Skip to main content

นานมาแล้ว ที่ผมไม่เคยเจ็บป่วยขนาดต้องไปโรงพยาบาลหรือหาหมอ อย่างมากก็แค่ซื้อยาแก้เจ็บคอมากิน แต่ครั้งนี้เจ็บคอหลายวัน บวกกับอาการมึนหัว เบื่ออาหาร เพลีย และปวดเมื่อยเนื้อตัวอย่างหนักขนาดทาถูสบู่ตามตัวยังรู้สึกปวดไปถึงกระดูก เวลานอนต้องนอนตะแคงอย่างเดียวจะนอนหงายหรือคว่ำไม่ได้เพราะปวดเมื่อย(ขนาดนั้น) ผมจึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลแม้จะยังสงสัยอยู่ว่าคิดถูกหรือผิดกันแน่


น่าตกใจพอสมควรที่คนป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่เต็มล้นโรงพยาบาล (แต่แทบไม่มีคนที่อยู่วัยเดียวกับผม) ผมคิดในใจว่าถ้าตนเองเป็นเพียงโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ก็คงจะมารับเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่โรงพยาบาลนี่แหละ โรงพยาบาลได้กลายเป็นแหล่งแพร่รับส่งเชื้อโรคไปแล้ว ผมถามเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่าไม่กลัวติดโรคกันบ้างหรือ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งบอกว่าพวกเขาฉีดวัคซีนป้องกันแล้ว

\\/--break--\>
แม้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจะทำงานกันอย่างแข็งขัน แต่ขั้นตอนต่าง ๆ และจำนวนผู้ป่วยมากมายมหาศาลทำให้ต้องรอคอยเป็นเวลานาน (เพียงเพื่อจะได้พบหมอสัก 5 นาที) หลายคนดูอ่อนระโหยแรงแรง เด็กบางคนนั่งพิงผนังจนหลับไป ใบหน้าของเด็กบางคนแสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวดทรมานที่ได้รับ พ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กก็ดูทุกข์ใจไม่แพ้กัน ภาพในโรงพยาบาลไม่มีอะไรชวนให้สุขใจเลย


ผมรอแล้ว รอเล่า และคิดว่าคงรอกันอีกนาน จึงฆ่าเวลาด้วยการโทรศัพท์คุยกับคนนั้น คนนี้ คุยไปคุยมาก็อดไม่ได้ที่จะระบายให้คนที่อยู่ปลายสายโทรศัพท์ฟังเกี่ยวกับการรับมือกับโรคระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009 ของรัฐบาล

 

รัฐบาลล้มเหลวโดยสิ้นเชิงในการจัดการกับไข้หวัดใหญ่ 2009 ดูเหมือนว่ารัฐบาลไม่ได้ลงมือทำอะไรที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพหรือความเอาจริงเอาจังในการแก้ปัญหาแม้แต่น้อย ต้องรอให้ปัญหาเกิดเสียก่อนแล้วค่อยหาทางคิดแก้ไขไปตามยถากรรม รัฐบาลไม่กล้าตัดสินใจทำอะไรเพราะคงกลัวกระทบกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

 

สิ่งที่รัฐบาลทำมากที่สุดคือการกลบข่าวเรื่องไข้หวัด 2009 เบี่ยงประเด็นไปเรื่องนั้นเรื่องนี้ ไล่ตั้งแต่หมีแพนด้า น้องนก ล่าสุดคือคดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล


รัฐบาลหมกมุ่นอยู่กับสโลแกน ประเภท กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ แต่การให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่ 2009 แทบไม่มีเลย


สิ่งที่ผมอยากรู้ก็คือการดูแลรักษาตนเองเมื่อป่วย ต้องการรู้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่ เช่น เมื่อเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 เข้าสู่ร่างกายแล้ว ใช้เวลานานกี่วันจึงจะแสดงอาการ? คนที่เคยเป็นแล้วจะมีภูมิต้านทานมากน้อยแค่ไหน? ยาที่ใช้รักษาไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลกับไข้หวัดใหญ่ 2009 คือยาตัวเดียวกัน? ทำไมรัฐบาลไม่รณรงค์ให้คนฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่? ฯลฯ


ผมต้องค้นคว้าหาข้อมูลเหล่านี้ด้วยตนเองโดยสอบถามเอาจากผู้รู้และจากอินเตอร์เนตซึ่งอาจไม่ถูกต้องชัดเจน


นอกจากนี้แล้ว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ตำแหน่งนายกฯ จากการวิ่งราวก็พูดไม่รู้เรื่องมากยิ่งขึ้นทุกวัน บางครั้งฟังเหมือนกำปั้นทุบดิน ทำหน้าซึม ๆ หล่อ ๆ ออกโทรทัศน์ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุที่ไม่ให้ประกาศยุติกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด? นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า


"สมมุติว่าเราคิดว่าหยุดทุกสิ่งทุกอย่าง และประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม มีบางประเทศประเมินว่าใน 1 สัปดาห์ที่หยุดกิจกรรม อาจเสียหายเป็นแสนล้านบาท แต่หลังจากนั้นก็กลับมาแพร่ระบาดอีก เช่นหยุดโรงเรียน พอเปิดก็กลับมาอีก เพราะไม่มีใครมีภูมิคุ้มกัน จึงต้องหาความพอดี ดังนั้นที่เราดูคือ อัตราการเสียชีวิต และดูว่ากำลังของโรงพยาบาลต่างๆ รับได้หรือไม่ ถ้ามีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นก็ต้องมีมาตรการเพิ่มขึ้นเพื่อถ่วงดุล" (มติชน, 16 ก.ค.52)

http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01p0103160752§ionid=0101&selday=2009-07-16

 

แม้แต่การใช้คำพูดให้เป็นเหตุเป็นผล นายกฯ คนนี้ก็ทำไม่ได้ คำพูดที่ผมขีดเส้นใต้ไว้แสดงให้เห็นถึงการพูดโดยไม่คิด พูดแบบกำปั้นทุบดิน ไร้วุฒิภาวะ พูดย้ำถึงข้อเท็จจริงโง่ๆ "เพราะไม่มีใครมีภูมิคุ้มกัน"

 

แน่นอนที่การปิดโรงเรียนไม่ได้ทำให้ไข้หวัดใหญ่หายไปจากประเทศไทย เช่นเดียวกับการปิดร้านเกมหรือโรงเรียนกวดวิชา แต่การปิดโรงเรียนเป็นการชะลอการแพร่กระจายของเชื้อโรค ยอดของผู้ป่วยย่อมน้อยลงกว่าการไม่ทำอะไรแน่ ๆ

 

ยิ่งนานวัน ความล้มเหลวไม่ได้เรื่องของรัฐบาลที่มาจากการปล้นชิงเขามา ยิ่งปรากฏชัด แม้แต่คนที่เคยวิพากษ์วิจารณ์อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร อย่างหนัก มาวันนี้กลับยกย่องชมเชยในเรื่องการจัดการกับโรคซาร์หรือไข้หวัดนกที่เคยระบาดมาก่อน

 

เรากำลังอยู่ในยุคมืดจริงๆ รัฐบาลทำงานไม่ได้เรื่อง กฎหมายไม่เป็นกฏหมาย สถาบันหลักๆ ทำอะไรโดยไม่คำนึงถึงหลักการ ฯลฯ ภายใต้ภาวะการณ์เช่นนี้ เป็นไปได้มากขึ้นที่ชีวิตจะสั้นลง.

 

 

บล็อกของ เมธัส บัวชุม

เมธัส บัวชุม
มหาชนสีแดงยื่นบันไดแห่งการยุบสภาให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปีนลงมาอย่างง่าย ๆ ชนิดที่บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น แต่ไม่เป็นผลอะไร ด้วยโมหะจริต นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ ดึงดันจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปแม้ว่าจะต้องทำอะไรที่เสียเกียรติความเป็นผู้นำไปมากก็ตาม
เมธัส บัวชุม
การเคลื่อนพลของคนเสื้อแดงทั้งแผ่นดินน่าตื่นตาตื่นใจและอลังการสมการรอคอย แม้ว่าการมาทางเรือจะผิดจากความคาดหวังอยู่มากก็ตาม ผมยืนรอชมขบวนเรือของคนเสื้อแดงบนสะพานกรุงธนนานกว่า 3 ชั่วโมงพร้อมกับแดงคนอื่น ๆ เต็มสะพาน โบกไม้โบกมือ ไชโยโห่ร้องกับคนเสื้อแดงที่ขับรถผ่านไปมา
เมธัส บัวชุม
แม้ผลการตัดสินคดียึดทรัพย์เป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้อยู่แล้ว แต่คนเสื้อแดงหลายคนยังรู้สึกเจ็บปวด บางคนถึงขั้นหลั่งน้ำตาทั้งที่เงินนั้นไม่ใช่เงินของตนเอง พวกอำมาตย์ พรรคประชาธิปัตย์และคนเสื้อเหลืองไม่มีทางเข้าใจได้เลยว่าที่คนเสื้อแดงหลั่งน้ำตานั้นไม่ใช่เพราะเสียดายเงินของอดีตนายก ฯ ทักษิณ  ชินวัตร ที่ถูกยึดไปอย่างไม่เป็นธรรม แต่เป็นเพราะรู้สึกเจ็บปวดที่ตนเองทำอะไรไม่ได้เมื่อเห็นความอยุติธรรมบังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาครั้งแล้วครั้งเล่า
เมธัส บัวชุม
ไม่ว่าผลการตัดสินคดียึดทรัพย์ (ปล้นทรัพย์อย่างถูกกฎหมาย) ที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ของอดีตนายก ฯ ทักษิณ ชินวัตร จะออกมาเป็นอย่างไร การลุกฮือของคนเสื้อแดงก็ยังคงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เสื้อแดงจำนวนไม่น้อยอาจไม่ได้ยี่หระเลยกับทรัพย์สินของอดีตนายก ฯ ทักษิณ ชินวัตรเพราะนั่นเป็นราคาที่อดีตนายก ฯ ต้องจ่ายสำหรับการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย หลายคนจะได้เรียนรู้ว่าประชาธิปไตยนั้นถ้าไม่จ่ายด้วยเลือดและชีวิตก็ต้องจ่ายด้วยทรัพย์สินแสนแพง
เมธัส บัวชุม
 เมื่อความขัดแย้งระหว่างฝักฝ่ายต่าง ๆ เขม็งเกลียวแน่นใกล้ถึงจุดวิกฤติ ข่าวเกี่ยวกับการทำรัฐประหารก็ลอยมาจากทางโน้นทางนี้เป็นระยะ น่าเชื่อบ้าง ไม่น่าเชื่อบ้าง ราวกับว่ารัฐประหารเป็นทางออกเดียวในการจัดการปัญหา
เมธัส บัวชุม
การเข้าครอบครองที่ดินบนเขายายเที่ยงอย่างผิดกฏหมายขององคมนตรีคุณธรรมสูงอย่างสุรยุทธ์ จุลานนท์ นั้นไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแม้แต่น้อย ไม่ใช่ข้อค้นพบที่น่าตื่นเต้น ไม่ใช่ความลับที่น้อยคนรู้ ชาวบ้านร้านตลาดในบริเวณนั้นต่างก็รู้กันเป็นอย่างดีว่าวิลล่าสวยงามบนเขายายเที่ยงนั้นเป็นของใคร
เมธัส บัวชุม
ผมค่อนข้างแปลกใจที่สังคมไทยยังไม่เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น ว่าที่จริงสงกรานต์เลือดเมื่อปีกลายที่ผ่านมา เป็นโอกาสเหมาะไม่น้อยสำหรับการเกิดสงครามกลางเมืองซึ่งอาจจะจบลงด้วยการทำลายพลังประชาชนรากหญ้าและคนชั้นกลางฝ่ายก้าวหน้าลงอย่างย่อยยับ จนยากที่จะฟื้นกลับคืนมาใหม่ หรืออาจเป็นไปในทางกลับกันก็ได้หากประชาชนได้รับชัยชนะคือระบอบประชาธิปไตยจะขยับไปข้างหน้าอย่างก้าวกระโดด อำนาจของอำมาตย์จะถูกจำกัดวง พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด?
เมธัส บัวชุม
-1- ฉันมีวิธีเผชิญหน้ากับอาการนอนไม่หลับด้วยการนอนลืมตาอยู่ในความมืด พยายามไม่คิดอะไร แต่ดวงความคิดของฉันก็ไหลลอยไปสู่เรื่องนั้นเรื่องนี้ หวนรำลึกไปถึงสถานที่และผู้คนที่ฉันเคยพานพบประหนึ่งว่าฉันเพิ่งจากผู้คนและสถานที่เหล่านั้นมา
เมธัส บัวชุม
เรื่องราวในชีวิตของคนเราสามารถนำมาเขียนแต่งเป็นนิยายได้ทั้งนั้น โดยการใส่พล็อตหรือท้องเรื่องเข้าไป ตีความให้ดูน่าสนใจ แล้วเสาะหา(สร้าง)ข้อมูลเพื่อยัดลงไปในพล็อตที่วางไว้โดยอาจหยิบเพียงบางช่วงบางตอนของชีวิตก็ได้
เมธัส บัวชุม
คงไม่เป็นเรื่องน่าประหลาดใจแต่ประการใดที่เราได้เห็นปัญญาชนสยาม ปัญญาชนสาธารณะอย่างสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ไปออกโทรทัศน์ของทาง ASTV “รายการรู้ทันประเทศไทย” ที่มีเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นักวิชาการผู้หากินกับวาทกรรม “ชาวบ้าน” มายาวนาน งนี้เพราะหลายคนซึ้งแน่แก่ใจแล้วว่าบั้นปลายชีวิตของสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ผู้หลงตนนั้นโน้มเอียงไปทางเผด็จการ หรือไปทางศักดินามากเสียยิ่งกว่าจะยืนข้างชาวบ้านอย่างที่เขาพร่ำพูดถึงเสมอ
เมธัส บัวชุม
หากผมบอกว่าชาตินิยมเป็นแนวคิดที่ใช้ไม่ได้แล้ว บางคนคงโต้แย้ง ผมจึงต้องเปลี่ยนคำพูดเสียใหม่ให้กว้าง ๆ ว่า ชาตินิยมเป็นแนวคิดที่ไม่เพียงพอสำหรับการทำความเข้าใจความเป็นไปของสังคมการเมืองในโลกปัจจุบัน ไม่เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าความหมายและรู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลง
เมธัส บัวชุม
รถไฟไทยเป็นอย่างที่เป็นอยู่มานาน โดยแทบไม่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรเลยตั้งแต่เริ่มสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ทั้งนี้เพราะความเสื่อมโทรมของรถไฟให้ประโยชน์แก่คนหลายกลุ่ม รวมทั้งสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย ดังนั้นแนวคิดใด ๆ ก็ตามที่จะทำให้รถไฟเปลี่ยนไปจึงถูกต่อต้านแม้จะมีผลการวิเคราะห์วิจัยรองรับอยู่จำนวนมาก