Skip to main content


อีกเพลงหนึ่งที่อยากแนะนำ คือเพลงชื่อว่า In my life ต้นฉบับเป็นของ The Beatle แต่เวอร์ชั่นที่ประทับใจที่สุดเป็นของป้าเบ็ธ มิดเลอร์ คลิ้บที่นำมาให้ชมเป็นส่วนหนึ่งของหนังเรื่อง For The Boys หนังเก่าโบราณตั้งแต่ปี 1991 ดูเมื่อไรก็ร้องไห้เมื่อนั้น



There are places I'll remember
All my life though some have changed
Some forever not for better
Some have gone and some remain


หนังเล่าเรื่องราวของนักร้องชายหญิงสองคนที่เป็นคู่ขวัญกันในช่วงสงครามเวียดนาม ป้าเบ็ธเล่นเป็นนักร้องหญิง ซึ่งมีลูกชายไปเป็นทหารที่เวียดนาม เรื่องราวก็มีความขัดแย้งกันในครอบครัวระหว่างแม่ลูก ระหว่างเพื่อน โดยมีเพลงประกอบหลายเพลงเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินเรื่องเนื่องจากตัวเอกเป็นนักร้อง




All these places had their moments
With lovers and friends I still can recall
Some are dead and some are living
In my life I've loved them all


ความที่เป็นนักร้องที่มีอายุ ผ่านโลก ผ่านชีวิตมามาก ทำให้เธอดูเก๋าประเภทละอ่อนทหารน้อยแซวยังไงเธอก็มองเขาเหล่านั้นเป็นลูก ๆ ของเธอ เพลงที่นำมานี้ในหนังอยู่ในช่วงทัวร์เวียดนาม เป็นแคมเปญการเดินทางของเธอกับคู่หู ใช้ชื่อทริปนี้ว่า
For The Boys



But of all these friends and lovers
There is no one compares with you
And these memories lose their meaning
When I think of love as something new


(
พยายามรื้อฟื้นความทรงจำ ที่ดูหนังเรื่องนี้มา 17 ปีแล้ว) ในคลิ้บมีชายหนุ่มคนหนึ่งที่จุดบุหรี่ยืนมองดูเธออยู่ห่าง ๆ ถ้าจำไม่ผิดคือลูกชายของเธอ การเดินทางครั้งนี้เหมือนกับว่าเธออยากมาเยี่ยม มาดูลูกชายของเธอ และลูกชายของโลกใบนี้ทั้งหมด




Though I know I'll never ever lose affection
For people and things that went before
I know I'll often stop and think about them
In my life I love you more


เธอมาให้กำลังใจ มาบอกรักเขา ก่อนจะจากกันเมื่อเพลงจบ มีระเบิดและลูกชายเธอเสียชีวิตลง

บางครั้งชีวิตก็แค่นี้ เมื่ออยู่ใกล้กันเหมือนมีสงครามมาขวางกั้น

ต้องเดินทางแสนไกลไปอยู่ในสมรภูมิ

เพื่อจะพบว่าสันติสุขที่แท้จริงบางทีก็แค่เปิดหน้าต่างห้องนอน

หรือเปิดประตูห้องออกมาแล้วยิ้มให้กัน




Though I know I'll never lose affection
For people and things that went before
I know I'll often stop and think about them
In my life I love you more
In my life I love you more


ดูแล้วก็นึกถึงสงครามรอบตัว ขณะอิ่มเอมและซาบซึ้งกับดนตรีและถ้อยคำแม้จะต่างภาษา เพราะงานที่ถึงจริงๆ แค่ภาษากายส่งออกจากใจ เรียบ ง่าย แผ่วเบา ก็สะกดคนอยู่

ชอบฉากที่ช่างภาพผิวดำล่ำบึ้กขึ้นมาเต้นรำกับป้าเบ็ธ เห็นภาษากายอันเรียบง่ายของเธอ

ขณะละลายฟอร์มของทหารทั้งกองร้อย ก็สะกดใจ ปลอบโยนทุกคนจนเงียบงัน


สองคนขาวกับดำ หญิงกับชาย กำลังเต้นรำบทเพลงเดียวกัน กลางสนามรบ

โอ...ภาพนี้ เพลงนี้ ต้องดู ต้องฟ้ง

ภาษาอธิบายไม่ได้




 


บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
  แนะนำนักร้องคนโปรดอีกคนก่อนค่ะ ฟังตั้งแต่สมัยเป็นเทปจนยืดยาน พอซีดีเริ่มเข้ามาในชีวิต บวกกับธุรกิจการงานมากมายก็ทำให้ไม่ได้ฟังเพลงจากเทปอีกเลย จนกระทั่งมาเจอเขาอีกครั้งเพียงหนึ่งคลิบใน youtube เพิ่งเคยเห็นหน้าชีพชนก ศรียามาตย์ หลังจากคบหากันผ่านเสียงเพลงมาเป็นสิบปี คุณภาพเสียงในคลิบไม่ค่อยดีเท่าไรนัก แต่พอฟังได้อยู่กับบรรเลงเพลงโปรดของวงทีโบน
โอ ไม้จัตวา
   ต้นโพธิ์ที่วัดนี้ตั้งอยู่กลางลานจอดรถ อายุประมาณ 200 ปี ความสูงประมาณ 25 เมตรเป็นต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงากับรถที่มาจอดเพื่อชมความงามของวิหารที่ตกแต่งด้วยผลงานการแกะสลักโลหะ 
โอ ไม้จัตวา
  เพลง Going Home จากหนังเรื่อง Local Hero ผลงานของ Mark Knopfler มือกีต้าร์คนโปรดที่ฟังครั้งแรกก็ชอบ คนที่แนะนำให้ฟัง Mark นั้นเธอชอบถึงขนาดเลิกร้างกับคู่ชีวิตโดยไม่หยิบอะไรออกมาเลยนอกจากเทปเพลงชุด Local Hero ไม่น่าเชื่อว่าวันที่เธอเปิดเทปเพลงชุดนี้ให้ฉันฟังในรถระหว่างโลดแล่นอยู่กลางดอย จะผ่านไปถึง 18 ปีแล้ว เธอบอกว่าเพลงชุดนี้เหมาะสำหรับขับรถฟังตอนฝนตกเวลาผ่านไป เทปม้วนนั้นยังคงอยู่ในรถของเธอ คลิบที่ยกมาให้ดูนี้เป็นการแสดงสด ลองฟังดูนะคะ
โอ ไม้จัตวา
เพลง My Land - Secret Garden & Espen Grjotheim
โอ ไม้จัตวา
เพลงเก่าแก่ท่วงทำนองแสนเศร้า กับเนื้อหากินใจจนเป็นแรงบันดาลใจให้กับหนังสือเวลาในขวดแก้ว ของประภัสสร เสวิกุล นิยายรุ่นยี่สิบที่แล้ว ส่วนเพลงนั้นไม่ต้องพูดถึง เก่ามาก จนต้องเช็คอายุคนรู้จักเพลงนี้ หรือชอบ น่าจะต้องใกล้เคียงสี่สิบอัพ เก็บเพลงนี้ไว้ในสต็อคเสียนาน ฟังไม่เคยจบเสียที เพราะทนอารมณ์เพลง และเสียงกีต้าร์เหงา ๆ ที่ฟังแล้วใจเหี่ยวไม่ได้ แต่สำหรับบางคนฟังเพลงและเสียงกีตาร์ของจิมแล้วกลับให้ความรู้สึกอบอุ่น
โอ ไม้จัตวา
 เพลงนี้ชื่อเพลง You've got a friend. ขับร้องโดย Carole King เธอเล่นเปียโนด้วย เป็นเวอร์ชั่นที่ฟังครั้งแรกก็รู้สึกชอบ เสียงร้องกับเสียงเปียโนไปด้วยกัน แต่ฟังไปสักสิบรอบจะรู้สึกว่าเสียงเธอแข็ง เหมือนตะโกนยังไงไม่รู้
โอ ไม้จัตวา
เคยได้ยินเพลงนี้มานานมาก แต่ไม่เคยรู้ว่าชื่อเพลงอะไร จนกระทั่งวันนี้ ผ่านไปพบมณีคลั่งเม็ดนี้หลายเวอร์ชั่น แน่นอนถ้าให้เลือกใครในพิงค์ฟรอยด์อิฉันขอเลือกฟังเดวิด กิลมอร์ เพราะชอบเสียงกีต้าร์โปร่งมากกว่ากีต้าร์ไฟฟ้า เนื้อหาเพลงเป็นสัญลักษณ์ ฟังอยู่หลายรอบ อ่านและตีความอยู่นานก็ตีไม่ออกว่าเพชรเม็ดนี้หมายความว่าอะไร เพชรที่บ้าคลั่ง!
โอ ไม้จัตวา
สวัสดีปีใหม่ค่ะ ผ่านวันหยุดยาวนานจนเบื่อมาได้ด้วยดีทุกท่านนะคะ สำหรับฉันปีนี้เป็นปีที่เงียบสงบ อยู่บ้าน เช่าหนังมา 6 เรื่อง นอนดูกับแมว 3 ตัว พร้อมอาหารเต็มตู้เย็น เพราะรู้ว่าช่วงเทศกาลแบบนี้ถ้าขืนไม่ตุนคงลำบากน่าดู เมืองเชียงใหม่ถูกนักท่องเที่ยวยึดครองตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.51 มาจนถึงวันที่ 3 ม.ค.52 ห้าวันที่อยู่บ้าน เข้าเมืองไปทำธุระไม่ได้เลย ฉันกับเพื่อนจึงได้แต่บอกกันว่ากินกันตามมีตามเกิดแล้วกันนะ ปล่อยเชียงใหม่นักท่องเที่ยวเขากินเขาเที่ยวไปแล้วกัน ฉันจึงเร่ร่อนอยู่ตามชานเมือง ตูบกาด กาดนัด ร้านกุ้งเต้น
โอ ไม้จัตวา
สวัสดีปีใหม่เพื่อน ๆ ด้วยบทเพลงจากสาวน้อยเสียงใสเพลงนี้ Somewhere over the rainbow เป็นกำลังใจสำหรับสู้ต่อไปในหลุมดำของปัญหาที่มองเห็นอยู่ในอนาคตข้างหน้า ขอเพียงหัวใจของเรามีสายรุ้งเอาไว้เกาะกุม ดีกว่าฟางเส้นสุดท้ายนะ เธอคนนี้ชื่อ Connie Talbot เธอเข้าประกวดร้องเพลงในรายการทีวี UK talent Show คล้าย ๆ The Star  เอ...คิดว่า The Star คล้ายเค้ามากกว่านะ  ตั้งแต่กรรมการสามคน มีสาวสวยหนึ่งคน และพิธีกรบนเวทีสองคน เสียงร้องของเธอทำเอากรรมการสาวร้องไห้ไม่หยุด นอกจากเสียงร้องเหมือนนางฟ้าตัวน้อย ๆ นำเอาสายรุ้งสะอาดใสจากบนฟากฟ้ามาปลอบโยนมวลมนุษย์แล้ว สิ่งหนึ่งที่เห็นคือ เธอคนนั้น (กรรมการสาว)…
โอ ไม้จัตวา
เรามาลืมเรื่องที่เราเป็นบ้า และพูดถึงกันมาทั้งปี มาฟังเพลงนี้ดีกว่าค่ะ I don’t want to talk about it. เพลงของร็อด สจ๊วต ขวัญใจตลอดกาลกับเพลงที่คนทั้งโลกร้องตามได้ โดยเฉพาะคลิ้บแนะนำอันนี้ ดูครั้งแรกรู้สึกว่าใครหว่าคงเจ๋งนะ ร้องคู่กับร็อด สจ๊วตเพลงนี้ได้ด้วย แนะนำให้ฟังเพลง และดูโชว์นี้ให้จบก่อนอ่านต่อไป
โอ ไม้จัตวา
เพลงโปรดอีกเพลงหนึ่ง ชื่อเพลง Hey Jude ว่ากันว่าพอลแต่งเพลงนี้เมื่อครั้งที่จอห์น เลนนอน เลิกกับซินเธียภรรยาคนแรก ซึ่งมีลูกด้วยกันหนึ่งคนคือ จูเลี่ยน  พอลสนิทกับจอห์นและครอบครัวมาก ขณะขับรถไปเยี่ยมจูเลี่ยนเพื่อปลอบใจเขาก็แต่งเพลงนี้ออกมา แต่ก็จอห์นบอกว่าพอลแต่งเพลงนี้ให้เขาโดยจิตใต้สำนึกที่ไม่รู้ตัว ว่าให้เขารีบออกไปอยู่กับโยโกะ ก็ว่ากันไปนะ คำว่า Jude มาจากคำว่า Jules เขาแปลงให้เป็น Jude เพื่อให้ดูเป็นคันทรีตะวันตก
โอ ไม้จัตวา
ยังคงอยู่กับพิงค์ฟรอย สัปดาห์นี้ชวนฟังเพลงนี้ค่ะ Goodbye Blue Sky ท้องฟ้าสีฟ้าอันสวยงามของเราจากไปแล้ว ด้วยสังคมและความเจริญทางเทคโนโลยี ส่งผลต่อโลก ต่อคน และวิธีคิดของคน การสื่อสารที่รวดเร็วทำให้คนมีความรู้มากขึ้นโดยไม่จำกัดรูปแบบ และเนื้อหา เราวิ่งตามเทคโนโลยีไม่ทัน จึงได้แต่แหงนมองฟ้า ที่บางวันก็มีสายรุ้งงามพาดผ่านมาบ้าง บนฟ้าหม่น ๆ "Look mummy, there's an aero plane up in the sky"Did you see the frightened ones? Did you hear the falling bombs? Did you ever wonder why we had to run for shelter when the promise of a brave new world unfurled beneath a clear blue sky?Did you see the…