Skip to main content

ภาวะตลาดหุ้นและค่าเงินบาทของไทยดิ่งตัวลงอย่างฮวบฮาบเมื่อสัปดาห์ที่ ผ่านมาด้วยข่าวลือที่สื่อไทยไม่รายงานโดยตรงเลยแม้แต่สำนักเดียวว่าเป็นข่าว ลือเรื่องใด และแม้ตลาดหุ้นจะมีอาการกระเตื้องขึ้นอีกครั้งในวันสุดท้ายของสัปดาห์ แต่ภาวะความไม่มั่นใจของนักลงทุนนี้ถูกวิเคราะห์จากสื่อทั้งสองแห่งว่าเป็น ผลโดยตรงจากความผันผวนและไร้หลักยึดของการเมืองไทยที่เป็นอาการป่วยสั่งสม

แอนดรูว์ มาร์แชล จากรอยเตอร์ วิเคราะห์ผ่านบทวิเคราะห์เรื่อง ทำไมพระพลานามัยของพระมหากษัตริย์จึงส่งผลสะเทือนต่อตลาดหุ้น (อ้างอิงจาก http://www.reuters.com/article/latestCrisis/idUSSP406158 อัพเดทเวลา 6.39 น. วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม) ระบุว่า ถึงแม้ว่าความกลัวเกี่ยวกับสุขภาพของกษัตริย์จะผ่านพ้นไป นักลงทุนก็ยังเป็นห่วงอย่างมากว่าอะไรจะเกิดขึ้นข้างหน้า ทั้งนี้เพราะ การเมืองไทยได้มาถึงทางแยกและทางตัน โดยประเด็นที่สาธารณชนไม่สามารถพูดกันได้อย่างเปิดเผยก็คือการสืบสันตติวงศ์ แม้จะมีความวิตกกันในเรื่องนี้ ขณะเดียวกันการเมืองไทยก็ตกอยู่ในภาวะแตกแยกด้วยการเมืองที่แบ่งเป็นสองขั้ว อย่างชัดเจน คือกลุ่ม "เสื้อแดง" ที่สนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งพวกเขาโกรธแค้นที่รัฐบาลที่พวกเขาเลือกมาถูกโค่นล้มโดยทหาร หรือตุลาการ และโดย "เสื้อเหลือง" -- ซึ่งเป็นรอยัลลิสต์ ทหาร และคนในเมืองที่สนับสนุนนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

\\/--break--\>

“ไม่ เคยมีการสนทนากันในสาธารณะเกี่ยวกับภยันตรายต่างๆเพราะประเทศไทยมีกฏหมาย หมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่เคร่งครัดซึ่งห้ามไม่ให้มีการพูดถึงบทบาทของ กษัตริย์และปัญหาที่ อาจเกิดขึ้น การวิเคราะห์อย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับอนาคตของสถานการณ์การเมืองแทบจะไม่มี และนักลงทุนต่างชาติก็มีข้อมูลไม่มากเกี่ยวกับความเสี่ยงที่พวกเขากำลัง เผชิญ

“แต่ นักวิเคราะห์กล่าวเป็นการส่วนตัวว่าอาจจะมีช่วงที่วุ่นวาย อยู่นานหรือแม้แต่ความไม่สงบ และนั่นคือสาเหตุที่ตลาดอ่อนไหวต่อข่าวลือเกี่ยวกับการประชวร”

มัน เป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับสาธารณะที่จะพูดสิ่งที่ตนเองวิตกกังวลถึงสิ่งที่จะ เกิดขึ้นเมื่อรัชสมัยของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงมีพระชนมายุ 81 พรรษาสิ้นสุดลง แต่ปฏิกิริยาของตลาดหุ้นไทยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาส่งเสียงได้ดังกว่าถ้อยคำ

“มันแน่ชัดว่าถึงแม้ว่าความกลัวเกี่ยวกับสุขภาพของกษัตริย์จะผ่านพ้นไป นักลงทุนก็ยังเป็นห่วงอย่างมากว่าอะไรจะเกิดขึ้นข้างหน้า

“ไม่ เคยมีการสนทนากันในสาธารณะเกี่ยวกับภยันตรายต่างๆเพราะประเทศไทยมีกฏหมาย หมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่เคร่งครัดซึ่งห้ามไม่ให้มีการพูดถึงบทบาทของ กษัตริย์และปัญหาที่ อาจเกิดขึ้น การวิเคราะห์อย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับอนาคตของสถานการณ์การเมืองแทบจะไม่มี และนักลงทุนต่างชาติก็มีข้อมูลไม่มากเกี่ยวกับความเสี่ยงที่พวกเขากำลัง เผชิญ”

อาการพระประชวรส่งผลต่อการลงทุนในไทยเพราะนั่นหมายถึงความแกว่งอย่างรุนแรงต่อการเมืองไทยด้วย

บท วิเคราะห์จากรอยเตอร์ยังระบุด้วยว่า บทบาทของสถาบันกษัตริย์องค์ปัจจุบันได้รับความเคารพรักโดยทั่วไปจากคนไทยโดย ถือว่าทรงเป็นศูนย์รวมของความสามัคคีในประเทศที่กำลังมีความแตกแยก และแม้โดยรัฐธรรมนูญแล้วจะต้องทรงอยู่เหนือการเมืองแต่ตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ทรงครองราชย์ได้ทรงมีบทบาทในทางการเมืองหลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังในช่วง 3 ปีหลังการรัฐประหารเป็นต้นมา มีการเคลื่อนไหวที่ทำให้สาธารณชนเข้าใจไปว่าทรงสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทางการเมือง

แอ นดรูว์ มาร์แชลระบุวิเคราะห์ความวิตกกังวลต่อนักลงทุนนั้นมีมาก เพราะทรงเป็นเสมือนศูนย์กลสงท่ามกลางปมปัญหาทางการเมืองไทยที่เดินมาสู่จุด ที่เป็นเงื่อนตาย

“สิ่ง ที่ทำให้ประเด็นการสืบสันตติวงศ์เป็นเรื่องอันตรายมากตอนนี้ก็เพราะประเทศ ไทย ถูกผูกไว้กับความขัดแย้งทางการเมืองและสังคมมาหลายปีระหว่างผู้ที่สนับสนุน และผู้ที่ต่อต้านอดีตนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรผู้ซึ่งถูกโค่นล้มโดยรัฐประหารสามปีก่อนและปัจจุบันลี้ภัยอยู่ต่าง ประเทศ

“พ. ต.ท.ทักษิณได้เข้ามามีอำนาจเมื่อปี 2544 และสัญญาที่จะดำเนินนโยบายเพื่อคนยากจน และได้ชนะการเลือกตั้งสมัยที่สองโดยเสียงข้างมากที่มากกว่าเดิมในปี 2548 การสนับสนุนจากคนยากจนในชนบทที่มากมายต่อพ.ต.ท.ทักษิณหมายความว่าเขาได้รับ เสียงมากพอที่จะบริหารประเทศโดยไม่จำเป็นต้องทำการต่อรองให้ผลประโยชน์กับ ข้าราชการและทหารหลังฉากเหมือนที่ทำอยู่โดยทั่วไป

“อำนาจ ที่เพิ่มมากขึ้นของพ.ต.ท.ทักษิณและฐานเสียงที่ไม่มีใครสามารถเจาะได้ รวมถึงข้อกล่าวหาเรื่องคอร์รัปชั่น ได้เป็นเสียงเตือนภัยกับชนชั้นสูงที่เดิมเป็นผู้มีอำนาจในประเทศ และทหารก็ได้ก่อรัฐประหารขึ้น

“ประเทศ ไทยตอนนี้แตกแยกเป็นสองกลุ่มที่เป็นปรปักษ์ต่อกันอย่างรุนแรงนั่นคือ กลุ่ม "เสื้อแดง" ที่สนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งพวกเขาโกรธแค้นที่รัฐบาลที่พวกเขาเลือกมาถูกโค่นล้มโดยทหาร หรือตุลาการ และกลุ่ม "เสื้อเหลือง" -- ซึ่งเป็นรอยัลลิสต์ ทหาร และคนในเมืองที่สนับสนุนนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

“ความ ขัดแย้งได้ก่อให้เกิดความไม่สงบหลายครั้งซึ่งมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความ น่าลงทุนของของ ประเทศไทย เมื่อปีที่แล้วผู้ประท้วงต่อต้านพ.ต.ท.ทักษิณปิดสนามบินสองแห่ง และในเดือนเมษายนที่ผ่านมาผู้ประท้วง "เสื้อแดง" บุกเข้าไปในที่ประชุมอาเซียนที่พัทยาซึ่งทำให้ต้องมีการยกเลิก การประชุมไป

“ประเทศซึ่งเคยจัดว่าเป็นประเทศที่มีเสถียรภาพของภูมิภาคกำลังถูกมองว่าเป็นประเทศที่ไร้สมรรถภาพ ในปี 2545 ดัชนี World Governance ของธนาคารโลกจัดให้ความมีเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศไทยอยู่ที่ 59.1 จาก 100 และเมื่อปี 2551 การจัดอันดับดิ่งลงอยู่ที่ 12.9”

เสถียรภาพระยะยาวที่นักลงทุนต้องการเห็นจะอยู่ห่างออกไปไกลอีก

บทวิเคราะห์จากรอยเตอร์ย้ำถึงสถานะของสถาบันกษัตริย์ในท่ามกลางความขัดแย้งว่า ในช่วงเวลา 3 ปีหลังรัฐประหารเป็นต้นมา ความขัดแย้งในดึงเอาสถาบันกษัตริย์เข้ามาเกี่ยวข้อง ผ่านการตีความการเคลื่อนไหวในทางการเมืองของสถาบันและบุคคลที่เกี่ยวข้อง

“โดย ทฤษฎีแล้วสถาบันกษัตริย์ในประเทศไทยอยู่เหนือความแตกแยกทางการเมือง กษัตริย์ภูมิพลเป็นกษัตริย์ที่อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ ที่ไม่มีอำนาจทางการเมืองเป็นทางการ และก็ได้รับความเคารพรักโดยทั่วไปจากคนไทยที่ถือว่า เป็นศูนย์รวมของความสามัคคีในประเทศที่กำลังมีความแตกแยก

“แต่ กระนั้น ในช่วงระยะเวลา 6 ทศวรรษที่ครองราชย์ พระบารมีทางการเมืองของพระมหากษัตริย์ได้แผ่ขยายและทรงเข้าเกี่ยวข้องอย่าง เปิดเผย 3 ครั้งในช่วงเวลาที่มีความขัดแย้งระหว่างทหารและบุคคลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา วังถูกมองโดยคนไทยหลายคนว่าอยู่ฝ่ายที่ต่อต้านพ.ต.ท.ทักษิณ

“ประธาน องคมนตรี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ สนิทสนมกับผู้ที่วางแผนรัฐประหาร และถูกมองว่าเป็นพันธมิตรกับ "เสื้อเหลือง" ขณะที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์เสด็จเข้าร่วมงานศพของผู้ ประท้วงสตรี "เสื้อเหลือง"

“ดัง นั้น ทางวังได้ถูกดึงเข้ามาในความขัด แย้ง และต่อมาความขัดแย้งบางส่วนก็เข้ามาเกี่ยวข้องกับความเหมาะสมของบทบาทของ สถาบันกษัตริย์ ผู้สนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณต้องการให้การเลือกตั้งเป็นตัวกำหนด ซึ่งจะทำให้รัฐบาลที่พวกเขาเลือกมาสามารถบริหารได้โดยไม่มีชนชั้นสูงเข้ามา ก้าวก่าย

“ผู้ ที่สนับสนุนสถาบันฯ โต้แย้งว่าประชากรในชนบทไม่มีการศึกษาเพียงพอที่จะทำให้ประชาธิปไตยทำงานได้ ดังนั้นทหาร ข้าราชการ และชนชั้นสูงจึงต้องมีอำนาจควบคุมนโยบายโดยทั่วไป

“เป็น เพราะกษัตริย์ภูมิพลเป็นผู้ที่ได้รับความเคารพรักอย่างกว้างขวาง คนไทยมีความสบายใจต่อพระบารมีของพระองค์ และทุกฝ่ายในความขัดแย้งนี้ย้ำถึงความจงรักภักดีต่อบัลลังก์ แต่พระโอรสของกษัตริย์ภูมิพล **เซ็นเซอร์ **

“ผลลัพธ์ ก็คือการเคลื่อน ย้ายอย่างมหึมาของดุลอำนาจ  "เสื้อแดง" น่าจะแสดงความกล้ามากขึ้นที่จะปฏิเสธอิทธิพลทางการเมืองของสถาบันกษัตริย์ ซึ่งจะเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการปราบปรามโดยชนชั้นสูงที่กลัวว่าสถาบัน กษัตริย์จะสูญเสียอิทธิพล

“ความ ขัดแย้งที่ได้ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงไปแล้วจะขยายตัวขึ้นอีก และเสถียรภาพระยะยาวที่นักลงทุนต้องการเห็นจะอยู่ห่างออกไปไกลอีก”

ริชาร์ด ฟรอสต์ จากบลูมเบิร์ก วิเคราะห์เรื่องดังกล่าว ผ่านบทวิเคราะห์ “หุ้นตก ค่าเงินบาทร่วงรับการคาดการณ์เรื่องพระพลานามัยของกษัตริย์” ระบุ ว่าพระมหากษัตริย์ทรงครองราชย์มานานกว่า ๖ ทศวรรษ ทรงดำรงตำแหน่งประมุขของรัฐ ที่ผ่านการทำรัฐประหารที่สำเร็จและที่พยายามทำมาถึง ๑๕ ครั้ง ประกาศใช้รัฐธรรมนูญถึง ๑๖ ฉบับ และเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีมาถึง ๒๗ ครั้ง

ริ ชาร์ด ฟรอสต์อ้างการสัมภาษณ์นายโจนาธาน ชิสส์ ประธานภาคพื้นเอเซียแปซิฟิกของบริษัทแอชเบอร์ตันซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่เจอร์ ซี่ ดูแลเงินลงทุนมูลค่าประมาณ ๖๓,๐๐๐ ล้านบาท ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า “กษัตริย์ ทรงมีบทบาทสำคัญต่อสังคมไทยที่ทำให้อยู่ร่วมกันเป็นปึกแผ่น หากขาดพระองค์เสียแล้ว ย่อมสร้างความระส่ำระสายเพิ่มขึ้นท่ามกลางความสับสน”

ฟรอสต์ ระบุต่อไปว่า “พระบรมฉายาลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ภูมิพลซึ่งพระนามของพระองค์แปลว่า พลังของแผ่นดิน ถูกติดตั้งตามบ้าน และตามที่สาธารณะทั่วทั้งประเทศ ทรงเปรียบดังสมมุติเทพ และทรงทำการเปลี่ยนแปลงสถาบันกษัตริย์ที่ครั้งหนึ่งแค่เคยดำรงอยู่แค่ในนาม ให้กลับมามีบทบาทในทางการเมือง ท่ามกลางรัฐบาลที่มีกองทัพหนุนหลัง รัฐบาลแล้วรัฐบาลเล่า”

แม้ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อไทยจะไม่ได้กล่าวอย่างชัดแจ้งว่าถึงข่าวลือที่ ‘รู้กัน’ว่า หมายถึงอะไร แต่สิ่งนี้สำหรับสื่อนอกพรมแดนรัฐไทยอาจกล่าวได้สะดวกใจกว่าดังที่บท วิเคราะห์ของรอยเตอร์ระบุไว้แต่ต้นว่า “มันเป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับสาธารณะที่จะพูดสิ่งที่ตนเองวิตกกังวลถึงสิ่ง ที่จะเกิดขึ้นเมื่อรัชสมัยของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงมีพระชนมายุ 81 พรรษาสิ้นสุดลง แต่ปฏิกิริยาของตลาดหุ้นไทยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาส่งเสียงได้ดังกว่าถ้อยคำ”

 

อ่านบทวิเคราะห์ฉบับเต็มพากย์ไทย โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์ และ http://liberalthai.wordpress.com

Reuters: บทวิเคราะห์: ทำไมสุขภาพของกษัตริย์ไทยสามารถทำให้ตลาดตื่นตระหนก ANALYSIS-Why the Thai king's health can panic markets

 

โดย Andrew Marshall นักข่าวทางด้านความเสี่ยงทางการเมืองของเอเซีย

ที่มา Reuters

แปลโดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์

18 ตุลาคม 2552

 

มันเป็นเรื่องที่ต้องห้ามสำหรับคนไทยที่จะพูดถึงความกลัวของพวกเขาเกี่ยวกับว่า อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อรัชกาลของกษัตริย์ภูมิพลอดุลยเดชซึ่งมีพระชนมายุ 81 พรรษา ได้สิ้นสุดลง แต่ปฏิกิริยาของตลาดหุ้นไทยเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมามันพูดออกมาได้ดังกว่าคำ พูด

 

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทยได้ตกลงอย่างฮวบฮาบเมื่อวันพุธ และพฤหัส และค่าเงินบาทก็ได้อ่อนค่าลงเพราะความวิตกกังวลเรื่องสุขภาพของกษัตริย์ แม้จะมีการดีดตัวกลับวันศุกร์ แต่ข้อเท็จจริงที่ว่าแม้แต่ข่าวลือเพียงนิดเดียวสามารถทำให้มีการเทขายหุ้น อย่างกระหน่ำ มันแสดงให้เห็นถึงความวิตกกังวลของคนไทยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของรัชกาล และการที่ตลาดจะถูกกระทบอย่างหนัก

 

"อย่าเชื่อข่าวลือในตลาด ขอให้เชื่อแต่คำประกาศของสำนักพระราชวังเท่านั้น" โฆษกของสำนักพระราชวังกล่าว

 

มันแน่ชัดว่าถึงแม้ว่าความกลัวเกี่ยวกับสุขภาพของกษัตริย์จะผ่านพ้นไป นักลงทุนก็ยังเป็นห่วงอย่างมากว่าอะไรจะเกิดขึ้นข้างหน้า

 

ไม่ เคยมีการสนทนากันในสาธารณะเกี่ยวกับภยันตรายต่างๆเพราะประเทศไทยมีกฏหมาย หมิ่นฯที่เคร่งครัดซึ่งห้ามไม่ให้มีการพูดถึงบทบาทของกษัตริย์และปัญหาที่ อาจเกิดขึ้น การวิเคราะห์อย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับอนาคตของสถานการณ์การเมืองแทบจะไม่มี และนักลงทุนต่างชาติก็มีข้อมูลไม่มากเกี่ยวกับความเสี่ยงที่พวกเขากำลัง เผชิญ

 

แต่นักวิเคราะห์กล่าวเป็นการส่วนตัวว่าอาจจะมีช่วงที่วุ่นวาย อยู่นานหรือแม้แต่ความไม่สงบ และนั่นคือสาเหตุที่ตลาดอ่อนไหวต่อข่าวลือเกี่ยวกับการประชวร

 

ความแตกแยกและทางตัน

 

สิ่ง ที่ทำให้ประเด็นการสืบทอดราชบัลลังก์มันอันตรายมากตอนนี้ก็เพราะประเทศไทย ถูกผูกไว้กับความขัดแย้งทางการเมืองและสังคมมาหลายปีระหว่างผู้ที่สนับสนุน และผู้ที่ต่อต้านอดีตนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรผู้ซึ่งถูกโค่นล้มโดยรัฐประหารสามปีก่อนและปัจจุบันลี้ภัยอยู่ต่าง ประเทศ

 

พ.ต.ท.ทักษิณได้เข้ามามีอำนาจเมื่อปี 2544 และสัญญาที่จะดำเนินนโยบายเพื่อคนยากจน และได้ชนะการเลือกตั้งสมัยที่สองโดยเสียงข้างมากที่มากกว่าเดิมในปี 2548 การสนับสนุนจากคนยากจนในชนบทที่มากมายต่อพ.ต.ท.ทักษิณหมายความว่าเขาได้รับ เสียงมากพอที่จะบริหารประเทศโดยไม่จำเป็นต้องทำการต่อรองให้ผลประโยชน์กับ ข้าราชการและทหารหลังฉากเหมือนที่ทำอยู่โดยทั่วไป

 

อำนาจที่เพิ่มมากขึ้นของพ.ต.ท.ทักษิณและฐานเสียงที่ไม่มีใครสามารถเจาะได้ รวมถึงข้อกล่าวหาเรื่องคอร์รัปชั่น ได้เป็นเสียงเตือนภัยกับชนชั้นสูงที่เดิมเป็นผู้มีอำนาจในประเทศ และทหารก็ได้ก่อรัฐประหารขึ้น

 

ประเทศไทยตอนนี้แตกแยกเป็นสองกลุ่มที่ เป็นปรปักษ์ต่อกันอย่างรุนแรง กลุ่ม "เสื้อแดง" ที่สนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งพวกเขาโกรธแค้นที่รัฐบาลที่พวกเขาเลือกมาถูกโค่นล้มโดยทหาร หรือตุลาการ และโดย "เสื้อเหลือง" -- ซึ่งเป็นรอยัลลิสต์ ทหาร และคนในเมืองที่สนับสนุนนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

 

ความขัดแย้งได้ก่อ ให้เกิดความไม่สงบหลายครั้งซึ่งมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความน่าลงทุนของของ ประเทศไทย เมื่อปีที่แล้วผู้ประท้วงต่อต้านพ.ต.ท.ทักษิณได้ปิดกั้นสนามบินสองแห่ง และในเดือนเมษายนที่ผ่านมาผู้ประท้วง "เสื้อแดง" ได้บุกเข้าไปในที่ประชุมสูงสุดของเอเซียที่พัทยาซึ่งทำให้ต้องมีการยกเลิก การประชุมไป

 

ประเทศซึ่งเคยจัดว่าเป็นที่ๆมีเสถียรภาพของภูมิภาคกำลัง ถูกมองว่าเป็นประเทศที่ไร้สมรรถภาพ ในปี 2545 ดัชนี World Governance ของธนาคารโลกจัดให้ความมีเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศไทยอยู่ที่ 59.1 จาก 100 และเมื่อปี 2551 การจัดอันดับดิ่งลงอยู่ที่ 12.9

 

บทบาทของสถาบันกษัตริย์

 

ในทางทฤษฎีแล้ว สถาบันกษัตริย์ในประเทศไทยอยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมือง กษัตริย์ภูมิพลทรงเป็นกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ โดยไม่มีพระราชอำนาจทางการเมืองเป็นทางการ และก็ทรงเป็นที่เคารพรักโดยทั่วไปจากคนไทยโดยถือพระองค์เป็นเสมือนศูนย์รวมของความสามัคคีในประเทศที่กำลังมีความแตกแยก

 

แต่กระนั้น ในช่วงระยะเวลา 6 ทศวรรษที่ครองราชย์ พระบารมีทางการเมืองของพระมหากษัตริย์ทรงแผ่ขยายและทรงเข้าเกี่ยวข้องอย่างเปิดเผย 3 ครั้งในช่วงเวลาที่มีความขัดแย้งระหว่างทหารและบุคคลที่มาจากการเลือกตั้ง ยิ่งไปกว่านั้น ในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา วังถูกมองโดยคนไทยหลายคนว่าเข้าข้างฝ่ายที่ต่อต้านพ.ต.ท.ทักษิณ

 

ประธานองคมนตรี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ สนิทสนมกับผู้ที่วางแผนรัฐประหาร และถูกมองว่าเป็นพันธมิตรกับ "เสื้อเหลือง" ขณะที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์เสด็จเข้าร่วมงานศพของผู้ ประท้วงสตรี "เสื้อเหลือง"

 

ดังนั้นทางวังได้ถูกดึงเข้ามาในความขัด แย้ง และต่อมาความขัดแย้งบางส่วนก็เข้ามาเกี่ยวข้องกับความเหมาะสมของบทบาทของ สถาบันกษัตริย์ ผู้สนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณต้องการให้การเลือกตั้งเป็นตัวกำหนด ซึ่งจะทำให้รัฐบาลที่พวกเขาเลือกมาสามารถบริหารได้โดยไม่มีชนชั้นสูงเข้ามา ก้าวก่าย

 

ผู้ที่สนับสนุนสถาบันฯ โต้แย้งว่าประชากรในชนบทไม่มีการศึกษาเพียงพอที่จะทำให้ประชาธิปไตยทำงานได้ ดังนั้นทหาร ข้าราชการ และชนชั้นสูงจึงต้องมีอำนาจควบคุมนโยบายโดยทั่วไป

 

เป็น เพราะกษัตริย์ภูมิพลเป็นผู้ที่ได้รับความเคารพรักอย่างกว้างขวาง คนไทยมีความสบายใจต่ออิทธิพลที่ท่านมี และทุกฝ่ายในความขัดแย้งนี้ย้ำถึงความจงรักภักดีต่อบัลลังก์ แต่พระโอรสของกษัตริย์ภูมิพล **เซ็นเซอร์ **

 

ผลลัพธ์ก็คือการเคลื่อน ย้ายอย่างมหึมาของดุลอำนาจ -- "เสื้อแดง" น่าจะแสดงความกล้ามากขึ้นที่จะปฏิเสธอิทธิพลทางการเมืองของสถาบันกษัตริย์ ซึ่งจะเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการปราบปรามโดยชนชั้นสูงที่กลัวว่าสถาบัน กษัตริย์จะสูญเสียอิทธิพล

 

ความขัดแย้งที่ได้ทำให้เกิดความเสีย หายอย่างรุนแรงไปแล้วจะขยายตัวขึ้นอีก และเสถียรภาพระยะยาวที่นักลงทุนต้องการเห็นจะอยู่ห่างออกไปไกลอีก

 

ที่มา: http://thaienews.blogspot.com/2009/10/reuters-analysis-why-thai-kings-health.html

 

หมายเหตุ: ประชาไทแก้ไขข้อความบางตอน

 

บลูมเบิร์ก: หุ้นตก บาทร่วง การคาดการณ์พระสุขภาพของกษัตริย์

Thai Stocks, Baht Slump on King’s Health Speculation (Update3)

October 14, 2009,By Richard Frost

ที่มา – Bloomberg

แปลและเรียบเรียง แชพเตอร์ ๑๑

 

ดัชนีตลาดหุ้นไทย ดิ่งหนักที่สุดในรอบสองเดือนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทร่วงหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ด้วยข่าวพระสุขภาพของกษัตริย์ภูมิพลอดุลยเดชพระชนมายุ ๘๑ พรรษาที่กำลังทรุดลง

 

นายเดวิด ลีออง นักค้าหลักทรัพย์อาวุโสประจำสิงคโปร์จากเฟิร์ทสเตทอินเวสเม้นกล่าวว่า มีข่าวลือว่ากษัตริย์ไทยทรงพระประชวรหนักนางภัทรียา เบญจพลชัย ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขอร้องนักลงทุน อย่าได้ตื่นตูมและกล่าวต่อว่า  การซื้อขายที่มูลค่าลดลง ไม่ได้ขี้นอยู่กับ สาเหตุที่ผิดปกติเจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวังที่ไม่ประสงค์จะออกนาม ปฎิเสธที่จะแสดงความเห็นในเรื่องนี้

 

กษัตริย์ทรงครองราชย์มานานกว่า ๖ ทศวรรษ ทรงดำรงตำแหน่งประมุขของรัฐ ที่ผ่านการทำรัฐประหารที่สำเร็จและที่พยายามทำมาถึง ๑๕ ครั้ง ผ่านการประกาศใช้รัฐธรรมนูญถีง ๑๖ ฉบับ และเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีมาถึง ๒๗ ครั้ง รัฐบาลได้ประกาศออกมาแล้วว่า กษัตริย์องค์ต่อไปคือเจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมารพระชนมายุ ๕๗ พรรษา ซึ่งทรงรับราชการเป็นนายทหาร

 

นายโจนาธาน ชิสส์ ประธานภาคพื้นเอเซียแปซิฟิกของบริษัทแอชเบอร์ตันซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่เจอร์ซี่ ดูแลเงินลงทุนมูลค่าประมาณ ๖๓,๐๐๐ ล้านบาท ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า กษัตริย์ทรงมีบทบาทสำคัญต่อสังคมไทยที่ทำให้อยู่ร่วมกันเป็นปึกแผ่น หากขาดพระองค์เสียแล้ว ย่อมสร้างความระส่ำระสายเพิ่มขึ้นในความสับสน

 

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วงลงมากที่สุดถึงร้อยละ ๒ นับตั้งแต่วันที่ ๑๗ สิงหาคม และปิดที่ ๗๓๑.๔๗ จุด เคยร่วงลงมากถึงร้อยละ ๔.๓ เมื่อนักลงทุนต่างประเทศต่างเทขายมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ๒๕๕๓ ค่าเงินบาทดิ่งลงร้อยละ ๐.๕ อยู่ในอัตรา ๓๓.๔๕ บาทต่อดอลล่าห์ เป็นเงินตราสกุลเดียวในประเทศแถบเอเซียที่ลดค่าลง จากจำนวนค่าเงินใน ๑๐ สกุลเงินตราที่ใช้มากที่สุดในแถบเอเซีย ไม่รวมถึงเงินเยน

 

พระอาการ คงที่

 

กษัตริย์ภูมิพล ที่ทรงครองราชย์มายาวนานที่สุดในโลก จากการแถลงการณ์ของสำนักพระราชวังว่า พระองค์ทรงประทับรักษาพระวรกายที่โรงพยาบาลศิริราชนับตั้งแต่วันที่ ๑๙ กันยายน ด้วยพระอาการมีพระปรอท ทรงอ่อนเพลีย และเสวยพระกระยาหารได้น้อยลง สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า พระอาการโดยทั่วไปคงที่ เสวยพระกระยาหารได้ และทรงบรรทมได้ดี

 

นางภัทรียาให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวสั้นๆที่ตลาดหุ้นในกรุงเทพวันนี้ว่า ตลาดหุ้นไทยมีมูลค่าเพิ่มมากกว่าร้อยละ ๖๐ ในปีนี้และกล่าวต่อว่า ตลาดหุ้นมีการปรับตัวเอง ก่อนที่นักลงทุนจะเริ่มได้รับผลกำไร เราไม่เห็นสาเหตุผิดปกติใดๆที่ทำให้หุ้นตก

 

ดัชนีตลาดหุ้นได้ปรับตัวขึ้นถึงร้อยละ ๖๓ ในปีนี้ เมื่อเทียบกับดัชนี MSCI Asia Pacific ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ ๖๖ ซึ่งไม่นับรวมญี่ปุ่น

 

พระบรมฉายาลักษณ์ของกษัตริย์ภูมิพลที่ได้ติดตั้งตามบ้าน และตามที่สาธารณะทั่วทั้งประเทศ พระนามของพระองค์หมายถึง ทรงเป็นพลังของแผ่นดิน พระบารมีแผ่ไพศาลหาที่เปรียบไม่ได้กษัตริย์ทรงเปรียบดังสมมุติเทพ ซึ่งทรงทำการเปลี่ยนแปลงสถาบันกษัตริย์ที่ครั้งหนึ่งแค่เคยดำรงอยู่แค่ในนาม ให้กลับมามีบทบาทในทางการเมือง ท่ามกลางรัฐบาลที่มีกองทัพหนุนหลัง รัฐบาลแล้วรัฐบาลเล่า

 

พระบิดาของแผ่นดิน

 

ณ โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งพระองค์ทรงประทับรักษาพระวรกาย ได้มีพสกนิกรเข้าแถวเพื่อลงชื่อถวายพระพรให้ทรงหายประชวรตลอดหลายอาทิตย์ ตำรวจถวายความอารักขา และคอยอนุญาตให้ประชาชนเข้าไปร่วมลงนามในโรงพยาบาล

 

นายประดิษฐ์ เอมปัน ชาวนาจากจังหวัดนครสวรรค์ทางภาคเหนือของไทยวัย ๔๓ ปี ซึ่งได้เดินทางมายังโรงพยาบาลศิริราชถึงสี่ครั้งนับตั้งแต่วันแรกที่กษัตริย์ทรงเข้ารับรักษาพระวรกายในวันที่ ๑๙ กันยายน กล่าวว่า พระองค์ทรงเป็นที่รัก เปรียบเหมือนพ่อของแผ่นดิน” “ถ้าขาดพระองค์แล้ว ประเทศเราจะต้องแตกสลาย

 

นับตั้งแต่ปี ๒๕๔๙ ที่กองทัพได้เข้าปล้นอำนาจจากอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ประเทศไทยเผชิญหน้ากับสังคมที่แบ่งแยกด้วยรหัสของสี ระหว่างคนเมืองหลวงที่มีฐานะดีกว่า กับฝ่ายซึ่งมีฐานเสียงในชนบททางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

 

ปีที่แล้ว ผู้ชุมนุมเสื้อเหลืองคลั่งเจ้าบุกเข้ายึดสนามบินกรุงเทพเป็นเวลาแปดวัน เพื่อทำการขับไล่พรรคของทักษิณ และยุติการประท้วงเมื่อศาลมีคำสั่งให้ยุบพรรคในข้อหาซื้อเสียงจากการเลือกตั้งปี ๒๕๕๐ ผู้ประท้วงกล่าวหาทักษิณและผู้สนับสนุนว่าฉ้อโกง และต้องการจะยกเลิกสถาบันกษัตริย์

 

การชุมนุมเรียกร้องทักษิณ

 

เมื่อต้นปีนี้ มวลชนเสื้อแดงมากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ คนฝ่ายสนับสนุนทักษิณได้ออกมาชุมนุมหน้าบ้านพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เสื้อแดงอ้างว่า รัฐธรรมนูญที่กองทัพร่างขึ้นหลังการทำรัฐประหารให้อำนาจต่อศาล ข้าราชการ และองคมนตรีมากเกินไป และทำลายบุคคลที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชน

 

ภายใต้ระบบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญของประเทศไทย กษัตริย์ทรงดำรงตำแหน่งประมุขแห่งรัฐ และบริหารแผ่นดินโดยผ่านนายกรัฐมนตรีและทางรัฐสภา กฎหมายทุกฉบับจะต้องลงพระปรมาภิไธยโดยกษัตริย์ก่อนที่จะนำไประกาศใช้

 

ผู้กระทำการหมิ่นราชวงศ์อาจได้รับโทษจำคุกสูงสุดถึง ๑๕ ปี

 

ปตท.จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีน้ำหนักในการลงทุนมากที่สุดของตลาดในประเทศ ร่วงลงร้อยละ ๒.๒ อยู่ในราคา ๒๖๗ บาท บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) สายการบินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เสียหายร้อยละ ๔.๓ ในราคาที่ ๒๒.๓๐ บาท ตกลงมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ ๒๘ สิงหาคม

 

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้สินเชื่อซึ่งมีสินทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ ร่วงลงถึงร้อยละ ๓.๑ ในราคาที่ ๘๗ บาท มากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ ๑๐ กรกฎาคม ควบคุมโดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งปฎิบัติการลงทุนในนามราชวงศ์

 

ที่มา: http://liberalthai.wordpress.com/2009/10/15/thai-stocks-baht-slump-on-king%E2%80%99s-health-speculation-update3/

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thai Stocks, Baht Slump on King’s Health Speculation (Update3) http://www.bloomberg.com/apps/news?pid=20601087&sid=aWSLmdQccvyo

ANALYSIS-Why the Thai king's health can panic markets

http://www.reuters.com/article/latestCrisis/idUSSP406158

 

บล็อกของ หัวไม้ story

หัวไม้ story
 ทีมข่าวการเมืองข่าวเรื่องนิตยสาร ดิ อิโคโนมิสต์ ถูกแบน ในประเทศไทย ได้รับการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของเอพี และเสตรทไทม์ ขณะที่ในเมืองไทย [1] ข่าวดังกล่าวไม่ปรากฏในสื่อกระแสหลัก และเพิ่งมาปรากฏขึ้นในลักษณะของการตอบโต้จากทางการไทย ผ่าน.นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมีหนังสืออย่างเป็นทางการถึงบรรณาธิการนิตรสาร ดิ อิโคโนมิสต์  ระบุว่า....            "รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่งต่อมุมมองและทัศนคติของนิตยสารฉบับดังกล่าว ซึ่งลงบทความเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ไทย และตีความเหตุการณ์ต่างๆ ไปตามการคาดเดา…
หัวไม้ story
“ผมตั้งข้อสังเกตว่าเป็นฝีมือของพวกฉวยโอกาส หากพันธมิตรฯจะทำก็ต้องเป็นตึกไทยคู่ฟ้า ตึกสันติไมตรี เพราะสามารถสร้างความเสียหายมากกว่า ได้ผลมากกว่า และสะใจมากกว่า ไม่อย่างนั้นจะเก็บไว้อย่างดีทำไม” สุริยะใส กตะศิลา, 5 ธ.ค. 2551  ทีมข่าวการเมือง   ภาพในตึกบัญชาการทำเนียบรัฐบาลหลังการชุมนุมยุติที่มาของภาพ: คุณ Me.....O กระดานข่าวพันทิพ ห้องราชดำเนินhttp://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7288033/P7288033.html  
หัวไม้ story
"ถ้างวดนี้ มีการใช้ความรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง พี่น้องครับ พี่น้อง พ่อแม่พี่น้องทั่วประเทศไทย ต้องลุกฮือขึ้นมาแล้วให้เลือดนองแผ่นดิน"  ... "ผมจะบอกให้พวกสัตว์นรกรู้ ว่างวดนี้ถ้าประชาชนเขามา เขามาพร้อม ‘ของ' กันหมด" - สนธิ ลิ้มทองกุล 20 พ.ย. 2551 ทีมข่าวการเมืองประชาไท สนธิ ลิ้มทองกุล ได้รับการอารักขาโดย ‘นักรบศรีวิชัย’ เมื่อ 26 ส.ค. 51 ที่มาของภาพ adaptorplug (CC)  
หัวไม้ story
  วันที่ 15 พฤศจิกายน คือวันประชุมสุดยอดผู้นำโลก 20 ชาติว่าด้วยเศรษฐกิจ ซึ่งถูกคาดหมายว่า จะเป็นการประชุมเพื่อกำหนดมาตรการทางการเงินของโลกอีกครั้งหลังจากมันเคยเกิดขึ้นแล้วหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเศรษฐกิจโลกพังพาบลง จนนำมาสู้ระบบแลกเปลี่ยนเงินที่ชื่อว่า Bretton Woods SystemG20: "we must rethink we must rethink the financial system from scratch, as at Bretton Woods."นิโคลัส ซาร์โกซี ประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศสเป็นผู้เอ่ยประโยคนี้ เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา และนำมาสู่การกำหนดการประชุมสุดยอดผู้นำโลกที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 พ.ย. นี้
หัวไม้ story
โอบามากับสงครามสีผิวที่กำลังจะเปิดฉาก? ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งเพิ่งจบลงไปด้วยชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของบารัก โอบามา ผู้สร้างประวัติศาสตร์ เป็นคนผิวสี คนแรกที่เดินเข้าสู่ทำเนียบขาวในฐานะประธานาธิบดี โอบามา เป็นลูกผสมระหว่างแม่ซึ่งเป็นคนผิวขาว กับพ่อเชื้อสายแอฟริกัน ซึ่งไม่ได้ย่างเท้าลงบนแผ่นดินอเมริกาในฐานะทาส แต่เป็นนักศึกษา แม้จะไม่ใช่คนผิวดำ หรือลูกหลานแอฟริกันขนานแท้ ที่เติบโตขึ้นจากครอบครัวที่มีบรรพบุรุษเป็นทาส แต่บารัก โอบามา ก็ถูกจำจดในฐานะเป็นตัวแทนของคนผิวสีที่ได้ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งประธานาธิบดี แม้จะไม่ได้ผ่านประวัติศาสตร์ร่วมกับคนแอฟริกัน-อเมริกัน…
หัวไม้ story
แม้ว่าคนจนในประเทศไทย จะเลือกตาย ด้วยหวังให้การตายส่งเสียงได้มากกว่ายามที่พวกมีชีวิตอยู่ ทว่า ไม่ช้าไม่นาน ความทรงจำของสังคมก็เลือนรางลงไป แต่คนจนอย่างนวมทอง ไพรวัลย์ เลือกวิธีตาย และเลือกใช้การตายของเขาส่งเสียงดังและอยู่ยาวนาน อย่างน้อยก็ใน 2 ปีต่อมา เขายังไม่ถูกลืมเลือน
หัวไม้ story
ประชาไทขอนำเสนอคลิปวิดิโอ 'หลังทักษิณ' มุมมอง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจากคนใกล้ตัวที่บ้านเกิด อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และบทวิเคราะห์การเมืองไทยหลังทักษิณ โดย รศ.ดร.อรรถจักร สัตยานุรักษ์ นักวิชาการภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 
หัวไม้ story
  ทีมข่าวภาคใต้มายาภาพของการต่อสู้ทางการเมืองไทยในห้วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ถูกกล่าวว่าอ้างว่าเป็นสงครมมระหว่างภูมิภาค คือ ภาคใต้ กับภาคเหนือและภาคอิสาน แต่หากมองลึกลงไปในกระบวนการต่อสู้ของฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและพรรคพลังประชาชน อาจพบว่าแท้จริงแล้วการพื้นที่ทางการเมืองระดับนำก็ยังคงเป็นของคนใต้อยู่เช่นเดิม
หัวไม้ story
จับตาการเดินทัพของพันธมิตรฯ จากคำปราศรัยของแกนนำชื่อ ‘สนธิ ลิ้มทองกุล’ หลังประกาศทบทวนแนวทางสันติวิธี ระบุแกนนำทั้งหลายไม่กลัวตาย “แต่ถ้าพวกเราบางคนจะต้องตาย พี่น้องสัญญาอย่าง ต้องให้แผ่นดินนี้ ลุกขึ้นเป็นไฟให้ได้”
หัวไม้ story
  เมื่อพูดกันถึงเรื่องการปฏิรูปการเมืองก็ไม่แคล้วตามมาด้วย การแก้รัฐธรรมนูญอีกครั้ง นับเป็นสิ่งที่สังคมไทยถนัดในการแก้ปัญหาการเมืองโดยการเขียนอะไรบางอย่างขึ้นมาบังคับอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร กระทั่งแม้แต่นักกฎหมายมหาชนเองก็ยังแซวผู้เชี่ยวชาญในสาขาของตัวเองได้ว่า ประเทศไทยนั้นมีความเชี่ยวชาญในการร่างรัฐธรรมนูญที่สุดในโลกนายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2539 กล่าวในรายการตอบโจทย์  ทางสถานีไทย เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ว่าที่สุดแล้ววิกฤตของการเมืองไทยวันนี้มันก็เริ่มมาจากการแก้รัฐธรรมนูญที่ฝ่ายรัฐบาลนำเสนอนั่นเองย้อนเหตุการณ์ให้ฟังอีกครั้งว่า…
หัวไม้ story
  พิณผกา งามสม   ในระหว่างที่การต่อสู้ทางการเมืองไทยยังคงถกเถียงกันเรื่องโมเดลการเมืองใหม่ การเมืองใหม่กว่า รวมถึงระบบโควตาและระดับความชอบธรรมของ ‘เสียง' การเมืองเพื่อนบ้านของไทยก็กำลังเข้มข้นอยู่บนหนทางเดิมๆ ตามระบอบรัฐสภาเมื่อนายอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้านของมาเลเซียประกาศว่าจะเขย่ารัฐบาลมาเลย์ให้ล่มเพื่อเปิดโอกาสในการจัดสรรที่นั่งในสภากันใหม่ โดยยึดเอาวันที่ 16 กันยายนเป็นวันดีเดย์ แรกทีเดียว หลายฝ่ายอาจคิดว่าเป็นเพียงการสร้างสีสันให้การรณรงค์ทางการเมืองของพรรคฝ่ายค้านอย่างที่เคยทำมาอย่าแข็งขัน เพราะต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า…
หัวไม้ story
  วิทยากร  บุญเรืองขณะที่ Frank Lampard ดาวเตะแข้งทองของทีม Chelsea พึ่งบรรลุข้อตกลงสัญญา 5 ปีที่มีมูลค่าสูงถึง 39.2 ล้านปอนด์ โดย Lampard จะได้รับค่า 151,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ หรือคิดเป็น 3,775 ปอนด์ต่อชั่วโมง! แต่จากการสำรวจของ The Fair Pay Network และ Institute of Public Policy Research (IPPR) พบว่าพนักงานทำความสะอาด พ่อครัวแม่ครัว และแรงงานตัวเล็กๆ ทั้งหลาย ของสโมสรอย่าง Chelsea, Spurs, Arsenal, West Ham และ Fulham กลับได้รับค่าเหนื่อยจากสัญญาจ้างค่าแรงขั้นต่ำแค่ 5.52 ปอนด์ต่อชั่วโมงเท่านั้น