Skip to main content

ภาพวนิดา
ภาพโดย www.thaingo.org 

-งาม-

เธองามดั่งดวงดอกไม้ป่าเบ่งบานสะพรั่งในหมู่มวลธรรมชาติสรรพสิ่ง
เพียงลมสายบริสุทธิ์พัดต้องล่องลอยมาสู่,ชีวิตเธอ
ก็คลี่กลีบนวลยิ้มแย้มเบิกบานอยู่อย่างนั้นให้สัมผัสพบเห็น
เป็นที่ชื่นชมในกัลยาณมิตรให้ชุ่มชื่นดวงจิต
เธอช่วยชุบชูชีวิตหลายชีวิตให้มีหวัง
ยิ่งยามแผ่นดินแล้งแห้งหรือเร่าร้อนดังไฟ

-แกร่ง-

เธอแกร่งดั่งภูผาที่ยืนท้าต้านแรงลม แดด ฝน
วิถียังเฝ้าฝ่าฟัน บากบั่น ยึดมั่น
ก้าวไปบนถนนของคนจนและความจน
แหละผจญไปบนเส้นทางของความจริง
แม้ร่างนั้นดูบอบบาง หากยังฝืนกำหมัดหยัดยืนชูมือขึ้นสู่ฟ้า
เพียรวาดฝัน ปรารถนา ปวงประชาพบทางแห่งเสรี
ใช่, เหมือนกับที่เธอว่าไว้ในบทกวี...
“จินตนาการความฝัน สรรค์สร้างได้จริง บนดินแดนเสรี”

-กล้า-

เธอคือผู้กล้าหาญบนตำนานการต่อสู้ของประชาชน
จ้องดูเธอสิ- -ในชีวิตนั้นมีการเคลื่อนไหว
ดวงตาเธอยังคงสุกใสเปล่งประกายเจิดจ้า
จิตวิญญาณเธอนั้นเล่า,
ยังคงเต้นเร่าประกาศกล้าทายท้าอธรรม
“...ลุกขึ้นเถิดผองทาส  ปลดปล่อยโซ่ตรวน
รุกไล่อธรรม ให้ถอยร่นหมดทาง
คือภาระหน้าที่สืบสาน  บรรพชนคนหาญ
ในลำนำเล่าขาน  ตำนานของเรา”

จากวันนั้นจนถึงวันนี้...
ยังระลึกถึงและสื่อสัมผัสถึงเธอได้..
“งาม แกร่ง กล้า...มด.วนิดา เธอผู้อยู่เคียงข้างประชาชน”

                   ด้วยจิตคารวะ ศรัทธาและเชื่อมั่น
                                             ภู เชียงดาว

หมายเหตุ : เขียนขึ้นหลังทราบข่าวพี่มด วนิดา,ป่วยหนักด้วยโรคมะเร็ง และบทกวีในเครื่องหมายคำพูดที่เน้นตัวหนา คือส่วนหนึ่งของบทกวีที่ชื่อ “สบน้ำ” ของพี่มด วนิดา,ที่ได้กลั่นออกมาจากจิตวิญญาณข้างใน หลังจากไปเยือนแม่น้ำสาละวิน- สบเมย เมื่อ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ ซึ่งต่อมาผมได้ขอบทกวีชิ้นนี้มานำลงเผยแพร่ครั้งแรกในคอลัมน์ ‘กวีประชาไท’

บล็อกของ ภู เชียงดาว

ภู เชียงดาว
                                                                            
ภู เชียงดาว
  1. 
ภู เชียงดาว
สี่ปีที่ผ่านทำให้เรียนรู้อะไรๆ มากขึ้น หลายสิ่งวิปริต หลายอย่างผิดแปลก รัฐประหารกลายเป็นความหอมหวานคลั่งไคล้ ช่อดอกไม้ยื่นให้ทหารถืออาวุธ สาวเปลื้องผ้าเต้นระบำหน้ารถถัง พลัดหลง งงงวย เหมือนโดนของหนักพลัดตกลงมาจากที่สูงฟาดหัว ตื่นขึ้นมา ประชาธิปไตยง่อยเปลี้ยขาลีบ ชนชั้นถูกถ่างขา สามัญชนถูกฉีกทึ้ง คนจนกับความจริงถูกมัดมือ ข่มขืน อนุสาวรีย์ความลวงผุดขึ้นที่โน่นที่นั่น-หัวใจทาสค้อมกราบ หากหัวใจเสรี อึดอัด อุกอั่ง คลั่งแค้น เข้าสู่ยุคดินแดนแห่งการไม่ไว้วางใจฯ- สี่ปีที่ผ่านทำให้เรียนรู้อะไรๆ มากขึ้น หลายสิ่งวิปริต หลายอย่างผิดแปลก รัฐประหารกลายเป็นความหอมหวานคลั่งไคล้…
ภู เชียงดาว
 
ภู เชียงดาว
   ‘ชุมพล เอกสมญา’ ลูกชายคนโตของ จ่าสมเพียร เอกสมญา ที่บอกเล่าความรู้สึกผ่านเพลง ผ่านสื่อ นั้นสะท้อนอะไรบางสิ่ง เต็มด้วยความจริงบางอย่าง ทำให้ผมอยากขออนุญาตนำมาเรียบเรียงเป็น บทกวีแคนโต้ ที่เขาชื่นชอบเป็นพิเศษ เพื่อเป็นการสานต่อความคิดและรำลึกถึงคุณพ่อสมเพียร เอกสมญญา ที่เคยพูดไว้ก่อนหน้านั้นว่า... “...แต่ผมจะไม่ตาย เพราะงานยังไม่จบ ตายไม่ได้!!”  
ภู เชียงดาว
ที่มาภาพ : www.bangkokbiznews.com 1. ผมหยิบซีดีเพลงชุด Demo-Seed ของ พล ไวด์ซี้ด (ชุมพล เอกสมญา) ที่ให้ผมไว้ออกมาเปิดฟังอีกครั้ง หลังยินข่าวร้าย พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา พ่อผู้กล้าของเขาเสียชีวิต เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา บทเพลง ‘บันนังสตา’ ถูกผมนำมาเปิดฟังวนๆ ซ้ำๆ พร้อมคิดครุ่นไปต่างๆ นานา   ในขณะสายตาผมจ้องมองภาพของพ่อฉายซ้ำผ่านจอโทรทัศน์ ทั้งภาพเมื่อครั้งยังมีชีวิตและไร้วิญญาณ...นั้นทำให้หัวใจผมรู้สึกแปลบปวดและเศร้า... ฉันรู้ว่าวันเวลาเป็นสิ่งหนึ่ง ฉันรู้ว่าวันเวลา... ฉันรู้ว่าวันเวลาเป็นสิ่งหนึ่ง ที่รีไซเคิลไม่ได้ มองโลกตามที่มันเป็นจริง มองโลกตามที่มันเป็นไป… …
ภู เชียงดาว
  เขาตื่นแต่เช้าตรู่... คงเป็นเพราะเสียงนกป่าร้อง เสียงไก่ขัน หรือเสียงเท้าของเจ้าข้าวก่ำกับปีโป้ ที่วิ่งเล่นไปมาบนระเบียงไม้ไผ่ ก่อนกระโจนเข้าไปในบ้าน ผ่านกระโจม ทำให้เขาตื่น ทั้งที่เมื่อคืนกว่าเขาจะเข้านอนก็ปาตีสาม