Skip to main content

"ความพยายามสร้างกติกาอันบิดเบี้ยวตลอดปีกว่าที่ผ่านมา ส่งผลให้ ผี' ยิ่งน่ากลัวสำหรับคนที่กลัว และยิ่งน่าพิสมัยสำหรับผู้ที่ไม่กลัว และผู้ที่ไม่กลัวส่วนใหญ่นั้นแม้จะอยู่ห่างไกล ไร้อำนาจ แต่ก็สามารถแสดงพลังเงียบของตนได้อย่างมีนัยสำคัญ" 

v 

ภาพจาก dschild.exteen 

มุทิตา  เชื้อชั่ง

ผมเป็นคนกลัวผีมากจนแทบจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการกลัวผี และรู้สึกว่าสังคมไทยกำลังกลัว ผี' อย่างหนัก ข้อสังเกตที่เห็นได้ชัดอย่างหนึ่งคือ จากที่เคยมีคำอธิบายมากมายว่าทำไมจึงต้องกลัว ผี' หรือไล่ ผี' แต่นานวันเข้า สถานการณ์เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังเท้า ความกลัว ผี' ก็ยังคงอยู่และอาจจะมากยิ่งกว่าเดิมโดยที่คำอธิบากลับลดน้อย จางหาย จนหลายต่อหลายคนก็อธิบายไม่ถูกว่าทำถึงทั้งเกลียดทั้งกลัว ผี' เช่นนั้นตลอดเวลา ทุกสถานการณ์ ขณะเดียวกันก็รู้สึกตีบตัน สิ้นหวัง ยิ่งนักในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้

ตามทฤษฎีว่าด้วยผีวิทยาแล้ว ผีไม่มีวันตาย ไม่ตายซ้ำซ้อน และเป็นภาพประทับของความน่ากลัวที่อยู่ในความรู้สึกนึกคิด ถ้าเป็นมากหน่อยก็ไปอยู่ในส่วนของจินตนาการซึ่งไร้ขอบเขต ความกลัวผีที่เกิดขึ้นไม่จำเป็นต้องมีเหตุมีผล ดังนั้น หากไม่ระมัดระวังผู้ที่กลัวผีมีแนวโน้มจะกลัวยิ่งขึ้นๆ จนขาดสติ รู้สึกตนเองไร้อำนาจอย่างรุนแรงขณะเดียวกันก็ไม่เชื่อมั่นในขีดความสามารถและอำนาจของเพื่อนมนุษย์คนอื่นๆ  อาจถึงขั้นกระทำการที่ไม่อยู่ในครรลองที่ควรเป็น เช่น กระโดดถอยหลังทีละหลายก้าว ทำให้หกคะมำหัวร้างข้างแตกได้โดยง่าย  

ผู้ที่กลัว ผี' อาจจะไม่จำเป็นต้องพยายามลบภาพประทับของ ผี' หรือเปลี่ยนให้ ผี' กลายเป็น เทวดา' แต่ควรตั้งสติพิจารณา ผี'ให้ถี่ถ้วน ตำราผีวิทยาในหลายประเทศยืนยันว่า การพิจารณา ผี' อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ สร้างระบบและกลไกที่มีประสิทธิภาพ สร้างความเข้มแข็งของจิตใจและปัญญาของผู้คนเจ้าของประเทศ จะช่วยจำกัด ผี' หรือควบคุมสถาบันผีไม่ให้น่ากลัวกระทั่งเชื่อฟังคำสั่งประชาชนได้ แต่ในบางพื้นที่ที่มีปัญหาเรื้อรังสลับซับซ้อนเกินกว่าจะพูดถึง ก็อาจต้องใช้เวลานานกว่าปกติ

กระนั้นก็ตาม การฝืนธรรมชาติด้วยการกำจัด ผี' ออกไปจากการรับรู้ของผู้คนโดยสิ้นเชิงนั้นไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง เพราะยังมีคนอีกมากมายที่ชอบ ผี' ไม่กลัว ผี' พวกเขาควรมีโอกาสดูหนังผี เล่าเรื่องผี เป็นชู้กับผี ฯลฯ ได้ด้วยเช่นกันตามกติกาของประชาธิปไตย แต่ก็ควรออกแบบโครงสร้างในการควบคุม ตรวจสอบ ผี' ให้รัดกุมอย่างที่กล่าวไป เพื่อไม่ให้สร้างความเดือดร้อนเสียหายต่อส่วนรวม

อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมาเราจะพบว่าสังคมไทย (เมืองหลวงเป็นหลัก) ตระหนักถึงความน่ากลัวของ ผี' และมุ่งกำจัด ผี'ให้สิ้นซากตามแบบวิธีคิดเก่าแก่ แต่ด้วยรูปแบบและคำอธิบายที่ละเมียดขึ้น แม้จะผิดระเบียบวิธีการประชาธิปไตย

ล่าสุด คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีมติกีดกันอดีต ผี' ทั้ง 111 ตนไม่ให้สามารถปราศรัยร่วมหาเสียง ถ่ายรูปคู่กับผู้สมัคร เป็นวิทยากรให้กับพรรคการเมือง ส่วนการที่อดีตหัวหน้าผีจะปราศรัยช่วยหาเสียงผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์นั้นอย่าแม้แต่จะฝัน ทั้งยังไม่ให้ ผี' ทั้ง 111 ตน ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายและยุทธศาสตร์ และการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง

วิธีการเหล่านี้ยิ่งทำก็ยิ่งถลำลึกไปในกับดักของอาการกลัว ผี' โดยเฉพาะบรรดาหมอผี เกจิอาจารย์ชื่อดังทั้งหลาย ซึ่งหลายคนหวังดี และอีกหลายคนอยู่ในภาวะขี่หลังเสือ ซึ่งอาจทำให้ขาดสติอย่างรุนแรงออกกฎหมายที่ไม่น่าออก มุ่งเน้นแต่ประเด็นการเมือง การปกป้องตัวเองเป็นหลัก 

และด้วยความพยายามสร้างกติกาอันบิดเบี้ยวตลอดปีกว่าที่ผ่านมา จะส่งผลให้ ผี' ยิ่งน่ากลัวสำหรับคนที่กลัว และยิ่งน่าพิสมัยสำหรับผู้ที่ไม่กลัว และผู้ที่ไม่กลัวส่วนใหญ่นั้นแม้จะอยู่ห่างไกล ไร้อำนาจ แต่ก็สามารถแสดงพลังเงียบของตนได้อย่างมีนัยสำคัญ ดังเช่นการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 50 ที่ผ่านมา จนเป็นที่จับตากันมากว่าการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ คนไม่กลัวผีจะมีพลังเพียงไหน

สุดท้าย หนังสือเล่มล่าสุดของ ศ.Leonard  Coup d'etat สรุปไว้ว่า อาการกลัวผีแต่พอดีเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นสิ่งแสดงออกถึงสุขภาพอันดีของพลเมือง ซึ่งจะกระตุ้นให้ผีทั้งหลายใช้ความน่ากลัวไปในทางที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ขณะเดียวกันอาการกลัวผีแบบไม่ลืมหูลืมตาอย่างกรณีของไทยตอนนี้ กระทั่งกฎอัยการศึกก็ยอม  พ.ร.บ.ความมั่นคงออกมาก็ยอม ฯลฯ สามารถส่งผลเสียใหญ่หลวงได้ ซึ่งนอกจากจะกำจัดผีไม่ได้แล้ว ยังทำให้สังคมสุ่มเสี่ยงที่จะไปถึงทางตัน (ยิ่งกว่า) ซึ่งทั้งน่ากลัวและทั้งเจ็บปวดกว่าการเผชิญหน้ากับ ผี' หลายเท่า

 

บล็อกของ Hit & Run

Hit & Run
ศรายุธ ตั้งประเสริฐ
Hit & Run
  โจว ชิงหมาเกิด     ประเด็นฮอตฮิตในรอบสัปดาห์นี้หนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือบทสัมภาษณ์ "สมชาย หอมละออ"แย้มผลสอบสลายชุมนุมพฤษภา′53 ผัวเมียทะเลาะกัน... ผิดทั้งคู่ (วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 14:00:45 น. สัมภาษณ์พิเศษ โดย พงศ์พิพัฒน์ บัญชานนท์)    
Hit & Run
เดือนมีนาคมแล้วค่ะท่านผู้อ่าน ช่วงเวลาที่นักเรียนชั้น ม.6 ต้องจำจากจรสถาบันอันเป็นที่รักเพื่อก้าวไปข้างหน้า ทั้งจากความต้องการของตัวเองและกระแสสังคมที่ต่างคาดหวังว่าการ ศึกษาคือหนทางแห่งการเป็น “เจ้าคนนายคน” หากท่านผู้อ่านเคยผ่านช่วงเวลาของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ว่าจะเป็นระบบเอนทรานซ์หรือระบบแอดมิชชันคงยังจำช่วงเวลาหฤโหดของการเข้าห้องสอบที่แบกเอาความฝันของตัวเอง ความคาดหวังของผู้บุพการี และหน้าตาของสถาบันระดับมัธยมศึกษา (ที่มักจะวัดกันด้วยจำนวนนักเรียนที่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้)ตลอดจนท่านผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ครู อาจารย์…
Hit & Run
ปีนี้บรรยากาศเหน็บหนาวที่มาพร้อมกับลานเบียร์หลายแห่งตามห้างสรรพสินค้า มีเรื่องสนุกสนานทวีคูณมากขึ้น เมื่อเกิดปรากฏการ “สาวลีโอ” ที่ยุ่งเหยิงอีรุงตุงนังเมื่อไปพันกับการเมืองยุคอำมาตย์ฝึกหัดครองเมือง เมื่อมาถึงปลายปีที่มีบรรยากาศหนาวๆ ชวนให้เปล่าเปลี่ยว ธรรมเนียมปฏิบัติของบรรษัทค่ายน้ำเมาต่างๆ จะต้องมีแคมเปญอะไรมาเป็นของกำนัลให้กับหนุ่มๆ คึกคักมีชีวิตชีวา โดยปฏิทินรูปแบบวาบหวามมักจะถูกเข็นออกมาในช่วงนี้ และลีโอก็ไม่เคยพลาด หลังจากที่ได้ “ลูกเกด - เมทินี กิ่งโพยม” มาช่วยเป็นแม่ทัพดูแลการผลิตด้านสื่อหวาบหวิวให้ค่ายลีโอ…
Hit & Run
สถานการณ์ในเมืองไทยตอนนี้ทำให้พวกเราไม่สามารถนำเสนออะไรหลายอย่างได้โดยเฉพาะสิ่งที่มาจากต่างประเทศ ก็เพราะประเทศสยามกำลังพยายามปิดกั้นไม่ให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลจากสื่อต่างชาติ หรือถ้าจะให้รับรู้ก็จะถูกบิดเบือนหรือรับเอามาดัดแปลงให้เป็นวาทศิลป์มุ่งสำเร็จความใคร่ในการทำลายล้างศัตรูของตนเอง โดยไม่สนถึงผลกระทบที่ตามมาว่าจะบานปลายร้ายแรงขนาดไหน
Hit & Run
ก่อนที่คนเสื้อแดงจะได้รับการยอมรับนับถืออย่างทุกวันนี้ เราผ่านอะไรมามากมาย และมาวันนี้เราอาจจะลืมอะไรไปมากมายเช่นกัน ทุกวันนี้การสอดแทรกประเด็นประชาธิปไตยเพื่อผูกโยงกับมวลชนคนรักทักษิณเป็นเรื่องหลักๆ ที่เราพูดถึงกัน โดยจุดสำคัญที่ฝ่ายที่เรียกว่าตนเองเป็น“ฝ่ายที่เป็นปัญญาชน-ฝ่ายที่ต้านลัทธิเสรีนิยม” สามารถมายืนข้างคนรักทักษิณได้อย่างไม่เคอะเขิน ก็คือการที่คุณทักษิณได้รับการเลือกตั้งมาตามวิถีประชาธิปไตยแล้วถูกโค่นอำนาจโดยการรัฐประหาร
Hit & Run
“กม.มั่นคงคุมเขตดุสิต แดงเย้ยตื่นตูม พท.ชี้ยั่วยุคนมาชุมนุม นายกฯ อ้างมีข่าวมือที่สาม”
Hit & Run
ขอ 'อภัย' ล่วงหน้า หากว่าเรื่องนี้จะ(ไม่) เกี่ยวข้องกับการ 'อภัย' ใน 'โทษ' ของคนตนหนึ่งที่กำลังเป็นประเด็นร้อน!
Hit & Run
ดูเหมือนว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์เวชชาชีวะจะให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์-รณรงค์ทางอินเทอร์เน็ตเป็นพิเศษโดยที่ผ่านมามีการเปิดตัวเว็บไซต์หลายโครงการอาทิโครงการต้นกล้าอาชีพhttp://www.tonkla-archeep.com/ เว็บไซต์ช่วยชาติที่แสดงข้อมูลและความคืบหน้าของแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของรััฐบาล http://www.chuaichart.com/ เว็บโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชนhttp://www.chumchon.go.th/ โครงการคิดอย่างยั่งยืนตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของกอ.รมน. หรือ MOSO http://mosothai.com และล่าสุดhttp://ilovethailand.org เว็บที่ชวนคนมาแสดงความรักประเทศไทยผ่านบล็อกคลิปวิดีโอรูปถ่ายและข้อความสั้น
Hit & Run
คุณ ลิเดีย กูวารา อาจไม่ได้มีความงามตามแบบฉบับสาวทั่วไป แต่ จากองค์ประกอบการจัดวาง การตกแต่ง อุปกรณ์เสริมคือแครอทเป็นเหมือนแถบคาดกระสุน รวมถึงการโพสท์ท่าของเธอ ทำให้ดูมีเสน่ห์ด้วยพลังของความเป็นชาย (masculine) ...แม้แครอทจะดูเล็ก ๆ เหี่ยว ๆ ไปหน่อยก็ตาม
Hit & Run
ในปีนี้หนังสือพิมพ์ไทยรัฐคว้ารางวัล “ภาพข่าวยอดเยี่ยม” ไปครอง หลังจากนั้นมาไม่กี่วันก็แทบจะต้องเพิ่มตำแหน่งมิสป๊อบปูล่าไปให้ด้วย เพราะมันไม่ใช่ได้รางวัลแล้วก็แล้วกันไปแบบทุกปี หากแต่ถูกพูดถึงอย่างมากมาย โดยเฉพาะในโลกไซเบอร์ มีทั้งคำชื่นชมและผรุสวาทให้ระงม ฐานที่เกี่ยวพันกับการเมืองลูกกวาดหลากสีของเราเต็มๆ ในฐานะที่ไม่ใช่คณะกรรมการ (และไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ ด้วย) ขอประกาศสนับสนุนคณะกรรมการที่ให้รางวัลแก่ภาพนี้ โดยจะขอยกเหตุผลเพิ่มเติมจากท่านคณะกรรมการตัวจริงที่อาจพูดสั้นไป เพราะท่านคงไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับพวกไม่รู้จักจบจักสิ้น ไม่รู้จักแพ้ชนะ ทั้งยังไม่มีองค์ความรู้ด้านสื่อสารมวลชน…
Hit & Run
ภาพจาก: http://imaim.wordpress.com แรงกระเพื่อมของสังคมไทยในช่วงที่ผ่านมา ต่อเรื่อง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทำให้ต้องมานั่งนับวันว่า เมื่อไหร่จะถึงวันที่กฎหมายฉบับนี้นี้จะเขาที่ประชุม ครม.เพื่อลุ้นเอาแค่กฎหมายฉบับนั้นจะผ่านครม.เข้าสู่สภาฯ ได้หรือไม่ แล้วค่อยไปว่ากันต่อด้วยเรื่องหน้าตาว่าจะออกมาสวย หล่อ เพียงใด ตามที่ รมว.คลัง ท่านบอกผ่านสื่อมวลชนไว้ เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา มีกำหนด 2 สัปดาห์ นี่ก็คงอยู่ในช่วงระยะเวลานัดหมายแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ล่าสุด รมว.คลังกล่าวผ่านสื่อว่า กระทรวงการคลังยังเดินหน้าแนวคิดการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยจะนำเสนอร่าง พ.ร.บ.…