Skip to main content

 

              ในวันที่ 15 ตุลาคม 1981 ที่โรงภาพยนตร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งในเมืองดีทรอยต์ ได้มีภาพยนตร์สยองขวัญทุนต่ำเรื่องหนึ่งออกฉายที่นั้น ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนั้นเป็นภาพยนตร์ที่กำกับและถ่ายทำโดยวัยรุ่นคึกคะนองกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้เรียนกระทั่งภาพยนตร์เลยแม้แต่นิดเดียว แต่พวกเขากลับทำหนังสั้นออกมาก่อนจะขยายเป็นภาพยนตร์ที่ว่าด้วยกลุ่มวัยรุ่นห้าคนที่ไปพักในบ้านเก่ากลางเขาก่อนที่พวกเขาจะเผลอไปปลุกวิญญาณร้ายให้คืนชีพขึ้นมาเข้าสิงร่างของพวกเขาทีล่ะคนจนเหลือเพียงชายหนุ่มคนสุดท้ายที่ยืนหยัดต่อสู้กับมันเพื่อเอาชีวิตรอด ได้ทำให้ผู้คนในโรงภาพยนตร์ต่างสะดุ้งโหยงด้วยความกลัวและน่าสยดสยองของมัน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของภาพยนตร์สยองขวัญทุนต่ำที่มีชื่อว่า The Book of the dead หรือในเวลาต่อมามันจะมีชื่อที่เป็นที่รู้จักในนามของ Evil dead หรือ ผีอมตะ นั่นเอง
 
โปสเตอร์ของผีอมตะตอนฉายเมืองไทย ที่มีความผิดพลาดเล็กตรงที่หนังเรื่องนี้ไม่ใช่บทประพันธ์ของ สตีเฟ่น คิงครับ แค่คิงชอบเรื่องนี้เฉย ๆ
 
โปสเตอร์ Evil dead ในสมัยที่เข้ามาฉายในประเทศไทย ซึ่งมีจุดผิดพลาดที่ทำให้หลายคนเข้าใจผิดคือ บอกว่าเป็นบทประพันธ์ สตีเฟ่น คิง ราชานิยายสยองขวัญทั้งที่ คิง แค่ชื่นชอบหนังเรื่องนี้จนมีบทวิจารณ์เท่านั้น (แต่พี่ไทยล่อกันแบบนี้เลย)
 
 
              และเป็นเวลากว่า 32 ปีแล้วที่ตำนานของผีอมตะยังคงมีชีวิตโลดแล่นอยู่ในโลกภาพยนตร์โดยที่ไม่ได้จางหายไปเลยแม้แต่น้อย ท่ามกลางความสงสัยของผู้คนที่สงสัยว่า เจ้าหนังเกรด Z เรื่องนี้มีดีอะไรถึงได้ไม่ได้หลงลืมไปแบบหนังเกรด Z เรื่องอื่น ๆ บนโลกนี้ที่สร้างมาและหายไป ซึ่งตรงคงต้องบอกว่า มันต้องขอบใจตัวหนังที่ไม่ว่าจะเปิดดูครั้งใดก็ยังคงสร้างความสยองขวัญให้แก่ผู้คนได้ตลอดเวลาจนถูกกล่าวขานไปตลอด สิ่งที่เราควรจะรู้ก็คือ หนังเรื่องนี้มาดังระเบิดระเบ้อเอาจริง ๆ ก็ต้องที่มันถูกส่งลงวีดีโอตามร้านเช่าต่าง ๆ ที่ปรากฏว่า มันเป็นหนังที่มียอดเช่าสูงที่สุดเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว และเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ควรจะรู้ก็คือ Evil dead คือหนังที่มียอดการโดนขโมยสูงที่สุดในร้านเช่าต่าง ๆ ในอเมริกา เช่นเดียวกับวีดีโอของหนังเรื่องนี้ในตลาดมืดมีราคาที่สูงมาก ๆ ทำให้มีก๊อบปี้เถื่อนออกมาเต็มไปหมดเลยทีเดียว
 
               สมัยที่ผมจำความได้นั้น ภาพยนตร์เรื่องแรกที่ผมดูก็คือ ภาพยนตร์เรื่องนี้นั่นเอง ซึ่งเป็นผลจากการที่บ้านมีร้านเช่าวีดีโออยู่ที่หน้าบ้านและพ่อของผมก็มักจะเช่ามันมาดูเสมอ และสิ่งที่จะต้องตกใจก็คือ นี่คือหนังที่บ้านผมเช่ามานั่งดูกันบ่อยที่สุดจนเจ้าของร้านยังแซวว่า ซื้อไปเก็บได้แล้ว
 
                พ่อกับแม่มักจะบอกกับผมเสมอว่า เวลาเปิดเรื่องนี้ผมจะหัวเราะร่าด้วยความดีใจ ในขณะที่คนอื่น ๆ เบื่อหน่ายเพราะดูซ้ำกันไม่รู้กี่รอบจนไม่รู้ว่า ตั้งแต่เด็กจนโตตัวผมชมหนังเรื่องนี้ไปแล้วกี่รอบกันแน่
 
                แต่ถ้ารวม ๆ ก็ไม่ต่ำกว่า 30 รอบแน่นอน
 
                ด้วยเหตุนี้ผมจึงปวารณาตัวเป็นสาวกของภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างเดนตายอย่างยิ่งท่ามกลางสายตาดูถูกเหยียดหยามของใครหลายคนที่เวลาถามถึงภาพยนตร์ที่ชอบที่สุดและส่งให้มาเรียนภาพยนตร์กลับเป็นหนังเกรดบีขยะกระจอก ๆ เรื่องนี้ที่หลายคนร้องยี้ใส่ซะงั้น ซึ่งเอาตามจริงแล้วสถานะของผีอมตะก็เริ่มต้นจากเป็นเพียงหนังผีขยะกระจอกก่อนจะสั่งสมบารมีจนมาถึงปัจจุบันได้อย่างไม่น่าเชื่อว่ามันจะไม่ตายสมชื่อของมันจริง ๆ
 
แถมมันพึ่งคืนชีพกลับมาอาละวาดอีกครั้งและกำลังมาถึงเมืองไทยในอีกไม่นานนี้
 
 
               จุดเริ่มต้นที่สำคัญของ Evil dead นั่นคือการนำเรื่องราวในหนังสั้นของแซม ไรมี่ที่มีชื่อว่า Within in the woods มายำใหม่อีกครั้งหลังจากเคยนำหนังสั้นเรื่องไปฉายและได้รับเสียงตอบรับที่ดีจนกลายเป็นความคิดจะสร้างหนังยาวขึ้นมาโดยนำหนังเรื่องนี้ไปเคาะประตูบ้านผู้มีอันจะกินทั้งหลายในเมืองและนำหนังเรื่องนี้ไปฉายให้ดูจนได้เงินมาทำหนังเป็นจำนวน 90,000 เหรียญก่อนที่งบจะไปจบที่ 375000 เหรียญเท่าที่มีการบันทึกเอาไว้ในภายหลังทำให้หนังเรื่องนี้เรียกได้ว่ามีทุนสร้างที่ต่ำเตี้ยดินอย่างเห็นได้ชัดแจ้ง แต่ที่หนักหนากว่านั้นก็คือ หนังมีการถ่ายทำที่ยาวนานอย่างยิ่งคือ เริ่มเปิดกล้องตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 1979 จนถึงเดือนพฤษภาคมปี 1980 ซึ่งมีการถ่ายซ้อมอีกหลายต่อหลายครั้งเลยทีเดียว รวมเวลาทั้งหมดก็ 3 ปีเลยทีเดียว
 
 
              เรื่องราวของผีอมตะนั่นเป็นเรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นห้าคนได้แก่ แอช (บรูซ แคมเบลล์) ลินดาแฟนของแอช (เบ็ตซี่ เบเกอร์) สก๊อต (ฮัล เอลริชหรือ ริช เดอมานิคอร์) เชลลี่แฟนของสก๊อต (เทรีซ่า ทิลลี่) และ เชอริล น้องสาวของแอช (เอลเลน แซนด์ไวส์) ที่ขับรถกันมาท่องเที่ยวกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ และที่ที่เขาตั้งใจจะมาก็คือ กระท่อมร้างแห่งหนึ่งในป่าลึกกลางหุบเขา ซึ่งเขาเช่ามาในราคาที่ถูกมาก ๆ
 
            แน่นอนว่า เราพึงสงสัยขึ้นมาว่า ใครกันนะที่เป็นเจ้าของกระท่อมร้างแห่งนี้กันแน่ เพราะในหนังก็พูดถึงเขาเพียงครั้งเดียวเท่านั้นแต่ไม่มีการบอกเล่าอะไรเลยอีกเลย
 
            จากนั้นสก๊อตได้ไปพบกับหนังสือประหลาดมีหน้าคล้ายคนเป็นหน้าปกและเทปบันทึกเสียงเข้าที่ใต้ดิน ด้วยความอยากรู้อยากเห็นไม่เข้าเรื่อง สก๊อตจึงเปิดเทปนั้นที่เป็นคาถาปลุกผีขึ้นและทำให้ผีร้ายออกอาละวาดเข้าสิงเพื่อน ๆ ในกลุ่มไปทีล่ะคนสองจนเหลือเพียงแอชเพียงคนเดียวที่ยืนหยัดต่อสู้กับพวกผีร้ายเหล่านี้ได้เป็นคนสุดท้ายด้วยซ้ำ
 
 
 
              สิ่งที่น่าสนใจก็คือ เรื่องราวของหนังที่ดูแล้วก็ไม่ต่างจากหนังสยองขวัญทั่วไปเท่าไหร่นัก เพราะมันพูดถึงวัยรุ่น ๆ โง่ ๆ ดวงซวยกลุ่มหนึ่งที่ไปปลดปล่อยผีร้ายออกมาทำให้ตัวเองต้องพบกับความตายที่น่าอนาถ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับหนังสยองขวัญยุคนั้นที่มีแต่วัยรุ่นโง่ ๆ เต็มหมด แต่ที่ทำให้ผีอมตะโดดเด่นก็คือ ความสุดทางของมันทั้งด้านความสยอง ความตื่นเต้นที่หนังได้ทำออกมา อาจารย์ประวิทย์ แต่งอักษรกล่าวไว้ว่า Evil Dead เป็นหนังที่คนดูมีปฏิกิริยากับเรื่องมากทั้งการส่งเสียงเชียร์ให้พระเอกกล้าไปสู้กับผีร้าย หรือกระทั่งส่งเสียงร้องเตือนให้ตัวเองระวัง ซึ่งเรียกได้ว่านี่อาจจะเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการทำให้คนดูมีอารมณ์ร่วมกับหนังได้เช่นนี้
 
              อีกอย่างที่หนังถูกกล่าวขวัญถึงก็ไม่พ้นฉากสยองขวัญต่าง ๆ ตั้งแต่ขวานสับ เลื่อยยนต์จนไปถึงกระทั่งฉากในตำนานอย่าง ต้นไม้ข่มขืนที่หลายคนบอกว่า เป็นสุดยอดฉากสยองขวัญที่หลายคนจดจำเลยทีเดียว
 
              แม้กระทั่งอาจารย์ประวิทย์ แต่งอักษรยังพูดถึงฉากนี้ว่า คนทำหนังต้องป่วยทางจิตอย่างแน่นอนที่สร้างฉากนี้ขึ้นมา ซึ่งไรมี่ก็เห็นด้วยว่า มันรุนแรงเกินไปและหากย้อนเวลาได้ เขาก็อยากจะกลับไปแก้ไขใหม่อีก (ซึ่งน่าตลกที่หนังในเวอร์ชั่นใหม่ก็มีฉากต้นไม้ข่มขืนด้วยเช่นกัน )
 
             นอกจากนั้นกว่าตัวหนังจะมีตัวตนก็ต้องผ่านอุปสรรคมาเยอะมากมาย ทั้งเงินทุนที่น้อยและมีจำกัด หรือกระทั่งเวลาการถ่ายที่ยืดยาวจนส่งผลให้นักแสดงบางส่วนไม่อาจจะมาถ่ายทำซีนที่เหลือได้เหลือเพียง ไรมี่ บรูซ อีวาน เทเพริ์ต ซัลลิแวน และ เท็ด ไรมี่ น้องชายของเขาที่มาถ่ายฉากนี้ ส่งผลให้เท็ด ไรมี่ต้องสวมบทเป็นแสตนอินตัวละครผีร้ายในเรื่องแทนนักแสดงที่ไม่มาในเรื่องนี้ นี่เองที่เป็นข้อสังเกตว่า หลายฉากของหนังนั้นตัวผีหน้าตาไม่เหมือนกับพวกสาว ๆ ในเรื่องเท่าไหร่นั กก็เพราะ คนแสดงคือ เท็ด ไรมี่นั่นเอง 
 
 
(Ted Raimi น้องชายของแซม ไรมี่ ในภาพเป็นตอนที่เขารับบทเป็น ปีศาจฮันริเอตต้า ใน Evil dead 2)
 
              ซึ่งหลังจากนี้ เท็ด ไรมี่จะโผล่ไปแสดงให้หนังเรื่องต่าง ๆ ของ แซม ไรมี่และบรูซ แคมเบลล์มากมาย และเป็นนักแสดงคนเดียวนอกจากบรูซที่ได้เล่น Evil dead ครบทั้ง 3 ภาค รวมงานสยองขวัญอย่าง Drag me to hell อีกด้วย เป็นนักแสดงที่คนมักจะเห็นหน้าของเขาบ่อย ๆ ในหนังของทั้งคู่ (และล่าสุดใน Oz the Great and Powerful) 
 
              แน่นอนว่าหลังจากหนังออกฉายมันได้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งด้วยทุนสร้างอันน้อยนิดแต่กลับทำเงินได้ถึง 2.4 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว แต่ก็ไปฮิตสนั่นในตลาดวีดีโอภายหลัง (และเป็นกระแสเริ่ม ๆ ของหนังประเภทไม่ดังตอนฉายโรง แต่ดันดังตอนลงวีดีโอซะงั้น) และมีภาคต่อตามมาถึงสองภาคเลยทีเดียวได้แก่ Evil dead 2 : Dead by Dawn และ Army of Darkness 
 
 
 
 
             และความสำเร็จของมันก็ทำให้มีผู้กำกับอีกจำนวนมากที่ต่างมองหนังเรื่องนี้เป็นครูในการระดมทุนหาเงินทำหนังของตัวเองกันหลายคน ซึ่งหลัก ๆ ก็ได้แก่ สองพี่น้องโคเฮนที่รับหน้าที่ตัดต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ให้และนำวิธีนี้ไปหาเงินทำหนังเรื่องแรกของเขาที่ชื่อ Blood Simple หรือผู้กำกับที่พาเราไปสัมผัสโลกของ The Lord of the ring อย่าง ปีเตอร์ แจ็คสันก็ใช้วิธีเดียวกันนี้หาเงินทำ Bad Taste หนังแรกก่อนที่เขาจะทำหนังที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Evil dead โดยตรงอย่าง Dead Alive ในภายหลัง
 
             หรือในเมืองไทยเองก็มีหนังอย่าง ทองสุก 13 ที่ทั้งผู้กำกับและคนเขียนบทได้บอกในบทสัมภาษณ์ว่า พวกเขาชื่นชอบ Evil dead มานานแล้วและอยากทำหนังแบบนี้บ้างส่งให้ผลเกิดหนังเรื่องนี้ออกมา
 
              และอย่าลืมว่า เมื่อปีที่แล้วเราก็มีหนังเรื่อง The Cabin in the wood ที่แทบจะเรียกว่า เป็นการคารวะหนังเรื่องนี้ออกมาอย่างชัดแจ้งตั้งแต่โปสเตอร์หนัง ตัวบ้านไปจนถึงใต้ดิน มือผีและองค์ประกอบอื่น ๆ ที่ทำให้แฟน ๆ หนังเรื่องนี้แทบจะบ้าคลั่งกันเลยทีเดียวที่หนังสยองขวัญในตำนานเรื่องนี้ถูกนำมาคารวะโชว์ให้เห็นกันแบบนี้
 
               แถมตัวละครที่ชื่อว่า แอช ยังเป็นต้นกำเนิดของคำว่า Final guy ที่ถูกสร้างขึ้นมาเคียงคู่กับคำว่า Final Girl หรือผู้หญิงที่รอดคนสุดท้ายที่เป็นสูตรของหนังสยองขวัญในยุคนั้นที่มักจบว่า ผู้หญิงเป็นผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายเสมอ (ซึ่งหนังสั้น Within the woods เองก็จบด้วยการให้เอลเลนรอดเป็นคนสุดท้าย) กลายเป็นผู้ชายรอดคนสุดท้ายแทน ซึ่งได้กลายเป็นอิทธิพลให้หนังเรื่องอื่น ๆ อีกในอนาคต  และบทบาทแอช ได้กลายเป็นภาพจดจำของบรูซ แคมเบลล์ไปอีกนานแสนนานเลยทีเดียว (จนถึงขั้นมีหนังสือการ์ตูนออกมาและส่งแอชไปตีกับเจสันจาก Friday Night 13 Th และเฟรดดี้ จาก Nightmare on the elm street เลยทีเดียว) 
 
 
Ash (Bruce Campbell) 
 
               นอกจากนี้ Evil dead ยังถูกนำไปดัดแปลงเป็นสื่ออื่นอีกมากมายหลังความสำเร็จในภาคที่ 2 ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงมีทั้งการ์ตูนที่จังคาแรคเตอร์ของแอชไปเผชิญหน้ากับผีในโลกภาพยนตร์สยองขวัญอื่น ๆ เกมที่ทำออกมาหลายภาคในระบบทั้ง PS1 และ PS2 และยิ่งไปกว่านั้นยังมีละครเวทีเพลงกันเลยทีเดียว ยิ่งเป็นการบอกถึงสถานะที่ไม่ธรรมดาของหนังสยองขวัญเกรดบีเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
 
 
การแสดงละครเวทีเรื่อง Evil dead The Musical
 
\
Comic เรื่อง Evil dead ของค่าย Darkhouse Comic
 
               และสิ่งที่ Evil dead ได้สะท้อนให้เราเห็นในหนังทั้งเรื่องก็คือ ความอัจฉริยะภาพและความมุมานะ ไม่ยอมแพ้ของคนทำหนังกลุ่มเล็ก ๆ ที่ได้สร้างสรรค์หนังสยองขวัญเรื่องหนึ่งเอาไว้เพียงเพราะ อยากจะทำหนังสักเรื่อง  แม้ว่าจะลำบากเพียงไร พวกเขาก็ไม่ยอมอพ้ เหมือนกับที่แอช ไม่ยอมแพ้ในการต่อสู้กับผีดิบที่ตายตายเย็นนั่นเอง
 
             บัดนี้ เวลาได้พิสูจน์แล้ว มันไม่ใช่เพียงหนังขยะกระจอก ๆ อย่างที่หลายคนตีความ
 
              เวลาที่ผ่านไป 32 ปีได้พิสูจน์ไว้แล้วว่า มันไม่มีวันตายจริง ๆ 
 
              
 
               ป.ล. ภาพยนตร์ฉบับรีเมคเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 5 พฤษภาคม 2556 นี้ครับ ซึ่งล่าสุดจากหนังทำเงินไปถึง 63 ล้านจากทุนสร้างเพียง 17 ล้านดอลลาร์เท่านั้นพร้อมกับบทวิจารณ์ที่ค่อนข้างดีมาก ๆ ในบรรดาหนังที่นำมารีเมคทั้งหลายส่งผลให้มีภาคต่อแน่นอนแล้ว และที่สำคัญตัว Sam Raimi เองก็กำลังเริ่มเขียนบท Army of Darkness 2 หรือ Evil dead 4 แล้วครับ
 
             ข้อมูลประกอบการเขียน หนังสือยากทำหนังแต่ฉันไม่มีตังค์ , บทวิจารณ์จากคอลัมน์ Replay ของอาจารย์ประวิทย์ แต่งอักษร , บทความ Evil dead ใน Filmax 
 

บล็อกของ Mister American

Mister American
ปี 2515 ณ หมู่บ้านห่างไกลผู้คนในจังหวัดกาญจนบุรี แย้ม เด็กสาวผู้เคยป่วยหนักจนเกือบตายได้มีอาการแปลก ๆ เกิดขึ้น เธอเริ่มพูดจาด้วยคำหยาบคายกับคนในครอบครัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เริ่มโกหกและยุแยงให้คนในบ้านแตกคอกัน รวมทั้งลุกขึ้นมาตอนกลางคืนเพื่อนกินของสดทำให้คนในครอบครัวโดยเฉพาะ หยาด เกิดความสงสัยขึ
Mister American
สัปเหร่อ : คนตายคือ ครู และ คนอยู่คือ นักเรียน           “ความตาย...มันฆ่าเฮาได้แค่ครั้งเดียว แต่ความฮัก มันฆ่าเฉาไปเรื่อยๆๆ จนกว่าเฮาสิตายพุ่นเด้”บักมืด 
Mister American
                ระหว่างที่เขียนต้นฉบับบทความนี้อยู่นั้น การโหวตประธานรัฐสภาและรองประธานสองคนการประชุมสภาวันแรกได้จบลงแล้ว และ ผลคือ คุณวันมูหะมัดนอร์ มะทา จากพรรคประชาชาติ ดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาคนใหม่ ร่วมกับ รองประธานสภาสองท่านจากพรรคก้าวไกล และ พรรคเพื่อ
Mister American
            คงไม่มีอนิเมชั่นเรื่องใดในซีซั่นนี้ที่เรียกว่า สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับบรรดาคนดูอนิเมชั่น และ คนดูหนังหลายคนได้เท่ากับ อนิเมชั่นซีรีย์เรื่อง Oshi no Ko หรือ ชื่อไทยว่า เกิดใหม่เป็นลูกโอชิ ผลงานดัดแปลงจากมังงะขายดีของ อากะ อาคาซากะ ที่ได้ฤกษ์ออกฉายไปเมื่อ
Mister American
                "พรมนิ้วลงไป หวังให้อัสนีกึกก้องด้วยละอองแสง                   กระหน่ำตีเข้าไปให้ถึงปลายทางของความเจ็บปวด
Mister American
                พอ Hellraiser ภาคใหม่จะลงฉายใน Hulu กันในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ (ซึ่งไทยจะได้ดูกันใน Disney Plus) นับว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งของพินเฮดและเหล่าซีโนไบร์ต หนึ่งในไอค่อนของโลกสยองขวัญที่โด่งดังไม่แพ้ เฟรดดี้ ครูเกอร์ แห่ง Nightmare of elm street , เ
Mister American
พึ่งจบกันไปหมาด ๆ สำหรับอนิเมชั่นเรื่องดังประจำซีซั่นนี้อย่าง Lycoris  Recoli จากค่าย A-1 Picture ที่นอกจากจะเป็นม้ามืดประจำซีซั่นนี้ที่ได้รับความนิยมแบบถล่มทลายจนแซงหน้าบรรดาอนิเมชั่นฟอร์มยักษ์เรื่องอื่น ๆ ไปแบบไม่มีกังขา โดผลโหวตจากสำนักอนิเมชั่นต่าง ๆ โหวตให้เรื่องนี้อยู่
Mister American
“ทำไมถึงไม่มีหนังสัตว์ประหลาดไทยดี ๆ ออกมาสักทีวะ ?”
Mister American
คงไม่ต้องบอกว่า ณ ช่วงเวลานี้ หลาย ๆ คนคงให้ความสนใจกับการชุมนุมของบรรดาหนุ่มสาววัยรุ่นที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มเยาวชนปลดแอก หรือ กลุ่มนักเรียน นักศึกษาคนรุ่นใหม่ที่ออกมาชุมนุมเรียกร้องการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ขับไล่เผด็จการ และ เปลี่ยนแปลงประเทศใหม่ กันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะปรากฏการณ์ของการชุมนุมที่เกิ