Skip to main content

ปฏิวัติ 14 ตุลา 2516 ประชาชนรวมตัวกันเพื่อขับไล่รัฐบาลเผด็จการทหาร ดึงอำนาจจากมือของเหล่าขุนนางข้าราชการมาเป็นของประชาชน ซึ่งในขณะนั้นบรรดาขุนนางข้าราชการแห่งระบอบอมาตยาธิปไตยครอบครองเป็นใหญ่ในเวทีการเมืองของสภาผู้แทนราษฎรอยู่  

แต่ปัจจุบันกลับตาลปัตร เมื่อประชาชนร่วมแรงร่วมใจกับรัฐบาลประชาธิปไตยต่อสู้กับซากเดนแห่งระบอบอมาตยาธิปไตย ซึ่งกลายเป็นกลุ่มพลังนอกเวทีรัฐสภา เป็นกลุ่มเผด็จการนอกรัฐธรรมนูญที่ต้องการบ่อนเซาะทำลายความเข้มแข็งของระบอบรัฐสภา

การขยับตัวเคลื่อนไหวของ “ระบอบเก่า” เพื่อหวนกลับมามีบทบาทในเวทีการเมือง ทำให้ประชาชนเกิดกระแสตื่นตัวต่อต้าน เพื่อเป็นการปกป้องและต่อยอดเติมเต็มระบอบประชาธิปไตยที่คนรุ่นก่อนต่อสู้ให้ได้มา

อันที่จริง หลัง 2475 เป็นต้นมา พวกผู้ลากมากดีต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อรักษาตำแหน่งแห่งที่ของตัวเองเอาไว้อย่างที่เคยเป็นมา แต่ความจริงก็คือโลกเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ระบอบเก่าเป็นสิ่งพ้นสมัยและต้องพังพินาศลงในโลกสมัยใหม่

ที่ผมบอกว่าประชาชนร่วมแรงร่วมใจกับรัฐบาลประชาธิปไตย ต่อสู้กับซากเดนแห่งระบอบอมาตยาธิปไตยนั้น ผมหมายถึงประชาชนเสียงข้างมากของประเทศ ที่ใช้สิทธิ์ออกเสียงเลือกตัวแทนของตนเองเข้าไปนั่งในสภาผู้แทนราษฎรและไม่อยากให้ระบอบการเมืองที่ตนเองมีส่วนร่วมถูกทำลายลงจากคนบางกลุ่มที่อยู่เหนือ เคยอยู่เหนือ และอยากจะอยู่เหนือกฎเกณฑ์กติกา

ส่วนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อการรัฐประหารนั้น ผมไม่คิดว่าเป็นขบวนการภาคประชาชนแต่เป็นบริวารหรือข้าช่วงใช้ของระบอบอมาตยาธิปไตย เป็นเหมือนไพร่พลรองมือรองเท้าในสังกัดของขุนนาง

แต่เอาเถอะ คำว่าประชาชนใครจะนำไปใช้ทำอะไรก็ได้ นักการเมืองก็อ้าง พวกผู้ดีแปดสาแหรกก็อ้าง กลุ่มพันธมิตรฯ อยากจะนำไปอ้างเพื่อใช้ในการทำรัฐประหารอีกสักหนหรือทำการใด ๆ ก็คงจะไม่มีใครจะหวงห้ามได้

ความเป็นไปในโลกสมัยใหม่ก็คือ พลังประชาชนหรือขบวนการภาคประชาชนเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถเบียดขับกลุ่มอภิชนจากระบอบอมาตยาธิปไตยให้หลุดกระเด็นออกจากเวทีการเมืองในสภาฯ บรรดาขุนนางข้าราชการไม่มีสิทธิ์เข้ามาเล่นการเมืองหากไม่ถอดหัวโขนเสียก่อน บางรายแม้นถอดหัวโขนออกก็ไม่อาจแข่งขันกับนักการเมืองหรือนักบริหารมืออาชีพหรือผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นได้

อำนาจการเมืองในสภาผู้แทนราษฎร แม้จะไม่ทั้งหมดจึงได้เคลื่อนย้ายจากขุนนางข้าราชการมาสู่การมีส่วนร่วมและกำหนดความเป็นไปโดยประชาชน   พวกไพร่เลือดสีโคลนได้ลืมตาอ้าปากและพาตัวเองเข้าสู่สภา ฯ มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ทางการเมืองไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่มีแพ้ชนะแบบเด็ดขาด กลุ่มอภิชนเหล่านี้กลับไปซ่องสุมกำลังอำนาจปรากฏเป็นเงามืดทะมึนปกคลุมเหนือต้นไม้ประชาธิปไตย บดบังแสงสว่างกระทั่งกัดกร่อนชอนไชจนกิ่งก้านของประชาธิปไตยให้แคระแกร็น  

ถึงตอนนี้หลายคนคงตาสว่างแล้ว และตระหนักได้แล้วว่าระบอบอมาตยาธิปไตยนั้นเป็นตัวปัญหาและเป็นตัวปัญหาอยู่เสมอมาต่อพัฒนาการของประชาธิปไตย เช่น เสียบคั่นทางเดินประชาธิปไตยด้วยการรัฐประหารเป็นครั้งคราว และอาจจะเสียบคั่นไปเรื่อย ๆ ที่มีโอกาส อาจมีบางช่วงที่ระบอบอมาตยาธิปไตยอ่อนแอลง  แต่ด้วยเงื่อนปัจจัยบางประการ สามารถฟื้นคืนกำลังมาได้ทุกที แผ่อำนาจแฝงเร้นเข้ามาอย่างแยบคาย  เช่น  เข้าไปนั่งในองค์กรอิสระ ส่งคนเข้าไปในกระบวนการยุติธรรม  แทรกตัวเข้าไปในสื่อมวลชน ฯลฯ

การอุปถัมภ์ค้ำชูสังคมโดยระบอบอมาตยาธิปไตยอาจมีผลดีหลายประการ แต่มีข้อเสียที่กลืนไม่ลงมากมายมหาศาล ขัดกับหลักพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ที่ทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกัน อีกทั้งมีบางลักษณะที่เป็นเหมือนกาฝาก
ไม่ว่าจะพิจารณาจากแง่มุมใดหรือมีความพยายามมากแค่ไหน ระบอบอมาตยาธิปไตยที่เป็นสิ่งตกค้างหลงเหลือของประวัติศาสตร์ ก็ไปด้วยกันไม่ได้เลยกับระบอบประชาธิปไตยที่แปลว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน  บางทีเราสามารถปล่อยให้สิ่งหลงเหลือจากระบอบอมาตยาธิปไตยตายไปเองก็ได้ แต่มันอาจช้าเกินไปเพราะคงจะมีคนอีกจำนวนไม่น้อยพลอยฟ้าพลอยฝนได้รับความทุกข์ร้อน ยุ่งยากลำบากใจ เช่น คุณจักรภพ  เพ็ญแข นักต่อสู้ยุคใหม่ได้รับ

คุณจักรภพ  เพ็ญแขเป็นตัวอย่างที่น่าชื่นชมของคนที่ต่อสู้กับกลุ่มอมาตยาธิปไตยแบบไม่เกรงกลัว เพราะคุณจักรภพ เพ็ญแข รู้ชัดและมีจิตสำนึกที่ถูกต้องว่าระบอบอมาตยาธิปไตยนั้นเป็นปัญหาสาหัสเพียงใด

ดังนั้น สิ่งที่พวกเราต้องทำ เท่าที่เราพอจะทำกันได้ นั่นคือช่วยกันล้มและล้างระบอบอมาตยาธิปไตยที่อิงแอบกับคุณธรรม จริยธรรม ปลอม ๆ  ชอบเอาดีใส่ตัว แบ่งชนแบ่งชั้น สร้างภาพยัดเยียดให้นักการเมืองเป็นปีศาจ ให้หายไปอย่างเด็ดขาดจากสังคมการเมืองไทย.

                           

บล็อกของ เมธัส บัวชุม

เมธัส บัวชุม
มหาชนสีแดงยื่นบันไดแห่งการยุบสภาให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปีนลงมาอย่างง่าย ๆ ชนิดที่บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น แต่ไม่เป็นผลอะไร ด้วยโมหะจริต นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ ดึงดันจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปแม้ว่าจะต้องทำอะไรที่เสียเกียรติความเป็นผู้นำไปมากก็ตาม
เมธัส บัวชุม
การเคลื่อนพลของคนเสื้อแดงทั้งแผ่นดินน่าตื่นตาตื่นใจและอลังการสมการรอคอย แม้ว่าการมาทางเรือจะผิดจากความคาดหวังอยู่มากก็ตาม ผมยืนรอชมขบวนเรือของคนเสื้อแดงบนสะพานกรุงธนนานกว่า 3 ชั่วโมงพร้อมกับแดงคนอื่น ๆ เต็มสะพาน โบกไม้โบกมือ ไชโยโห่ร้องกับคนเสื้อแดงที่ขับรถผ่านไปมา
เมธัส บัวชุม
แม้ผลการตัดสินคดียึดทรัพย์เป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้อยู่แล้ว แต่คนเสื้อแดงหลายคนยังรู้สึกเจ็บปวด บางคนถึงขั้นหลั่งน้ำตาทั้งที่เงินนั้นไม่ใช่เงินของตนเอง พวกอำมาตย์ พรรคประชาธิปัตย์และคนเสื้อเหลืองไม่มีทางเข้าใจได้เลยว่าที่คนเสื้อแดงหลั่งน้ำตานั้นไม่ใช่เพราะเสียดายเงินของอดีตนายก ฯ ทักษิณ  ชินวัตร ที่ถูกยึดไปอย่างไม่เป็นธรรม แต่เป็นเพราะรู้สึกเจ็บปวดที่ตนเองทำอะไรไม่ได้เมื่อเห็นความอยุติธรรมบังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาครั้งแล้วครั้งเล่า
เมธัส บัวชุม
ไม่ว่าผลการตัดสินคดียึดทรัพย์ (ปล้นทรัพย์อย่างถูกกฎหมาย) ที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ของอดีตนายก ฯ ทักษิณ ชินวัตร จะออกมาเป็นอย่างไร การลุกฮือของคนเสื้อแดงก็ยังคงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เสื้อแดงจำนวนไม่น้อยอาจไม่ได้ยี่หระเลยกับทรัพย์สินของอดีตนายก ฯ ทักษิณ ชินวัตรเพราะนั่นเป็นราคาที่อดีตนายก ฯ ต้องจ่ายสำหรับการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย หลายคนจะได้เรียนรู้ว่าประชาธิปไตยนั้นถ้าไม่จ่ายด้วยเลือดและชีวิตก็ต้องจ่ายด้วยทรัพย์สินแสนแพง
เมธัส บัวชุม
 เมื่อความขัดแย้งระหว่างฝักฝ่ายต่าง ๆ เขม็งเกลียวแน่นใกล้ถึงจุดวิกฤติ ข่าวเกี่ยวกับการทำรัฐประหารก็ลอยมาจากทางโน้นทางนี้เป็นระยะ น่าเชื่อบ้าง ไม่น่าเชื่อบ้าง ราวกับว่ารัฐประหารเป็นทางออกเดียวในการจัดการปัญหา
เมธัส บัวชุม
การเข้าครอบครองที่ดินบนเขายายเที่ยงอย่างผิดกฏหมายขององคมนตรีคุณธรรมสูงอย่างสุรยุทธ์ จุลานนท์ นั้นไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแม้แต่น้อย ไม่ใช่ข้อค้นพบที่น่าตื่นเต้น ไม่ใช่ความลับที่น้อยคนรู้ ชาวบ้านร้านตลาดในบริเวณนั้นต่างก็รู้กันเป็นอย่างดีว่าวิลล่าสวยงามบนเขายายเที่ยงนั้นเป็นของใคร
เมธัส บัวชุม
ผมค่อนข้างแปลกใจที่สังคมไทยยังไม่เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น ว่าที่จริงสงกรานต์เลือดเมื่อปีกลายที่ผ่านมา เป็นโอกาสเหมาะไม่น้อยสำหรับการเกิดสงครามกลางเมืองซึ่งอาจจะจบลงด้วยการทำลายพลังประชาชนรากหญ้าและคนชั้นกลางฝ่ายก้าวหน้าลงอย่างย่อยยับ จนยากที่จะฟื้นกลับคืนมาใหม่ หรืออาจเป็นไปในทางกลับกันก็ได้หากประชาชนได้รับชัยชนะคือระบอบประชาธิปไตยจะขยับไปข้างหน้าอย่างก้าวกระโดด อำนาจของอำมาตย์จะถูกจำกัดวง พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด?
เมธัส บัวชุม
-1- ฉันมีวิธีเผชิญหน้ากับอาการนอนไม่หลับด้วยการนอนลืมตาอยู่ในความมืด พยายามไม่คิดอะไร แต่ดวงความคิดของฉันก็ไหลลอยไปสู่เรื่องนั้นเรื่องนี้ หวนรำลึกไปถึงสถานที่และผู้คนที่ฉันเคยพานพบประหนึ่งว่าฉันเพิ่งจากผู้คนและสถานที่เหล่านั้นมา
เมธัส บัวชุม
เรื่องราวในชีวิตของคนเราสามารถนำมาเขียนแต่งเป็นนิยายได้ทั้งนั้น โดยการใส่พล็อตหรือท้องเรื่องเข้าไป ตีความให้ดูน่าสนใจ แล้วเสาะหา(สร้าง)ข้อมูลเพื่อยัดลงไปในพล็อตที่วางไว้โดยอาจหยิบเพียงบางช่วงบางตอนของชีวิตก็ได้
เมธัส บัวชุม
คงไม่เป็นเรื่องน่าประหลาดใจแต่ประการใดที่เราได้เห็นปัญญาชนสยาม ปัญญาชนสาธารณะอย่างสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ไปออกโทรทัศน์ของทาง ASTV “รายการรู้ทันประเทศไทย” ที่มีเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นักวิชาการผู้หากินกับวาทกรรม “ชาวบ้าน” มายาวนาน งนี้เพราะหลายคนซึ้งแน่แก่ใจแล้วว่าบั้นปลายชีวิตของสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ผู้หลงตนนั้นโน้มเอียงไปทางเผด็จการ หรือไปทางศักดินามากเสียยิ่งกว่าจะยืนข้างชาวบ้านอย่างที่เขาพร่ำพูดถึงเสมอ
เมธัส บัวชุม
หากผมบอกว่าชาตินิยมเป็นแนวคิดที่ใช้ไม่ได้แล้ว บางคนคงโต้แย้ง ผมจึงต้องเปลี่ยนคำพูดเสียใหม่ให้กว้าง ๆ ว่า ชาตินิยมเป็นแนวคิดที่ไม่เพียงพอสำหรับการทำความเข้าใจความเป็นไปของสังคมการเมืองในโลกปัจจุบัน ไม่เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าความหมายและรู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลง
เมธัส บัวชุม
รถไฟไทยเป็นอย่างที่เป็นอยู่มานาน โดยแทบไม่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรเลยตั้งแต่เริ่มสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ทั้งนี้เพราะความเสื่อมโทรมของรถไฟให้ประโยชน์แก่คนหลายกลุ่ม รวมทั้งสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย ดังนั้นแนวคิดใด ๆ ก็ตามที่จะทำให้รถไฟเปลี่ยนไปจึงถูกต่อต้านแม้จะมีผลการวิเคราะห์วิจัยรองรับอยู่จำนวนมาก