Skip to main content

จะจุดเทียน เขียนรุ้ง กลางกรุงร้าง         

          อยากจุดเทียน เขียนรุ้ง กลางกรุงร้าง

อยากเสกสรรค์ วันอ้างว้าง ทางสับสน

อยากเผื่อแผ่ แง่งามใส่ หัวใจคน

อยากรองรับ รักร่วงหล่น บนริมทาง

           ฟัง เพลงหยาบ ฉาบสีแสง ใจแล้งฝัน

คน ขวักไขว่ ใต้ฝุ่นควัน อันกว้างขวาง

ร้อน เหยียดแย่ง แข่งทรัพย์สิน สิ้นหนทาง

ใจ จริงซ่อน ความอ้างว้าง ไว้ภายใน

           ไม่ได้มี อะไรดี กว่าคนอื่น

ไม่ได้ตื่น ก่อนผองชน หนทางใส

เป็นเพียงคน เดินทาง พลางพบไป

มีเพียงใจ เคยขื่นขม ล้มลุกมา

            จะต่อเติม คนว่างเปล่า ด้วยชีวิต

จะผ่อนผัน คนยึดติด ริษยา

จะหยอกเย้า คนเศร้า ด้วยศรัทธา

จะฝ่าฝน คนเหว่ว้า เพื่อฟ้าพราว

            จะจุดเทียน เขียนรุ้ง กลางกรุงใหญ่

จะบอกใบ้ ให้คนฝัน พลันกล้าก้าว

จะพร่างพรม เสียงหัวเราะ เคาะเดือนดาว

จะรับรู้ เรียนเรื่องราว และไล่เรียง

           จะเก็บดาว ที่ร่วงหล่น ให้คนหวั่น

จะถักทอ ล้อคืนวัน ให้ถกเถียง

จะเสริมสร้าง ใจจืดจาง อย่างข้างเคียง

จะหลั่งน้ำตา ให้หล่อเลี้ยง หัวใจกัน

            จะพาหวัง ครั้งเก่า เข้าเติมต่อ

จะจุดไฟ ให้คนท้อ รอความฝัน

จะผูกเปล ให้คนเหงา เคล้าแสงจันทร์

จะขับกล่อม เพลงแห่งวัน แด่ผองชน

            จะจุดเทียน เขียนรุ้ง กลางกรุงร้าง

จะเปลี่ยนผัน วันอ้างว้าง ทางหมองหม่น

จะตกแต่ง แบ่งยิ้มใส่ หัวใจคน

จะคืนรัก ที่เคยหล่น บนทางธาร

            จะจุดเทียน เขียนรุ้ง กลางกรุงใหญ่

จะฝากฝัน ปันไฟ ให้กล้าหาญ

จะไกวเปล แม้ไร้จันทร์ ดั่งวันวาน

จะเล่นล้อ รอขับขาน เมื่อผ่านเลย .....

 

 

 

 

ขอบคุณคุณโสมคานสำหรับวรรคทองวรรคแรก

หากฝันถึงถิ่นแคมป์ กองไฟ แสงจันทร์ไม่ได้ เราก็จะต้องจุดเทียนเขียนรุ้งอยู่กลางกรุงได้เหมือนกัน เพราะยังมีอะไรให้ต้องทำอีกมากมาย

 

บล็อกของ นายกรุ้มกริ่ม

นายกรุ้มกริ่ม
มาเยือนจังหวัดอุดรธานีครั้งแรกในชีวิต เป็นอีกครั้งที่หลับบนรถทัวร์มาตลอดคืนอันแสนจะธรรมดา ยิ่งเดินทางแบบนี้บ่อยขึ้น ก็ยิ่งเคยชิน ถึงแอร์จะหนาว อาหารจะห่วย ก็ไม่สะทกสะท้านใดๆ ทั้งสิ้น ลงรถทัวร์ได้ไม่นาน เพื่อที่เป็นอาจารย์อยู่ที่นี่ก็มารับที่บขส. ยังไม่ทันรู้จักตัวเมืองให้ถ้วนทั่ว ประสบการณ์ใหม่ๆ ก็มายืนรออยู่ข้างหน้าอีกแล้ว
นายกรุ้มกริ่ม
           
นายกรุ้มกริ่ม
                ใต้ฟ้าผืนนี้ ... คงมี ผู้คน หลากหลาย เรื่องราว แฝงเร้น มากมาย เกิดแก่ เจ็บตาย ไขว่คว้า หากัน
นายกรุ้มกริ่ม
  อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็นเมืองท่ามกลางหุบเขา มีเสน่ห์เล็กๆ ในแบบของตัวเอง แม่สอดไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว แต่มีคนแวะเวียนมาเยอะเพราะแม่สอดเป็นประตูผ่านแดนไปยังเมืองเมียววดีของพม่า
นายกรุ้มกริ่ม
เมื่อ "ผม" อ้าปากเรียกหา "สิทธิเสรีภาพ"
นายกรุ้มกริ่ม
      ยามเช้าใกล้รุ่งของตัวอำเภอแม่สะเรียงมีเพียงความเงียบสงัด ไร้วี่แววของรถราและผู้คน ไฟถนนสีส้มส่องผ่านม่านหมอกที่ลงหนาจัดคอยช่วยให้จิตใจของผู้มาเยือนอบอุ่นขึ้นได้บ้างบนทางสายเล็กๆ ที่ไม่รู้ว่าจะนำไปสู่สถานที่แบบใด   ผมลงจากรถทัวร์สาย กรุงเทพ - แม่ฮ่องสอนตอนตีห้าเศษ ด้วยอาการงัวเงีย งุนงง กับเป้ 1 ใบ เต้นท์ 1 หลัง เพื่อน 1 คน หลังนั่งสัปหงกตั้งแต่ออกจากหมอชิตมาตอนห้าโมงเย็น จุดหมายปลายทางที่จะไปให้ถึงคือ "งานวันเด็กไร้สัญชาติ ครั้งที่8" บนดอยไหนสักดอยในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ไม่รู้ว่าไกลแค่ไหน ไม่รู้ว่ามันคืองานอะไร และไม่รู้ว่าตัวเองจะไปทำอะไร  …
นายกรุ้มกริ่ม
               สิงหาคม 2550 นักศึกษามหาวิทยาลัย 12 ชีวิต ชาย6 หญิง6 กลั้นน้ำตายิ้มให้กับโรงเรียนประถมเล็กๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดตรัง ขณะที่กระโดดขึ้นท้ายรถกระบะแล่นจากไป                    ในระยะเวลา 9 วัน พวกเขาได้อุทิศทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเนรมิตห้องเก็บของเก่าๆ ให้เป็นห้องสมุดสำหรับเด็กที่มีตัวการ์ตูนสดใส และหนังสือใหม่แกะล่องจำนวนมาก ความประทับใจ รอยยิ้ม คราบน้ำตา วันที่เหน็ดเหนื่อย และเวลาแห่งความสนุกสนาน…
นายกรุ้มกริ่ม
              “The productive forces of material life conditions the social, political and intellectual life process in general. It is not the consciousness of men that determines their being, but, on the contrary, their social being that determines their consciousness” Karl Marx Preface to A Contribution to the Critique of Political Economy     ถ้าหากปรัชญาของคาร์ล มาร์กซ์ ยังพอมีส่วนถูกอยู่บ้าง คนที่มีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมอันประกอบด้วยวัตถุทางรูปธรรมแบบหนึ่งๆ จะไม่สามารถแยกแยะ(Determine) ความถูกผิดดีงามทางศีลธรรม (…