Skip to main content

ใครเคย เล่น (อี) มอญซ่อนผ้าบ้าง ..? หากเจอคำถามนี้แล้วคุณยกมือ แสดงว่า อายุของคุณไม่ควรจะต่ำกว่า 35 UP … ha H a a a a

,ย้อนความจำกันนิด การละเล่นชนิดนี้ใช้ผู้เล่นกี่คนก็ได้แล้วแต่ถนัดและจำนวนของกลุ่มเพื่อน เลือกผู้เล่นขึ้นมาเพื่อเป็นตัววิ่ง 1 คน (อันนี้จะด้วยวิธีการใดใดก็ได้ รุ่นผมใช้โอน้อยออก) ตัววิ่งจะกุมผ้าเช็ดหน้าเอาไว้ในมือให้มิดชิด ก่อนจะเดินรอบวง เมื่อเดินพอหอบ ตัววิ่งจะอาศัยช่วงจังหวะเวลาและโอกาสเข้าทำ ด้วยการแอบทิ้งผ้าไว้ข้างหลังผู้เล่นคนใดคนหนึ่ง ซึ่งระหว่างที่ตัววิ่งเดินรอบวง ผู้เล่นภายในวงจะร้องเป็นทำนองว่า  “(อี) มอญซ่อนผ้า ตุ๊กตาอยู่ข้างหลัง ใครนั่งไม่ระวัง ฉันจะตีก้นเธอ”

เมื่อตัววิ่งทิ้งผ้าไว้ข้างหลังผู้เล่นคนใดคนหนึ่งแล้ว ตัววิ่งจะรีบวิ่งเพื่อมาครบรอบที่ผู้เล่น หากผู้เล่นผู้นั้นไม่รู้ตัว ผู้เล่นก็จะถูกตีก้น แต่ถ้าหาก ผู้เล่นรู้ตัวก็จะรีบเก็บผ้าลุกขึ้นมาไล่ตัววิ่ง หากวิ่งไล่ทันตีก้นตัววิ่งได้ ตัววิ่งก็จะต้องเป็นตัววิ่งต่อไปแต่หากไล่ไม่ทัน ตัววิ่งก็จะเข้าไปนั่ง ผู้เล่นก็จะต้องเป็นตัววิ่งแทน ..โป๊เช๊ะ เป็นอันจบเกม

,เอ่อ ไม่ต้องงง นะครับ ..เข้าใจว่าคงคิดภาพกันออก ..ha H a a a a

...

นักมอญศึกษาพูดถึงการละเล่นชนิดเอาไว้ว่า ไม่มีประวัติอย่างใดอย่างหนึ่งที่ระบุได้อย่างชัดแจ้งว่าเกิดขึ้นอย่างไรกันแน่ แต่จากเอกสารหลักฐานและการสอบทานจากผู้เฒ่าผู้แก่ พอจะแน่ชัดได้ว่า มอญซ่อนผ้า ไม่ใช่การละเล่นของคนมอญ หากต้นตำรับ คาดว่าน่าจะมาจากคนไทยมากกว่า ,ทำไมมอญต้องซ่อนผ้าและไหงจู่จู่ตุ๊กตาจึงไปอยู่ข้างหลังได้ อันนี้ยังคงเป็นเงื่อนงำ แต่สิ่งที่แน่ใจได้ คือ ความชิดเชื้อทางวัฒนธรรมระหว่างคนไทยและคนมอญที่ผสมผสานกันจนผนึกแนบแน่นเป็นเนื้อเดียวกันอย่างไม่เหลือทิ้งร่องรอย

...

กล่าวกันว่ามีคนไทยเชื้อสายมอญในประเทศไทยนับล้านคน ตั้งถิ่นฐานเป็นชุมชนและสร้างวัดเป็นจำนวนมาก จากเกาะรัตนโกสินทร์ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เกาะเกร็ด พระประแดง อยุธยา นครปฐม ราชบุรี ลพบุรี นครสวรรค์ ลำพูน ชุมพร อุทัยธานีและอีกหลายวัด โดยเฉพาะวัดชนะสงคราม(ตรอกข้าวสาร)ที่มีความสำคัญไม่แพ้วัดไทยวัดอื่นๆ

,งานวันรำลึกชนชาติมอญ ครั้งที่ 61 (2-3 กุมภาพันธ์ 51 วัดบ้านไร่เจริญผล จ.สมุทรสาคร) จึงมีความหมายอย่างสำคัญในการหลอมรวมดวงใจให้พี่น้องชาวมอญจากทั่วประเทศเดินทางมาร่วมงานเพื่อเจอกับการตั้งด่านสกัด ตรวจบัตร และจัดตั้งกองกำลังผสมตำรวจชาวบ้าน ตำรวจนอกเครื่องแบบ ตำรวจในเครื่องแบบและอาวุธครบมือ ด้วยเหตุผลของการรักษาความปลอดภัย โดยคำสั่งเพื่อป้องกันและรักษาความมั่นคงของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร

,ป้องกันเอาไว้ก่อนว่างั้นเถอะ !!

..

“...บ้าจี้” ลุงมอญจากอยุธยาเอ่ย
“มันจะความมั่นคงอะไรกันนักหนา เราไม่ได้มาทำอะไร” น้ำเสียงแกขุ่นมัวเจือไปด้วยความหงุดหงิดและไม่เข้าใจ
“อยู่กันมาหลายรุ่นแล้ว คนไทยเต็มร้อย อยากดูบัตรประชาชนม๊ะ” แกเริ่มจะขุ่นมัวเอากับผม ก่อนควักบัตรประชาชนยื่นให้ดู
“อยู่เมืองไทยดีแล้ว จะไปคิดอะไร นอกจากทำมาหากิน” (ผู้ว่า)บ้าจี้ แกกระซิบ

...

“อะไรนะ อ๋อ เด็กๆ รุ่นใหม่ พูดไม่ค่อยได้ พูดไทยดีกว่า ทำมาหากินสะดวก” แกตอบคำถามผม
“พูดไปก็ใช้อะไรไม่ได้ จริงม๊ะ ไอ้หนุ่ม”
ผมพยักหน้า

...

 

20080214 สภาพบรรยากาศโดยรวมของงานภาคกลางคืน
สภาพบรรยากาศโดยรวมของงานภาคกลางคืน ภายในวัดบ้านไร่เจริญผล สถานที่จัดงานวันรำลึกชนชาติมอญ

20080214 นางรำหน้าเวที
นางรำหน้าเวที งานนี้มีฟ้อน !!!

20080214 โฉมหน้าและลีลานางรำภาคกลางคืน (1)

20080214 โฉมหน้าและลีลานางรำภาคกลางคืน (2)
โฉมหน้าและลีลานางรำภาคกลางคืน

20080214 ภายในขบวนแห่ เต็มไปด้วยสีสันและการเกล้าผม (1)

20080214 ภายในขบวนแห่ เต็มไปด้วยสีสันและการเกล้าผม (2)
ภายในขบวนแห่ เต็มไปด้วยสีสันและการเกล้าผม เป็นสัญลักษณ์ของคนมอญ

20080214 ดูลีลานางรำรุ่นใหญ่กันซะบ้าง (1)

20080214 ดูลีลานางรำรุ่นใหญ่กันซะบ้าง (2)
ดูลีลานางรำรุ่นใหญ่กันซะบ้าง

20080214 กลุ่มเด็กๆ ชายหญิงชาวมอญ (1)

20080214 กลุ่มเด็กๆ ชายหญิงชาวมอญ (2)
กลุ่มเด็กๆ ชายหญิงชาวมอญ หยอกล้อเล่นทอยสะบ้า

บล็อกของ กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์

กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
อยู่ดาก้าเพียง 2 วัน มันถูกส่งขึ้นดอยแดนดงป่า อีกแล้ว (ตรงนี้เพื่อนผมอุทธรณ์ว่า เหมือนอยู่เมืองไทยไม่มีผิด กำ) “ต้องไปเมืองอะไรครับ” เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการถาม ‘จิตตะกอง’ “โห โหดน๊า” นั่นหมายถึงคำปลอบโยน
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
อีกครั้งที่ ‘เพื่อนผม' มันไปสังเกตุการณ์การเลือกตั้งในบังคลาเทศ (แล้วผมก็เอามาเขียน 555) (จริงๆ มันไปเมื่อนานมาแล้วสักครึ่งปีเห็นจะได้)
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ภาพสุดท้ายที่ผมมองเห็นก่อนออกจากเปียงหลวง คือ ทิวเขาลูกนั้นในสายหมอกโอบอ้อมกับรอยยิ้มอิ่มบุญของคนไต งานปอย-ส่างลองสิ้นสุด พร้อมกับคอนเสริ์ตทิ้งท้ายที่เล่นกันค่อนรุ่ง ความรื่นเริงของคนหนุ่มสาวและส่างลองที่พร้อมจะเข้าสู่โลกแห่งธรรม
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ผมคิดว่าโครงใบหน้าของคนไตดูสวยดี โดยเฉพาะ ,ผู้หญิง ถึงแม้ว่า วันนี้ พวกเธอหลายคนจะต้องออกไปหางานทำนอกหมู่บ้าน , สิ่งที่มากกว่านั้น คือ ความรักและแรงศรัทธาในการร่วมงานบุญ ,และรอยยิ้มของพวกเธอ
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ศูนย์พักรอกุงจ่อ คือ พื้นที่ของผู้หนีภัยการสู้รบจากการปราบปรามอย่างรุนแรงของรัฐบาลทหารพม่า นับจากปี 2545 ชาวไต(ไทใหญ่)ร่วมหนึ่งพันคน เดินเท้าเข้าประเทศไทยทางด่านหลักแต่ง...!!!
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
พ่อส้านและส่างลอง เป็นภาพที่คู่กัน ส่างลองอยู่ที่ไหน พ่อส้านจะอยู่ที่นั่น แต่ละคน แต่ละคู่ ต่างมีลีลาที่แตกต่างกันออกไป ... เชื่อกันว่า ได้บุญใหญ่ ส่างลองในวันนี้จะเป็นพ่อส้านที่ดีในวันหน้า ทั้งนี้ ตามความสมัครใจ เช้า ขี่คอแห่ส่างลองไปตามวัด บ่ายแก่ได้พัก กลางคืนนอนเฝ้าส่างลองหลังซุ้ม ครบ 5 วัน เชื่อกันว่า ได้ขึ้นสวรรค์ !!! ดูลีลาของพวกเขาสิครับ .....
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
บริเวณสนามฟุตบอล โรงเรียนบ้านเปียงหลวงเต็มไปด้วนสีสัน สีสันงานบุญซุ้มส่างลองทั้ง 107 ซุ้มกระจายอยู่โดยรอบสนามฟุตบอล เวทีดนตรีใหญ่หันหน้าประชันกับเวทีลิเกไทใหญ่หรือ "จ๊าดไต" เวทีใหญ่เล่นดนตรีทันสมัย โครงสร้างเวทีทำด้วยแกนเหล็กประกบเสาสูงราวเมตรครึ่ง ,ส่วนเวทีจ๊าดไตทำจากโครงไม้ไผ่ทั้งหลัง ปูพื้นด้วยแผ่นไม้กระดาน ฝาด้านหลังทำด้วยใบตองตึงสีน้ำตาลแห้งเก่าทะลุมองเห็นด้านใน ,วงดนตรีเครื่องสายดีดสีตีเป่าครบ ,นางรำแต่งหน้าทาปาก พันคอด้วยผ้าแถบมันเลื่อม ด้านตรงข้ามแดนเซอร์ชาวดอยวิ่งกระจายออกมาหน้าเวทีใหญ่
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
มีดโกนด้ามใหม่ สีดำสนิท บรรจงกรีดลงไปตามไรผมแต่ละเส้น ส่างลองทุกคนรู้ดีว่า พิธีกรรมต่อจากนี้ไปพวกเขาจะต้องใช้ความอดทนมากแค่ไหนกว่าผมจะหมดศีรษะ บางคนใบหน้าเหยเก บางคนถึงกับร้องไห้ จนพระพี่เลี้ยงและพ่อแม่ต้องหยุดใบมีดเอาไว้ก่อนแล้วตักน้ำส้มป่อยราดหัว ฟอกด้วยยาสระผมแล้วเริ่มโกน โกนจนหมดศีรษะ !!!
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
รถตู้กลางเก่ากลางใหม่ของบริษัทดาวทองขนส่ง จำกัด ออกจากสถานีช้างเผือก 10.30 น. หนุ่มใหญ่วัย 40 เศษ ไว้เคราบางๆและสวมแว่นตาดำตลอดเวลาซิ่งเจ้าเพื่อนยากปุเลงไปตามสันเขาน้อยใหญ่บนเส้นทางเชียงใหม่-เปียงหลวง 161 กิโลเมตร แดดฤดูร้อนจัดจ้านขับให้ดอกหางนกยูงสีแดงข้างทางสดเข้ม ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ผ่านอำเภอเชียงดาวถึงแยกเมืองงาย เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสายแม่จา-เปียงหลวง ก่อนที่เส้นทางจะไต่ไปตามสันเขาคดเคี้ยว หนุ่มนักซิ่งของเราจะเตือนผู้โดยสารผ่านน้ำเสียงหนักแน่นว่า
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
... ผู้เฒ่าหญิงชายทั้งในชุดห่มขาวและชุดลำลองทั่วไป ต่อแถว รอพระลงจากกุฏิรับบิณฑบาตร สายหมอกฤดูร้อนห่มคลุมจางๆ ทำให้บรรยากาศรอบๆ ดูเลือนลางกึ่งจริงกึ่งฝัน งานฉลองพิพิธภัณฑ์หลวงปู่ตื้อฯ ที่บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม มีศาสนิกชนผู้ศรัทธาเนืองแน่นเดินทางมาจากทุกสารทิศงานครั้งนี้เป็นบุญใหญ่ที่มีการเฉลิมฉลองถึง 15 วัน (1-15 พ.ค. 52) ภายในงานเปิดโรงทานโดยผู้มีจิตศรัทธาจะทำอาหารมาเลี้ยงผู้ร่วมงานบุญโดยไม่คิดสตางค์
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์