นจากความหนาวนอกร้านที่กัดกร่อนถึงกระดูก"ซื้อขาหมู 100 บาท ครับ" ผมบอกคนขายแกกำลังวุ่นวายอยู่กับงานขายตรงหน้า ลูกค้าเริ่มทยอยเข้ามาหนาตา แดดสายแหย่ตัวรอดตามช่องชายคา ผมคิดว่า เราน่าจะซื้อขาหมูขึ้นไปกินบนดอยหลวงเชียงดาว...
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ผมเจอ สาม พัน โบก โดยบังเอิญ คุณป้าจากสองคอน รีสอร์ท แกบอกว่าให้ขับรถไปสัก 3 กิโลเมตร เลี้ยวซ้าย สุดสวนมะขามของอาจารย์เรืองประทิน นั่นแหละอาจารย์เรืองประทิน ชายร่างใหญ่ ผิวสีน้ำตาลไหม้ ผมหยักศกสีดำสนิท ทำให้แกดูขรึมๆ แต่รอยยิ้มที่ออกมาจากดวงตาเล็กๆ คู่นั้น บอกว่า แกเป็นคนมีไมตรี“นาย 2 คน มาจากที่ไหนกัน” แกทักด้วยน้ำเสียงแบบพ่อพิมพ์ภูธร“กรุงเทพฯ ครับ” เพื่อนผมบอก ก่อนจะเล่าที่มาที่ไปและมาที่นี่ได้ยังไง“โอ้ว นั่น คุณเดินลงไปสำรวจสิ” แกชี้ไปที่กลุ่มโขดหินเว้าแหว่ง ข้างหน้า
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ทะเลแหวก ที่หาดนพรัตน์ธารา เสียงเครื่องเรือหางยาวออกจากฝั่ง พรายฟองทะเลสีขาวละเอียดแหวกออกเป็นสายตามความเร็วของเรือ ไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา ขอบฟ้ากับผืนน้ำจรดกันแทบเป็นเนื้อเดียวอาสาสมัครลงความเห็นว่า เราควรจะไปทะเลแหวกอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-อ่าวพระนาง หมู่เกาะพีพี หรือ "หาดคลองแห้ง" ตามคำเรียกเดิมของคนพื้นถิ่น ด้วยเหตุผลง่ายๆ ทางภูมิศาสตร์ช่วงน้ำลง น้ำคลองซึ่งไหลลงมาจากภูเขาทางด้านเหนือจะแห้งขอด ทรายขาวละเอียดปนเปลือกหอยยาวเหยียดจะโผล่เหนือผืนน้ำ ทอดยาวลงทะเล ก่อนจะบรรจบกับเกาะเขาปากคลอง เข้ากันได้ดีกับทิวสนริมฝั่ง กลายเป็นภูมิทัศน์ชายหาดแปลกตาสำหรับนักท่องเที่ยว ไกลออกไป…