Skip to main content

-1-


ฉันมีวิธีเผชิญหน้ากับอาการนอนไม่หลับด้วยการนอนลืมตาอยู่ในความมืด พยายามไม่คิดอะไร แต่ดวงความคิดของฉันก็ไหลลอยไปสู่เรื่องนั้นเรื่องนี้ หวนรำลึกไปถึงสถานที่และผู้คนที่ฉันเคยพานพบประหนึ่งว่าฉันเพิ่งจากผู้คนและสถานที่เหล่านั้นมา


ภาพต่าง ๆ ไหลเลื่อนเข้ามาแล้ววนเวียนอยู่ภายในหัวกะโหลก การฆ่าตัวตายของเพื่อนที่ฉันคบหาด้วยวนเวียนเข้า ๆ ออก ๆ ในหัวสมองหลายต่อหลายครั้ง


ฉันแหงนหน้ามองดูนาฬิกา พรายน้ำเรื่อเรืองอยู่ในยามราตรี เป็นเวลาตีสอง เมื่อแน่ใจว่าไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้ ไม่ว่าจะใช้วิธีการใด ๆ ฉันจึงลุกเดินออกไประเบียงหลังห้อง มองลงไปเบื้องล่าง รู้สึกได้ว่ามีแรงจูงใจลึกลับบางอย่างที่เชื้อเชิญให้กระโดดลงไป


หากเป็นในป่าหรือท้องทุ่งชนบท คราที่นอนไม่หลับ ฉันจะใช้วิธีนอนนับดาว จ้องมองดูดวงดาวกะพริบ แสงกะพริบพรายแห่งดวงดาวนั้นแม้นว่ามาจากที่ไกลแต่ส่งความอบอุ่นและอ่อนโยนผ่านมาถึงได้ ฉันสามารถรู้สึกได้ด้วยผิวหนังของฉันเลยทีเดียว


เมื่อไหร่ก็ตามที่ท้องฟ้ายังเกลื่อนไปด้วยดวงดาวซึ่งนำฉันเข้าสู่ห้วงนิทรารมย์ โลกนี้ก็นับได้ว่ายังน่าอยู่”


-2-


แต่ที่โรงแรมคืนละร้อยกว่าบาทในต่างจังหวัดซึ่งฉันไม่คุ้นเคยนั้น การนอนไม่หลับทำให้ฉันต้องมาเผชิญหน้ากับความแปลกที่แปลกถิ่น แม้ว่าฉันได้ระหกระเหินไปตามที่ต่าง ๆ อยู่เนือง ๆ ทว่าก็มีอยู่บ่อย ๆ ที่ความแปลกที่ แปลกทางทำให้นอนไม่หลับ


บรรยากาศและสภาพเก่าโทรมภายในห้องพักราคาถูกพาให้หดหู่ใจ แมลงสาบตัวโตนอนหงายท้อง ขายังสั่นกระตุกอยู่ในซอกมุมอับ ม่านสีชมพูขาดที่ขึงกั้นไว้ตรงหน้าต่างเป็นรอยกระดำกระด่างเพราะความเก่า สีทาฝาผนังกะเทาะออกเห็นเป็นรอยสกปรก สภาพทั้งหมดนี้ยิ่งแย่ลงไปอีกเมื่ออยู่ภายใต้แสงนีออนสีขาวหม่น สิ่งแวดล้อมเช่นนี้เปรียบได้เหมือนกับอยู่ในงานศพ


ฉันมายังโรงแรมนี้ได้ตามคำบอกของคนขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างเมื่อฉันถามหาโรงแรมที่ราคาถูก เขาแนะทางให้ฉันอย่างกระตือรือร้น แต่ก็แนะนำต่อไปว่าฉันน่าจะพักโรงแรมที่ราคาแพงกว่านี้อีกสักหน่อยเพราะอะไร ๆ มันดีกว่ากันมาก เขาบอกว่าอย่าไปพักเลยโรงแรมถูก ๆ อย่างนั้นมันไม่ดี แต่เขาไม่บอกสาเหตุว่าทำไม เขาไม่บอกออกมาตรง ๆ ว่าโรงแรมที่ฉันไปพักนั้นมีนั้นเคยมีคนตายหลายคน ฉันมารู้เรื่องนี้ตอนที่ได้คุยกับแม่ค้าขายขนมคนหนึ่ง

ฉันแหงนมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ผนังห้องอีกครั้ง เป็นเวลาตีสอง เวลาตีสองไม่ดึกเลยหากว่าอยู่ในวงจรชีวิตของมหานครกรุงเทพ ฉันลุกขึ้นแต่งตัวตั้งใจจะออกเดินเที่ยวเตร่ คงจะมีสถานที่บางแห่งหรอกนะในยามนี้ ที่ฉันสามารถหาเพื่อนนั่งคุยหรือนั่งกินเหล้าได้ หรืออย่างน้อยที่สุดก็คงมีแสงไฟจากร้านรวงหรือตลาดโต้รุ่งที่ฉันพอจะใช้ขับไล่ความเปล่าเปลี่ยวออกไปได้บ้าง


-3-


คืนที่ผ่านมาฉันนอนค้างในวัดอันแสนสงบแห่งหนึ่ง ฉันบอกว่าต้องการกางเต็นท์นอนตรงไหนก็ได้แต่พระท่านบอกให้ฉันเข้ามาไปนอนในอุโบสถ แรกทีเดียวท่านอาจคลางแคลงใจฉันอยู่บ้างเพราะน้อยนักที่จู่ ๆ คนแปลกหน้าจะเข้ามาขอนอนในวัด แต่เมื่อได้คุยกันจนมั่นใจแล้วว่าฉันไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าคนผ่านทางเท่านั้น และพร้อมจะจากไปในวันรุ่งขึ้น พระท่านก็จัดแจงให้ฉันเข้าไปนอนในอุโบสถและเอากล้วยน้ำว้าหวีใหญ่มาให้กิน


เด็กวัดอายุประมาณแปดขวบหลายคนมาชวนฉันคุยขณะที่ฉันกำลังปูถุงนอนในอุโบสถ ฉันสบายใจที่ได้คุยกับเด็ก ๆ และเด็ก ๆ ก็ดูสนอกสนใจที่จะคุยกับคนแปลกหน้า


ความเหน็ดเหนื่อยทำให้ฉันหลับลงอย่างเป็นสุขโดยไม่ฝันถึงอะไรทั้งสิ้น การได้พักผ่อนในครั้งนี้ทำให้ฉันรู้ซึ้งถึงความการุณย์ของความหลับ


คลับคล้ายคลับคลาว่าฝันไปเมื่อได้ยินเสียงสวดมนต์กังวานก้องภายในพระอุโบสถ แต่แล้วสิ่งต่าง ๆ ก็ค่อยแจ่มชัดขึ้น ฉันลืมตาตื่นเพราะเสียงสวดประสานอันสดใสในวัตรปฏิบัติยามอรุณรุ่งของเหล่าสมณะ แสงเทียนวอมแวมอยู่ภายในอุโบสถ


เปลวเทียนส่ายไหวเมื่อสัมผัสกับกระแสเสียงสวดอันกลมกลืน ส่องต้องพระพักตร์อันสงบงามเปี่ยมเมตตาของพระพุทธรูปจนดูคล้ายกับว่าพระพุทธรูปนั้นมีชีวิต สำหรับคนบาปผู้ปรารถนาการไถ่ถอนแล้วการได้นิ่งมองและอยู่ใกล้พระปฏิมาช่วยให้สงบ และคลายความกังวลใจได้ไม่น้อย


กลิ่นธูปฉุน แสบจมูก ลอยอบอวลอยู่ในอากาศ มีลักษณะรุนแรงบางอย่างแฝงอยู่ในกลิ่นควันธูปนี้ กลิ่นแสบฉุนที่ผสานเข้ากับจีวรเหลืองของภิกษุซึ่งกำลังสวดมนต์ทำวัตรเช้าอย่างพร้อมเพรียงด้วยภาษาที่ถึงแม้ฉันจะคุ้นเคยแต่ก็ไม่อาจเข้าใจได้ รวมทั้งแสงสว่างจากเปลวเทียนซึ่งยักย้ายส่ายไหวอยู่ไปมา ทำให้ฉันถึงกับงุนงงราวโดนสะกด


ระหว่างที่ถูกจู่โจมด้วยบรรยากาศอันขรึมขลังโดยไม่ทันระวังตัว ภาพอดีตในความทรงจำก็ผุดพรายไหลซ้อนเข้ามาอย่างแจ่มชัด บางเหตุการณ์เกิดขึ้นมานานจนฉันได้ลืมเลือนมันไปแล้วแต่กลับมาปรากฏตรงหน้าฉันอีกครั้ง เป็นเหตุการณ์ของอดีตซึ่งดำรงอยู่ด้วยตัวของมันเอง

ฉันมองเห็นแม่ซึ่งท่านได้ละจากโลกสู่ดินแดนอันไกลโพ้นเมื่อหลายปีก่อน ฉันมองเห็นหลานที่เพิ่งจากไป...


-4-


ฉันเดินแบกเป้ไปตามทางลูกรังกลางป่า สูดกลิ่นหอมฟุ้งของไม้ป่าหลายชนิดที่ฉันไม่รู้จัก นาน ๆ ครั้งหรือบางทีอาจเป็นเดือนตามคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ที่ด่านชายแดนถึงจะมีรถยนต์ผ่านมาบนทางเส้นนี้ เขาบอกว่าฉันควรจะรออยู่ที่ด่านดีกว่า เพราะถ้ามืดค่ำยังไงก็จะได้นอนเสียที่ด่านนี้เลย


ขณะที่ฉันลังเลว่าจะเดินเท้าต่อไปหรือจะรอคอยอยู่ที่ด่านนั้น รถยนต์คันหนึ่งก็แล่นเข้ามา เขาบอกว่ามาจากมหานครกรุงเทพ ขับมาเรื่อย ๆ ตามแผนที่เพื่อต้องการผจญภัย ท่องเที่ยวและเผอิญผ่านเข้ามาในเส้นทางนี้

 


พวกเขามากันสองคน เป็นคู่รักที่กำลังหวานชื่นดื่มด่ำ ทั้งสองไม่รังเกียจที่จะให้ฉันร่วมทางไปด้วย นอกจากไม่รังเกียจแล้วยังแสดงท่าดีอกดีใจที่จะมีเพื่อนร่วมทางไปด้วยเพราะทั้งสองคนนั้นยังไม่เคยมาตามทางสายนี้มาก่อนเลย พวกเขาชี้ให้ฉันดูแผนที่ว่าทางสายนี้จะพาไปสู่ที่ใดแล้วจะไปแห่งไหนกันต่อ


ทางแคบ ๆ และขรุขระเลียบไปตามไหล่เขา มีโค้งงอหักศอกอย่างน่าหวาดเสียวหลายต่อหลายจุดด้วยกัน


จากกระบะท้ายรถฉันสามารถทอดสายตามองออกไปได้กว้างไกล แลเห็นทัศนียภาพของหุบเขาเบื้องล่าง ซึ่งเรียงรายด้วยนาข้าวแบบขั้นบันไดสีเหลืองสุกปลั่งกระจัดกระจายอยู่ตามไหล่เนิน มีกระท่อมตั้งอยู่อย่างเจียมตนหว่างแปลงนาข้าวสีเหลืองนั้น


อากาศในยามเย็นช่างสดชื่นเป็นสุข จนฉันอดไม่ได้ที่สูดเข้าไปแรง ๆ แสงสีทองทาบทาหมู่บ้านชาวเขา ควันไฟลอยออกมาจากหลังคา ฉันรู้สึกหิวทันทีที่เห็นควันไฟลอยมาจากเรือนของชาวเขา


เมื่อฉันแลไปเห็นหมู่บ้านที่กระจุกตัวอยู่ในหุบเนินนั้น ฉันก็เกิดความต้องการที่จะแวะพักพูดคุยกับผู้คนบ้างสักคืน...


ฟ้ามืดค่ำลงในตอนที่ฉันยังนั่งอยู่ท้ายรถกระบะ น่าเสียดายที่ไม่อาจมองเห็นภูมิทัศน์สองข้างทางได้อีก อากาศเย็นลงเรื่อย ๆ แต่ก็ยังสดชื่น บางช่วง ฝุ่นที่คละคลุ้งจากการทำถนน แม้จะมองไม่เห็นแต่ก็ทำให้รู้สึกคอแห้ง


รถแล่นไปจนกระทั่งเข้าสู่ตัวเมืองและฉันก็ขอลง หาโรงแรมที่พัก


-5-


ฉันออกจากห้องพักในโรงแรม ฉันเดินเรื่อยเปื่อยไปตามทางยาวของถนนลาดยางในเมืองเล็ก ๆ อันเงียบเชียบยามค่ำคืนแห่งเดือนธันวาคม บรรยากาศที่มีลักษณะเฉพาะถิ่นทำให้ร่างกายฉันตื่นตัว


ความคิดฟุ้งซ่านที่กระจัดกระจายอยู่ในหัวกะโหลกหายไปสิ้น และเหลือไว้แต่สมองที่ว่างเปล่าเมื่อฉันเริ่มสาวเท้าออกเดิน


ฉันเดินไปตามถนนที่เกือบจะร้างไร้รถราและผู้คน อากาศกลางดึกของเดือนธันวาคมในทางเหนือนั้นเย็นเยือก

เช่นเดียวกับแมลงหลาย ๆ ชนิด ฉันพาตัวเองเข้าหาแสงไฟที่เห็นอยู่ลิบ ๆ …

 

 

 

บล็อกของ เมธัส บัวชุม

เมธัส บัวชุม
-1-พรรคประชาธิปัตย์หาเสียงเพื่อการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง โดยชูคำขวัญที่ฟังดูดัดจริตและกินไม่ได้ว่า “ประชาชนต้องมาก่อน”ผมได้ยินหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปล่งคำนี้ออกมาแล้วก็ให้นึกสงสัยว่าจะมีใครซักกี่คนในโลกนี้เชื่อในสิ่งที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ พูดออกมาพรรคประชาธิปัตย์ฉวยโอกาส เอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น ๆ ตามสไตล์ถนัดด้วยการโฆษณาหาเสียงก่อนใครเพื่อน  ในขณะที่พรรคคู่แข่งอย่างพรรคพลังประชาชนนั้นต้องเจอกับอำนาจชั่วที่คอยการสกัดกั้นทุกรูปแบบ-2-ต้องรอดูกันต่อไปว่า พรรคพลังประชาชนจะฝ่าต้านแรงสกัดจากอำนาจชั่วได้มากน้อยแค่ไหน…
เมธัส บัวชุม
อันที่จริง ผมตั้งใจจะหยุดเขียนบทความการเมืองสักระยะด้วยรู้สึกระอากับความวิปริตทางปัญญาของสังคมไทย ผมยังรู้สึกหลอนไม่หายกับการยึดอำนาจของทหารท่ามกลางความดีอกดีใจของพวก “ทาสที่ปล่อยไม่ไป” และพวกที่กลุ้มรุมทึ้งแย่งผลประโยชน์ “แห่งชาติ” ที่ไม่ได้ “เหลือแต่กระดูก” หลังการจากไปของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตรกลุ่มคนเหล่านี้ที่เข้ามายึดกุมอำนาจหลังรัฐประหาร ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยกับการสร้างประชาธิปไตยหรือปฏิรูปการเมือง  รัฐบาลเถื่อนของนายกรัฐมนตรีสุรยุทธ์ จุลานนท์ กับ คมช. คตส. กกต. ที่ผ่านมาได้ทำอะไรบ้างที่เป็นสร้างเสริมประชาธิปไตย หรือปฏิรูปการเมืองไปสู่ครรลองประชาธิปไตยนอกจากสมคบคิดกันกวาดล้างกลุ่ม…
เมธัส บัวชุม
นิตยสาร “ราหูอมจันทร์” เกิดขึ้นท่ามกลางความซบเซาทั้งทางด้านการเขียน การอ่านและการวิจารณ์ของแวดวงเรื่องสั้นไทย ราหูอมจันทร์ เป็นนิตยสารรายครึ่งปีหรือที่ทางผู้จัดทำเรียกว่ารายฤดูกาล เป็นการคัดสรรเรื่องสั้นที่มีผู้ส่งไปจากทั่วสารทิศเพื่อรวมพิมพ์เป็นเล่มบรรดาคอเรื่องสั้น ต่างวาดหวังว่าการมาถึงของราหูอมจันทร์อาจช่วยให้วงการคึกคักขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย   อย่างไรก็ตาม เมื่อได้อ่านแล้ว ต้องกล่าวตามตรงว่าราหูอมจันทร์ Vol. 3 “วันปลดปล่อยผีเสื้อ” นั้นมีระดับคุณภาพที่น่าผิดหวังไม่น้อย ทางผู้จัดทำนิตยสารนี้คือกองทุน “กนกพงศ์  สงสมพันธุ์” ก็ยอมรับว่า“ราหูอมจันทร์ Vol. 3…