ผมได้ฟังแล้วงง มันมี "เสื้อแดงแท้ ๆ" กับ "เสื้อแดงไม่แท้" ด้วยเหรอ ?
แล้วคน "เสื้อแดงแท้ ๆ" ในความหมายของนักวิชาการรายนี้หมายถึงใคร
หากนายปริญญา เห็นว่า "คนเสื้อแดงแท้ๆ" คือคนที่สู้เพื่อทักษิณ ถูกทักษิณใช้เป็นเครื่องมือ ส่วนคนที่สู้เพื่อประชาธิปไตยไม่ใช่คนเสื้อแดงแท้ นายปริญญาก็ควรจะโดดลงแม่น้ำเจ้าพระยาฆ่าตัวตายหน้ามหาวิทยาลัย เพราะจนถึงป่านนี้นายปริญญาและนักวิชาการอีกหลายคนยังไม่เข้าใจการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนแม้แต่น้อย
นายปริญญา ก็เหมือนกับสื่อกระแสหลักที่ยังคงเห็นว่าการต่อสู้ของคนเสื้อแดงเป็นไปเพื่อช่วยเหลือทักษิณ ทั้งที่การต่อสู้ได้ถูกยกระดับขึ้นไปไกลกว่านั้นมากแล้ว ผมเคยเขียนไปครั้งหนึ่งแล้วว่าแม้แต่คนที่ไม่ชอบอดีตนายกฯ ทักษิณ อย่างเช่น อ.ใจ อึ๊งภากรณ์ หรือ จรัล ดิษฐาอภิชัยก็เป็นส่วนหนึ่งของคนเสื้อแดงหรือแม้กระทั่งกลุ่มชาวนาซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 6 เมษา ที่ผ่านมา และจัดตั้งองค์กรเคลื่อนไหวมานานแล้วก็เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเสื้อแดงเช่นเดียวกัน โดยไม่เกี่ยวอะไรกับทักษิณ
เป้าหมายของคนเสื้อแดงไปไกลกว่าเรื่องทักษิณมากแล้ว แต่นักวิชาการอย่างนายปริญญายังคงยึดแนววิเคราะห์อย่างเดิม แนววิเคราะห์เดิม ๆ ที่สะท้อนนัยของการดูหมิ่น ดูแคลนชาวบ้านต่างจังหวัดที่เป็นพวก "เสื้อแดงแท้ ๆ" ถูกทักษิณ ใช้เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของทักษิณเอง
การวิเคราะห์ในแนวนี้ มองชาวบ้านอย่างไม่บริสุทธิ์ใจ เห็นว่าการเคลื่อนไหวของชาวบ้านที่เป็นพวก "เสื้อแดงแท้ ๆ" นั้นมีเป้าหมายแคบ ๆ ง่าย ๆ ไม่มีอุดมการณ์ ยอมทำทุกอย่างเพื่อคน ๆ เดียว
อยากแนะนำนักวิชาการแบบนายปริญญา ว่าอย่ามัวแต่ออกรายการโทรทัศน์มากนัก ลองเดินไปที่ทำเนียบและนั่งคุยกับคนเสื้อแดงดูสัก 5 คน จะได้รู้ข้อเท็จจริงและความปรารถนาของผู้เข้าร่วมชุมนุมเป็นอย่างไร
แน่นอนที่มีคนเสื้อแดงจำนวนไม่น้อยรักทักษิณ แต่ทำไมจะรักทักษิณและรักประชาธิปไตยพร้อมกันไม่ได้ ?
นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการอีกราย เคยเขียนว่า "ไม่ผิดอะไรที่จะรักทักษิณ แต่รักทักษิณและรักประชาธิปไตยพร้อมกันไม่ได้เพราะสองอย่างนี้ขัดแย้งกันเอง"http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01act01020352§ionid=0130&day=2009-03-02 (วันที่ 02 มีนาคม พ.ศ. 2552)
นี่ก็เป็นการเข้าใจผิดอย่างร้ายแรงของนิธิ สะท้อนให้เห็นว่านิธิไม่ได้เข้าใจชาวบ้านเลยจริงแม้ว่าเขาจะพร่ำบ่นและเขียนคอลัมน์เรื่องชาวบ้านมาเป็นทศวรรษแล้วก็ตาม
หากนิธิ เลิกหมกมุ่นกับสิ่งที่หมกมุ่นอยู่ แล้วลองเดินเข้าไปในที่ชุมนุมของคนเสื้อแดงและถามว่าชาวบ้านสัก 5 คน ว่ารักทักษิณไหม ? รักประชาธิปไตยไหม ?
เชื่อว่าส่วนใหญ่แล้วจะตอบว่ารักทักษิณและรักประชาธิปไตย ในทัศนะของชาวบ้าน การรักทักษิณและรักประชาธิปไตยไปพร้อม ๆ กันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ แล้วเราจะกล่าวหาว่าชาวบ้านเหล่านี้โง่มั้ย ?
ผมอยากจะบอกว่าทักษิณนี่แหละเป็นสัญลักษณ์ของนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ก็แล้วเราจะหาใครเป็นตัวแทนการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบตัวแทนได้ดีไปกว่าทักษิณเล่า ? อภิสิทธิ์เหรอ? พลเอกเปรม เหรอ ? ฉะนั้นการรักทักษิณและรักประชาธิปไตยจึงเป็นสิ่งที่โคตรจะเข้ากันเลย
กลับมาที่เรื่องคนเสื้อแดง ผมเคยเขียนไปแล้วว่าคนเสื้อแดงมีหลายเฉด ทั้งแดงอ่อน แดงเข้ม แต่ทุกคนล้วนเป็นคนเสื้อแดงที่รักประชาธิปไตย ในเมื่อประชาธิปไตยในความคาดหวังคือระบอบที่อำนวยความยุติธรรมให้เกิดแก่ทุกคนอย่างเท่าเทียมก็แล้วทำไมจะไม่รักล่ะ?
การพยายามแยก "แดงแท้" กับ "แดงไม่แท้" ของนายปริญญา หนึ่งในนักวิชาการที่เห็นด้วยกับมาตรา 7 คือการพยายามบั่นทอนความชอบธรรมของขบวนการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง เป็นการลดทอนน้ำหนักความน่าเชื่อถือของคนเสื้อแดงลง และเป็นการแยกเรื่องของทักษิณในฐานะเรื่องส่วนออกจากประชาธิปไตยของส่วนรวม
คำถามบั่นทอนที่คนเสื้อแดงพบเจออยู่เสมอคือคนเสื้อแดงกำลังต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยหรือเพื่อทักษิณ ?
ถ้าถามด้วยความบริสุทธิ์ใจ คำถามประเภทนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจผิดอะไรอยู่มาก และไร้เดียงสาอย่างยิ่ง
ผมอยากจะบอกให้ทราบว่าทักษิณต่างหากที่กำลังต่อสู้เพื่อคนเสื้อแดง ทักษิณต่างหากที่ถูกคนเสื้อแดงใช้เป็นเครื่องมือ เครื่องมือในการทะลุทะลวงฝ่ายอำมาตย์ เครื่องมือในการตอบโต้กับอำนาจนอกระบบอย่างคู่คี่สูสี ถ้าไม่มีทักษิณ การต่อสู้ของคนเสื้อแดงจะก้าวหน้าถึงขนาดซัดองคมตรีอย่างไม่เกรงกลัวได้อย่างไรถ้าไม่มีทักษิณเป็นหอกนำ
นักวิชาการที่ดัดจริตและสื่อมวลชนกระแสหลักที่นิยมชมชอบศักดินา ไม่มีทางประเมินการชุมนุมของคนเสื้อแดงได้อย่างเป็นจริงเลย หากยังหมกมุ่นกับการวิเคราะห์ว่าเสื้อแดงเป็นเครื่องมือของทักษิณ เพราะว่าถึงที่สุดแล้วไม่มีใครสู้เพื่อคนอื่น ทุกคนต่างสู้เพื่อตัวเองทั้งนั้น คนเสื้อแดงก็เช่นเดียวกัน.