Skip to main content
 
โจว ชิงหมาเกิด
 
 
ประเด็นฮอตฮิตในรอบสัปดาห์นี้หนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือบทสัมภาษณ์ "สมชาย หอมละออ"แย้มผลสอบสลายชุมนุมพฤษภา′53 ผัวเมียทะเลาะกัน... ผิดทั้งคู่ (วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 14:00:45 น. สัมภาษณ์พิเศษ โดย พงศ์พิพัฒน์ บัญชานนท์)
 
 
ปฏิกริยาในโลกสังคมออนไลน์ของฝั่งแดง แน่นอนว่าต้องออกมาสับเละ กับวาทะมักง่ายของคนทำงานด้านสิทธิมนุษยชนอันดับต้นๆ ของประเทศคนนี้
 
เช่น เฟซบุ๊กของคุณ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล โพสต์รูปภาพพร้อมอธิบายภาพ
 
 
ภาพ "พี่สมชาย หอมละออ" [คนซ้ายในภาพที่กำลังบาดเจ็บ เลือดอาบ] ในเหตุการณ์ประเภท "ผัวเมียทะเลาะกัน" เมื่อวันที่ 6 ตุลา 19

เช้าวันนั้น "พี่สมชาย" ถูกอันธพาลการเมืองรุมตีปางตาย โชคดีที่รอดชีวิตมากได้

ตามที่แกเล่าให้พวกผมฟังตอนอยู่ในคุกด้วยกัน เช้าวันที่ 6 ตุลา ความจริง แกไม่ได้ค้างคืนในธรรมศาสตร์ แกไปร่วมดูเหตุการณ์จากทางด้านนอกมหาวิทยาลัย แล้วเดินเข้าไปด้วย เดินเข้าไปถึงแค่ตรงแถวหน้าคณะนิติ พวกอันธพาลมันเห็นท่าทางเป็นนักศึกษา นึกว่าเป็น "พวกข้างในธรรมศาสตร์" (ซึ่งจริงๆ พี่สมชาย แกก็ใช่แหละ "ตัวสำคัญ" มากด้วย แต่ผมไม่ขอเล่าในที่นี้ เพียงแต่ว่า วันนั้น ตามที่แกบอก แกไม่ได้อยู่ข้างใน เพียงเดินเข้าไปดูพร้อมๆกับม็อบฝ่ายขวาที่บุกเข้าไป) มันก็เลยรุมทำร้ายเอา

ความจริง มีภาพที่แกกำลังถูกรุมตี รุมเตะ ที่ชัดกว่านี้ แต่ผมไม่มีเก็บไว้ หลายคนคงเคยเห็น ภาพตรงด้านข้างตึกคณะนิติ ที่หันออกมาทางประตูใหญ่ ที่มีติดชื่อ "คณะนิติศาสตร์" น่ะ ในภาพ พี่สมชาย กำลังถูกอันธพาล 4-5 คน บางคนถือไม้ รุมเตะ รุมตี เป็นภาพที่มีการเผยแพร่กันมากพอสมควร

จริงๆแล้วผมไม่ค่อยอยากเขียนถึง "พี่สมชาย" หรอก เพราะเคยชอบแกมาก แม้แต่จนเมื่อเกิด "วิกฤติศรัทธา"ในกลางทศวรรษ 2520 ที่ฝ่ายซ้ายแตกระส่ำระสายแล้ว แกก็ยังความคิดดีนะ ผมเคยไปนอนค้างบ้านแก คุยกับแกเกือบทั้งคืน

...........

แต่พอหลัง รปห. 19 กันยา พร้อมๆกับการที่แกหันมาดีเฟนด์การ รปห. "ตรรกะ" ความคิดของแก ก็ "เพี้ยน"หนัก

แกเป็นหนึงในนักวิชาการ ที่ คณะ รปห. คมช. ส่งไปตะเวนต่างประเทศ อภิปรายเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับ รปห. ให้ต่างชาติ และคนไทยในต่างประเทศ ที่พากันประณาม รปห. ตอนนั้น

ในปี 2551 ผมมีโอกาสเจอหน้าแกจังๆ ในการสัมมนาที่จุฬา

ผมก็ยกเรื่องนี้ขึ้นมาด่าแก ว่า ใช้เงินภาษีของประชาชนไปตะเวนสร้างความชอบธรรมให้ รปห.

แก "ตอบ" ด้วย "ตรรกะ" ที่ทำเอาผม "อึ้ง" เพราะนึกไม่ถึงว่า แกจะเพี้ยนขนาดนั้นได้

คือแก "อธิบาย" ทำนองว่า เงินค่าใช้จ่ายที่เดินทางไปอภิปราย เป็น "เงินของผมเอง" คือ แกก็จ่ายภาษีเหมือนกัน ดังนั้น เงินภาษี ที่ คมช. นำมาใช้ส่งพวกแกไปอภิปราย (วันนั้น ผมใช้คำว่า "ขโมย" จากประชาชนมาใช้) ก็คือเงินของแกเองนี่แหละ ดังนั้น แกจึง "ไปด้วยเงินของผมเอง"

ผมฟังแล้ว "อึ้ง" จริงๆ เพราะนึกไม่ถึงว่า แกจะสามารถนึก "ตรรกะ" อะไรแบบนั้นมาได้

(ปล. เงินภาษีทีเราจ่ายไป เมือ่จ่ายไปแล้ว ก็เป็นของรัฐ หรือของประชาชนร่วมกันแล้ว ไมใช่ของใครคนใดคนหนึง นอกจากประเด็นง่ายๆว่า "พีสมชาย" จะรู้ได้ไงว่า เงินที คมช. "ขโมย" มาส่งแกไปอภิปรายเมืองนอก เอามาจากส่วนไหนของเงินภาษีรวมที่เป็นของรัฐ จะใช่ ส่วนที่ แก "จ่ายเอง" หรือเปล่า อะไรแบบน้น ที่สำคัญคือ เงินภาษีของแกเอง เมือจ่ายไป ก็เป็นของประชาชนนันแหละ และดังนัน คมช. ก็ "ขโมย" เอามาใช้ ที่แกไปเมืองนอกอภิปรายให้ คมช. ก็เป็นการไปโดยอาศัย เงินที่ "ขโมย" มานันเอง)
 
 
เฟซบุ๊กของคุณ Sarayut Tangprasert มีการนำภาพที่สมศักดิ์โพสต์มาเติมแต่งบทกวีล้อเลียน
 
 
ถ้าหน้าจอท่านเห็นถ้อยคำไม่ชัดก็ลองไปดูที่ http://www.facebook.com/photo.php?fbid=339635876080570&set=a.144319215612238.25339.100001024807284&type=1&theater
 
เฟซบุ๊กของ Bus Tewarit ผู้ที่ขยันขันแข็งในการเก็บวาทะฮอตๆ มาทำเป็น Quote ให้ชาวเฟซบุ๊กได้เสพย์อยู่เนืองๆ ก็ได้เจียระไนประเด็นนี้เช่นกัน และมีการเปรียบเทียบถ้อยคำของสมชายต่อประเด็นเสื้อเหลืองกับเสื้อแดง
 
 
"ผัวเมียทะเลาะกัน บางทีมันก็ผิดทั้งคู่ แต่อีกฝ่ายมักจะโทษอีกฝ่าย ฉันถูก-คุณผิด โทษว่าอีกฝ่ายเริ่มก่อน ทั้งที่หากเรามาสำรวจตัวเอง ไม่ใช่มัวแต่โยนความผิดให้อีกฝ่าย ผมคิดว่าการปรองดองก็จะง่ายขึ้น"

สมชาย หอมลออ 
22 ก.พ.55
กรรมการ คอป. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบและค้นหาความจริง
แย้มผลสอบสลายชุมนุมพฤษภา′53

ที่มา : มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2555 เผยแพร่ต่อใน "สมชาย หอมละออ"แย้มผลสอบสลายชุมนุมพฤษภา′53 ผัวเมียทะเลาะกัน... ผิดทั้งคู่
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 14:00:45 น. สัมภาษณ์พิเศษ โดย พงศ์พิพัฒน์ บัญชานนท์ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1329883344

ในขณะที่เมื่อ 7 ตุลา 51 ที่มีการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายสมชาย หอมละออ ประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ออกมาประณามการใช้ความรุนแรงของรัฐบาลทันที หลังสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ด้านหน้าอาคารรัฐสภา เมื่อช่วงเช้า(วันนั้น) โดยนายสมชาย เห็นว่า เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุที่รัฐบาลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ แม้รัฐบาลจะสามารถแถลงนโยบายต่อรัฐสภาได้แต่ถือว่าขาดความชอบธรรม
(ที่มา : 5องค์กรภาคปชช.ซัดรบ.แถลงนโยบายขาดความชอบธรรม http://news.thaieasyjob.com/politic/politic/show_news-17785-3.html)

หรือจาก http://tnews.teenee.com/politic/27524.html ที่นายสมชาย หอมลออ ประธานครส. เองก็กล่าวประณามในทันทีว่า การชุมนุมของพันธมิตรหน้ารัฐสภาถือว่าสงบปราศจากอาวุธ การใช้กำลังของรัฐบาลในการสลายการชุมนุม เราขอประณามการใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่ตำรวจบางคน จนมีผู้บาดเจ็บ 70 คน แขนขาด 1 คน ขาขาด 1 คน น่าจะเกิดจากการใช้อาวุธหนักของเจ้าหน้าที่รัฐ 

-----
ที่พยายามเอาข้อมูลมาแชร์นี้ ไม่ได้บอกว่าท่าทีของคุณสมชาย ต่อรัฐบาลที่สลายการชุมนุมของ พธม.ขณะนั้น ไม่ชอบธรรม แต่ทำไมเมื่อเทียบกับ เสื้อแดง แล้ว ไม่เห็นมีความรวดเร็วทันที เลย ถ้าออกมาเร็วเราอาจจะไม่สูญเสียถึง 91 ศพ และบาดเจ็บอีกหลายพัน ก็ได้
 
0 0 0
 
เมื่อคืนวานผู้เขียนนั่งกินเหล้าสนทนาปัญหาบ้านเมืองกับผู้คร่ำหวอดด้านการสนทนาปัญหาบ้านเมืองท่านหนึ่ง และก็ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่ามองอีกมุม การพูดของสมชายก็ถูกนะครับ เรื่องผัวทะเลาะเมีย แต่ต้องยกกรณีการทะเลาะให้เหมาะสมเช่น อาจารย์นิด้าที่เอาร่มฟาดเมียจนตาย หมอวิสุทธิ์ที่ฆ่าหั่นศพภรรยา หรือเสริม สาครราษฎร์ ที่สร้างตำนานรักฆ่าหั่นศพ เป็นต้น
 
จริงครับผัวเมียทะเลาะกันอาจจะผิดทั้งคู่ แต่ผิดมากผิดน้อย ใครกระทำใครหนักและได้รับโทษยังไง ประเด็นนี้ก็ลืมไม่ได้นะครับ ไม่ใช่สักแต่จะกล่าวเปรียบเทียบแบบภาษาชาวบ้านโดยที่ไม่ลงรายละเอียดให้ตรงประเด็น
 
คุณสมชายหากจะเปรียบเทียบอะไรคราวหน้าคราวหลังก็สมควรระวังให้มากกว่านี้ ให้สมกับวิชาชีพ "นักสิทธิมนุษยชน" ที่คุณเป็นอยู่นะครับ
 
 
 
 

 

บล็อกของ Hit & Run

Hit & Run
   อรพิณ ยิ่งยงพัฒนาในเกมช่วงชิงพื้นที่สื่อ กลยุทธ์หนึ่งก็คือ ทำยังไงก็ได้ ให้ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้เป็นข่าว ส่วนฝ่ายตนนั้น ต่อให้เป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายแต่ถ้าได้พื้นที่ข่าวก็ถือว่าได้เปรียบใน ระดับหนึ่ง เพราะอย่างน้อยก็พอทำให้ชื่อเสียงเรียงนามเป็นที่คุ้นหูอยู่ในความจดจำ ดีกว่าเป็นบุคคลโนเนมที่ไม่มีใครรู้จักเช่นเดียวกัน ช่วงนี้ ดูเหมือนว่านายกรัฐมนตรีพูดอะไร ให้สัมภาษณ์ว่าอะไร สื่อมักจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ สังเกตได้ว่าเวลาอ่านหรือฟังข่าวในเวลานี้ ผู้สื่อข่าวจะหยิบคำพูดของนายกรัฐมนตรีมาเปิดเผยแบบยาวๆพูดแบบตามตำรา ก็คือ แหล่งข่าวเป็นผู้นำในรัฐบาล พูดอะไรก็ย่อมเป็นข่าวอยู่แล้ว…
Hit & Run
ภาพันธ์ รักษ์ศรีทอง"ไปตายให้หนอนแดกเถอะ..ไป๊"ผมกำลังหาคำพูดที่ถ่ายทอดความคิดของคนบางคนที่มีอำนาจในบ้านเมืองนี้ แม้อำนาจของเขาจะยึดโยงจากการเลือกตั้งด้วยการกากบาทของเรา กระนั้นก็เถอะ..เท่าที่รู้สึกได้ เขาอาจกำลังอยากบอกกับคุณด้วยถ้อยคำแบบนี้ อาจเป็นการบอกกล่าวที่ซ่อนถ้อยความหิวกระหายมาช้านานแล้ว ตั้งแต่อำนาจถูกกระชากไปจากมือ และที่เขาบอกแบบนี้ได้ อาจเป็นเพราะเขากำลังมองคุณเป็นเพียง ‘มดปลวก' อันอ่อนแอ ไม่มีประโยชน์โดยเฉพาะถ้าคุณป่วยหรือไม่สบาย มันจะยิ่งสะท้อนความอ่อนแอไร้ประโยชน์เสียยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด มากไปกว่านั้น หากโชคร้าย…
Hit & Run
จิรนันท์ หาญธำรงวิทย์ เสาร์ที่ผ่านมา มีงานประชุมชื่อ Barcamp Bangkok จัดขึ้นที่ร้าน Indus สุขุมวิท 26 งานนี้ งานนี้อาจเรียกได้ว่า เป็นงานที่มีผู้จัดมากที่สุดก็ว่าได้ เพราะผู้ร่วมงานหลายคนมากันแต่เช้าเพื่อช่วยจัดโต๊ะเก้าอี้ แปะป้าย บางคนทำสมุดทำมือมาแจก หลายคนเตรียมหัวข้อพร้อมสไลด์มาพูดในงาน ------------------------------------- http://www.flickr.com/photos/poakpong http://www.flickr.com/photos/plynoi ทันทีที่งานเริ่ม กระดาษแผ่นแล้วแผ่นแล้ว ถูกทยอยนำไปแปะบนกระจกของร้าน ว่ากันว่า หัวข้อที่พูดกันในงาน มักเป็นเรื่องเกี่ยวกับเว็บแอพพลิเคชันใหม่ๆ เทคโนโลยีโอเพนซอร์ส…
Hit & Run
มุทิตา เชื้อชั่งด้วยทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ ขนาบไปด้วยทะเลยาวเหยียด เหมาะเป็นเส้นทางขนส่งวัตถุดิบสารพัด ประจวบฯ จึงเป็นที่หมายตาของโครงการขนาดใหญ่ ไม่ว่าโรงไฟฟ้าหรือโรงงานอุตสาหกรรม สำหรับชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งไม่เห็นด้วยกับโครงการเหล่านี้ ก็นับเป็นความอาภัพของชีวิต เพราะภูมิศาสตร์แบบนี้เองที่ทำให้พวกเขาต้องต่อสู้คัดค้านกับรัฐหรือทุนขนาดใหญ่กันไม่หยุดหย่อน ไม่โครงการนั้น ก็โครงการนี้ และไม่รู้ว่าด้วยความอาภัพนี้หรือไม่ที่ทำให้ขบวนการประชาชนที่นี่ ‘แข็งแกร่ง' จะว่าที่สุดในประเทศก็คงไม่ผิดนัก ล่าสุด มีการต่อสู้คัดค้านโรงถลุงเหล็กของเครือสหวิริยา ซึ่งเป็นโครงการขนาดมหึมา ที่จะไปลงในพื้นที่แม่รำพึง…
Hit & Run
ตติกานต์ เดชชพงศคงรู้กันหมดแล้วว่า สถานีโทรทัศน์ทีไอทีวีถูกยึด และต่อจากนี้ ทีวีช่องนี้จะไม่มีรายการบันเทิง ‘ไร้แก่นสาร' อีก จะมีก็แต่รายการที่มีประโยชน์ สร้างสรรค์สังคม มีคุณค่า ประเทืองปัญญากว่ารายการทีวีแบบเดิมๆๆๆๆ ฯลฯ แล้วทีวีช่องนั้นก็ถูกเรียกเสียใหม่ว่า ‘ทีวีสาธารณะ' ในฐานะประชาชนคนหนึ่งซึ่งเติบโตมากับสิ่งที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ ‘รสนิยมสาธารณ์' ไม่ว่าจะเป็น ละครน้ำเน่า (ผ่านยุคของ พจมาน สว่างวงศ์, ดาวพระศุกร์ หรือ โสรยา ใน ‘จำเลยรัก' มามากกว่าหนึ่งยุค!) รวมถึงเกมโชว์ที่ ‘ได้รับแรงบันดาลใจ' มาจากต่างประเทศ และการ์ตูนญี่ปุ่นที่เอะอะก็ต่อสู้กัน (แม้แต่การ์ตูนแมวหุ่นยนต์ ‘โดราเอมอน'…
Hit & Run
  วิทยากร  บุญเรืองกลุ่ม แบ๊คซ้าย' มิถุนาฯ   23 ธันวาคม 2550...เป็นอีกวาระหนึ่งที่เราจะต้องออกไปช่วยเพื่อนรัก ‘นักการเมือง' (กลุ่มคนที่ถูกประณามมากที่สุดในสังคมไทยปัจจุบัน)สื่อต่างๆ ชอบที่จะกระแซะแซวว่า นักการเมืองมักจะมืออ่อนนอบน้อมกราบไหว้ประชาชนเสมอในช่วงเลือกตั้ง ซึ่งมันก็ถูก แต่ถ้ามองในมุมกลับกัน คนอีกบางจำพวกนั้น ‘ไม่มี' ช่วงเวลาพิเศษไหนเลยที่จะลงมาไหว้กราบกรานขอคะแนนจากประชาชน หนำซ้ำพวกเรากลับต้องกราบกรานไหว้เขาอยู่เป็นกิจวัตรใครล่ะน่าเกลียดกว่ากัน? สำหรับวาระสำคัญก่อนการเลือกตั้ง การรณรงค์ไม่ให้มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ทำนองที่ว่า ‘…
Hit & Run
   พงษ์พันธุ์ ชุ่มใจใครที่ไม่ได้มาเชียงใหม่หลายปี หากมาเยือนปีนี้ คงผิดหูผิดตาเลยทีเดียวไม่ใช่แค่งานพืชสวนโลก ไม่ใช่แค่ ‘ช่วง ช่วง' หรือ ‘หลิน ฮุ่ย' ไม่ใช่แค่ร้าน ‘ไอเบอรี่' ของโน้ต อุดม ที่ทำให้ ‘หน้าตา' เมืองเชียงใหม่เปลี่ยนไปหากแต่ยังมีเจ้าสิ่งก่อสร้างขนาดยักษ์ ที่ชื่อว่า ‘ทางลอด' ผุดขึ้นทุกมุมเมือง ซึ่งเบื้องหลังของมัน ยังมีเรื่องราวอันยาวนานของการพัฒนา ‘เมือง' อีกด้วย!หลายปีมานี้ ยวดยานใน จ.เชียงใหม่ ต้องประสบกับความทุลักทุเลในการข้ามสี่แยก เนื่องจากมีโครงการก่อสร้างทางลอดแยก ผุดขึ้นบนถนนสายหลักของเมืองเชียงใหม่ เช่น การก่อสร้างทางลอด 7 แห่ง บนถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี…
Hit & Run
"ต้นตอของปัญหาใหญ่ๆ ในสังคม พบว่าเรื่องหนึ่งคือ คนที่เป็นเจ้าของปัญหาไม่มีช่องทางส่งเสียงของตัวเองในช่องทางสื่อสารมวลชน ยิ่งวิทยุและทีวีนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง พื้นที่ของคนเดือดร้อน ถูกเบียดออกมาบนท้องถนนที่ออกมาประท้วงให้คนเมืองใหญ่รำคาญ" 
Hit & Run
จิรนันท์ หาญธำรงวิทย์หลังจากได้อ่านข้อความในหนังสือที่ คมช. ส่งถึงคณะทำงานพิจารณากลั่นกรองเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ ของ กกต. ที่ตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบว่า หนังสือ ซึ่งออกโดย คมช. (สปค.ศปศ.คมช. ลับ-ด่วนมาก ที่ คมช ๐๐๐๓.๕/๔๘๐ ลง ๑๔ กันยายน ๒๕๕๐) นั้น เข้าข่ายความผิดฐาน เจ้าหน้าที่ของรัฐวางตัวไม่เป็นกลางในการเลือกตั้ง ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.๒๕๕๐ มาตรา ๕๗ หรือไม่ เพื่อขอให้ทบทวนบทบาทของคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน เนื่องจากการออกหนังสือฉบับดังกล่าวของ คมช.เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญ แล้ว ก็เกิดความรู้สึก ‘สบายใจ'…
Hit & Run
   ภาพันธ์ รักษ์ศรีทองเป็นเรื่องปกติในสังคมการเมืองแบบไทยๆ เมื่อมีบางคนใน ‘ตองหนึ่ง' อดีตผู้บริหารไทยรักไทยเรียกร้องในสิทธิความเป็นมนุษย์ที่พึงมีต่อองค์กร ‘ไม่ใช่พ่อ' และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเพื่อขอให้เข้ามาดูแลสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติห้ามอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยยุ่งเกี่ยวการเมืองทุกรูปแบบกรณี ซึ่งอาจเป็นการละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพในการพูดและแสดงออก แทบฉับพลันทันทีนั้น เสียงแขวะฝอยเลาะตะเข็บก็ดังควากออกมาอย่างหยามหยันมากมายตามหน้าสื่อต่างๆเมื่อตามรอยตะเข็บที่เลาะไป ใช่จะไม่มีมูล…
Hit & Run
"ความพยายามสร้างกติกาอันบิดเบี้ยวตลอดปีกว่าที่ผ่านมา ส่งผลให้ ‘ผี' ยิ่งน่ากลัวสำหรับคนที่กลัว และยิ่งน่าพิสมัยสำหรับผู้ที่ไม่กลัว และผู้ที่ไม่กลัวส่วนใหญ่นั้นแม้จะอยู่ห่างไกล ไร้อำนาจ แต่ก็สามารถแสดงพลังเงียบของตนได้อย่างมีนัยสำคัญ"  ภาพจาก dschild.exteen มุทิตา  เชื้อชั่ง ผมเป็นคนกลัวผีมากจนแทบจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการกลัวผี และรู้สึกว่าสังคมไทยกำลังกลัว ‘ผี' อย่างหนัก ข้อสังเกตที่เห็นได้ชัดอย่างหนึ่งคือ จากที่เคยมีคำอธิบายมากมายว่าทำไมจึงต้องกลัว ‘ผี' หรือไล่ ‘ผี' แต่นานวันเข้า สถานการณ์เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังเท้า ความกลัว ‘ผี'…
Hit & Run
ภาพจาก http://www.kathmandu-bkk.com/คิม ไชยสุขประเสริฐช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีปัญหายุ่งยากใจกันอยู่นิดหน่อยในออฟฟิศ เรื่องการทำเสื้อทีมว่าจะเอาแบบไหน-สีอะไร ที่ยังไงก็ไม่ลงตัวสักที เพราะสีแต่ละสีตอนนี้ถูกนำเอาไปทำสัญลักษณ์ของกลุ่มต่างๆ กันไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแม่สีอย่าง สีแดง สีเหลือง หรือสีขั้นสองอย่างสีเขียว สีส้ม หรือสีม่วง