Skip to main content

อุทยานแห่งชาติ ไม่ได้หมายถึง แหล่งนันทนาการเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจเท่านั้น
การท่องเที่ยวอุทยาน คือ การสัมผัสถึงการมีอยู่ของแต่ละชีวิตในธรรมชาติ เผ่าพันธ์ร่วมโลก เพื่อทำความรู้จัก เข้าถึงและอยู่ร่วมกันโดยเบียดเบียนกันให้น้อยที่สุด

ภูกระดึง จึงกลายเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ไม่ต้องการยานพาหนะและกระเช้าไฟฟ้า แม้ว่าจะพอมีร้านเช่า Mountain bike สนองอารมณ์นักแคมป์ปิงในอัตราวันละ 350 บาท ก็ตาม
เพราะฉะนั้น สำหรับภูกระดึง การเดินด้วยเท้าจึงเป็นเรื่องง่ายและดีที่สุด

...

ยามเช้า อากาศสดใส แดดหน้าหนาวตกกระทบลงบนกิ่งสน เกิดเป็นแฉกฉูดฉาด อาบไล้ ปลุกเร้าให้นักแคมป์ปิงออกมาค้นหาเรื่องราวตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ กวางตัวใหญ่ สีน้ำตาลเทา เฉิดฉายไปมาท่ามกลางกลุ่มคนที่ไปหาข้าวลงท้อง หลายคนหยุดยืนดู เก้ๆ กังๆ ให้อาหารมันอย่างไม่คุ้นเคย ผิดกับมันที่ดูคุ้นเคยกะเราอย่างไม่แปลกหูแปลกตา

คน ค่น ค้น ค๊น ค๋น

...

ภูกระดึง มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ หากใครต้องการดูพระอาทิตย์ขึ้น ต้องรีบตื่นตั้งแต่ตี5 เพื่อเดินเท้าไปถึงผานกแอ่นกับเจ้าหน้าที่ หากใครต้องการดูพระอาทิตย์ตก ต้องเดินเท้าตามเส้นทางเรียบผาไปยังผาหล่มสักแต่ขากลับต้องเดินฝ่าความมืดกลับศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวางเป็นระยะทาง 14 กิโลเมตร

เส้นทางเลียบผา เดินเท้าจากผาหมากดูกเลาะเรื่อยไปจนถึงผาหล่มสัก จะมองเป็นตัวอำเภอโพธิ์ศรีฐาน สลับกับขุนเขาเขียวกลางสายหมอกสีเทา มองเห็นเป็นสีเขียวเทา ทัศนียภาพของโลกในมุม 180 องศา

เส้นทางน้ำตกและใบแดงฉานของใบเมเปิล น้ำตกถ้ำใหญ่ ลึกล้ำ เสียแต่หน้าหนาวน้ำน้อยไปสักนิด..เดินพอเหงื่อชุ่มและพักกินข้าวกลางวันให้พอหมาดเหงื่อแล้วลุยต่อไป

เส้นทางป่าดิบ ที่ถูกกันเอาไว้ให้เป็นที่อยู่ของต้นไม้และสัตว์ป่า หากคิดจะเดินต้องติดต่อพิเศษเพื่อการศึกษาและเผยแพร่กับทางอุทยาน ..

ลานหินพระแก้ว ลานหินพระพุทธเมตตาและกระดิ่ง สัญลักษณ์อีกอย่างที่สำคัญของภูกระดึง เล่าย้อนกันไปว่า ทุกค่ำคืนของวันพระและวันอากาศแจ่มใส คนบ้านศรีฐานจะได้ยินเสียงกระดิ่งดังลงมาจากภู นักท่องเที่ยวหลายคนเห็นชอบร่วมกันว่า น่าจะเอากระดิ่งไปแขวนไว้ให้พลิ้วไหว แกว่งไกวเสียงดังกรุ๋งกริ๋งกลางสายลมหนาว คราวนี้จะได้เห็นกันจะจะว่าเสียงมาจากที่ไหน

สระอโนดาด น้ำสีเขียวใสไหลออกมาจากหิน กลางแอ่งลึก ท่ามกลางทุ่งหญ้าสลับป่าสนแน่นขนัด ใสเสียจนให้คนได้ลงวักน้ำนั่งจ้องมองตัวภายในตน

...

ทั้งหมด ได้มาด้วยหงาดเหงื่อและสองเท้าที่ก้าวเดิน ครับ

20080117 องค์รูปพระแก้ว
องค์รูปพระแก้ว ใต้ท้องฟ้าสีคราม ยามเช้า หลังจากกลับจากดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น

20080117 พืชชนิดนี้จะเห็นได้ทั่วไปบนผืนทราย
พืชชนิดนี้จะเห็นได้ทั่วไปบนผืนทราย บนยอดภูกระดึง มีมากจริงๆ ครับ

20080117 วัฒนธรรมอย่างหนึ่งของนักท่องเที่ยว
วัฒนธรรมอย่างหนึ่งของนักท่องเที่ยว จะนำไม้ซี่เล็กๆ ไปวางคล้ายกับพยุงไม่ให้หินใหญ่มันร่วงลงมา

20080117 ดอกสีม่วงลออตา
ดอกสีม่วงลออตา ออกจากกลีบหนาๆ สีน้ำตาล

20080117 สายน้ำตกถ้ำใหญ่
สายน้ำตกถ้ำใหญ่ น้อยในฤดูหนาว

20080117 เธอ พยายามเก็บภาพใบเมเปิล
เธอ พยายามเก็บภาพใบเมเปิลแดงที่น้ำตกเพ็ญพบ

20080117 บริเวณสระอโนดาด
บริเวณสระอโนดาด น้องนักเรียนคนนี้เดินทางมาจากภาคใต้ มากับกลุ่มเพื่อนๆ และคุณครู

20080117 บริเวณผาหล่มสัก
บริเวณผาหล่มสัก เหล่านักท่องเที่ยวรอดูพระอาทิตย์ตก

20080117 ระหว่างทางเดินกลับจากผาหล่มสัก
ระหว่างทางเดินกลับจากผาหล่มสัก ร้านรวงริมผาจะเปิดไฟรอนักท่องเที่ยวอย่างนี้

บล็อกของ กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์

กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ใบไม้ปลิดออกจากขั้ว กลายเป็นสีขาวกลางผืนป่าสีเขียว
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
   ฮ่อมดง มองเห็นเป็นพุ่มๆ ริมทาง
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ดงน้อยเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมักจะหยุดค้างแรม มีห้องน้ำที่ทำด้วยไม้ไผ่สานใบตองตึงต่ออย่างหยาบๆ ในห้องขุดลึกเป็นโพรงราวๆ 3 เมตร ปากหลุมเป็น 4 เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 1x1 เมตร มีไม้พาดระหว่างปากหลุมให้นักท่องเที่ยวเข้าไปนั่งทำธุระทั้งหนักและเบานักเดินป่าสัก 10 คน มาถึงดงน้อยในเย็นวันนั้น อากาศขมุกขมัวทำให้เวลากลางวันสั้นกว่าเวลากลางคืน มืดสนิทภายใต้อ้อมกอดของขุนเขาและราวป่า ลูกหาบของคณะเดินป่าชุดนั้นเริ่มอุธทรณ์ เมื่อพวกเขาคิดว่า จะเดินไปอ่างสลุงในคืนนั้น เพื่อให้ทันดูทะเลหมอก“หากพวกคุณจะไป พวกคุณไปได้เลย ลูกหาบ(4 คน)จะพักที่นี่แล้วตามไปพรุ่งนี้”“อ่าว แล้วเราจะเอาอะไรกินคืนนี้” หนึ่งในนั้นเริ่ม…
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ผมยืนมอง ขาหมูอวบๆ สีน้ำตาลเข้มแช่อยู่ในน้ำพะโล้ที่ร้านพรเพ็ญ(ขาหมูเสวย เจ้าเก่า)มันนอนนิ่งๆ รอคนขายเอามีดมาปาดบางๆ โปะลงบนข้าวให้ลูกค้า ไอร้อนหน้าเตาพอจะช่วยให้เนื้อตัวผมเบาขึ้นจากความหนาวนอกร้านที่กัดกร่อนถึงกระดูก"ซื้อขาหมู 100 บาท ครับ" ผมบอกคนขายแกกำลังวุ่นวายอยู่กับงานขายตรงหน้า ลูกค้าเริ่มทยอยเข้ามาหนาตา แดดสายแหย่ตัวรอดตามช่องชายคา ผมคิดว่า เราน่าจะซื้อขาหมูขึ้นไปกินบนดอยหลวงเชียงดาว...
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ผมเจอ สาม พัน โบก โดยบังเอิญ คุณป้าจากสองคอน รีสอร์ท แกบอกว่าให้ขับรถไปสัก 3 กิโลเมตร เลี้ยวซ้าย สุดสวนมะขามของอาจารย์เรืองประทิน นั่นแหละอาจารย์เรืองประทิน ชายร่างใหญ่ ผิวสีน้ำตาลไหม้ ผมหยักศกสีดำสนิท ทำให้แกดูขรึมๆ แต่รอยยิ้มที่ออกมาจากดวงตาเล็กๆ คู่นั้น บอกว่า แกเป็นคนมีไมตรี“นาย 2 คน มาจากที่ไหนกัน” แกทักด้วยน้ำเสียงแบบพ่อพิมพ์ภูธร“กรุงเทพฯ ครับ” เพื่อนผมบอก ก่อนจะเล่าที่มาที่ไปและมาที่นี่ได้ยังไง“โอ้ว นั่น คุณเดินลงไปสำรวจสิ” แกชี้ไปที่กลุ่มโขดหินเว้าแหว่ง ข้างหน้า
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ทะเลแหวก ที่หาดนพรัตน์ธารา เสียงเครื่องเรือหางยาวออกจากฝั่ง พรายฟองทะเลสีขาวละเอียดแหวกออกเป็นสายตามความเร็วของเรือ ไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา ขอบฟ้ากับผืนน้ำจรดกันแทบเป็นเนื้อเดียวอาสาสมัครลงความเห็นว่า เราควรจะไปทะเลแหวกอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-อ่าวพระนาง หมู่เกาะพีพี หรือ "หาดคลองแห้ง" ตามคำเรียกเดิมของคนพื้นถิ่น ด้วยเหตุผลง่ายๆ ทางภูมิศาสตร์ช่วงน้ำลง น้ำคลองซึ่งไหลลงมาจากภูเขาทางด้านเหนือจะแห้งขอด ทรายขาวละเอียดปนเปลือกหอยยาวเหยียดจะโผล่เหนือผืนน้ำ ทอดยาวลงทะเล ก่อนจะบรรจบกับเกาะเขาปากคลอง เข้ากันได้ดีกับทิวสนริมฝั่ง กลายเป็นภูมิทัศน์ชายหาดแปลกตาสำหรับนักท่องเที่ยว ไกลออกไป…