สาละวิน,ลูกรัก
ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่แม่อยากจะเล่าให้ฟัง โดยเฉพาะเรื่องความรักระหว่างพ่อกับแม่ ที่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องที่แปลกแตกต่างไปจากคนอื่นๆในสังคม
เรื่องราวความรักที่คล้ายดังนิยาย จนมีพี่นักเขียนคนหนึ่งซึ่งภายหลังจากได้พูดคุยเรื่องราวชีวิตความรักของแม่ ถึงกับนำไปเขียนลงในหนังสือ ตั้งชื่อเรื่องเสียหรูว่า “มหัศจรรย์แห่งรักบ้านห้วยเสือเฒ่า”
พี่โดม วุฒิชัย ได้เดินทางมาสัมภาษณ์แม่ถึงในหมู่บ้าน เพื่อเขียนลงในคอลัมน์ประจำ “ริ้มรั้วหัวใจ” ตีพิมพ์ในนิตยสารสกุลไทย แม้ว่าตอนนั้นแม่ไม่ได้เต็มใจนักที่จะเปิดเผยเรื่องราวในชีวิต เพราะแม่มองว่า มันก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาของผู้หญิงคนหนึ่งที่เลือกเดินทางมาใช้ชีวิตอยู่กับคนที่รัก
แต่เมื่อเรื่องราวชีวิตรักของพ่อและแม่ถูกถ่ายทอดสู่สังคม กลับกลายเป็นที่สนใจ จนมีคนเดินทางมาถามหาแม่ถึงในหมู่บ้าน ด้วยความอยากรู้เรื่องราวที่ดูจะแปลกในสายตาของเขา
สาละวินลูกรัก แม่กลับไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาเหล่านั้นจะมองว่า ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งได้รับการศึกษจนจบถึงระดับปริญญา แต่ตัดสินใจใช้วิตกับชายผู้พลัดถิ่น ไร้การศึกษา ไม่มีแม้แต่สัญชาติ เช่นพ่อของลูก ซึ่งแม้แต่เพื่อนและคนใกล้ชิดก็ยังมองว่าแม่แปลก แม่บ้า
แม่เข้าใจดีว่า ผู้คนย่อมแปลกใจที่แม่ไม่ยอมอยู่ในบรรทัดฐานของสังคม ที่ต้องมองถึงความเหมาะสม ในการเลือกคู่ครอง เช่นความเท่าเทียมกันทางด้านชาติตระกูล ทรัพย์สินเงินทอง หรือแม้แต่การศึกษา ฐานะทางสังคม ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะขาใช้สายตามองจากภายนอก มิได้ใช้หัวใจสัมผัสเช่นแม่
แม่กลับเลือกที่จะรักพ่อในฐานะความเป็นมนุษย์คนหนึ่ง และไม่เห็นความแตกต่างทางเชื้อชาติเผ่าพันธ์ จนกระทั่งตั้งข้อรังเกียจ แบ่งแยก เฉกเช่นคนในสังคมกระทำต่อกันอยู่
มิใช่เพราะความแบ่งแยกทางชนชั้นเผ่าพันธ์หรอกหรือ ที่นำไปสู่สงครามในโลกปัจจุบันนี้ แม้แต่ความแตกต่างเพียงเล็กน้อยเช่น การเป็นคนภาคไหน จังหวัดอะไร ก็ยังนำไปสู่ความขัดแย้งกันขึ้นมาได้
แม่คิดว่านั้นเป็นเพราะทุกคนลืมไปแล้วว่า แท้ที่จริงทุกคนก็ต่างเกิดมาเป็นมนุษย์เช่นกัน จะเกิดถิ่นหนตำบลใด หากใช้หัวใจสัมผัสกัน ก็ย่อมเกิดความรักได้ในทุกชนชั้น
ความรักเป็นหลักสากล ที่บัญยัติไว้เป็นสำคัญในคัมภีร์ไบเบิล และแม่คิดว่า หากโลกนี้ไม่มีความรักเสียแล้ว ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งมวลจะยิ่งจะทวีคุณยิ่งขึ้น
หากคนเราให้ความรักกันโดยไม่แบ่งแยกว่าจะต่างชาติ ต่างเผ่าพันธ์ ศาสนา ความคิด ความเชื่อ โลกอาจจะพบสันติสุขมากกว่านี้ อาจจะไม่ถึงกับต้องรักและแต่งงานเช่นที่แม่ทำ แต่ขอแค่เอื้ออารีต่อกัน ไม่ตั้งข้อรังเกียจในวัฒนธรรมที่แตกต่าง เช่นชนเผ่าของพ่อที่ถูกกระทำอยู่อย่างนี้
ในวันข้างหน้าเมื่อลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ลูกไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงการตั้งคำถามของคนในสังคม ซึ่งเขาเหล่านั้นอาจจะมีบ้างที่ตั้งข้อรังเกียจความเป็นชนเผ่าของลูก
แม่หวังว่าลูกจะให้อภัยความอวิชชาของเขาเหล่านั้น อย่าได้มีปมด้อยในจิตใจ เพราะคุณค่าของมนุษย์คนหนึ่งย่อมอยู่ที่การกระทำ มากว่าชาติกำเนิด หากเกิดมาในตระกูลสูงส่งแต่กระทำชั่วกระทำเลว ก็ย่อมเสียชาติเกิดและขึ้นชื่อว่าเป็นคนเลว
หากสังคมถ่ายทอดความคิดเรื่องการสร้างสังคมแห่งความรักขึ้น ลบเส้นการแบ่งแยก แตกต่าง ของผู้คนที่อยู่ร่วมในสังคมเดียวกัน เรื่องราวของแม่ก็คงจะไม่ใช่ความมหัศจรรย์อีกต่อไป.
รักลูก
แม่