Skip to main content

 

คืองี้นะครับ ที่คุณ "มีหนึ่งใจให้เธอผู้เดียว" เสนอนั้น http://pantip.com/topic/33707045


ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่า:

1) อาจารย์สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ไปเรียนต่อออสเตรเลียไม่ใช่ด้วยทุนของรัฐบาลหรือทางราชการไทย หากด้วยทุนของทางมหาวิทยาลัยในออสเตรเลียเอง ซึ่งเราคงไปสั่งออสเตรเลียไม่ได้นะครับ เว้นแต่เรายกทัพไปยึดและควบคุมอำนาจการปกครองออสเตรเลียและนานาประเทศตะวันตกมาเป็นเมืองขึ้นของสยามก่อน

2) ส่วนอาจารย์วรเจตน์ ภาคีรัตน์นั้น ได้รับพระราชทุนมูลนิธิอานันทมหิดล แผนกธรรมศาสตร์ ให้ไปศึกษาวิชานิติศาสตร์ เน้นหนักทางด้านกฎหมายมหาชน ณ ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีในระดับชั้นปริญญาโทและปริญญาเอก ที่คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัย Goettingen ในประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี สำเร็จการศึกษานิติศาสตรมหาบัณฑิต (Magister Iuris) ด้วยคะแนนดีมาก (sehr gut) ซึ่งเป็นคะแนนสูงสุดตามหลักสูตร Magister Iuris ของมหาวิทยาลัย โดยเขียนวิทยานิพนธ์เรื่อง “หลักกฎหมาย clausula rebus sic stantibus ในสัญญาทางปกครอง” และสำเร็จการศึกษาชั้นปริญญาเอกทางกฎหมายเป็น “Doktor der Rechte” ได้รับคะแนนระดับ “summa cum laude” ซึ่งเป็นคะแนนสูงสุดสำหรับการศึกษาในระดับปริญญาเอกทางกฎหมายในประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี. โดยเขียนวิทยานิพนธ์เรื่อง “วิวัฒนาการทางทฤษฎีของสัญญาทางปกครองในระบบกฎหมายเยอรมัน” วิทยานิพนธ์เล่มนี้ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่โดยสำนักพิมพ์ Dunker & Humblot (Berlin)

การพิจารณาพระราชทานทุนมูลนิธิอานันทมหิดลมีคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกตามวัตถุประสงค์ที่ทรงพระราชทานทุนนั้น ในทำเนียบผู้ได้รับทุนมูลนิธิมหิดล แผนกธรรมศาสตร์เหมือนกันก็มีเช่น ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ (กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน), ดร. วิรไท สันติประภพ (ที่ปรึกษา สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย และเป็นคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือ ซุปเปอร์บอร์ด, ผู้สมัครผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยคนถัดไป) เป็นต้น

3) คนไทยที่ได้ทุนรัฐบาลไปเรียนต่อนอกด้านนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์มีหลายประเภทหลายแบบ ไม่ได้ออกมาพิมพ์เดียว อย่าง บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ก็ได้รับทุนรัฐบาลเช่นกัน ถ้าไปยกเลิกกันเสียหมด จะได้ใครเรียนจบมาเป็นประธานกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญหลังรัฐประหารล่ะ วัทธ่อ!

ยังไงก็ควรปันใจไว้ให้เนติบริกร-รัฐศาสตร์บริการบ้างนะจ๊ะ จุ๊บ ๆ

........

หมายเหตุ : สำหรับการชี้แจงนี้ ถูกเผยแพร่ครั้งแรกในเฟซบุ๊ก ‘Kasian Tejapira’ วันที่ 28 พ.ค.58 เวลา 15.00 น. เพื่อโต้กระทู้ ของผู้ใช้ชื่อ ‘มีหนึ่งใจให้เธอผู้เดียว’ ในเว็บพันทิปหัวข้อ ‘อยากให้ประเทศไทยยกเลิกการให้ทุนการศึกษาต่างประเทศสำหรับคณะนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ครับ’  ซึ่งโพสต์นั้นของ ‘มีหนึ่งใจให้เธอผู้เดียว’  เป็นการกล่าวหาว่านักวิชาการที่ได้รับทุนการศึกษาไปเรียนต่อต่างประเทศในสาขาวิชาดังกล่าวหลายคน เช่น สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และ วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ไม่ได้ใช้ความรู้ไปในทางสร้างสรรค์ กลับสร้างความขัดแย้งวุ่นวายให้บ้านเมือง และปลุกปั่นนักศึกษา โดยไม่สนใจบริบทเฉพาะของสังคมไทย พร้อมเสนอให้ยกเลิกการมอบทุนการศึกษาต่อต่างประเทศในทั้งสองสาขาวิชา แต่ควรมอบทุนให้นักศึกษาในสาขานิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ ได้ศึกษาต่อในประเทศแทน เพื่อจะได้เรียนรู้ถึงบริบทของสังคมไทย 

บล็อกของ เกษียร เตชะพีระ

เกษียร เตชะพีระ
"ในฐานะผู้เคยทำการปฏิวัติด้วยความรุนแรง ผมใคร่บอกว่าเราต้องหาทางเจือผสมการปฏิวัติด้วยความไม่รุนแรงให้มากที่สุด เพราะเหตุใดน่ะหรือ? ก็เพราะว่าบรรดาไพร่ทาสราษฎรสามัญชนโดยทั่วไปนั้นหาได้มีอาวุธสงครามในมือเหมือนกลไกรัฐภายใต้การบังคับควบคุมของชนชั้นปกครองไม่.."    
เกษียร เตชะพีระ
กระบวนการเศรษฐกิจทุนนิยมโลกาภิวัตน์ดังที่เป็นอยู่ จึงก่อผลสำคัญด้านความเหลื่อมล้ำทางโภคทรัพย์ที่เป็นอุปสรรคต่อประชาธิปไตย ไม่ใช่อุดหนุนเกื้อกูล, พลังประชาธิปไตยบนฐานอำนาจเสียงข้างมากของคนที่ขาดด้อยโภคทรัพย์ต้องหาทางคะคานถ่วงดุลอำนาจทุนมหาศาลของคนมั่งมีโภคทรัพย์เสียงข้างน้อยไว้ มิฉะนั้นประชาธิปไตยก็จะหมดความหมายในทางเป็นจริงไปในที่สุด
เกษียร เตชะพีระ
เฉพาะหนึ่งปีที่ผ่านมา รถยนต์ที่ขายในประเทศร่ำรวย อาทิ ญี่ปุ่นและอเมริกา กลับมียอดแซงหน้าในประเทศตลาดเกิดใหม่ จีนไม่ใช่ประเทศที่มีอัตรายอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้นสูงสุดอีกต่อไป หากกลับเป็นไทย (ที่ ๖๐%!) และอินโดนีเซีย (ที่ ๓๕%) ในรอบปีที่ผ่านมา
เกษียร เตชะพีระ
ก้องกังวานสะท้านฟ้ามหาสมุทร ด้วยคลั่งแค้นแสนสุดประกาศกล้า เป็นแสนเสียงล้านเสียงมหาประชา สยบขวัญสั่นอุราเผด็จการ...
เกษียร เตชะพีระ
"ประชานิยม" "คนชั้นกลางนิยม" "คนรวยนิยม" "อำมาตย์นิยม" "ประชาธิปัตย์นิยม" "ม.๑๑๒ นิยม" "ราชบัณฑิตนิยม" "ยิ่งลักษณ์นิยม" "ทักษิณนิยม" "พันธมิตรนิยม" "นิติราษฎร์นิยม" "นิด้านิยม"