Skip to main content

ทิศทางการเติบโตของธุรกิจการท่องเที่ยวที่สะเปะสะปะทำให้ชาวบ้านหลายคนทิ้งชีวิตเรือกสวนไร่นา หันมาเป็นผู้ประกอบการอย่างไร้ทิศทาง ไร้การจัดการ ไร้ความคิด ในสังคมมือใครยาวสาวได้สาวเอาที่ต้องการแต่ประโยชน์ส่วนตน

การทำงานในฐานะประธานชมรมฯ เป้าหมายสูงสุดของเรา คือ?

การทำงานเรื่องสิ่งแวดล้อมไร้จุดสิ้นสุด เราไม่อาจจะคาดหวังเป้าหมายได้ในระยะเวลาอันใกล้ ประเด็นของผม คือ การทำงานเรื่องสิ่งแวดล้อมต้องไม่คาดหวัง เราจะทำไปเรื่อยๆ


สิ่งที่เราต้องการ คือ เพื่อน เครือข่ายและคนที่มองไปในทิศทางเดียวกับเรา โดยหวังว่า พวกเขาจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน


เราเชื่อว่า การทำงานของเราจะทำให้คนเปลี่ยนพฤติกรรม

อย่างน้อย ลูกค้าของพี่เคน บอกว่า รู้สึกดีและจะกลับไปทำที่สงขลาบ้านเกิดของตัวเอง

อย่างน้อย ลูกค้าคนหนึ่ง บอกว่า เขาไม่โยนห่อขนมออกทางหน้าต่างรถอีกต่อไป
อย่างน้อย ลูกค้าคนหนึ่งเก็บเปลือกส้มใส่กระเป๋ากางเกงไว้แล้วค่อยเอาไปทิ้งถังขยะในภายหลัง

เขาเดินหน้าทำในสิ่งที่เขาคิด

แต่ไม่วาย พี่เคนกลับถูกมองจากสังคมว่าจะเล่นการเมืองหรือเปล่า

หรือมันบ้าหรือเปล่าวะ
!!!
บ้าก็บ้า เขาตอบตัวเองเช่นนั้น ...และในมุมกลับ เขาเชื่อว่า มีคนอีกหลายคนที่พร้อมจะบ้ากับเขา


เขาบอกลูกน้องของเขาว่า
ใครจะทำกับเราหรือไม่ เราจะไม่ต่อว่าเขา แต่เราต้องทำจะกี่ปีเราก็จะทำ เราจะไม่หยุด จนกว่าทุกคนจะหันมาทำกับเรา

JUST DO iT
พี่เคนหวังว่า สายน้ำทุกสายจะสะอาดด้วยหัวใจของคน


การทำงานของชมรมฯ ขยายไปยังกลุ่มเด็ก พี่เคนนำเด็กมาเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม ทั้งวาดรูปและการเขียนเรียงความ ให้ทุนการศึกษาสำหรับเด็กที่ทำหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ


แต่งแต้ม ผ้าสีขาว ด้วยจิตอาสา

เขาเชื่อว่า คนเราไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ย่ำแย่ ทุกคนล้วนใช้ประโยชน์จากสายน้ำและหากเราดูแลรักษา
ธรรมชาติจะรักเรา

สิ่งสุดท้ายกับสิ่งที่เลือก

ผมไม่คิดจะเล่นการเมือง ผมแค่อยากทำเพื่อคนอื่นเท่านั้น
แต่ต้องช่วยกัน ผมไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้เพียงตัวคนเดียว

บนรอยยิ้มของชายหนุ่ม คือ มิตรภาพของคำว่า เพื่อน


ลูกผู้ชาย-สายน้ำเข็ก
!!

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

บล็อกของ กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์

กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
อยู่ดาก้าเพียง 2 วัน มันถูกส่งขึ้นดอยแดนดงป่า อีกแล้ว (ตรงนี้เพื่อนผมอุทธรณ์ว่า เหมือนอยู่เมืองไทยไม่มีผิด กำ) “ต้องไปเมืองอะไรครับ” เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการถาม ‘จิตตะกอง’ “โห โหดน๊า” นั่นหมายถึงคำปลอบโยน
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
อีกครั้งที่ ‘เพื่อนผม' มันไปสังเกตุการณ์การเลือกตั้งในบังคลาเทศ (แล้วผมก็เอามาเขียน 555) (จริงๆ มันไปเมื่อนานมาแล้วสักครึ่งปีเห็นจะได้)
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ภาพสุดท้ายที่ผมมองเห็นก่อนออกจากเปียงหลวง คือ ทิวเขาลูกนั้นในสายหมอกโอบอ้อมกับรอยยิ้มอิ่มบุญของคนไต งานปอย-ส่างลองสิ้นสุด พร้อมกับคอนเสริ์ตทิ้งท้ายที่เล่นกันค่อนรุ่ง ความรื่นเริงของคนหนุ่มสาวและส่างลองที่พร้อมจะเข้าสู่โลกแห่งธรรม
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ผมคิดว่าโครงใบหน้าของคนไตดูสวยดี โดยเฉพาะ ,ผู้หญิง ถึงแม้ว่า วันนี้ พวกเธอหลายคนจะต้องออกไปหางานทำนอกหมู่บ้าน , สิ่งที่มากกว่านั้น คือ ความรักและแรงศรัทธาในการร่วมงานบุญ ,และรอยยิ้มของพวกเธอ
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ศูนย์พักรอกุงจ่อ คือ พื้นที่ของผู้หนีภัยการสู้รบจากการปราบปรามอย่างรุนแรงของรัฐบาลทหารพม่า นับจากปี 2545 ชาวไต(ไทใหญ่)ร่วมหนึ่งพันคน เดินเท้าเข้าประเทศไทยทางด่านหลักแต่ง...!!!
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
พ่อส้านและส่างลอง เป็นภาพที่คู่กัน ส่างลองอยู่ที่ไหน พ่อส้านจะอยู่ที่นั่น แต่ละคน แต่ละคู่ ต่างมีลีลาที่แตกต่างกันออกไป ... เชื่อกันว่า ได้บุญใหญ่ ส่างลองในวันนี้จะเป็นพ่อส้านที่ดีในวันหน้า ทั้งนี้ ตามความสมัครใจ เช้า ขี่คอแห่ส่างลองไปตามวัด บ่ายแก่ได้พัก กลางคืนนอนเฝ้าส่างลองหลังซุ้ม ครบ 5 วัน เชื่อกันว่า ได้ขึ้นสวรรค์ !!! ดูลีลาของพวกเขาสิครับ .....
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
บริเวณสนามฟุตบอล โรงเรียนบ้านเปียงหลวงเต็มไปด้วนสีสัน สีสันงานบุญซุ้มส่างลองทั้ง 107 ซุ้มกระจายอยู่โดยรอบสนามฟุตบอล เวทีดนตรีใหญ่หันหน้าประชันกับเวทีลิเกไทใหญ่หรือ "จ๊าดไต" เวทีใหญ่เล่นดนตรีทันสมัย โครงสร้างเวทีทำด้วยแกนเหล็กประกบเสาสูงราวเมตรครึ่ง ,ส่วนเวทีจ๊าดไตทำจากโครงไม้ไผ่ทั้งหลัง ปูพื้นด้วยแผ่นไม้กระดาน ฝาด้านหลังทำด้วยใบตองตึงสีน้ำตาลแห้งเก่าทะลุมองเห็นด้านใน ,วงดนตรีเครื่องสายดีดสีตีเป่าครบ ,นางรำแต่งหน้าทาปาก พันคอด้วยผ้าแถบมันเลื่อม ด้านตรงข้ามแดนเซอร์ชาวดอยวิ่งกระจายออกมาหน้าเวทีใหญ่
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
มีดโกนด้ามใหม่ สีดำสนิท บรรจงกรีดลงไปตามไรผมแต่ละเส้น ส่างลองทุกคนรู้ดีว่า พิธีกรรมต่อจากนี้ไปพวกเขาจะต้องใช้ความอดทนมากแค่ไหนกว่าผมจะหมดศีรษะ บางคนใบหน้าเหยเก บางคนถึงกับร้องไห้ จนพระพี่เลี้ยงและพ่อแม่ต้องหยุดใบมีดเอาไว้ก่อนแล้วตักน้ำส้มป่อยราดหัว ฟอกด้วยยาสระผมแล้วเริ่มโกน โกนจนหมดศีรษะ !!!
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
รถตู้กลางเก่ากลางใหม่ของบริษัทดาวทองขนส่ง จำกัด ออกจากสถานีช้างเผือก 10.30 น. หนุ่มใหญ่วัย 40 เศษ ไว้เคราบางๆและสวมแว่นตาดำตลอดเวลาซิ่งเจ้าเพื่อนยากปุเลงไปตามสันเขาน้อยใหญ่บนเส้นทางเชียงใหม่-เปียงหลวง 161 กิโลเมตร แดดฤดูร้อนจัดจ้านขับให้ดอกหางนกยูงสีแดงข้างทางสดเข้ม ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ผ่านอำเภอเชียงดาวถึงแยกเมืองงาย เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสายแม่จา-เปียงหลวง ก่อนที่เส้นทางจะไต่ไปตามสันเขาคดเคี้ยว หนุ่มนักซิ่งของเราจะเตือนผู้โดยสารผ่านน้ำเสียงหนักแน่นว่า
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
... ผู้เฒ่าหญิงชายทั้งในชุดห่มขาวและชุดลำลองทั่วไป ต่อแถว รอพระลงจากกุฏิรับบิณฑบาตร สายหมอกฤดูร้อนห่มคลุมจางๆ ทำให้บรรยากาศรอบๆ ดูเลือนลางกึ่งจริงกึ่งฝัน งานฉลองพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ตื้อฯ ที่บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม มีศาสนิกชนผู้ศรัทธาเนืองแน่นเดินทางมาจากทุกสารทิศงานครั้งนี้เป็นบุญใหญ่ที่มีการเฉลิมฉลองถึง 15 วัน (1-15 พ.ค. 52) ภายในงานเปิดโรงทานโดยผู้มีจิตศรัทธาจะทำอาหารมาเลี้ยงผู้ร่วมงานบุญโดยไม่คิดสตางค์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์