Skip to main content

บทกวีไว้อาลัยการจากไปของ 'ไม้หนึ่ง ก.กุนที' ที่ถูกยิงเสียชีวิตวันนี้ "เมื่อกวีจากไปไร้กวี.."

 

 

คือชีวิต

ที่พระเจ้าประทานสิทธิ์ให้เทียมเท่า

เพียงครั้งเดียวทุกผู้ได้อยู่เนา

สมบัติใดไหนเล่าค่าเท่าทัน

รักชีวิตมีชีวิตที่คิดหมาย

อย่าอยู่อย่างอับอายให้โลกหยัน

อย่าอยู่อย่างเปล่าค่าเปลืองคืนวัน

จงอยู่ฝันอยู่สู้อยู่สร้างธรรม

เพื่อวันตายตาคู่จะรู้หลับ

ชีวิตดับปลาบปลื้มและดื่มด่ำ

ด้วยได้มอบกายใจใฝ่ตรากตรำ

ปลดแอกจำจองมนุษย์จนสุดใจ

 

(กลอนด้านบน ผมดัดแปลงจากถ้อยคำบรรยายปณิธานในชีวิตนักปฏิวัติของพาเวล คอร์ชายิน ตัวเอกแห่งนวนิยายเรื่อง "เบ้าหลอมนักปฏิวัติ"/"เบ้าหลอมวีรชน" (How the Steel Was Tempered) ของ Nikolai Ostrovsky ที่ เทอด ประชาธรรม หรือคุณทวีป วรดิลกแปลเป็นไทย

ทุกครั้งที่มีผู้ต่อสู้เพื่อประชาชนเสียสละชีวิตลง ผมอดนึกถึงกลอนบทนี้ไม่ได้ เคยเอาไปท่องอ่านในงานไว้อาลัยคุณเจริญ วัดอักษร นักสู้แห่งบ่อนอก-บ้านกรูดที่ประจวบฯ และตีพิมพ์ลงมติชนในโอกาสลุงนวมทอง ไพรวัลย์ อัตวินิบาตกรรมเพื่อต้านรัฐประหารคปค. ขอยกมาไว้อาลัยคุณไม้หนึ่งในโอกาสอันน่าสลดใจนี้)

-------

เมื่อกวีจากไปไร้กวี

เสียงขับเคลื่อนเอื้อนวจีก็แหบปร่า

เสียงปี่พาทย์ขาดสะบั้นไม่ทันลา

เหลือแต่เสียงปืนผาพญายม

กวีวายเหลือเพียงเสียงกวี

กังวานก้องฟ้องคดีที่ขี่ข่ม

สัจธรรมสัมผัสได้ในสายลม

ท่องบ่นฟังดังขรมทั้งโลกันต์

 

หมายเหตุ : บทกวีและข้อเขียนนี้เผยแพร่ครั้งแรกในเฟซบุ๊ก "Kasian Tejapira" เมื่อวันวันที่ 23 เม.ย.2557

บล็อกของ เกษียร เตชะพีระ

เกษียร เตชะพีระ
"ในฐานะผู้เคยทำการปฏิวัติด้วยความรุนแรง ผมใคร่บอกว่าเราต้องหาทางเจือผสมการปฏิวัติด้วยความไม่รุนแรงให้มากที่สุด เพราะเหตุใดน่ะหรือ? ก็เพราะว่าบรรดาไพร่ทาสราษฎรสามัญชนโดยทั่วไปนั้นหาได้มีอาวุธสงครามในมือเหมือนกลไกรัฐภายใต้การบังคับควบคุมของชนชั้นปกครองไม่.."    
เกษียร เตชะพีระ
กระบวนการเศรษฐกิจทุนนิยมโลกาภิวัตน์ดังที่เป็นอยู่ จึงก่อผลสำคัญด้านความเหลื่อมล้ำทางโภคทรัพย์ที่เป็นอุปสรรคต่อประชาธิปไตย ไม่ใช่อุดหนุนเกื้อกูล, พลังประชาธิปไตยบนฐานอำนาจเสียงข้างมากของคนที่ขาดด้อยโภคทรัพย์ต้องหาทางคะคานถ่วงดุลอำนาจทุนมหาศาลของคนมั่งมีโภคทรัพย์เสียงข้างน้อยไว้ มิฉะนั้นประชาธิปไตยก็จะหมดความหมายในทางเป็นจริงไปในที่สุด
เกษียร เตชะพีระ
เฉพาะหนึ่งปีที่ผ่านมา รถยนต์ที่ขายในประเทศร่ำรวย อาทิ ญี่ปุ่นและอเมริกา กลับมียอดแซงหน้าในประเทศตลาดเกิดใหม่ จีนไม่ใช่ประเทศที่มีอัตรายอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้นสูงสุดอีกต่อไป หากกลับเป็นไทย (ที่ ๖๐%!) และอินโดนีเซีย (ที่ ๓๕%) ในรอบปีที่ผ่านมา
เกษียร เตชะพีระ
ก้องกังวานสะท้านฟ้ามหาสมุทร ด้วยคลั่งแค้นแสนสุดประกาศกล้า เป็นแสนเสียงล้านเสียงมหาประชา สยบขวัญสั่นอุราเผด็จการ...
เกษียร เตชะพีระ
"ประชานิยม" "คนชั้นกลางนิยม" "คนรวยนิยม" "อำมาตย์นิยม" "ประชาธิปัตย์นิยม" "ม.๑๑๒ นิยม" "ราชบัณฑิตนิยม" "ยิ่งลักษณ์นิยม" "ทักษิณนิยม" "พันธมิตรนิยม" "นิติราษฎร์นิยม" "นิด้านิยม"