อยากให้มีรัฐประหาร

5 February, 2010 - 23:14 -- maythas

 

เมื่อความขัดแย้งระหว่างฝักฝ่ายต่าง ๆ เขม็งเกลียวแน่นใกล้ถึงจุดวิกฤติ ข่าวเกี่ยวกับการทำรัฐประหารก็ลอยมาจากทางโน้นทางนี้เป็นระยะ น่าเชื่อบ้าง ไม่น่าเชื่อบ้าง ราวกับว่ารัฐประหารเป็นทางออกเดียวในการจัดการปัญหา
\<\/--break--\>
บางคนหวาดวิตกขนาดหนักเพราะตระหนักดีว่ารัฐประหารไม่ได้นำอะไรมาเลยนอกจากทำให้ทุกอย่างแย่ลง เศรษฐกิจตกต่ำกันเห็น ๆ (แม้แต่เด็กนั่งดริ๊งค์ยังรู้ว่ารัฐประหารทำให้รายได้ตนเองลดน้อยลง) รสชาติของเสรีภาพหายไป หลักการสูงสุดที่เคยบูชาเป็นสิ่งว่างเปล่า บรรยากาศแห่งความเท็จตามมา ฯลฯ

ทว่าบางคนกลับรู้สึกเฉย ๆ ด้วยเห็นว่ารัฐประหารไม่กระทบอะไรกับชีวิตตนหรือกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เผลอ ๆ มีข้อดีเสียอีกคือทำให้มีวันหยุดเพิ่มขึ้น ได้เห็นทหารออกมาจากกรมกอง ได้ถ่ายรูปคู่รถถังไว้เป็นที่ระลึก ได้เปลี่ยนบรรยากาศ ฯลฯ

ใครจะยังไงก็แล้วแต่ ตัวผมเองนั้นต้องการให้เกิดรัฐประหาร เอาชนิดแรง ๆ ก็ดี ครั้งที่แล้วนั้นง่ายเกินไป

ผมไม่ใคร่แน่ใจตนเองมากนักว่าเพราะเหตุใดจึงเรียกร้องต้องการให้เกิดรัฐประหารจนแทบจะบนบานศาลกล่าวเลยทีเดียว คิดไปคิดมาผมมีคำตอบให้กับตนเองว่า

1.เพราะผมเป็นพวกฮาร์ดคอร์ ที่เห็นว่าบางสถานการณ์นั้นสันติวิธีนั้นเป็นอะไรที่ชักช้า เสียเวลาและไม่ได้ผล ความรุนแรงต่างหากที่สามารถสร้างแรงสะเทือนและนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงได้ ยิ่งเปลี่ยนแปลงใหญ่ ขนาดของความรุนแรงก็ต้องเพิ่มขึ้น และผมก็อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่

ดูเหมือนผมจะคิดว่าพวกอำมาตย์นั้นนิยมใช้ความรุนแรงในการกำราบประชาชนมาแต่ไหนแต่ไรและได้ผลมาโดยตลอด แต่เมื่อประชาชนมีโอกาสโต้กลับด้วยความรุนแรงดุจเดียวกันพวกอำมาตย์ซึ่งที่แท้แล้วก็ใจเสาะกลับขลาดกลัว การเกิดรัฐประหารถือเป็นโอกาสอันดีที่ฝักฝ่ายต่าง ๆ จะได้ใช้ความรุนแรงเข้าห้ำหั่นกันชนิดใครแรงใครอยู่ คนเสื้อแดงจะมีโอกาสสูงขึ้นในการเข้าไปสร้างความเปลี่ยนแปลง

2.เพราะอึดอัดกับสิ่งที่เป็นอยู่และคิดว่าคงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว บางทีผมรู้สึกอย่างนี้จริง ๆ ดูโทรทัศน์ช่องหอยม่วงแล้วรู้สึกอย่างนี้จริง ๆ เจือด้วยความรู้สึกโกรธนิด ๆ การโฆษณาชวนเชื่อในรูปแบบของ “สกู๊ป” โดยช่องหอยม่วงนั้นเป็นการมอมเมาแบบไร้สมอง ชวนให้น่าขยะแขยง ช่องหอยม่วงเอาเงินภาษีประชาชนซึ่งรวมทั้งคนเสื้อแดงไปใช้แต่กลับตอบแทนคนเสื้อแดงด้วยการใส่ร้ายเกินจริง

เมื่อหันมองไปที่รัฐบาลพบว่า เรามีประมุขฝ่ายบริหารที่ฉลาดในการเอาสีข้างเข้าถู, ทำงานวันต่อวันด้วยโวหารที่ว่างเปล่า, วางท่า ตีสีหน้าและใช้น้ำเสียงราวกับกำลังเล่นละครในบทพระเอก,เอาใจใส่กับการสร้างภาพประชาสัมพันธ์, ตั้งหน้าตั้งตาตอบโต้ฝ่ายตรงข้าม, ปล่อยให้ปัญหาสำคัญที่รัฐบาลต้องทำผ่านเลยไปตามกาลเวลาโดยคิดว่าประชาชนคงจะลืมไปเอง, แสดงความเป็นศัตรูกับประชาชน(เสื้อแดง) อย่างเปิดเผย

แม้เมื่อเกิดรัฐประหารขึ้นแล้ว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ผมก็ยังคิดว่าคงไม่ได้แย่ไปกว่าที่แย่อยู่แล้ว อย่างน้อยที่สุดรัฐประหารจะตอกย้ำให้เห็นถึงความไร้น้ำยา และวุฒิภาวะการเป็นผู้นำของนายก ฯ ผู้นี้ อย่างน้อยที่สุดประวัติศาสตร์ก็พูดได้เต็มปากเต็มคำว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเป็นนายก ฯ รัฐประหาร

3.เพราะผมคิดว่า “ผู้ใดทำรัฐประหารผู้นั้นทำลายตัวเอง” พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ที่คนเสื้อแดงเชื่อว่าบงการให้เกิดรัฐประหาร 19 กันยา 49 นั้นเป็นตัวอย่างอันดี ชื่อเสียงบารมีที่สั่งสมมาตลอดชีวิตแทบไม่เหลือ ได้รับการเหยียดหยามดูแคลนจากคนทั่วไป เรื่องส่วนตัวอย่างรสนิยมทางเพศถูกขุดคุ้ยขึ้นมาโจมตี กลายเป็นตัวโกงที่ทำลายประชาธิปไตย แง่หนึ่งเราอาจจะมองได้ว่ารัฐประหาร 19 กันยา 49 ประสบผลสำเร็จในการผลักทักษิณให้ตกจากเก้าอี้ แต่อีกแง่หนึ่งพลเอกเปรม ติณสูลานนท์มีราคาที่ต้องจ่ายมากมายอย่างคาดไม่ถึง

หากมีการทำรัฐประหารอีกครั้งเชื่อเถอะว่าเป็นการซ้ำเติมหายนะให้กับส่วนรวม อาจมีคนสมประโยชน์บ้างถ้ารัฐประหารสำเร็จ แต่โดยรวมแล้วประเทศชาติเสียหาย คนส่วนใหญ่เสียหาย ดังนั้นหากรัฐประหารเกิดขึ้นจริงจะมีคนออกมาต่อต้านกันมากขึ้น จะไหลรวมมาสู่คนเสื้อแดงมากขึ้น ผู้ที่ทำและผู้อยู่เบื้องหลังรัฐประหารจะถูกประณามและได้รับเคราะห์กรรมกลับไป

"การทำรัฐประหารสะท้อนให้เห็นความมักง่ายของพวกอำมาตย์ ประชาชนจะได้รู้เช่นเห็นชาติว่าที่แท้แล้วพวกอำมาตย์เกลียดกลัวประชาธิปไตย เกลียดกลัวการเติบโตของขบวนการภาคประชาชน

4.ถูกทุกคำตอบ ทั้งสามข้อนั้นมีเป็นไปได้ทั้งหมด คือผมเป็นพวกฮาร์ดคอร์ที่เห็นว่าความรุนแรงเป็นเรื่องจำเป็นในการจัดการกับพวกอำมาตย์ ไม่มีความสุขกับสภาพการเมืองที่เป็นอยู่ภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งผมเห็นว่าเป็นศัตรูร้ายแรงต่อระบอบประชาธิปไตย ทั้งผมต้องการให้พวกอำมาตย์สำลักอำนาจและทำลายตัวเอง ดังนั้น ขอให้พวกอำมาตย์โปรดทำรัฐประหารเสียทีเถอะ.

ความเห็น

Submitted by น้ำลัด on

2475 เหมือนว่าจะเปลี่ยน...สุดท้ายว่างเปล่า
2516 ดูเหมือนมีจะความหวัง...ขับไล่ตัวแทนแห่งอำนาจได้
2519 อำนาจหวนกลับสู่ต้นตอ...มีนอมินีครองอำนาจอีกครั้ง
2535 นอมินีสองฝ่ายไม่ลงรอย...ประชาชนถูกใช้เป็นเบี้ยเดินหมาก
2549 ผลพวงจากรัฐธรรมนูญ 2540 นั้นอันตรายต่ออำนาจเร้น...เราฉีกทิ้งแล้วเขียนใหม่

วันนี้เราจะรักษาอำนาจเร้นอย่างสุดชีวิต
มันเป็นการเดิมพันอนาคตแห่งอำนาจเร้น

เอ๊ะ! คุณน้ำลัด คุณจะรักษาอำนาจเร้นเรอะ แล้วคุณเห็นหรือเปล่าว่ามันอยู่ที่ไหน?

ร้องขอไปเถิด
อ้อนวอนขอความกรุณา(รัฐประหาร)ไปเถิด
ทหารนักกอล์ฟที่ไหนจะทำ
ต่อให้เสื้อแดงออกมาชุมนุมสักสิบล้าน ชุมนุมแล้วกลับบ้าน
ออกมารับฝนรับแดดแล้วกลับบ้านครบแปดปี ก็หามีอะไรในกอไผ่
ยิ่งออกมาฟัดกันเองนัวเนียนุงนังเอ็งไม่เอาข้าแต่ข้าจะเอาเอ็ง ยังงี้
ทหารนักกอล์ฟนั่งหัวร่อฟันปลอมหลุด

อยากให้ทำรัฐประหาร.....ไม่ยาก
เพียงเปลี่ยนเป้าจากอำมาตย์(ลอยๆ)มาเป็นขันทีเฒ่าเจ้าเสน่ห์เพียงผู้เดียว
จุดชุมนุมที่เดียวจุดเดิมเมื่อกรกฎาคม๒๕๕๐
ไม่เกินเจ็ดวัน
สมเจตนารมณ์แน่นอน???

Submitted by น้ำลัด on

ผมเพียงเปรียบเทียบว่า "ถ้า" เราเป็นเจ้าของอำนาจเร้น
เราก็คงต้องรักษามันไว้สุดชีวิตเช่นกัน...ของๆใครของใครก็ห่วง

ผมไม่รู้หรอกว่า "อำนาจเร้น" มันอยู่ที่ไหน
ถ้ารู้...มันก็ไม่ใช่อำนาจเร้นละสิ
ถึงใครเขาจะรู้ก็คงต้องบอกว่าไม่รู้
ยังไงยังไงมันก็อันตรายเกินกว่าที่จะรู้

Submitted by คนโบราณ on

คนเราเรียกร้องประชาธิปไตยกันเหลือเกินอยากถามหน่อยว่าคำว่าประชาธิปไตยที่แท้จริงจะมีคนซักกี่คนที่จะเข้าใจความหมายของคำๆนี้ที่เห็นออกมาเรียกร้องกันอยู่ตอนนี้ส่วนมากก็เป็นพวกนักการเมืองที่สูญเสียผลประโยชน์กันทั้งนั้นโดยเอาประชาชนผู้บริสุทธิ์มาเป็นข้ออ้างในการเรียกร้องพวกที่รักประชาธิปทั้งหลายเคยไปดูแถวต่างจังหวัดบ้างหรือเปล่าเวลามีการเลือกตั้งแต่ละครั้งเขามีการซื้อเสียงกันยังไงเดี๋ยวนี้วัฒนธรรมเงินไม่มากาไม่เป็นระบาดไปทั่วประเทศแล้วตอนนี้พวกคนมีเงินและผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นทั้งนั้นถึงจะมีสิทธิ์ได้เป็นส.ส.คนดีมีความรู้หากไม่มีเงินก็ไม่มีสิทธิ์ได้เป็นส.ส.หรอกเลือกตั้งแต่ละครั้งก็จะได้แต่พวกส.ส.หน้าเดิมๆเข้าสภาถ้าหากประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหลายยังไม่เปลี่ยนแนวความคิดในการเลือก.ส.ส.ประชาธิปไตยบ้านเราก็คงไม่พัฒนาไปกว่านี้หรอก

Submitted by ป. on

จดหมายเปิดผนึกถึง

1.นปช.และผองเพื่อน
ทำอะไรสักอย่างหรือหลายอย่าง
ปิดบ้างเปิดบ้างได้ไหม หรือต้องเปิดเผยทั้งหมดให้รู้กันไปทั้งโลก

เฉพาะเสธ.แดง
อยากพูด 10 พูดจริงสัก 5-6 ดีกว่าหรือไม่
แต่น่าจะดีกว่าอยากพูด 10 พูดจริงล่อเข้าไป 20
กรุณารักษาความลับให้เหมือนกับรักษาของลับนะท่าน

2.องคมนตรีบางราย
การเรียกหาคนดีศรีแผ่นดิน เรียกหาธรรมาธิปไตย
ดูจะเป็นเรื่องดีอยู่
แต่จะให้ดียิ่งขึ้น
ถ้าผู้เรียกหาจะปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีอย่างแท้จริงเสียก่อน
คิดว่าเป็นการทดแทนบุญคุณแผ่นดินก็แล้วกัน
ที่แล้วมาคิดว่าเป็นทาน

Submitted by น้ำลัด on

จะมีรัฐประหารอีกหรือไม่...ผมว่ามันไม่สำคัญะไรนักหนาหรอก

แต่อยากเตือนว่า "อำนาจเร้น" นั้นร้ายกาจเกินเข้าใจ
สิ่งผิดอาจกลายเป็นสิ่งถูกได้โดยมีปวงชนสนับสนุน
สิ่งต้องห้ามอาจกลับกลายเป็นความชอบธรรมในการกระทำ

2519 เคยมีความชอบธรรมในการปราบปรามผู้หลงผิด
(ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่า "หลงผิด" ทั้งหลายย่อมรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น)

2553 ความชอบธรรมในการปราบปรามกำลังจะเริ่มต้นขึ้น
ปฏิบัติการ "ลับ-ลวง-พราง" กำลังเกิดขึ้นโดยมีบุคคลแอบแฝง

ผู้เรียกร้องความเป็นธรรมในสังคม
ผู้เรียกร้อง "อำนาจเร้น" ให้ผ่อนคลายอำนาจลง
พวกเขาเหล่านั้นกำลังจะกลายเป็น "ผู้หลงผิด" เหมือนในอดีต 2519
พวกเขาจะเป็นภัยต่อความมั่นคง พวกเขาจะกลายเป็นกบฏต่อแผ่นดิน
และพวกเขาจะกลายเป็นกบฏต่ออำนาจและสิทธิของตนเองที่เขาพึงจะมี

อำนาจและสิทธิของตนเองที่เขาพึงจะมีนั้นมันตกไปอยู่กับผู้ใด ?

Submitted by คนโบราณ on

สิ่งใดที่ทำแล้วฝ่ายตนได้ประโยชน์ก็บอกว่ายุติธรรมแต่หากสิ่งใดที่ทำแล้วฝ่ายตนเสียผลประโยชน์ก็บอกว่าไม่ยุติธรรมแล้วตกลงนี่คำว่ายุติธรรมเขาเอาอะไรมาเป็นเครื่องชี้วัดกันครับท่านส่วนพวกที่บอกว่าสองมาตรฐานก็เหมือนกันลองย้อนกลับไปดูซิครับว่ามีรัฐบาลชุดไหนบ้างที่ไม่สองมาตรฐานรัฐบาลทักษิณก็โดนเสื้อเหลืองบอกว่าสองมาตรฐานแต่พอรัฐบาลอภิสิทธิ์ก็โดนเสื้อแดงออกมาบอกว่าสองมาตรฐานอีกจงทำใจเถอะครับไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาลเขาก็ต้องรักษาผลประโยชน์ให้กับฝ่ายตัวเองทั้งนั้นแหละผู้ชนะเป็นเจ้าผู้แพ้เป็นโจรเคยได้ยินหรือเปล่า

Submitted by Basenji on

การเมืองไทยในสภาพที่เป็นจริงนั้นมันยังไม่มีทางเลือกที่สามให้เดิน
นักการเมืองไทยยังไงยังไงมันก็ต้องได้กลุ่มเดิมวันยังค่ำ
เพียงแต่ว่าเราจะเลือกฝ่ายไหนมาตีกรอบ สร้างเล้าสร้างคอกควบคุมนักการเมืองเหล่านี้ได้

สองฝ่ายที่มีให้เลือกนั้น ความสวยงามของเนื้อผ้าไม่ต่างกันนักหรอก
ความดีความชั่วมันก็ต่างกันไม่มากหรอก อาจจะต่างกันบ้างในสไตล์และีลีลา
แต่มีสิ่งหนึ่งที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน คือ"อำนาจแฝง"ที่อยู่เบื้องหลัง
ฝ่ายหนึ่งมีวาระเวลาของอำนาจ อีกฝ่ายหนึ่งจะไม่มีวาระ มันเป็น "อำนาจแฝง" แบบอมตะนิรันด์กาล

ในเมื่อเรายังไม่มีทางเลือกที่สาม การไปผลักฝ่ายหนึ่งออกไป
มันก็กลายเป็นการเชิญอีกฝ่ายหนึ่งที่จ้องตั้งท่าอยู่แล้วให้เข้ามา
มันเป็นการเตะหมูเข้าปากหมา...ก็เท่านั้น
เจ้าของหมาเขาก็แฮปปี้อยู่ดีมีสุขเหมือนเดิม
มองหมาของตัวเองเคี้ยวหมูไปเรื่อยๆ เคี้ยวกินให้อิ่ม

ในเมื่อเราเสือกโง่เอง...ตกเป็นผู้ช่วยเขาโดยไม่รู้ตัว
วันนี้เราถูกหมากัด...แล้วเราจะไปร้องให้ใครช่วย
จะไปร้องขอหาพระแสงของ้าวอะไร ?
ในเมื่อเจ้าของหมาเขาพอใจที่จะให้หมาเขาทำเช่นนั้นอยู่แล้ว

ไดอารี่เล่มแดง : ยุบสภาคือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ง่ายที่สุด

มหาชนสีแดงยื่นบันไดแห่งการยุบสภาให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปีนลงมาอย่างง่าย ๆ ชนิดที่บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น แต่ไม่เป็นผลอะไร ด้วยโมหะจริต นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ ดึงดันจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปแม้ว่าจะต้องทำอะไรที่เสียเกียรติความเป็นผู้นำไปมากก็ตาม

คลื่นสีแดง


การเคลื่อนพลของคนเสื้อแดงทั้งแผ่นดินน่าตื่นตาตื่นใจและอลังการสมการรอคอย แม้ว่าการมาทางเรือจะผิดจากความคาดหวังอยู่มากก็ตาม ผมยืนรอชมขบวนเรือของคนเสื้อแดงบนสะพานกรุงธนนานกว่า 3 ชั่วโมงพร้อมกับแดงคนอื่น ๆ เต็มสะพาน โบกไม้โบกมือ ไชโยโห่ร้องกับคนเสื้อแดงที่ขับรถผ่านไปมา

เราจะอยู่ในสังคมนี้ได้อย่างไร

แม้ผลการตัดสินคดียึดทรัพย์เป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้อยู่แล้ว แต่คนเสื้อแดงหลายคนยังรู้สึกเจ็บปวด บางคนถึงขั้นหลั่งน้ำตาทั้งที่เงินนั้นไม่ใช่เงินของตนเอง พวกอำมาตย์ พรรคประชาธิปัตย์และคนเสื้อเหลืองไม่มีทางเข้าใจได้เลยว่าที่คนเสื้อแดงหลั่งน้ำตานั้นไม่ใช่เพราะเสียดายเงินของอดีตนายก ฯ ทักษิณ  ชินวัตร ที่ถูกยึดไปอย่างไม่เป็นธรรม แต่เป็นเพราะรู้สึกเจ็บปวดที่ตนเองทำอะไรไม่ได้เมื่อเห็นความอยุติธรรมบังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาครั้งแล้วครั้งเล่า

ปฏิวัติไพร่

24 February, 2010 - 00:00 -- maythas

ไม่ว่าผลการตัดสินคดียึดทรัพย์ (ปล้นทรัพย์อย่างถูกกฎหมาย) ที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ของอดีตนายก ฯ ทักษิณ ชินวัตร จะออกมาเป็นอย่างไร การลุกฮือของคนเสื้อแดงก็ยังคงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้


เสื้อแดงจำนวนไม่น้อยอาจไม่ได้ยี่หระเลยกับทรัพย์สินของอดีตนายก ฯ ทักษิณ ชินวัตรเพราะนั่นเป็นราคาที่อดีตนายก ฯ ต้องจ่ายสำหรับการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย หลายคนจะได้เรียนรู้ว่าประชาธิปไตยนั้นถ้าไม่จ่ายด้วยเลือดและชีวิตก็ต้องจ่ายด้วยทรัพย์สินแสนแพง

อยากให้มีรัฐประหาร

5 February, 2010 - 23:14 -- maythas

 

เมื่อความขัดแย้งระหว่างฝักฝ่ายต่าง ๆ เขม็งเกลียวแน่นใกล้ถึงจุดวิกฤติ ข่าวเกี่ยวกับการทำรัฐประหารก็ลอยมาจากทางโน้นทางนี้เป็นระยะ น่าเชื่อบ้าง ไม่น่าเชื่อบ้าง ราวกับว่ารัฐประหารเป็นทางออกเดียวในการจัดการปัญหา