Skip to main content

กลับมาเดินเล่นในเรื่องคนต่อค่ะ กำลังสนุกกับการเล่าเรื่องคนรอบข้าง มีอีกคนหนึ่งที่อยู่กันมานาน ตั้งแต่เขายังเด็ก พ่อเขาทำงานในบาร์น้ำ เมื่อพ่อลากลับบ้านที่ท่าสองยาง และจะไม่กลับมาอีก จึงส่งสันติมาทำงานต่อ  เหมือนเป็นวัฒนธรรมของคนทำงานในร้าน ถ้าใครคนใดคนหนึ่งลาพัก หรือลากลับบ้าน พวกเขาจะหาคนมาทำงานแทนในหน้าที่ของเขา เพราะการลาของพวกเขานั้นต้องใช้เวลาเดินทางนาน ๆ

อย่างสันตินั้น เป็นปกากญอ บ้านอยู่ในเขต อ.ท่าสองยาง จ.ตาก การเดินทางจากเชียงใหม่ไปท่าสองยางนั้น ต้องนั่งรถไปลงที่อ.แม่สะเรียง แล้วต่อมอเตอร์ไซด์ แล้วเดินอีกครึ่งวัน เมื่อกลับบ้านทีจึงต้องไปเป็นเดือน หรืออย่างน้อยก็ครึ่งเดือน มีครั้งหนึ่งแม่บ้านซึ่งอยู่บ้านเดียวกับสันติ ต้องรีบกลับมาในเชียงใหม่ เนื่องจากมีงานรออยู่  เธอมาถึงทันเวลาด้วยการขอเพื่อนบ้านขี่มอเตอร์ไซด์มาส่ง  เนื่องจากไม่ทันรถมาเชียงใหม่ เธออยู่บนหลังอานประมาณ 5 ชั่วโมง!

สันติต่อสายงานของพ่อ คือเข้าทำงานในบาร์น้ำ ดูแลทุกอย่างในบาร์ เมื่อมีเวลาว่าง สันติจะก้มหน้าก้มตาดูหนังสือที่ซื้อมา เมื่อแอบไปด้อม ๆ มอง ๆ ก็เห็นหนังสือสงคราม  ปืน เป็นต้น ถามดูสันติก็บอกว่าชอบ ชอบมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ไม่รู้ทำไม ถามว่าเคยจับปืนไหน ดูหนังสือเยอะ ๆ แบบนี้ ชอบแบบนี้ เคยจับของจริงไหม สันติส่ายหน้า บอกว่าไม่เคย

สิ่งที่พบเห็นเป็นประจำภายในร้านคือ มักจะมีซากสิ่งของที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์วางอยู่ตามที่ต่าง ๆ เช่น กล้องถ่ายรูป วิทยุ โทรทัศน์เครื่องเล็ก ๆ เครื่องเล่นเทป  ที่บอกว่าเป็นซากก็เพราะมันใช้ไม่ได้  สิ่งของพวกนี้ล้วนเป็นของสันติ เขาชอบอะไรที่เป็นเทคโนโลยี และเมื่อได้เงินเดือน ก็จะเก็บหอมรอมริบ นำไปซื้อของพวกนี้มาเชยชม มาเล่น เล่นแล้วสันติก็อยากรู้ว่ามันทำได้ยังไง กล่องเล็ก ๆ นี้มีภาพออกมาได้อย่างไร  มีเสียงออกมาได้อย่างไร  แล้วเขาก็เริ่มต้นแกะ รื้อ แต่ประกอบเข้าไปไม่ได้ สุดท้ายก็เจ๊ง

ฉันเห็นภาพสันติซื้อของใหม่มาเล่นแล้วรื้อแกะจนชินตา แต่ก็ไม่มีใครห้าม เพราะดูสันติมีความสุขกับการค้นหาโลกของเทคโนโลยี ของเล่นของสันติก็เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย

พักนี้ฉันเห็นสันตินั่งจ้องแคตตาล็อคโทรศัพท์มือถือตาเป็นมัน ดูเจ้ากระดาษใบเดิมมาเป็นเดือนอย่างไม่รู้เบื่อ จนฉันเข้าไปถามว่าจะเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่เหรอ เขาส่ายหน้าบอกว่าดูเฉย ๆ ฉันเลยอวดเครื่องใหม่ของฉันให้เขาดู เขาคว้าหมับ และบอกรุ่นได้ทันที แสดงว่าดูจนจำหน้าตาได้หมดทุกรุ่น  เพื่อนร่วมบาร์น้ำของสันติเคยเล่าแบบเบื่อ ๆ ว่า สันติพกคู่มือโทรศัพท์ติดกระเป๋า เอาไว้อ่านเวลาว่าง อ่านแล้วก็บอกเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ ว่าโทรศัพท์ของเขาทำอะไรได้บ้าง เล่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนเขาอ่านคู่มือจนเยิน

สันติชอบอ่านหนังสือ มีหนังสืออะไรลงมากองไว้ สันติเก็บไปอ่านทุกอย่าง การอ่านทำให้เขารู้

เมื่อครั้งที่มีคนนำลูกระเบิดน้อยหน่ามาวางไว้ที่หน้าร้าน เนื่องจากเจ้าของร้านเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อขับไล่นายกรัฐมนตรีคนบ้านเดียวกันนั้น คนแรกที่พบระเบิดก็คือสันติคนนี้แหละ สันตินอนที่ร้าน เมื่อตื่นเช้าเขาลุกขึ้นมาเปิดประตู หน้าต่าง  ตามกิจวัตรที่ทำทุกวัน สิ่งแรกที่เห็นเมื่อมองผ่านหน้าต่างออกไปที่ทางเดินก็คือระเบิดลูกนั้น สันติรู้ได้ทันที ปิดหน้าต่างล็อคตามปกติ แล้วเดินเข้าไปปลุกเพื่อนที่นอนด้วยกัน เดินลัดเลาะออกไปทางแม่น้ำแล้วอ้อมออกไปโทรศัพท์บอกจี  แม่บ้านซึ่งอยู่บ้านเดียวกับเจ้าของร้าน

ฉันถามสันติว่ารู้เลยเหรอว่าเป็นระเบิดจริง สันติพยักหน้ามั่นใจ  แล้วสันติกลัวไหม เขาพยักหน้าอีกครั้ง บอกว่ากลัวสิ ฉันถามต่อว่าทำไมต้องเดินออกไปทางน้ำปิง เขาบอกว่าต้องอยู่ไกล ๆ ระเบิดไว้ เพราะไม่รู้ว่าเป็นระเบิดแบบใช้รีโมทหรือเปล่า 

สันติออกจากร้านไปทำงานโรงงานที่กรุงเทพอยู่หลายเดือน เจ้าของร้านก็ยินดี เธอบอกว่าคนหนุ่มน่ะ คงอยากไปดูโลก อยากรู้ว่าโลกข้างนอกเป็นยังไง กรุงเทพเป็นเมืองฟ้าเมืองสวรรค์ของพวกเขา ต้องให้ไป ให้รู้  จำได้ว่าวันที่สันติเก็บของออกเดินทางนั้น เขาซื้อข้าวของเตรียมไว้กลับไปบ้านก่อนเข้ากรุงเทพ ของที่เขาซื้อไปนั้นคือ เครื่องปั่นไฟ โทรทัศน์เครื่องใหญ่  โทรศัพท์มือถือแบบถ่ายวีดีโอได้ซึ่งเขาซื้อมาถ่ายชีวิตในเมืองของเขากลับไปให้พ่อแม่ดู  สิบปีที่ทำงาน สันติเก็บเงินซื้อสิ่งเหล่านี้กลับบ้าน แล้วเข้ากรุง

วันที่เดินทาง เจ้าของร้านเธอใจหาย โทรศัพท์ไปหาสันติซึ่งเหมือนลูกชายคนหนึ่งของเธอ บอกสันติว่าถ้าจะกลับมาก็ให้มาได้ทุกเวลา
อดไม่ได้ เธอถามว่าถึงไหนแล้ว และสันติคิดถึงบ้านนี้ คิดถึงพี่ไหม

เขาตอบสั้น ๆ  “คิดถึงสิ”

บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
  วันนี้ตั้งใจขับรถขึ้นไปที่ขุนช่างเคี่ยน เพื่อไปดูพญาเสือโคร่งประจำปีนี้ ตื่นหกโมงเช้า ฟ้ายังมืด อากาศหนาว ออกจากบ้านหกโมงครึ่ง แต่กว่าจะไปถึงแดดก็เริ่มแรงแล้ว รูปนี้ถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิว ก่อนถึงโค้งขุนกันต์ ดอยสุเทพ เห็นเส้นขอบฟ้าไกล ๆ ถ่ายด้วยเลนส์มุมกว้าง จึงเก็บฟ้าและเมืองได้ทั้งเมือง เชียงใหม่ยังมีมุมสวยอยู่
โอ ไม้จัตวา
  ได้เวลาออกเดินทางอีกแล้ว ช่วงนี้ดอกพญาเสือโคร่งกำลังจะบาน ต้องตามข่าวกันทุกวันว่าบานถึงไหนแล้ว เพราะจะบานเพียง 7 วันเท่านั้น ภาพชุดนี้ถ่ายเมื่อปีที่แล้ว ตื่นสายไปนิด ไปถึงแปดโมงกว่า ๆ รู้สึกว่าแดดแรงไป ปีนี้คงต้องออกจากบ้านหกโมงเช้า     แดดแรงไปนิดนึงจริง ๆ แต่เก้าอี้ที่ไร้คนนั่ง คงไม่หนาวเหน็บเหมือนอากาศตอนนี้     ข้อดีของแดดจ้า ๆ ก็ทำให้ฟ้าเป็นสีฟ้า ดอกไม้สีชมพูเต็มต้น ตัดกับฟ้าสีฟ้าโดยไม่ต้องทำอะไรเลย ความทุกข์ทรมานอย่างหนึ่งของช่างภาพ คือต้องวิ่งตามแสง โดยเฉพาะแสงเช้า     ดอกบ๊วย ขึ้นอยู่ในบริเวณเดียวกัน ภาพนี้ใช้เลนส์ซูม ดึงเข้ามาใกล้…
โอ ไม้จัตวา
สัปดาห์นี้มีโอกาสได้ไปถ่ายรูปห้องพักและอาหารให้กับเรือนคำอิน บ้านไม้สักทองทั้งหลัง มีห้องพักขนาดหรูหราเพียง 3 ห้อง และเป็นร้านอาหาร (อาหารพื้นเมืองรสชาติแบบคนเมืองแพร่) ปีนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี พี่นิดเจ้าของบ้านจึงลดราคาห้องพักลงมาแบบครึ่ง ๆ ภาพที่ยกมานี้เป็นห้อง living room ของหนึ่งในห้องนอนของบ้าน ราคาคืนละ 2500 บาท พร้อมอาหารเช้าไม่ได้โฆษณานะ แต่เผื่อใครหาที่พักในเชียงใหม่ ราคานี้ก็พอ ๆ กับโรงแรมในไนท์บาซ่า แต่สบายกว่ากันเยอะเลย ห้องสูธแพงกว่านี้พันนึง มีจากุชชี่ และห้องซาวน่าในตัวด้วยค่ะขอบอก เข้าไปหาข้อมูลในกูเกิ้ลได้ค่ะ
โอ ไม้จัตวา
  คราวที่แล้วเล่าเรื่องรีทัชสายไฟออกจากภาพ คราวนี้ลองมาเล่นที่ใบหน้า ลบรอยตีนกากันบ้างดีกว่า ไม่ต้องใช้เครื่องสำอางก็สวยได้  
โอ ไม้จัตวา
สัปดาห์นี้ขอแนะนำวิธีรีทัชรูปแบบง่าย ๆ เริ่มจากโรคจิตของอิฉันเองที่ทนเห็นสายไฟรกรุงรังไม่ได้ ไม่ว่าจะในชีวิตจริงหรือในภาพ มีใครเป็นแบบนี้มั่งไหมเนี่ย เห็นไม้แขวนเสื้อกองรวมกันยุ่ง ๆ หรือสายโทรศัพท์ สายไฟ สายอะไรก็ตาม พันกันยุ่ง ๆ แล้วจะรู้สึกใจคุกรุ่นขึ้นมาเหมือนมีคนยั่วโมโห ทนไม่ได้ต้องนั่งคลาย ๆ ๆ ๆ
โอ ไม้จัตวา
โดยส่วนตัวแล้วเราโตมากับห้องมืด ตอนเด็ก ๆ ข้างบ้านเป็นร้านถ่ายรูป ฝึกล้างอัดรูปในห้องมืดที่โรงเรียน เข้ามหาลัยก็เข้าชมรมโฟโต้ ก็ได้เล่นห้องมืดต่ออีกนิดหน่อย เมื่อไม่นานมานี้ไปเช่าบ้านอยู่กับเพื่อน บ้านที่อยู่ในรั้วเดียวกันก็ยังเป็นห้องมืดให้นักศึกษาเช่าทำงานล้างอัดรูป ชีวิตจึงวนเวียนอยู่กับห้องมืด และภาพขาวดำ (ว่าไปก็น่าทำห้องมืดไว้เล่นเองเหมือนกันนะ)  
โอ ไม้จัตวา
ภาพนี้ถ่ายด้วยความโลภ ฟ้าก็อยากได้ ก้อนเมฆก็อยากได้ ใช้เลนส์ไวด์หรือเลนส์สำหรับถ่ายภาพให้ได้มุมกว้างถ่าย เวลาขณะนั้นประมาณเที่ยง ฟ้าสีฟ้า เมฆเต็มฟ้า แดดจัดมาก ถ้าวัดแสงที่ก้อนเมฆ ข้างล่างจะมืด ถ้าวัดแสงที่ข้างล่างก้อนเมฆจะจ้ารายละเอียดหายไปเลย  
โอ ไม้จัตวา
คราวนี้ไม่ค่อยกล้าทุบกล้องเท่าไรนัก เพราะใช้ Nikon D70 ถ่ายอาหาร โดยใช้เลนส์ Macro (อ่านว่า มาโคร) คือเลนส์ที่ใช้ถ่ายวัตถุในระยะประชิดระดับ 1 เซ็นได้ พวกงาน close up ทั้งหลายมักใช้เลนส์ หรือโหมดมาโครนี้ในกล้องดิจิตอล ที่มีวิธีดูง่าย ๆ คือ ปุ่มที่เป็นเครื่องหมายรูปดอกไม้ในตัวกล้อง นั่นคือปุ่มมาโคร สำหรับถ่ายดอกไม้ใกล้ ๆ ถ่ายมด ถ่ายขี้จิ้งจก หรือถ่ายอาหารอย่างวันนี้เป็นต้น
โอ ไม้จัตวา
  คราวนี้ยกแมวที่มีสีสันตัดกันอยู่ในตัวมาให้ดู แมวที่มีสีขาว และดำ อยู่ใกล้กันแบบนี้ เวลาถ่ายภาพจะต้องระวังการวัดแสง เพราะถ้าวัดแสงที่สีดำ ส่วนที่เป็นขาวก็จะจ้าจนความละเอียดหายไป ควรวัดแสงตรงสีที่เป็นกลาง ๆ เช่นสีน้ำตาลเป็นต้น ก็จะได้ภาพที่มีสีและแสงพอดี
โอ ไม้จัตวา
ติดพันจากแมวคราวที่แล้ว ตอนทำรูปก็พบว่ามีขั้นตอนที่ไม่ยากนักในการปรับภาพในโปรแกรมโฟโต้ช็อปเอามาแนะนำกัน ภาพที่เราถ่ายนั้นบางครั้งองค์ประกอบของภาพก็ยังไม่สมบูรณ์นัก เราสามารถใช้คำสั่ง crop ในโฟโต้ช็อปได้ หรือคลิ้กที่เครื่องหมายที่เราทำลูกศรสีแดงชี้ไว้ แล้วลากที่ภาพ สร้างกรอบภาพขึ้นมาใหม่ จากตัวอย่างที่ยกมาให้ดูภาพเต็มคือทั้งหมด เมื่อเราลาก crop ส่วนที่เป็นแถบสีดำรอบ ๆ ภาพ กรอบเล็กจะหายไปเมื่อเราดับเบิ้ลคลิ้ก
โอ ไม้จัตวา
“ถ่ายภาพเด็กกับสัตว์ให้โฟกัสที่ตา” ออกจากห้องโสตทัศนศึกษา ห้องปฏิบัติการถ่ายภาพที่โรงเรียนเมื่อสมัยอยู่ม.3 แล้วก็ไม่เคยเข้าห้องเรียนถ่ายรูปที่ไหนอีกเลย เคยเข้าไปเล่นเองบ้างก๊อกแก๊กในห้องอัดของชมรมถ่ายภาพในมหาวิทยาลัย จนกระทั่งได้มีโอกาสหมกตัวอยู่ที่สวนทูนอิน บ้านพักของคุณ’รงค์ วงษ์สวรรค์ เป็นบางช่วง และมีโอกาสเดินถ่ายรูปดอกไม้ยามเช้าในสวนทูนอิน ประโยคที่ยกมาข้างบนนั้นคุณ’รงค์ วงษ์สวรรค์ พูดขึ้นมา (จะเรียกว่าสอนก็น่าจะได้) เมื่อชี้ให้ดูภาพแมวที่เขาถ่ายและใส่กรอบติดไว้ที่ผนังบ้าน    
โอ ไม้จัตวา
  แสงแดดมีความสำคัญต่อการถ่ายภาพอย่างยิ่ง เพราะเป็นแสงจากธรรมชาติ ทำให้ภาพมีมิติ มีเงา แต่ก็ต้องเลือกเวลาเช่นกัน อย่างที่บอกในชื่อเรื่องว่า แสงแรกและแสงสุดท้าย แสงแรกนั้นคือ แสงแดดยามเช้าจนถึงสาย ๆ น่าจะประมาณ 8.30 น. และแสงสุดท้ายของวัน คือประมาณ 4-5 โมงเย็น เป็นช่วงเวลาที่พอดีที่สุดในการถ่ายภาพ