Skip to main content

ผมไม่รู้ว่าในช่วงชีวิตหนึ่งของคนเรา
จะมีสักกี่คนสามารถทำความฝันให้เป็นจริงได้กี่ครั้งกี่หนกัน
แน่นอน ความฝันใครบางคนอาจเกลื่อนกล่น
ความฝันใครหลายคนอาจหล่นหาย
ใครหลายใครอาจมองว่าความฝันคือความเพ้อฝัน ไกลจากความจริง
แต่เชื่อว่ายังมีอีกหลายๆ คน ไม่เคยละทิ้งความฝัน
พยายามฟูมฟักความฝัน กล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดู
แม้บ่อยครั้งอาจอาจเหนื่อยหนัก เหน็ดหน่าย
กว่าจะทำให้ความฝันนั้นกลายเป็นจริงได้...
เหมือนชายคนนี้...ที่ทำให้ฝันหนึ่งนั้น
กลายเป็น ความงาม และความจริง...

ผมมีโอกาสเดินทางไปเยือน เวียงแหง อำเภอเล็กๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ติดกับชายแดนไทย-พม่า
ซึ่งผมเคยบันทึกไว้ว่า เป็นดินแดนหุบเขาที่มีชีวิต เป็นเมืองในหุบเขา ค่ำคืนนั้น เราได้แวะหามิ่งมิตรเก่าแก่เมื่อครั้งผมยังเป็นครูดอยแถบนี้ ผมเรียกเขาว่า 'หมอวิทย์" ภาพเก่ายังย้ำเตือนให้เห็นถึงมิตรภาพทีเรามีต่อกันอยู่ย้ำๆ
ภาพเขาพาพยาบาลบรรจุใหม่แบกเป้พกกระเป๋ายาเดินดุ่มขึ้นดอยน้ำบ่อใหม่ บนระยะทางครึ่งค่อนวัน ผมสอนหนังสืออยู่ที่นั่น ใช่, ทุกคนที่นั่นทำงานกันไปพร้อมๆ กับการเรียนรู้ ทดสอบชีวิตของตนให้กล้าแกร่งไปในตัว

ผมยังจำภาพที่เราและผองมิตรล่องแพไม้ไผ่จากลำน้ำแตงไหลลงเมืองคอง เชียงดาว ภาพผองเราขดตัวนอนริมหาดทรายใกล้บ้านลาหู่ป่ากล้วย จำได้ว่า ครั้งหนึ่งเขาเกือบจมน้ำ แต่ผมช่วยดึงเขาขึ้นมาทัน
เขารอดตาย เขายังมีชีวิต และเขายังมีความฝัน

และนี่คืออีกหนึ่งความฝันของเขาและครอบครัว
ฝันว่าสักวันหนึ่งจะทำสวนเล็กๆ ให้กลายเป็นที่พักของคนเดินทางไกล
เขาลงมือทำในวันว่างจากงานโรงพยาบาล ช้าๆ ไม่เร่งรีบ
เขาลงทุนซื้อเครื่องไม้เครื่องมือ มาทำบล็อกประสานด้วยตัวเอง
เป็นการทำงานเงียบๆ ไปตามลำพัง

ผ่านไปสิบกว่าปี ผมกลับไปเยือนหาเขาอีกครั้ง
แทบไม่น่าเชื่อว่าความฝันของเขาได้ก่อเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว...
สฤงฆาร ฮัท....กับความฝัน ความงามและความจริง...




















หมอวิทย์...ชัยวิทย์ ศรีสฤงฆาร กับรอยยิ้มด้วยมิตรไมตรี



สำหรับ
'เวียงแหง' ยังมีอะไรน่าสนใจอีกมาก เหมือนกับคำขวัญว่าไว้

พระธาตุแสนไหเป็นศรี
ประเพณีหลายเผ่า
ชมทิวเขาสุดสยาม
งามล้ำค่าฟ้าเวียงแหง”

ในค่ำคืนนั้น ผมบอกกับเขาว่า "ต่อไปเวียงแหง จะเป็นเมืองปายแห่งที่สอง"

ปล.นักเดินทางท่านใด มีโอกาสไปเยือนเวียงแหง อย่าลืมแวะเวียนไปเยี่ยมหาความฝัน ความงาม ได้โดยตรงที่ หมอวิทย์...081 0223703

 

บล็อกของ ภู เชียงดาว

ภู เชียงดาว
                                                                            
ภู เชียงดาว
  1. 
ภู เชียงดาว
สี่ปีที่ผ่านทำให้เรียนรู้อะไรๆ มากขึ้น หลายสิ่งวิปริต หลายอย่างผิดแปลก รัฐประหารกลายเป็นความหอมหวานคลั่งไคล้ ช่อดอกไม้ยื่นให้ทหารถืออาวุธ สาวเปลื้องผ้าเต้นระบำหน้ารถถัง พลัดหลง งงงวย เหมือนโดนของหนักพลัดตกลงมาจากที่สูงฟาดหัว ตื่นขึ้นมา ประชาธิปไตยง่อยเปลี้ยขาลีบ ชนชั้นถูกถ่างขา สามัญชนถูกฉีกทึ้ง คนจนกับความจริงถูกมัดมือ ข่มขืน อนุสาวรีย์ความลวงผุดขึ้นที่โน่นที่นั่น-หัวใจทาสค้อมกราบ หากหัวใจเสรี อึดอัด อุกอั่ง คลั่งแค้น เข้าสู่ยุคดินแดนแห่งการไม่ไว้วางใจฯ- สี่ปีที่ผ่านทำให้เรียนรู้อะไรๆ มากขึ้น หลายสิ่งวิปริต หลายอย่างผิดแปลก รัฐประหารกลายเป็นความหอมหวานคลั่งไคล้…
ภู เชียงดาว
 
ภู เชียงดาว
   ‘ชุมพล เอกสมญา’ ลูกชายคนโตของ จ่าสมเพียร เอกสมญา ที่บอกเล่าความรู้สึกผ่านเพลง ผ่านสื่อ นั้นสะท้อนอะไรบางสิ่ง เต็มด้วยความจริงบางอย่าง ทำให้ผมอยากขออนุญาตนำมาเรียบเรียงเป็น บทกวีแคนโต้ ที่เขาชื่นชอบเป็นพิเศษ เพื่อเป็นการสานต่อความคิดและรำลึกถึงคุณพ่อสมเพียร เอกสมญญา ที่เคยพูดไว้ก่อนหน้านั้นว่า... “...แต่ผมจะไม่ตาย เพราะงานยังไม่จบ ตายไม่ได้!!”  
ภู เชียงดาว
ที่มาภาพ : www.bangkokbiznews.com 1. ผมหยิบซีดีเพลงชุด Demo-Seed ของ พล ไวด์ซี้ด (ชุมพล เอกสมญา) ที่ให้ผมไว้ออกมาเปิดฟังอีกครั้ง หลังยินข่าวร้าย พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา พ่อผู้กล้าของเขาเสียชีวิต เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา บทเพลง ‘บันนังสตา’ ถูกผมนำมาเปิดฟังวนๆ ซ้ำๆ พร้อมคิดครุ่นไปต่างๆ นานา   ในขณะสายตาผมจ้องมองภาพของพ่อฉายซ้ำผ่านจอโทรทัศน์ ทั้งภาพเมื่อครั้งยังมีชีวิตและไร้วิญญาณ...นั้นทำให้หัวใจผมรู้สึกแปลบปวดและเศร้า... ฉันรู้ว่าวันเวลาเป็นสิ่งหนึ่ง ฉันรู้ว่าวันเวลา... ฉันรู้ว่าวันเวลาเป็นสิ่งหนึ่ง ที่รีไซเคิลไม่ได้ มองโลกตามที่มันเป็นจริง มองโลกตามที่มันเป็นไป… …
ภู เชียงดาว
  เขาตื่นแต่เช้าตรู่... คงเป็นเพราะเสียงนกป่าร้อง เสียงไก่ขัน หรือเสียงเท้าของเจ้าข้าวก่ำกับปีโป้ ที่วิ่งเล่นไปมาบนระเบียงไม้ไผ่ ก่อนกระโจนเข้าไปในบ้าน ผ่านกระโจม ทำให้เขาตื่น ทั้งที่เมื่อคืนกว่าเขาจะเข้านอนก็ปาตีสาม