เจนจิรา สุ
ก่อนเปิดบันทึก
ต้นหว้าแสนรัก,บันทึกเล่มนี้นี้แม่ตั้งใจจะบันทึกถึงเจ้า น้องคนเล็กของพี่และลูกสาวคนเล็กของแม่ดั่งที่แม่เคยได้บันทึกถึงพี่ชายของเจ้า “สาละวิน” ในหนังสือ “บันทึกถึงลูกผู้มาจากดาวดวงอื่น” ที่กำลังตีพิมพ์เร็วๆนี้ อันเป็นความฝันส่วนหนึ่งที่สำเร็จลง เมื่อครั้งที่แม่ตั้งใจเขียนบอกเล่าความเป็นมาแห่งวิถีชีวิตแห่งพ่อและแม่ที่เกิดมาจากต่างวัฒนธรรมเรียกได้มาจากคนละดวงดาวเลยก็ว่าได้ด้วยพ่อที่เติบโตในชุมชนที่เรียกว่าหมู่บ้านกระเหรียงคอยาวเพื่อการท่องเที่ยว ส่วนแม่นั้นเป็นเพียงคนในสังคมทั่วไปที่มีโอกาสไปเที่ยวหมู่บ้านของพ่อ ได้พบรักและแต่งงานจนกระทั่งมีลูกที่แม่รักและภูมิใจถึงสองคน แต่แม่ก็ได้ใช้ชีวิตที่หมู่บ้านของพ่อจนกระทั่งจนกระทั่ง พือพือ (ย่ามะโน)เสียชีวิตลง แม่จึงได้ย้ายออกมาอยู่บ้านที่ปลูกสร้างไว้ใกล้ชานเมืองเพื่อความสะดวกในหลายๆอย่างกระนั้นแม่ก็ยังมีเรื่องเล่ามากมายที่อยากเล่าให้ลูกทั้งสองฟัง
ในบันทึกเล่มนี้แม่เลือกที่จะเล่าถึงลูกต้นหว้า ด้วยว่า ความเข้าใจในตัวตนของลูกนั้นมีน้อยมากกว่าพี่ชายเจ้านักที่เกิดในชุมชนอันแตกต่างกัน “สาละวิน” มีโอกาสได้ใช้ชีวิตในวัฒนธรรมของพ่อเจ้า ส่วนตัวเจ้านั้นไม่ได้สัมผัสอยู่อาศัยในชุมชนของพือพืออีกเลยนับตั้งแต่แม่ย้ายออกมาก่อนที่เจ้าจะคลอดออกมา
เมื่อแม่รับยาย(แม่ของแม่)มาอยู่ด้วยก็ยิ่งต้องบันทึกถึงต้นหว้าที่เป็นที่รักของคนในบ้านจนมีคำติดปากว่า”ต้นหว้าสีชมพู”เพราะยายเจ้านั้นนึกให้เป็นจริงว่าสีชมพูคือสีแห่งความรักขอให้มีคนรักเจ้ามากมายดังสมญานามที่ให้ ซึ่งมันเป็นจริงดังว่า ลูกกลายมาเป็นที่รักของพ่อของยายของพี่วินและแม่จนบางครั้งดูเหมือนแม่ลำเอียงความรักมาหาเจ้า จนแม่กลัวว่าเจ้าจะหลงระเริงกับความรักจนกลายเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง จนไม่รู้จักแบ่งปันความรักให้ผู้คนอื่น
ต้นหว้าแสนรักของแม่จำต้องถูกปลูกฝังวัฒนธรรมแห่งความรักให้ถูกต้อง ด้วยเจ้านั้นเกิดเป็นหญิงโดยวัฒนธรรมที่เสียเปรียบเพศชายทำให้แม่นึกห่วงเจ้ามากมายเสียยิ่งกว่าพี่ชายของเจ้า ไม่ต่างจากที่แม่ได้พลาดพลั้งไปกับการดำเนินชีวิตที่ผ่านมา ที่ได้กลายมาเป็นบทเรียนในชีวิตที่แม่ไม่อาจจะยอมให้เกิดกับลูกซ้ำสองโดยเด็ดขาด
แม่ได้เพียงแต่หวังว่าบันทึกเล่มนี้เมื่อเจ้าเติบใหญ่ได้อ่านมัน จะทำให้เจ้านึกรักตัวเอง รักผู้คนอื่นในโลกใบนี้ ไม่ว่าเขาจะยากดีมีจน สูงส่งด้วยเงินตราฐานะ หรืออยู่ในชนชั้นใดในสังคมก็ตามล้วนเกิดมาเป็นคนเสมอกันไม่อาจดูถูกใครได้ว่าต่ำต้อยกว่าเรา และไม่มีใครยิ่งใหญ่ไปกว่าเราเหนือการทำดีได้หรอกลูก ยิ่งความรักเฉกเช่นหนุ่มสาวด้วยแล้วหากรู้จักรัก ความรักนั้นจะเป็นสิ่งสวยงามชโลมใจลูก หากรักไม่เป็นความรักจะย้อนมาทิ่มแทงลูกดั่งอสรพิษร้ายเลยทีเดียว
แม่เองก็ถือโอกาสเล่าเรื่องราวหลายอย่างผ่านบันทึกถึงลูกเล่มนี้ เพื่อเป็นคติเตือนใจให้แม่และลูกได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันหากวันหนึ่งลูกได้อ่านมันจะรู้ได้ว่าแม่รักลูกเพียงใดต้นหว้าแสนรักและรักที่ยิ่งใหญ่คือรักที่ไม่หวังผลตอบแทนแห่งรักนั้นเอง.
รัก
แม่