Skip to main content

 

มีหลายคนส่งข้อความลับมาหาทางเพจของผมว่า อยากให้แนะนำหนังสือแนวอื่นที่ไม่ใช่แนวไลท์โนเวลในงานหนังสือครั้งนี้บ้าง เพราะ อยากรู้ว่า ในงานหนังสือนี้ ผมจะแนะนำหนังสืออะไรบ้างจะได้ไปตามหาบ้างครับ จะว่าไปแล้วนอกจากไลท์โนเวลที่ออกเยอะมาก ๆ ในงานนี้แล้ว ในงานหนังสือครั้งนี้หนังสือแปลแนวสยองขวัญหรือสืบสวนที่กลายเป็นหนังออกมามากพอสมควร ดังนั้นผมจะพาไปดูหนังสือแปลเหล่านี้กันก็แล้วกันนะครับ ว่า มีนิยายเรื่องไหนน่าสนใจบ้างในงานหนังสือครั้งนี้ครับ

                1. Gone Girl (เล่นซ่อนหาย) (น้ำพุสำนักพิมพ์)

                นอกจากจะถูกดัดแปลงในฐานะหนังสืบสวนของผู้กำกับชั้นยอดอย่าง ดาวิด ฟิชเชอร์แล้วนั้น สิ่งที่ทำให้สามารถพูดถึง Gone Girl ได้ก็คือ การที่มันคือ นิยายสืบสวนที่นอกจากจะยั่วยวนคนอ่านด้วยประเด็นของการหายตัวของภรรยาที่ทำให้สามีของเธอต้องออกตามหา แน่ล่ะว่า นอกจากประเด็นว่า ภรรยาของตัวเอกหายไปได้อย่างไรนั้นแล้ว ตัวหนังสือยังพาเรากระโจนไปตั้งคำถามกับการวิพากษ์สังคมการแต่งงานของคนอเมริกัน ความรัก และความสเน่หา ที่มีผลต่อชีวิตมนุษย์ ขณะเดียวกัน มันก็พาเราไปวิพากษ์การล่มสลายของชีวิตแต่งงานของผู้คนขณะเดียวกับก็ยั่วล้อกับสื่อสารมวลชนและความรู้สึกของผู้คนได้ดีเหมือนกัน

                แน่นอนว่า ฉบับหนังเองก็ได้ตัวผู้แต่งอย่าง Gillian Flynn มาเขียนบทให้ด้วย แถมยังมีความแตกต่างกับตัวหนังสืออีก ยิ่งทำให้ฉบับหนังสือนั้นเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ๆ ชนิดว่า ดูหนังก็ได้ อ่านหนังสือก็ได้เช่นกัน

                2. Horn (สัมผัสที่ 7 สัมผัสต้องสาป) (น้ำพุสำนักพิมพ์)

                ชื่อของ โจ ฮิลล์ อาจจะไม่คุ้นหูนักอ่านนิยายแนวสยองขวัญไทยสักเท่าไหร่นัก ทว่า เอาจริงแล้วถ้าบอกว่า เขาคือ ทายาทของนักเขียนสยองขวัญในตำนานอย่าง สตีเฟ่น คิง  แล้วล่ะก็ หลายคนคงร้อง อ๋อ แน่นอนเพราะ เขานี่ล่ะคือ แรงบันดาลใจของคิงในการเขียนนิยายหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นความฝันของคิงที่ทำให้เกิด The Shining (โรงแรมผีนรก) ขึ้น หรือกระทั่งการได้เล่นในหนังสยองขวัญที่ดัดแปลงมาเรื่องสั้นของคิงอย่าง Creepshow เป็นต้น บัดนี้ในที่สุด โจ ฮิลล์ ก็โตขึ้นกลายเป็นนักเขียนตามรอยของพ่อและกลายนักเขียนดาวรุ่งที่หลายคนกำลังจับตามองในขณะนี้ครับ

                และผลงานล่าสุดของเขาอย่าง Horn ที่ขายระดับเบสท์เซลเลอร์ก็ได้รับการดัดแปลงเป็นหนังสยองขวัญที่จะฉายในไม่นานนี้ โดยได้ผู้กำกับสายโหดอย่าง  Alexandre Aja มากำกับและได้อดีตแฮร์รี่ พอตเตอร์อย่าง Daniel Radcliffe มารับบทนำครับ

                เรื่องราวของ Horn นั้นเกี่ยวข้องกับชายคนหนึ่งที่พบว่า ตัวเองมีเขาประหลาดงอกขึ้นบนหัวภายหลังจากที่ตื่นมาและพบว่า แฟนสาวของเขาถูกฆ่าและข่มขืนอยู่ข้าง ๆ ซึ่งตัวเขาจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น และเขานั้นทำให้เขามีพลังพิเศษในการทำให้คนสารภาพบาปของตัวเองได้อย่างไม่มีข้อแม้ แถมยังสามารถล่อลวงจูงใจคนให้ทำสิ่งตัวเองปรารถนาได้อีกด้วย ดังนั้น เขาจึงใช้พลังมันในการตามหาว่า ใครฆ่าแฟนตัวเองครับ แถมยิ่งใช้เขาก็ยิ่งกลายร่างเป็นปีศาจมากขึ้นเรื่อย ๆ

                แค่ฟังก็น่าอ่านแล้วใช่ไหมครับ

          3. Doctor Sleep (ลางนรก) (สตีเฟ่น คิง) (แพรวสำนักพิมพ์)

                หากใครรอคอยภาคต่อของ The Shining (โรงแรมนรก) ของสตีเฟ่น คิง อยู่ล่ะก็ ในที่สุดฉบับแปลไทยของ Doctor Sleep ก็ออกมาให้ยลโฉมกันสักทีครับ กับเรื่องราวภาคต่อที่ครั้งนี้เจ้าหนุแดนนี่ได้โตและกลายเป็นตัวเอกของเรื่องนี้แทนแล้วครับ หลังจากหนีจากโรงแรมนรกนั้นมาได้

                เรื่องราวเริ่มต้นหลายปีจากนั้นครับ เจ้าหนูแดนนี่ที่มีพลังในการส่องแสงหรือพลังจิตลดลงและกลายเป็นบุรุษพยาบาลทำงานในกะดึกและคอยช่วยเหลือคนในนั้นได้พบกับเด็กน้อยคนหนึ่งที่มีพลังแบบเดียวกันกับเขาแถมอาจจะมากกว่าเสียด้วย ทว่า พลังของเด็กสาวนั้นกลับไปที่ต้องตาต้องใจของพวกเดนนรกปีศาจที่ฆ่าคนเพื่อกลืนกินพลังนั้น นั่นเองที่ทำให้แดนนี่ต้องร่วมมือกับเด็กสาวคนนี้ต่อสู้กับพวกมันครับ

                แน่นอนว่า นิยายภาคต่อนี้มีโครงการดัดแปลงเป็นหนังเช่นกันและเชื่อว่า แค่บอกว่า ภาคต่อ The Shining แค่นั้นก็อยากอ่านต่อแล้วใช่ไหมล่ะครับ

                4. Resident Evil (คฤหาสน์มรณะ) (เอส ดี เพอร์รี่) (แพรวสำนักพิมพ์)

                ลืม Resident Evil ฉบับหนังไปซะ เพราะถ้าคุณกำลังมองหาความสนุกในแบบที่เกิดขึ้นในเกมแล้วล่ะก็ นี่คือนิยายที่คุณตามหาครับ กับ Resident Evil ฉบับนิยายที่ได้เอาบทของเกมมาเขียนใหม่ในรูปแบบนิยาย ซึ่งแน่นอนว่า บทของเกมนั้นเป็นแนวเซอร์ไววัลเฮอร์เรอร์อันแสนน่าสยดสยองที่ใครหลายคนต้องพูดถึง นิยายก็หยิบจับเอาความเป็นผีชีวะออกมาได้ดีตั้งแต่การนำตัวละครอย่าง จิล วาเลนไทน์ คริส เรดฟิลล์  หรือ อัลเบิร์ต เวสเกอร์ มาโลดแล่นในนี้ ซึ่งใครอยากได้นิยายที่มาจากต้นฉบับเกมแล้วเพื่อล้างตาแทนภาคคนแสดงแล้วล่ะก็จัดไปเถอะครับ

                เอาจริงแค่เห็นว่า เป็น Resident Evil ก็พร้อมสอยแล้วล่ะ สาวกผีชีวะกล่าวไว้

                5. The Exorcist (หมอผีเอ็กซ์โซซิสต์)( William Peter Blatty) (สำนักพิมพ์โมโนโพเอ็ต)

                ถ้าพูดถึงหนังสยองขวัญในตำนานสักเรื่อง หลายคนย่อมนึกถึงหนังเรื่อง The Exorcist ที่เกี่ยวข้องกับการสิงร่างที่โด่งดังที่สุดในโลกและทำเงินมหาศาลและครองสถิติหนังสยองขวัญที่น่ากลัวที่สุดในอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว แน่นอนว่า ความสยองนั้นเกิดขึ้นจากปลายปากกาของ William Peter Blatty ที่ทำหน้าที่ดัดแปลงเรื่องนี้เป็นบทภาพยนตร์ด้วยตัวเองก่อนที่เขาจะคว้ารางวัลออสการ์บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมได้สำเร็จ และนั่นเองที่ทำให้มีการนำนิยายเรื่องนี้มาพิมพ์ใหม่อีกครั้งในวาระครบรอบ 40 ปี ซึ่งแน่นอนว่า การที่นิยายเรื่องนี้ยังถูกกล่าวขวัญจนถึงทุกวันนี้ได้ย่อมแสดงให้เห็นความหลอนอันน่าจดจำของนิยายเรื่องนี้ได้เลยทีเดียว

          6. ลานละเลงเลือด (ลี ไชล์) (น้ำพุสำนักพิมพ์)

                ชื่อของแจ็ค รีชเชอร์ นั้นอาจจะเป็นหนึ่งในหนังของทอม ครูซ ที่ไม่เปรี้ยงสักเท่าไหร่นัก ทั้งที่มันดัดแปลงมาจากผลงานนิยายชื่อดังของลี ไชล์ อย่าง One Shot หรือ เล็งจุดตาย ได้อย่างน่าสนใจแล้วแท้ ๆ ทว่า เอาจริงแล้วถ้าให้แนะนำซีรีย์ของ แจ็ค รีชเชอร์ จริง ๆ แล้ว ผมคงต้องแนะนำเล่มแรกของซีรีย์นี้อย่าง ลานละเลงเลือด ที่เป็นการเปิดตัวของอดีตสารวัตรทหารผู้นี้ที่ออกเดินทางไปทั่วอเมริกาและต้องพัวพันกับคดีฆาตกรรมขึ้น และทำให้รีชเชอร์ที่มีคติไม่อยู่ที่ไหนนาน ๆ ไม่มีร่องรอย ไม่มีอุปกรณ์สื่อสารต้องเข้ามาคลี่ลายก่อนจะพบว่า เหยื่อที่ถูกฆาตกรรมของเขาคือ พี่ชายตัวเองที่หายไปตัวไป และคนในเมืองนี้น่าจะมีส่วนร่วมบางอย่าง เขาจะต้องใช้ทักษะในฐานะสารวัตรทหารหาตัวคนที่อยู่เบื้องหลังให้ได้ชนิดตาต่อตาฟันต่อฟันทำให้เมืองเล็ก ๆ น้อยลุกเป็นไฟ

                แน่ล่ะว่า ใครชอบซีรีย์สืบสวนบวกแอ็คชั่นเข้มข้นสุดมันแล้วล่ะก็ แจ็ค รีชเชอร์ ลานละเลงเลือดนี้คือ งานที่ผมแนะนำครับ เพราะ ครบเครื่องและสนุกสุดในซีรีย์นี้แล้วครับ

                และจะรู้ว่า ทำไมซีรีย์แจ็ค รีชเชอร์ถึงโด่งดังต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้ครับ

          7. เอส คำสาปกลายพันธุ์ (ซุสุกิ โคจิ) (Talents 1)

                หลังจากจบชุดคำสาปใน Loop ไปแล้ว ใครจะคิดว่า หลายปีต่อมาตัวของซุสุกิ โคจิ ผู้เขียนซีรีย์ The Ring ที่สร้างกระแส J-Horror ให้โด่งดังไปทั่วนั้นจะกลับมาเขียนเรื่องนี้ต่ออีกครั้ง แถมครั้งนี้ยังดำเนินเรื่องต่อจากนั้นหลายปีเลยทีเดียว แถมคำสาปได้เปลี่ยนแปลงจาก VDO มาเป็นคลิปเรียบร้อยแล้ว ซาดาโกะกำลังจะคืนชีพอีกครั้ง และคลิปต้องสาปกำลังแพร่ไปทั่วเมืองแล้วในตอนนี้

                ครับ ต้องบอกว่า นี่คือนิยายต้นแบบของหนังเรื่อง Sadako 3D ที่ออกมาเมื่อไม่นานมานี้และแน่นอนว่า มันได้รับความสนใจไม่ใช่น้อยเพราะ หลายคนที่ดูเรื่องนี้คงเกิดอาการเงิบรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นในหนังนี้ไม่ได้เท่าไหร่นัก กระนั้นเองหลายคนก็สงสัยว่า ฉบับนิยายเรื่องนี้จะคล้ายกันหรือเปล่า

                หรือจะดีกว่าเดิมที่เห็นในหนังกันแน่

                ดังนั้น ลองไปพิสูจน์ดูครับว่า การกลับมาของซาโดโกะจะเฮี้ยนเหมือนหลายปีก่อนนี้หรือไม่

                8. บิเบลีย บันทึกไขปริศนาแห่งร้านหนังสือ (เอน มิคามิ) (A-plus)

                เชื่อหรือไม่ว่า นิยายสืบสวนเรื่องนี้นั้นเป็นนิยายที่ขายอันดับหนึ่งแซงหน้า Sword Art Online ไปได้ แน่นอนว่า หลายคนคงสงสัยว่า นิยายเรื่องนี้มีดีอะไรถึงสามารถกลายเป็นงานที่ขายดีได้เช่นนี้ ทั้ง ๆ ที่หน้าปกของมันไม่ได้ดึงดูดเอาเสียเลย

                เรื่องราวเกิดขึ้นในร้านหนังสือเก่าบิเบลีย ซึ่ง ชิโอริโกะ สาวสวยเป็นเจ้าของร้าน เธอมีความสุขกับการอ่านหนังสือต่าง ๆ อย่างยิ่ง ทว่า วันหนึ่งเธอก็ได้พบกับโกโระที่กำลังเตะฝุ่นพอดีและได้พบกับชิโอริโกะนั้น เธอก็ได้พาเขากระโจนสู่โลกหนังสือและการสืบสวนคดีต่าง ๆ ที่แสนน่าพิศวงอย่างยิ่ง ชนิดที่โกโระไม่มีวันลืม

                ครับ ถ้าใครอยากจะอ่านนิยายสืบสวนบวกกับบรรยากาศร้านหนังสือเก่าแบบสบาย ๆ เคล้าอารมณ์ผู้ใหญ่แล้วล่ะก็เรื่องนี้จัดไปได้เลยครับ ยอดขาย 5 ล้านเล่มที่ชนะ Sword Art online การันตีความสนุกแน่นอนครับ

          9. Another (อายาสึตจิ ยูคิโตะ) (DEX)

                ผลงานสยองขวัญที่ถูกดัดแปลงเป็นมังงะ ภาพยนตร์ และ อนิเมชั่นของ นักเขียนสยองขวัญชาวญี่ปุ่นอย่าง อายาสึตจิ ยูคิโตะ ที่กล่าวถึงคำสาปในห้องเรียนห้องหนึ่งที่มีผลทำให้คนในห้องค่อย ๆ ตายไปทีล่ะคน และต้องหาตัวแทนมาใช้แทนคนตายนั้น และ ตัวแทนนั้นคือ เมย์ สาวน้อยผู้ลึกลับที่มีผ้าปิดที่ดวงตา ทว่า วันหนึ่ง การมาของชายหนุ่มคนหนึ่งได้ทำลายธรรมเนียมเสียสิ้นและคำสาปกลับมาอาละวาดอีกครั้ง ทำให้คนในห้องต้องตามหาว่า ใครคือ คนที่ตายไปแล้วที่แฝงตัวอยู่ในห้องนี้กันแน่

                ครับ ผลงานชื่อดังของอายาสึตจิ ยูคิโตะเรื่องนี้นั้นออกวางขายในรูปเล่มโตหนาไปเมื่อปีที่ผ่านมาและได้รับการตอบรับได้ทำให้ สนพ ตัดสินใจเอาฉบับไลท์โนเวลเล่มเล็กออกมาขายบ้างเช่นกัน และมาในรูปแบบปกสวยงามที่ได้นักวาดชื่อดังอย่าง Noizi Ito มาเขียนภาพให้ครับ

                แค่นี้ก็น่าสะสมอีกแล้ว ยังไม่รวมกับเนื้อหาหลอน ๆ ของอายาสึตจิที่เป็นเอกลักษณ์มาตลอดครับ

                ครับ นี่คือ บรรดานิยายแปลแนวสืบสวนสอบสวนและสยองขวัญที่น่าสนใจในงานหนังสือครั้งนี้ครับ ใครชอบแนวไหนแบบไหนก็จัดกันไปได้เลยครับ เพราะแต่เรื่องก็ถือว่า น่าอ่านแทบทั้งสิ้นเลยทีเดียวครับ

                แน่นอนว่า ในปีหน้า ผมเชื่อว่าจะมีงานแปลสยองขวัญหรือสืบสวนชั้นดีออกมาแปลให้เราได้อ่านกันอีกครับ แฟนหนังสือเก็บเงินเก็บตังค์รอกันได้เลยครับ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน

                ขอให้สนุกกับการอ่านหนังสือนะครับ

 

                ป.ล. ขอประชาสัมพันธ์ผลงานนิยายของผู้เขียนหน่อยครับ กับ ไลท์โนเวลเรื่อง ท่านผู้นำของผมไม่น่ารักขนาดนี้หรอก ผลงานนิยายที่ผมพิมพ์เองจัดจำหน่ายเองครับ โดยวางจำหน่ายแล้ว ในบูธของ สำนักพิมพ์ สะพาน บูธ S54 โซน C2 ครับ ใครสนใจจะอุดหนุนไลท์โนเวลเรื่องนี้แวะไปได้นะครับ 

                นอกจากใครอยากอ่านงานที่ผู้เขียนได้ร่วมเขียนในนิตยสารสตาร์พิคส์ ฉบับพิเศษ The Book of Horror ที่เป็นงานเขียนเกี่ยวกับหนังสยองขวัญแล้วล่ะก็สามารถแวะไปได้ที่บูธสตาร์พิคโซน Book Wonderland ครับ 

บล็อกของ Mister American

Mister American
ปี 2515 ณ หมู่บ้านห่างไกลผู้คนในจังหวัดกาญจนบุรี แย้ม เด็กสาวผู้เคยป่วยหนักจนเกือบตายได้มีอาการแปลก ๆ เกิดขึ้น เธอเริ่มพูดจาด้วยคำหยาบคายกับคนในครอบครัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เริ่มโกหกและยุแยงให้คนในบ้านแตกคอกัน รวมทั้งลุกขึ้นมาตอนกลางคืนเพื่อนกินของสดทำให้คนในครอบครัวโดยเฉพาะ หยาด เกิดความสงสัยขึ
Mister American
สัปเหร่อ : คนตายคือ ครู และ คนอยู่คือ นักเรียน           “ความตาย...มันฆ่าเฮาได้แค่ครั้งเดียว แต่ความฮัก มันฆ่าเฉาไปเรื่อยๆๆ จนกว่าเฮาสิตายพุ่นเด้”บักมืด 
Mister American
                ระหว่างที่เขียนต้นฉบับบทความนี้อยู่นั้น การโหวตประธานรัฐสภาและรองประธานสองคนการประชุมสภาวันแรกได้จบลงแล้ว และ ผลคือ คุณวันมูหะมัดนอร์ มะทา จากพรรคประชาชาติ ดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาคนใหม่ ร่วมกับ รองประธานสภาสองท่านจากพรรคก้าวไกล และ พรรคเพื่อ
Mister American
            คงไม่มีอนิเมชั่นเรื่องใดในซีซั่นนี้ที่เรียกว่า สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับบรรดาคนดูอนิเมชั่น และ คนดูหนังหลายคนได้เท่ากับ อนิเมชั่นซีรีย์เรื่อง Oshi no Ko หรือ ชื่อไทยว่า เกิดใหม่เป็นลูกโอชิ ผลงานดัดแปลงจากมังงะขายดีของ อากะ อาคาซากะ ที่ได้ฤกษ์ออกฉายไปเมื่อ
Mister American
                "พรมนิ้วลงไป หวังให้อัสนีกึกก้องด้วยละอองแสง                   กระหน่ำตีเข้าไปให้ถึงปลายทางของความเจ็บปวด
Mister American
                พอ Hellraiser ภาคใหม่จะลงฉายใน Hulu กันในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ (ซึ่งไทยจะได้ดูกันใน Disney Plus) นับว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งของพินเฮดและเหล่าซีโนไบร์ต หนึ่งในไอค่อนของโลกสยองขวัญที่โด่งดังไม่แพ้ เฟรดดี้ ครูเกอร์ แห่ง Nightmare of elm street , เ
Mister American
พึ่งจบกันไปหมาด ๆ สำหรับอนิเมชั่นเรื่องดังประจำซีซั่นนี้อย่าง Lycoris  Recoli จากค่าย A-1 Picture ที่นอกจากจะเป็นม้ามืดประจำซีซั่นนี้ที่ได้รับความนิยมแบบถล่มทลายจนแซงหน้าบรรดาอนิเมชั่นฟอร์มยักษ์เรื่องอื่น ๆ ไปแบบไม่มีกังขา โดผลโหวตจากสำนักอนิเมชั่นต่าง ๆ โหวตให้เรื่องนี้อยู่
Mister American
“ทำไมถึงไม่มีหนังสัตว์ประหลาดไทยดี ๆ ออกมาสักทีวะ ?”
Mister American
คงไม่ต้องบอกว่า ณ ช่วงเวลานี้ หลาย ๆ คนคงให้ความสนใจกับการชุมนุมของบรรดาหนุ่มสาววัยรุ่นที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มเยาวชนปลดแอก หรือ กลุ่มนักเรียน นักศึกษาคนรุ่นใหม่ที่ออกมาชุมนุมเรียกร้องการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ขับไล่เผด็จการ และ เปลี่ยนแปลงประเทศใหม่ กันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะปรากฏการณ์ของการชุมนุมที่เกิ