Skip to main content

                "พรมนิ้วลงไป หวังให้อัสนีกึกก้องด้วยละอองแสง

                  กระหน่ำตีเข้าไปให้ถึงปลายทางของความเจ็บปวด

                  ทำยังไงดี เสียงหัวใจดุร้ายอาละวาดไม่หยุดหย่อน

                  พรมนิ้วลงไป ควอเด็ตสอดประสาน อยากปฏิวัติให้สำเร็จจัง

                  กระหน่ำตีเข้าไป ฟอร์เต้แห่งความเศร้าโศก

                  ทำยังไงดี ธาตุแท้ช่างดื้อรั้นอย่างโหดร้าย"

เนื้อเพลง Seiyuin complex แบบแปลไทยโดย Netflix 

               คงไม่มีอนิเมชั่นเรื่องใดในซีซั่น 2022 ที่ผ่านมาจะเรียกได้ว่า เป็นม้ามืดได้เท่ากับอนิเมชั่นแนว Slice of life + ดนตรีอย่าง Bocchi the rock ที่สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญเมื่อมันสามารถคว้ารางวัลอนิเมชั่นแห่งปีจาก 9th Anime Trending Awards ได้สำเร็จ ไม่เพียงเท่านั้นยังคว้ารางวัลใหญ่ ๆ อย่าง รางวัลบทอนิเมชั่นดัดแปลงแห่งปี , รางวัลกำกับ ตอนยอดเยี่ยม และ รางวัลสตอรี่บอร์ด เรียกว่า กวาดรางวัลเรียบวุธ เหนือ อนิเมชั่นฟอร์มยักษ์ดัง ๆ อย่าง Attack of titan , Chainsaw man , Spy X Family หรือกระทั่ง Lycoris Recoil ที่เป็นม้ามืดของปีนี้เช่นกันก็ยังแพ้ให้กับเรื่องนี้โดยที่หลายคนไม่อยากเชื่อ

                เนื่องจากก่อนหน้านี้ Bocchi the rock ไม่ใช่อนิเมชั่นที่มีคนคาดหวังหรือตั้งตาต่อรอใด ๆ นัก ก่อนหน้านี้มันถุกจัดอันดับไว้ที่ 13 เท่านั้นเอง ทว่า ไม่นานนักความนิยมของเรื่องนี้ก็พุ่งกระฉูดจนยึดหัวหาดของอนิเมชั่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั้งในและนอกประเทศแบบไม่มีใครเทียบเคียง

                นี่ยังไม่รวมทั้งยอดขายแผ่น BD ในประเทศญี่ปุ่นเอง Bocchi The rock มียอดขายถึง 16793 ชุด นับว่าสูงมาก ๆ เมื่อเทียบกับอนิเมชั่นฟอร์มยักษ์อย่าง Chainsaw man ที่แป้กคาตารางเมื่อทำไปได้แค่ 1735 ชุดเท่านั้น นับว่า ยอดห่างกันมากอย่างไม่น่าเชื่อ

                นี่ไม่รวมถึงยอดขายแผ่น CD ของ Bocchi the rock ที่รวมเพลงของวงสายรัดของเธอก็ขายไปได้ถึง 73,244 แผ่น เรียกว่า สูงมาก ๆ จนเทียบนักร้องดัง ๆ ได้อย่างไม่ขัดเขิน รวมทั้งยอดดาวน์โหลดจากทั้งในไอทูน และ อื่น ๆ ก็มหาศาลจนเรียกว่า ประสบความสำเร็จอย่างสูง

                ความสำเร็จนี้สร้างความกังขาให้กับหลายคนที่ไม่ได้ชมหรือพึ่งได้รู้จักอนิเมชั่นเรื่องนี้ไม่ใช่น้อย เนื่องจากหากมองเพียงเพิน ๆ จากหน้าหนังมันน่าจะเป็นแนว Silce of life + ดนตรีแบบเดียวกับพวกแนวดนตรีรุ่นพี่อย่าง K-on คงแค่ขายความน่ารักไปวัน ๆ เท่านั้นเอง หรือ บางคนก็บอกว่า อนิเมชั่นที่ทำมาให้โอตาคุดูแล้วจินตนาการเรื่องลามกเท่านั้น

                ทั้งที่เอาจริงแล้ว Bocchi the rock คือ อนิเมชั่นที่ว่าด้วยมนุษย์อย่างแท้จริง ขณะเดียวก็เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจที่มอบให้กีบคนดูโดยเฉพาะ คนที่เป็นแบบเดียวกับ โบจจิ ตัวเอกของเรื่องนี้

                เรื่องราวของ Bocchi the rock เป็นเรื่องราวของเด็กสาวที่มีชื่อว่า โกโต้ ฮิโตริ ผู้ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ขี้อาย ไม่กล้าแสดงออกใด ๆ จนตลอดการเรียนของเธอจนถึงม.ปลายนั้นไม่มีเพื่อนเลยสักคน สิ่งเดียวที่ค้ำจุนเธออยู่ตลอดเวลานั้นคือ กีตาร์ไฟฟ้าที่ได้รับมาจากพ่อของเธอ เธอเฝ้าฝึกกีตาร์อย่างหนักจนช่ำชองชนิดว่า เปิดไลฟ์สดในอินเตอร์เน็ตได้และมีผู้เข้าชมมากมาย ทว่า เจ้าตัวเองก็ไม่ได้พอใจจะใช้ชีวิตแบบนี้จึงตัดสินใจจะเดบิวต์เปิดตัวม.ปลายเพื่อหวังจะมีเพื่อนและเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ได้

                แต่ทำอะไรก็ล้มเหลวไปทุกที ความขี้อายไม่มีความมั่นใจตัวเอง คิดเองในแง่ลบตลอดเวลาทำให้เธอไม่กล้าจะพูดอะไรหรือแสดงอะไรกับใครสักที จนวันหนึ่งเธอแบกกีตาร์ไปเพื่อหวังจะใช้มันเพื่อเป็นหัวข้อพูดคุยกับคนในห้อง

                ทว่าก็เหมือนเดิม

                ไม่มีใครสักคนที่สนใจเธอเลย และเธอก็ไม่กล้าจะเข้าไปคุยด้วยอยู่

                ในขณะที่กำลังนั่งคอตกผิดหวังกับความพยายามนี้ เธอได้พบกับ นิจิกะ นักเรียนรุ่นพี่จากอีกโรงเรียนหนึ่งที่มาเจอเธอกำลังแบกกีตาร์พอดี เธอคนนี้ได้ลากให้โกโต้ ฮิโตริ เข้าสู่โลกของการแสดงดนตรีในไลฟ์เฮ้าส์เป็นครั้งแรก

                และเรื่องราวของเธอกับชีวิตวัยรุ่นที่ไม่คาดคิดในฐานะสมาชิกของวงสายรัดก็เริ่มขึ้น

                Bocchi the rock ดัดแปลงมาจากมังงะสี่ช่องของ อากิ ฮามาจิ ที่บอกตัวเองว่า เป็นแฟนคลับเดนตายของวง ASIAN KUNG-FU GENERATION วงป๊อปร็อคชื่อดังของญี่ปุ่นแบบชัดเจน โดยเฉพาะการนำนามสกุลของสมาชิกในวงมาตั้งเป็นชื่อของตัวละครในเรื่องไม่ว่าจะเป็น โกโต้ ฮิโตริ มาจากชื่อนักร้องนำในวง หรือ สมาชิกคนอื่น ๆ ก็เช่นกัน ไม่ใช่เพียงเท่านั้นยังมีการนำเพลงอย่าง Rock'n Roll, Morning Light Falls on You มาใช้ในเพลง ED ในตอนที่ 12 ของอนิเมชั่น Bocchi the rock บ่งบอกถึงความคลั่งไคล้ที่นำมาประสานกันได้อย่างดี

                นี่ยังไม่รวมถึงทางสตูดิโออย่าง CloverWorks ได้สร้างเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างค่อยเป็นค่อยไป และ ใช้เทคโนโลยีในการบันทึกท่าทางการเล่นกีตาร์และการแสดงอย่างครบถ้วนเพื่อให้ฉากการเล่นคอนเสริ์ตในแต่ละครั้งออกมาสมจริงทั้งการขยับท่าทาง นิ้วและอื่น ๆ ทำให้เรื่องนี้มีการขยับที่ดีกว่าอนิเมชั่นดนตรีเรื่องอื่นอีก

                นอกจากเพลงที่แต่งออกมาอย่างไพเราะติดหูแล้วสิ่งที่ทำให้ Bocchi the rock น่าสนใจและเป็นจุดขายของเรื่องนื้คือเรื่องราวของโกโต้ ฮิโทริ หรือชื่อเล่นว่า บจจิ

                บจจินั้นมีความหมายว่า โดดเดี่ยว ซึ่งถูกตั้งชื่อโดย เรียว สมาชิกในวงเพื่อเรียกการกระทำของเธอที่กลัวการอยู่กับคนอื่น การพูดคุยอย่างมาก เธอแทบสื่อสารหรือออกเสียงใด ๆ ออกมาได้ยากมาก มีเพียงการเล่นกีตาร์และดนตรีเท่านั้นเอง

                ถึงจะมีความหมายเป็นแง่ลบหรือเย้ยหยันแบบไม่ตั้งใจ เหมือนว่า ฮิโตริจะชอบชื่อเล่นนี้มาก เนื่องจากเป็นชื่อเล่นแรกที่เพื่อนตั้งให้

                เธอจึงยินดีที่จะถูกเรียกว่า บจจิน่ะเอง

                บุคลิกบจจินั้นต้องบอกว่า เธอเป็นเด็กสาวประเภท introvert ที่สามารถอธิบายได้ว่า คนที่มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง มีความสุขกับการอยู่คนเดียว ชอบคิดอะไรเรื่อยเปื่อยคนเดียว ดูเหมือนจะขี้อาย มีจำนวนเพื่อนสนิทแบบนับคนได้ มีความเห็นอกเห็นใจ เอาใจเขามาใส่ใจเรา อ่อนไหว เป็นพวกคิดมาก คิดก่อนพูด และในขณะเดียวกันก็พูดน้อย ไม่ชอบเสวนาเรื่องที่ไร้สาระ ฉาบฉวยซักเท่าไหร่ แถมยังเป็นคนขี้อาย ไม่พูด เราจึงเห็นว่า บจจิเป็นตัวละครแบบนี้อย่างชัดเจน

                ด้วยบุคลิกของเธอที่เป็นแบบนี้ทำให้ยากจะเข้าสังคมได้ แม้ว่า ตัวเธอจะปรารถนาอยากจะมีเพื่อน อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองก็ยากแบบสุดกู่อย่างเศร้าใจ

                บจจิเป็นตัวละครที่เรียกว่า เป็นเสมือนตัวแทนของคนที่มีสภาพแบบนี้ เหมือนเป็นตัวแทนที่คนดูได้เฝ้าดูพัฒนาการของเธออย่างใกล้ชิดและแน่นอนว่า เราเห็นอกเห็นใจเด็กสาวคนนี้ที่พยายามแล้วพยายามเล่าเพื่อจะเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ได้ต่างกับลูกหลาน

                หลายคนมองว่า บจจิเป็นตัวแทนของความขี้แพ้ในสังคมญี่ปุ่น หากจะมองก็คือ ไม่ได้ต่างจากพวกนีทหรือฮิคิโคโมริแต่อย่างใด กระนั้นเองบจจิเองก็ไม่ได้อยากเป็นแบบนั้น เพราะ ถึงเธอจะล้มเหลวกับการพยายามสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นมากเท่าไหร่ เธอก็ไม่ได้ยอมแพ้ที่จะกลายเป็นแบบนั้นอยู่ดี

                พูดคือ บจจิ เห็นตัวเองเป็นแบบนั้นก็เลยตัดสินใจจะออกไปหาเพื่อน เปลี่ยนตัวเองเท่าที่ตัวเองจะไหว

                แม้มันจะจบด้วยความล้มเหลวในหลาย ๆ ครั้งก็ตาม

                เธอไม่ได้ยอมแพ้

                และ สำคัญคือ บจจิค่อย ๆ พัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อย ๆ

                จากตอนแรกเธอไม่สามารถพูดคุยกับใครได้เลยกลายเป็นว่า พูดได้ เวลาต่อมาเธอสบตาและรับแขกได้ แสดงไลพ์สดต่อหน้าคนได้ พัฒนาการของบจจิเกิดขึ้นแทบตลอดเวลาจนเราเห็นว่า เด็กสาวที่ตัวสั่นงกๆ ตอนขึ้นไลฟ์ครั้งแรกได้หายไปแล้ว

                ไม่ใช่เพียงแค่ บจจิยังทำให้คนอื่น ๆ ในวงเปลี่ยนแปลงไปด้วย

                ไม่ว่าจะเป็นคิตะ ที่ตอนแรกเล่นกีตาร์ไม่เป็นค่อย ๆ เก่งขึ้นเรื่อย ๆ จากตีคอร์ดจนถึงขั้นที่โซโล่รีดช่วยบจจิในตอนท้ายได้ เรียวที่เห็นอกเห็นใจคนอื่นมากขึ้น หรือ นิจิคะตะที่เริ่มเหมาะกับการเป็นผู้วงมากขึ้น ทุกอย่างมาจากบจจิทีโดนดึงเข้ามาแบบไมตั้งใจ ทว่าสุดท้ายวงของเธอก็เกิดขึ้นจนได้

                อย่างที่นิจิคะตะบอกว่า บจจิเป็นฮีโร่ของเธอ

                เนื่องจากทุกครั้งที่วงกำลังถึงทางตัน บจจิจะทำให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยฝีมือกีตาร์ของเธอ

                หลายคนฟังมาตอนนี้คงคิดว่า บจจิเก่งเทพแบบนี้มีอะไรให้ลุ้น เอาจริง ๆ ถึงฝีมือกีตาร์เก่งเทพแค่ไหน แต่ความที่เป็น Introvert ไม่มั่นใจตัวเองนี่ละทำให้เธอไม่สามารถแสดงศักยภาพได้เต็มที่เลย หนำซ้ำยังเล่นเข้ากับคนอื่นไม่ได้ทำเอาไลฟ์แรกเละเทะกันทีเดียว

                แต่เมื่อเวลาผ่านไป บจจิค่อย ๆ พัฒนาจนสุดท้ายเล่นเข้ากับคนอื่น ไม่พอยังโชว์ความสามารถของตัวเองให้เป็นที่ประจักษ์ได้สำเร็จ

                แม้จะจบลงด้วยความตลกขำขันตามสไตล์อนิเมชั่นตลกก็เถอะ อย่างน้อยเธอก็ก้าวข้ามจากจุดเดิมไปได้

                แน่นอนว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการนำตัวละครบุคลิกแบบ Introvert มาใช้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ก็มีตัวละครที่มีบุคลิกคล้าย ๆ กันอย่าง  Watashi ga Motenai no wa dō Kangaetemo Omaera ga Warui! ที่มีตัวเอกเป็นสาว introvert ที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเหมือน ๆ กันอย่าง คุโรกิ โทโมโกะ ที่อยากจะเดบิวต์ม.ปลาย หลังจากชีวิตก่อนหน้าล้มเหลวมาก่อน กระนั้นเองด้วยความที่มันเน้นไปที่ความสมเพชของนางเอกมากเกินไปทำให้หลายคนเบือนหน้านี้กระทั่งมันเปลี่ยนไปเป็นมังงะยูริถึงกลับมาดังอีกครั้ง

                สิ่งที่คล้ายกันของสองเรื่องนี้ก็คือ ทั้งบจจิ และ โทโมโกะ ไม่ได้อยากเป็นขี้แพ้ หรือ หนีหายไปจากสังคม พวกเธออยากเข้าสังคม อยากมีเพื่อน แต่ปัญหาคือ พวกเธอไม่รู้จะเข้ายังไงต่างหาก

                สิ่งที่บจจิมีดีกว่าโทโมโกะก็คงมีแค่ฝีมือกีตาร์เท่านั้น ทว่านอกจากนั้นก็จบลงด้วยความล้มเหลวไปหมด

                เพียงแค่ว่า ถึงจะล้มเหลวแค่ไหน ทั้งสองคนก็โชคดีที่คนรอบของพวกเธอคอยสนับสนุนและช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา

                อย่าง บจจินั้นแม้ว่า ครอบครัวจะเป็นสิ่งที่เหมือนซ้ำเติมเล็ก ๆ ให้บจจิเข้ากับสังคมไม่ได้ แต่พวกเขาก็เป็นห่วงและเอาใจลูกสาวคนนี้ให้เข้าสังคม ถึงบางคนจะไม่ทันความคิดด้านลบของเธอก็เถอะ นี่ไม่รวมถึงบรรดาเพื่อนร่วมวงที่ช่วยเหลือเธอ ให้กำลังใจเธอ คนที่ไลฟ์เฮ้าส์ รุ่นพี่ในวงอื่นที่ที่ผลักดันให้เด็กสาวคนนี้ได้กลายนักดนตรีที่งดงามในที่สุด

                การได้รับความช่วยเหลือและกำลังใจจากคนรอบข้างนี้เองก็ทำให้เรานึกถึงสาวน้อยที่ชื่อว่า ฮอนโจ คาเอเดะ จากเรื่อง lit. meaning Itai no wa Iya nano de Bōgyoryoku ni Kyokufuri Shitai to Omoimasu หรือ น้องโล่สายแทงก์ แกร่งเกินร้อย ที่ตัวเอกอย่าง คาเอเดะได้ไปเล่นเกมออนไลน์เกมหนึ่งในชื่อ เมเปิ้ล ก่อนที่วิธีการเล่นแบบพิศดารของเธอทำให้กลายเป็นตัวเทพได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะพลังป้องกันที่มาจากแนวคิดว่า ไม่อยากเจ็บตัวน่ะเอง

                แม้ว่าในนิยายจะไม่ได้บอกพื้นเพของคาเอเดะแบบชัดแจ้ง ทว่า หลายคนพอคาดเดาได้ว่า คาเอเดะน่าจะเป็นเด็กพิเศษ หรือ ออทิสติกอ่อน ๆ ที่แม้จะไม่ถึงขั้นหนักหน่วงจนใช้ชีวิตแบบคนทั่วไปไม่ได้ แต่ก็มีลักษณะนิสัยที่ผิดเพี้ยน ย้ำคิดย้ำทำอยู่ ซึ่งอาการนี้สามารถใช้ชีวิตกับคนในสังคมได้ แต่ต้องมีความเข้าใจและช่วยเหลือจากคนรอบข้าง

                ในที่นี้คือ ริสะ เพื่อนของคาเอเดะที่ประกบดูแลเพื่อนสาวคนนี้ตลอดเวลา เสียแค่ว่า ตอนที่คาเอเดะเข้าไปเล่น เธอดันต้องเรียนเพิ่มซะงั้น ทำให้ไม่ได้บอกวิธีเล่นกับเพื่อนคนนี้

                คงไม่ต้องบอกว่า การที่คาเอเดะหรือเมเปิ้ลใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในเกมนี้และรอบข้างก็มาจากครอบครัว และเพื่อนทั้งเกมและนอกเกมที่ช่วยเหลือจนใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข

                เราจะเห็นว่า อนิเมชั่นญี่ปุ่นหลายเรื่องให้ความสำคัญกับตัวละครที่มีบกพร่องทั้งในด้านร่างกาย และ จิตใจอย่างมาก กระนั้นเองพวกเขาเองก็ไม่ได้มองว่า คนเหล่านี้เป็นภาระแต่กลับให้กำลังใจพวกเขาให้ก้าวข้ามอุปสรรคเหล่านี้ได้ และ เข้าสู่สังคมได้สำเร็จ

                การที่ทั้งบจจิ โทโมโกะ หรือ กระทั่ง เมเปิ้ลใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้นี้คงมาจากการที่พวกเธอมีสังคมดี มีเพื่อน มีครอบครัวดี ๆ ที่ช่วยหนุนเสริมพวกเธอในทางเลือกที่ที่พวกเธอได้เลือกหนทางของตัวเอง

                สำคัญคือ เหล่าตัวละครในเรื่องนี้ไม่ยอมแพ้

                แม้จะล้มเหลวแค่ไหน พวกเธอก็ยังสู้ต่อ

                จะน่าสมเพชแค่ไหน

                จะหัวเราะเยาะ หรืออย่างไรก็เดินหน้าต่อ

                แบบเดียวกับที่บจจิได้แสดงให้เราเห็น

                ว่า อย่ายอมแพ้

ป.ล. Bocchi the rock สามารถชมได้ทั้งใน Netflix และ AIS PLAY รวมทั้ง  bilibili ครับ

ป.ล. ยอดขายมังงะของ Bocchi the rock ทะลุ 2 ล้านเล่มเป็นที่เรียบร้อยหลังจากอนิเมชั่นเรื่องนี้ออกฉาย

 

บล็อกของ Mister American

Mister American
ปี 2515 ณ หมู่บ้านห่างไกลผู้คนในจังหวัดกาญจนบุรี แย้ม เด็กสาวผู้เคยป่วยหนักจนเกือบตายได้มีอาการแปลก ๆ เกิดขึ้น เธอเริ่มพูดจาด้วยคำหยาบคายกับคนในครอบครัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เริ่มโกหกและยุแยงให้คนในบ้านแตกคอกัน รวมทั้งลุกขึ้นมาตอนกลางคืนเพื่อนกินของสดทำให้คนในครอบครัวโดยเฉพาะ หยาด เกิดความสงสัยขึ
Mister American
สัปเหร่อ : คนตายคือ ครู และ คนอยู่คือ นักเรียน           “ความตาย...มันฆ่าเฮาได้แค่ครั้งเดียว แต่ความฮัก มันฆ่าเฉาไปเรื่อยๆๆ จนกว่าเฮาสิตายพุ่นเด้”บักมืด 
Mister American
                ระหว่างที่เขียนต้นฉบับบทความนี้อยู่นั้น การโหวตประธานรัฐสภาและรองประธานสองคนการประชุมสภาวันแรกได้จบลงแล้ว และ ผลคือ คุณวันมูหะมัดนอร์ มะทา จากพรรคประชาชาติ ดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาคนใหม่ ร่วมกับ รองประธานสภาสองท่านจากพรรคก้าวไกล และ พรรคเพื่อ
Mister American
            คงไม่มีอนิเมชั่นเรื่องใดในซีซั่นนี้ที่เรียกว่า สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับบรรดาคนดูอนิเมชั่น และ คนดูหนังหลายคนได้เท่ากับ อนิเมชั่นซีรีย์เรื่อง Oshi no Ko หรือ ชื่อไทยว่า เกิดใหม่เป็นลูกโอชิ ผลงานดัดแปลงจากมังงะขายดีของ อากะ อาคาซากะ ที่ได้ฤกษ์ออกฉายไปเมื่อ
Mister American
                "พรมนิ้วลงไป หวังให้อัสนีกึกก้องด้วยละอองแสง                   กระหน่ำตีเข้าไปให้ถึงปลายทางของความเจ็บปวด
Mister American
                พอ Hellraiser ภาคใหม่จะลงฉายใน Hulu กันในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ (ซึ่งไทยจะได้ดูกันใน Disney Plus) นับว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งของพินเฮดและเหล่าซีโนไบร์ต หนึ่งในไอค่อนของโลกสยองขวัญที่โด่งดังไม่แพ้ เฟรดดี้ ครูเกอร์ แห่ง Nightmare of elm street , เ
Mister American
พึ่งจบกันไปหมาด ๆ สำหรับอนิเมชั่นเรื่องดังประจำซีซั่นนี้อย่าง Lycoris  Recoli จากค่าย A-1 Picture ที่นอกจากจะเป็นม้ามืดประจำซีซั่นนี้ที่ได้รับความนิยมแบบถล่มทลายจนแซงหน้าบรรดาอนิเมชั่นฟอร์มยักษ์เรื่องอื่น ๆ ไปแบบไม่มีกังขา โดผลโหวตจากสำนักอนิเมชั่นต่าง ๆ โหวตให้เรื่องนี้อยู่
Mister American
“ทำไมถึงไม่มีหนังสัตว์ประหลาดไทยดี ๆ ออกมาสักทีวะ ?”
Mister American
คงไม่ต้องบอกว่า ณ ช่วงเวลานี้ หลาย ๆ คนคงให้ความสนใจกับการชุมนุมของบรรดาหนุ่มสาววัยรุ่นที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มเยาวชนปลดแอก หรือ กลุ่มนักเรียน นักศึกษาคนรุ่นใหม่ที่ออกมาชุมนุมเรียกร้องการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ขับไล่เผด็จการ และ เปลี่ยนแปลงประเทศใหม่ กันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะปรากฏการณ์ของการชุมนุมที่เกิ
Mister American
               “จูออน คือ คำสาปของผู้ที่ตายด้วยความเคียดแค้น ณ สถานที่ที่ตาย ผู้ที่เผชิญหน้ากับมันจะต้องตาย และ คำสาปแช่งใหม่จะถือกำเนิด”
Mister American
“เสียงปืนที่ดังขึ้นภายในงานเลี้ยงของกำนันผู้มีอิทธิพลในจังหวัดเชียงรายดังขึ้น ร่างของกำนันคนดังล้มลงกองกับพื้น หลังจากพึ่งรับตำแหน่งได้ไม่นาน เสียงหวีดร้องของผู้คนในงาน เสียงร่ำไห้ และ ความตื่นตะลึงเกิดขึ้น มือปืนยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าของศพที่แน่นิ่งจมกองเลือดอย่างไร้ซึ่งอารมณ์ ข