ค่ำนั้น, ฟ้าเริ่มครึ้มมัวหม่นเมฆฝน
ข้ายืนจดจ้องฝูงมดดำเคลื่อนขบวนมหึมา
ไต่ไปบนปีกไม้ไปหารวงรังแตนเกาะริมขอบหน้าต่างบ้านปีกไม้
หมู่มดยื้อแย่งขนไข่แตนกันออกจากรัง อย่างต่อเนื่อง
ขณะฝูงแตนบินว่อนไปมาด้วยสัญชาติญาณ
คงตระหนกตกใจระคนโกรธขึ้งเคียดแค้น
แต่มิอาจทำอะไรพวกมันได้
เหล่าฝูงมดอาศัยพลพรรคนับพันนับหมื่นชีวิต
ใช้ความได้เปรียบเข้าปล้นรังไข่พวกมันไปหมดสิ้น
ไม่นาน ขบวนมดจำนวนมหาศาลก็ถอยทัพกลับไป
ฝูงแตนไม่รู้หายไปไหน
เหลือเพียงรังแตนที่กลวง ว่างเปล่า
ข้าเฝ้ามองสงครามชีวิตน้อยๆ
ต่อสู้ แก่งแย่ง ฉกฉวยกันต่อหน้าต่อตา
แหละข้าไม่รู้ว่าจะอยู่ข้างฝ่ายไหน
จะโดดเข้าไปขัดขวางหรือช่วยเหลือ
หรือจะยืนดูอยู่เฉยๆ
นานหลายนาน...
ที่ข้าเลือกตัดสินใจยืนเฝ้าดูสัตว์สองประเภทต่อสู้กัน
ด้วยเคารพและมิกล้าไปละเมิดก้าวล่วงสิทธิของพวกมัน
เพราะนั่นมันอาจเป็นกฎของสัตว์
ที่แม้แต่มนุษย์ก็มิอาจไปละเมิดตัดสินได้!!
มาถึงตอนนี้ กองทัพมดดำจากไป, ฝูงแตนหายไป
หากข้ามองเห็นสรรพสิ่งในหุบเขายังคงเคลื่อนไหว
ดำเนินไปตามสัจจะของชีวิต.